ตอนที่ 265 สูญเสียการควบคุม

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

วัด​ไป๋​อวิ​๋น​เป็น​วัด​ขนาดใหญ่​ที่​มี​ควัน​ธูป​ฟุ้งกระจาย​ ​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใกล้​ภูเขา​ ​ด้านนอก​ประตู​ภูเขา​ ​มี​การ​เปิด​พื้นที่​พิเศษ​ขึ้น​โดยเฉพาะ​เพื่อ​ใช้​เป็น​ที่จอดรถ​ม้า​ของ​แขก​ผู้​ที่มา​ถวาย​ธูปเทียน

เจียง​อี​มองตาม​นิ้ว​ของ​เจียง​ซื่อ​ที่​มี​การ​ชี้​ไป​ยัง​รถม้า​ขนาดเล็ก​เตี้ย​คัน​นึง​ที่​เช่า​มา​ ​นาง​ปริปาก​เอ่ย​ชวน​ ​“​น้อง​สี่​นั่ง​รถ​คัน​เดียว​กับ​ข้า​เถอะ​”

เจียง​ซื่อ​มองหน้า​จู​จื่อ​อวี​้​ทันที

จู​จื่อ​อวี​้​ยิ้มอ่อน​ ​แววตา​แห่ง​ความประหลาดใจ​หาย​ไป​ใน​พริบตา

เจียง​ซื่อ​ดึง​สายตา​กลับมา​ ​นาง​เอ่ย​ถาม​พร้อมกับ​ยิ้ม​ ​“​แล้ว​พี่เขย​ล่ะ​เจ้า​คะ​”

เจียง​อี​เขิน​หน้าแดง​ ​รีบ​กล่าว​ ​“​พี่เขย​เจ้า​ขี่ม้า​มาน​่ะ​”

“​ถ้าเช่นนั้น​ก็ดี​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ยัง​อยาก​คุย​กับ​พี่ใหญ่​อีก​สักหน่อย​”​ ​เจียง​ซื่อ​ทำตาม​สิ่ง​ที่​เจียง​อีก​ล่าว​ ​และ​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ไม่​เกรงใจ

เจียง​ซื่อ​จะ​นั่ง​รถม้า​คัน​เดียว​กับ​เจียง​อี​ ​สาว​รับใช้​สาม​คน​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​จะ​เบียด​เกินไป​ ​เจียง​ซื่อ​จึง​บอก​ให้​อาจู​ ​อา​หยา​และ​อาหมาน​ไป​นั่ง​รถม้า​ที่​เจียง​ซื่อ​เช่า​มา

สอง​พี่น้อง​ขึ้นรถ​ม้า​ก่อน​หลัง​เสร็จ​ ​เจียง​ซื่อ​กวาดสายตา​หนึ่ง​ที​ ​นาง​ยิ้ม​และ​กล่าว​ ​“​รถม้า​ของ​พี่ใหญ่​นั่ง​สบาย​นะ​เจ้า​คะ​”

เจียง​อี​ยกมือ​ขึ้น​จัด​ผมเผ้า​ที่​ตกลง​มา​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​มีทั​้​งค​วาม​รู้สึก​เอ็นดู​และ​สงสัย​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​จวนปั​๋ว​มี​รถม้า​อยู่​สอง​คัน​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​เช่า​รถม้า​มา​เล่า​”

เมื่อ​หวนนึก​ถึง​ตอนที่​นาง​ออกเรือน​ ​คนที​่​นาง​เป็นห่วง​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​น้อง​คน​สุดท้อง

แม้ว่า​ท่าน​พ่อ​เอ็นดู​น้อง​สี่​ ​แต่​ท่าน​พ่อ​ก็​เป็น​บุรุษ​ที่​ไม่​สามารถ​สนใจ​เรื่อง​ภายใน​จวน​ได้​ตลอดเวลา​ ​น้อง​รอง​เป็น​บุรุษ​ ​ขอ​เพียง​ไม่​ก่อเรื่อง​ก็​ต้อง​ขอบคุณ​ฟ้า​ดิน​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​เป็นกังวล​เลย​ว่า​เขา​จะ​ถูก​เอาเปรียบ​ ​มี​เพียง​น้องสาว​คน​นี้​ที่​ไม่มี​มารดา​คอย​ปกป้อง​ ​และ​ไม่มี​พี่น้อง​คอย​ดูแล​ ​อยาก​ใช้ชีวิต​อย่าง​อิสระ​ใน​จวน​ใหญ่​คง​ยาก​ไม่น้อย

บางครั้ง​ที่​นึกถึง​สิ่ง​เหล่านี้​ ​หัวใจ​ของ​เจียง​อีก​็​จะ​บีบรัด​แน่น​ขึ้น​ ​และ​กว่า​จะ​สงบ​ลง​ได้​ก็​ใช้เวลานาน​มาก

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​อธิบาย​ ​“​บังเอิญ​เหมือนกัน​เจ้าค่ะ​ ​วันนี้​อาสะใภ้​รอง​กับ​อาสะใภ้​สาม​ใช้​รถม้า​ต้อง​ใช้​รถม้า​ ​รถม้า​ใน​จวน​ไม่พอ​ใช้​ ​ข้า​เลย​ให้​คน​ไป​เช่า​มาคั​นนึง​เจ้าค่ะ​”

“​เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​”​ ​แม้​จะ​รู้​สาเหตุ​แล้ว​ ​แต่​เจียง​อีก​็​ยัง​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​อยู่​ภายในใจ

หาก​ท่าน​แม่​ยัง​มีชีวิต​ ​ยาม​น้อง​จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​จะ​ไม่มี​รถม้า​ใช้ได้​อย่างไร​ ​แน่​ล่ะ​ ​นาง​ไม่ได้​หมายความว่า​จะ​แย่ง​รถม้า​กับ​ผู้อาวุโส​ ​เพียงแค่​รู้สึก​เอ็นดู​สถานการณ์​น้อง​คนเล​็ก​เท่านั้น

เจียง​ซื่อ​มองออก​ไป​ด้านนอก​ผ่านหน้า​ต่าง​ ​เห็น​จู​จื่อ​อวี​้​ขี่ม้า​อยู่​ด้านหน้า​ใกล้​ๆ​ ​รถม้า​ ​แผ่น​หลัง​ยืด​ตรง​แต่​แฝง​ความบอบบาง​เอาไว้​ ​ใน​แววตา​พลาง​มี​ความสงสัย​เล็ก​ๆ​ ​แล่น​ผ่าน​ ​จู​จื่อ​อวี​้​เกิด​ใน​ตระกูล​ที่​มี​การสืบทอด​ความรู้​และ​วัฒนธรรม​ประเพณี​อัน​ดีงาม​ ​เขา​เป็น​เพียง​คน​เรียนหนังสือ​จริงๆ​ ​แม้ว่า​คน​เรียนหนังสือ​ของ​ต้า​โจว​ต้อง​เรียน​การขี่​ม้า​และ​การ​ยิง​ธนู​ด้วย​ ​แต่​ส่วนมาก​ก็​เป็น​คนอ่อนแอ

สอง​สามีภรรยา​ออกมา​ด้านนอก​ด้วยกัน​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ไม่​นั่ง​รถม้า​คัน​เดียว​กับ​พี่ใหญ่​แต่​เลือก​ขี่ม้า​แทน​ ​ความสัมพันธ์​ของ​เขา​กับ​พี่ใหญ่​สนิทสนม​ใกล้ชิด​กัน​มาก​ตามที่​พี่ใหญ่​เข้าใจ​จริงๆ​ ​หรือ

เจียง​ซื่อ​รู้​ว่าการ​มี​ความคิด​เช่นนี้​เป็นการ​จับผิด​ใน​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​หรือไม่​บางที​ ​ก็​อาจ​เป็น​เพราะ​ภาพ​จำ​ที่​พี่ใหญ่​ถูกกระทำ​เมื่อ​ชาติก่อน​ ​นาง​ถึง​ได้​คอย​จับผิด​ทุก​ฝีก​้าว​ของ​จู​จื่อ​อวี​้

เจียง​ซื่อ​อด​นึกถึง​ตัวเอง​ไม่ได้

หลังจากที่​นาง​แต่งงาน​กับ​อวี​้​ชี​ ​เมื่อใด​ที่​เขา​สอง​คน​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​อวี​้​ชี​ก็​ไม่เคย​ขี่ม้า​อีก​เลย​ ​เขา​จะ​นั่ง​ใกล้​และ​คอย​เบียด​นางใน​รถม้า​ถึง​จะ​พอใจ​…

คิดไม่ถึง​ว่าความ​กล้าหาญ​และ​เหลวไหล​ของ​บุรุษ​คน​นั้น​ ​จะ​ทำให้​เจียง​ซื่อ​หน้าแดง​และ​รู้สึก​ร้อนผ่าว​ ​นาง​หลับตา​ลง​สงบ​จิตใจ​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ถาม​เจียง​อี​อย่าง​หยั่งเชิง​ ​“​ทำไม​พี่เขย​ไม่​มานั​่ง​ใน​รถ​กับ​พี่ใหญ่​เล่า​ ​ข้าว​่า​เวลา​สอง​สามีภรรยา​ออก​ไปเที่ยว​ด้วยกัน​ควรจะ​นั่ง​ด้วยกัน​จึง​จะ​ดี​”

เจียง​อี​งงงวย​มอง​เจียง​ซื่อ​ ​แล้วจึง​หัวเราะ​ขึ้น​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​“​น้อง​สี่​มี​ความคิด​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​”

“​ไม่ใช่​เช่นนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

เจียง​อี​ยื่นมือ​ไป​จับ​เจียง​ซื่อ​เอาไว้​ ​เพียง​รู้สึก​น่าขั​รน​ ​“​น้อง​โง่​ของ​พี่​ ​บุรุษ​กับ​สตรี​จะ​ตัว​ติดกัน​ตลอดเวลา​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​”

เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​เริ่ม​แดง​ ​นาง​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​หู​ของ​เจียง​ซื่อ​แล้ว​พูดเสียงต่ำ​ ​“​สามี​ไป​ไหว้พระ​เป็นเพื่อน​ภรรยา​ ​ถ้า​มีบา​งค​นรู​้​เข้า​อาจ​เอา​ไป​พูด​ไม่ดี​เสียด​้วย​ซ้ำ​”

แววตา​แห่ง​ความสุข​และ​ความ​เขินอาย​ที่​เจียง​อี​แสดงออก​มาทำ​ให้​เจียง​ซื่อ​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​พี่ใหญ่​เมื่อ​ชาติก่อน​มีความสุข​เพียง​ไหน​ ​หลังจาก​เกิดเรื่อง​นาง​ก็​มี​ความสิ้นหวัง​เพียงนั้น​ ​ไม่​แปลกใจ​ว่า​เหตุใด​ถึง​เลือก​จบชีวิต

“​พี่ใหญ่​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ ​ข้า​ไปเที่ยว​หานะ​เจ้า​คะ​”​ ​เมื่อ​ไม่​สามารถ​รู้​ได้​เลย​ว่า​เจียง​อี​เคย​ช่วยชีวิต​ใคร​ไว้​ ​เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่า​เวลา​ยิ่ง​กระชั้นชิด​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ​จึง​ได้​ตัดสินใจ​ไปหา​ถึงที่​ด้วยตัวเอง​ ​บางที​อาจ​ได้​อะไร​กลับมา​บ้าง

“​ได้​สิ​ ​น้อง​สี่​จะ​มา​เมื่อไหร่​ส่ง​คน​ไป​บอก​ข้า​ก็​พอ​”

เส้นทาง​ขากลับ​มี​ความลื่น​เล็กน้อย​เพราะ​ฝน​เพิ่ง​ตก​ ​รถม้า​จึง​โยก​ไป​โยก​มา​เล็กน้อย​ ​นั่ง​ได้​ไม่นาน​ ​สีหน้า​ของ​เจียง​อีก​็​ซีด​ลง​เรื่อยๆ

เจียง​ซื่อ​เห็น​แล้ว​รู้สึก​เป็นห่วง​ ​จึง​เอ่ย​เบา​ๆ​ ​“​วันนี้​พี่ใหญ่​ตากฝน​ ​กลับ​ไป​แล้ว​อย่า​ลืม​ดื่ม​น้ำ​ขิง​ไล่​ลม​เย็น​นะ​เจ้า​คะ​”

“​น้อง​สี่​ก็​ด้วย​นะ​”​ ​เมื่อ​เริ่ม​ห่าง​จาก​วัด​ไป๋​อวิ​๋น​ไกล​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ศาลา​ซึ่ง​นำพา​ความมืด​มน​มาสู่​เจียง​อี​ไม่ได้​เลือนหาย​ไป​ ​แต่กลับ​เหมือน​มี​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​กด​ทับ​ลง​ไป​ที่​อก​ ​เพียงแค่​นึกถึง​ก็​รู้สึก​หนัก​อย่าง​หา​ที่​เปรียบ​ไม่ได้

ภายใน​รถม้า​พลัน​เงียบ​ลง​ ​และ​ในเวลานี้​ ​รถม้า​ที่​ตามมา​ติดๆ​ ​กับ​รถม้า​ของ​จวน​จูด​้าน​หลัง​กลับ​คึกคัก​เป็นอย่างมาก

อาหมาน​เป็น​คน​อารมณ์ดี​ ​อาจู​สาว​รับใช้​คนโต​ของ​เจียง​อีก​็​เป็น​คน​คุย​ชอบ​ยิ้ม​ ​ทั้งสอง​คน​คน​หนึ่ง​เอ่ย​คน​หนึ่ง​กล่าว​ ​ไม่นาน​ก็​คุย​เล่น​กัน​อย่างสนุกสนาน

อา​หยา​ที่นั่ง​อยู่​ใกล้​ประตู​รถ​นั่ง​นิ่ง​ตลอดทาง​ ​นาง​ใช้เวลา​ครู่หนึ่ง​ใน​การ​รวบรวม​ความกล้า​และ​เอ่ย​ถาม​ ​“​พี่​อาหมาน​ ​คุณหนู​ของ​พี่​ปกติ​ชอบ​ทำ​สิ่งใด​ใน​เวลาว่าง​หรือ​”

อาหมาน​ฟัง​แล้ว​คิด​ไม่​ตก

คุณหนู​ชอบ​ทำ​สิ่งใด​ใน​เวลาว่าง​?​ ​พอนึ​กดู​ ​ช่วงนี้​คุณหนู​ดูเหมือน​จะ​ชอบ​เรื่อง​การฆ่าฟัน​ลอบ​วางเพลิง​ที่สุด

เอ่อ​ ​เรื่อง​นี้​พูด​ออก​ไป​ไม่ได้​!

อาหมาน​ทำให้​ลำคอ​โล่ง​ ​แล้วจึง​เอ่ย​อย่างมั่นใจ​ ​“​คุณหนู​ของ​ข้า​ชอบ​ปรุง​เซียง​ลู่​น่ะ​”

นาง​ไม่ได้​พูด​มั่ว​ ​ช่วงนี้​คุณหนู​ปรุง​เซียง​ลู่​ออกมา​หลาย​กลิ่น​และ​ได้​ส่ง​ไป​ขาย​ที่​ร้าน​ ​ได้ยิน​ว่า​ได้รับ​ความชื่นชอบ​จาก​บรรดาฮู​หยิน​กับ​คุณหนู​เป็นอย่างมาก

เมื่อ​คิดถึง​ตรงนี้​ ​อาหมา​นรู​้​สึก​ภาคภูมิใจ​เล็กน้อย​ ​ก็​นั่น​มัน​คุณหนู​ของ​นาง​เอง​นี่​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำ​สิ่งใด​ก็​ทำได้​ดีทุ​กอย​่าง​ ​ฆ่าฟัน​จุดไฟ​เผา​ก็​ทำได้​เฉียบขาด​ปาน​นั้น​ ​ความสามารถ​ใน​การปรุง​เซียง​ลู่​ก็​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​คนอื่น​จะ​ทำตาม​ได้​ยาก​เช่นกัน

ปรุง​เซียง​ลู่​?​ ​อา​หยา​นึกถึง​ตอนที่​เจียง​ซื่อ​หยิบ​หนอน​ขึ้น​มา​แกล้ง​นาง​อย่าง​ไม่มี​สีหน้า​กลัว​ใดๆ​ ​นาง​จึง​ไม่เชื่อ​คำพูด​ของ​อาหมาน​แม้​เพียง​ครึ่ง​คำ

สายตา​อัน​ดุร้าย​ของ​คุณหนู​เจียง​ใน​ตอนนั้น​ทำให้​นาง​มั่นใจ​ได้​ว่า​ ​หาก​นาง​พูด​สิ่งใด​ที่มาก​เกินไป​ ​ฝ่ายตรงข้าม​จะ​ต้อง​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ลั่นวาจา​ไว้​เป็นแน่​ ​นาง​เคย​ได้ยิน​ข่าวลือ​ว่า​เหล่า​คุณหนู​ชนชั้นสูง​หาความ​สุข​ด้วย​การ​ทรมาน​คน​ ​คุณหนู​เจียง​อาจ​เป็น​คน​แบบ​นั้น​ ​ถ้าเช่นนั้น​สาว​รับใช้​ข้าง​กาย​ของ​นาง​ก็​น่าสงสาร​มาก

สายตา​แห่ง​ความสงสาร​ที่​อา​หยา​แสดงออก​มาทำ​ให้​อาหมา​นรู​้​สึก​ประหลาดใจ​ ​จึง​เอ่ย​ถาม​ ​“​ทำไม​เจ้า​มอง​ข้า​อย่างนั้น​”

อา​หยาดึง​สติก​ลับ​มา​ ​ยิ้มแห้ง​และ​ตอบ​ไป​ ​“​การปรุง​เซียง​ลู่​ช่าง​เป็นความ​ชอบ​ที่​เหมาะสม​กับ​นางฟ้า​อย่าง​คุณหนู​เจียง​จริงๆ​”

อาหมาน​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ ​“​แน่นอน​”

ที่จริง​แล้ว​ ​นาง​รู้สึก​ว่าการ​ฆ่าฟัน​ลอบ​วางเพลิง​ก็​เหมาะสม​ด้วย​เหมือนกัน​ ​มัน​น่าตื่นเต้น​กว่า​ปรุง​เซียง​ลู่​อีก

อา​หยา​ตะลึง​ใจ​ ​เห็น​ไหม​เล่า​ ​คำพูด​ของ​สาว​รับใช้​คนโต​ของ​คุณหนู​เจียง​มัน​ฝืน​แค่ไหน​ ​คง​เอาไว้​หลอก​คนอื่น​สินะ

สาว​รับใช้​คนเล​็ก​ขยับ​ไป​ใกล้​ประตู​อย่าง​เงียบๆ​ ​และ​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ปิดปาก​ตัวเอง​ให้​เงียบสนิท

เวลานี้​ ​เสียง​ม้า​ร้อง​พลัน​ดัง​ขึ้น​ทลาย​บรรยากาศ​และ​ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว​กัน​ภายใน​รถม้า

อาหมา​นมี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​เป็น​คน​แรก​ ​นาง​เปิดม่าน​แล้ว​มองออก​ไป​ ​ก็​เห็น​รถม้า​จวน​จู​ที่อยู่​ด้านหน้า​ไม่​ไกล​จาก​รถม้า​ของ​นางใน​ตอนแรก​ ​พุ่ง​ออก​ไป​ไกล​ราวกับ​ลูกธนู​ที่​ถูก​ปล่อย​จาก​ธนู​ ​และ​บน​ถนน​ก็​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​ร้อง​ลั่น​ของ​ผู้คน

“​คุณหนู​!​”​ ​อาหมาน​เห็น​สถานการณ์​เช่นนั้น​พลัน​รู้สึก​ร้อนรุ่ม​ไป​หมด​ ​นาง​ออกมา​จาก​รถม้า​คิด​จะ​กระโดด​ทันที

เหล่า​ฉิน​ที่​บังคับ​รถม้า​กระโดด​ลง​ไป​ก่อน​และ​เอ่ย​อย่างเร่งรีบ​ ​“​อาหมาน​ ​มาบั​งคั​บม​้า​แทน​ข้า​”

หลังจาก​พูดเสร​็จ​ ​เหล่า​ฉิน​วิ่ง​อย่าง​ฉับไว​ไป​ยัง​ข้างๆ​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ที่​ตกใจ​อึ้ง​เหมือน​คนโง่​ ​แล้ว​ดึง​เขา​ลง​จาก​หลัง​ม้า​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​จากนั้น​ก็​ขี่ม้า​ตรง​ไป​ยัง​รถม้า​ที่​สูญเสีย​การควบ​คุม