ตอนที่ 266 เข้าใจผิด

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ชั่ว​วินาที​ที่​รถม้า​สูญเสีย​การควบ​คุม​ ​ปฏิกิริยา​การ​ตอบสนอง​ของ​เจียง​อี​คือ​กอด​เจียง​ซื่อ​เอาไว้​ ​สอง​พี่น้อง​กระแทก​เข้ากับ​กำแพง​ด้าน​หนึ่ง​ของ​รถม้า​พร้อมกัน​และ​ส่งเสียง​ตกใจ​ออกมา​เบา​ๆ

รถม้า​โยก​อย่างรุนแรง​จน​แทบ​นั่ง​ไม่​นิ่ง​ ​เจียง​อี​ทน​แรง​กระแทก​และ​เอ่ย​ถาม​เจียง​ซื่อ​อย่าง​เป็นห่วง​ ​“​น้อง​สี่​ ​เจ้า​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​ที่​ถูก​เจียง​อีก​อด​เอาไว้​มีสี​หน้าซีด​มาก​ ​ชิ้นส่วน​ความทรงจำ​ที่​นับไม่ถ้วน​ผุด​ขึ้น​ใน​สมอง​เหมือน​พลุ​ที่​แตก​กระจาย

เมื่อ​ชาติก่อน​ ​นาง​ก็​นั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​เหมือนกัน​ ​และ​รถม้า​ก็​เคลื่อน​ไป​ยัง​หน้าผา​…

ความทรงจำ​ที่​เกี่ยวกับ​ความตาย​ถูก​ซ่อน​ไว้​ใน​ส่วนลึก​ ​ชั่ว​วินาที​ที่​ถูก​กระตุ้น​ ​มัน​ทำให้​เนื้อตัว​นาง​แข็งทื่อ​ ​จน​ลืม​ตอบสนอง​ไป​ชั่วขณะ

เสียง​เรียก​ที่​ร้อนรุ่ม​ของ​เจียง​อี​และ​เสียง​ลม​พัด​ ​ซู่ว​ ​ที่​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​หน้าต่าง​ทำให้​เจียง​ซื่อ​ได้สติ

อย่า​ตื่นตกใจ​ ​ถ้า​นาง​ตื่นตกใจ​ ​ใคร​จะ​เป็น​คน​ปกป้อง​พี่ใหญ่​?

“​พี่ใหญ่​ ​ข้า​ไม่เป็นไร​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยื่นมือ​จับ​ส่วน​นูน​ของ​รถม้า​และ​พยายาม​เคลื่อนตัว​ไป​ยัง​ประตู​รถ

เจียง​อีเห็น​เช่นนั้น​จึง​ตกใจ​ ​เสียง​ที่​พูด​ก็​ยัง​เปลี่ยน​ ​“​น้อง​สี่​ ​เจ้า​จะ​ทำ​สิ่งใด​”

“​ข้า​อยาก​…​รู้​ว่า​…​เกิด​สิ่ง​…​ใด​ขึ้น​…​”​ ​เสียง​ของ​เจียง​ซื่อ​ขาด​ๆ​ ​หาย​ๆ​ ​ตาม​การ​โยก​ไป​โยก​มาที​่​รุนแรง​ของ​รถม้า​ ​แต่​การ​เคลื่อนตัว​ไป​ยัง​ประตู​ยังคง​ดำเนินต่อไป​ไม่​หยุด

เจียง​อี​ออกแรง​ดึง​ข้อเท้า​ของ​เจียง​ซื่อ​เอาไว้​ ​และ​เอ่ย​อย่าง​ร้อนใจ​ ​“​น้อง​สี่​ ​เจ้า​อย่า​ก่อกวน​ไร้สาระ​เช่นนี้​ ​ถ้า​เจ้า​ตก​จาก​รถม้า​จะ​ทำ​อย่างไร​”

เจียง​ซื่อ​เห็น​สถานการณ์​ด้านนอก​อย่างชัดเจน​จาก​การ​เปิด​ออก​ของ​ม่าน​ที่​ถูก​ลม​พัด​ ​ม้า​ที่​ดู​อ่อนโยน​เหมือน​ถูก​อะไร​บางอย่าง​กระตุ้น​มัน​จึง​ได้​วิ่ง​ไป​ข้างหน้า​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​คนขับรถ​ม้า​ก็​หาย​ไป​ไม่เห็น​แม้​เงา​ ​คง​ถูก​เหวี่ยง​ลง​ไป​ตั้งแต่​มีเสียง​ดัง​ขึ้น

หมายความว่า​ ​คนที​่​กำลัง​พุ่ง​ไป​ด้านหน้า​อย่างรวดเร็ว​ตาม​แรง​ดึง​นั้น​มี​เพียง​พวกเขา​สอง​พี่น้อง

ลม​พัด​แรง​มาก​จน​เจียง​ซื่อ​แทบ​ลืมตา​ไม่​ขึ้น​ ​ภาพ​และ​สิ่งของ​ทั้งสอง​ข้าง​เลย​ผ่าน​ไป​ด้านหลัง​อย่างรวดเร็ว​ ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เหมือน​กำลัง​หวนคืน​สู่​ฝันร้าย​แบบ​เมื่อ​ชาติก่อน​ ​เพียงแต่ว่า​ครั้งนี้​ไม่ได้​มี​เจียง​ซื่อ​เพียง​คนเดียว​ ​ใน​รถม้า​ที่​สูญเสีย​การควบ​คุม​ยัง​มี​เจียง​อี​อยู่​เป็นเพื่อน​นาง​ด้วย​อีก​คน​ ​และ​เพราะ​ความแตกต่าง​ใน​ข้อนี​้​ ​ทำให้​เจียง​ซื่อ​ที่​กำลัง​เผชิญ​กับ​ความ​น่ากลัว​ ​ไม่เพียงแต่​ควบคุมสติ​ไว้​ได้​ ​แต่​ยัง​สงบนิ่ง​ลง​อีกด้วย

เรื่อง​ที่​น่ากลัว​ยิ่งกว่า​คือ​นาง​เคย​ผ่าน​เรื่อง​แบบนี้​มาก​่อน​แล้ว​ ​ใน​ตอนนั้น​ ​นาง​ช่วยตัวเอง​ไว้​ไม่ได้​ ​แต่​ครั้งนี้​นาง​จะ​ไม่​นอน​นิ่ง​อีกต่อไป​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เจียง​ซื่อ​จับ​ขอบ​ประตู​ ​มือ​อีก​หนึ่ง​ข้าง​ยื่น​ไป​ที่​เอว​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ของ​แหลม​หนึ่ง​แท่ง​ออกมา​จาก​เหอ​เปา

ความเร็ว​เช่นนี้​ไม่ว่า​จะ​เป็น​หนอน​พิษ​กู่​หรือ​ผง​ยา​เหล่านั้น​ ​ก็​ไม่​สามารถ​ใช้กับ​ม้า​ที่​ตกใจ​ได้​ ​ตัวเลือก​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​เข็ม​พิษ​ที่​เพิ่ง​ใช้กับ​คน​มี​เครา​ครึ้ม​เมื่อไม่นานมานี้

ขอ​เพียงแค่​ปลาย​เข็ม​ทิ่ม​ทะลุ​ผิว​ม้า​ ​ยาพิษ​ก็​จะ​ทำให้​ม้า​รู้สึกตัว​ชา​ไป​ทั้งตัว​โดย​ใช้เวลา​ที่​สั้น​ที่สุด​ ​แล้ว​ความเร็ว​ก็​จะ​ลดลง​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​จะ​เลือก​กระโดด​ลง​ไป​หรือ​ช่วยเหลือ​ตนเอง​ด้วย​วิธี​อื่น​ ​ก็​นับว่า​มีตัว​เลือก​ที่มาก​ขึ้น

เพียงแต่ว่า​ม้า​กับ​คน​นั้น​แตกต่าง​กัน​ ​การ​ทิ่ม​ให้​ทะลุ​ผิวหนัง​ม้านั​้น​ไม่​ง่าย​เลย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​ยังอยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​แทบจะ​บิน​อยู่​เช่นนี้

เจียง​ซื่อ​จับ​เข็ม​และ​กัด​ปาก​แน่น​ ​สายตา​ค่อยๆ​ ​เคลื่อน​ไป​ตก​อยู่​บน​ก้น​ม้า​ที่อยู่​ด้านหน้า

เนื้อหนัง​ตรงนั้น​น่าจะ​นิ่ม​กว่า

ตอนนี้​ ​นาง​พลัน​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ทำไม​เอ้อร​์​หนิว​ถึง​ชอบ​กัด​ตรงนั้น

เมื่อยืน​ยัน​เป้าหมาย​แล้ว​ ​เจียง​ซื่อ​จึง​เริ่ม​คลาน​ออก​ไป

เจียง​อี​ที่อยู่​ด้านหลัง​ดึง​ขานาง​ไว้​เหนียวแน่น​ ​“​น้อง​สี่​ ​เจ้า​บ้า​ไป​แล้ว​หรือ​”

“​พี่ใหญ่​ ​พี่​จับ​รถ​ไว้​แน่น​ๆ​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​ ​ข้ามี​วิธี​ชะลอรถ​ม้า​ลง​”

แม้​จะ​เป็น​ม้า​ที่​กำลัง​ตกใจกลัว​ ​อย่างไร​เสียมั​นก​็​ดึง​รถ​ที่​บรรทุก​คน​เอาไว้​ ​ทั้ง​ยัง​วิ่ง​อยู่​บน​ถนน​ที่​เป็น​ดิน​แฉะ​ ​ถึง​จะ​วิ่ง​เร็ว​แค่ไหน​ก็​คง​ไม่​เร็ว​ปาน​สายฟ้า​แลบ​ ​นี่​เป็น​เหตุผล​สำคัญ​ที่​เจียง​ซื่อ​มี​ความมั่นใจ​ใน​การ​ช่วยตัวเอง

“​ไม่ได้​นะ​น้อง​สี่​ ​ถ้า​ข้า​ปล่อยมือ​ ​เจ้า​จะ​ตกลง​ไป​ได้​”​ ​ตอนนี้​เจียง​อีก​็​ดื้อรั้น​ ​นาง​กอด​ขา​เปลือยเปล่า​ของ​เจียง​ซื่อ​ไว้​แน่น​ไม่ยอม​คลาย​มือ​ออก

เจียง​ซื่อ​พลาง​รู้สึก​เอือมระอา

นี่​มัน​ถ่วง​แข้ง​ถ่วง​ขากั​นนี​่​!

ผู้คน​ด้านหน้า​ต่าง​ส่งเสียง​กรีดร้อง​และ​เดิน​หลบ​ ​รถม้า​ก็​เหมือน​ใกล้​จะ​แยก​ออกจาก​กัน​เรื่อยๆ​ ​เจียง​ซื่อ​จึง​เตรียมตัว​จะ​สลัด​เจียง​อี​ออก​ด้วย​การ​ออกแรง​สุดตัว​ ​จู่ๆ​ ​พลัน​มีเสียง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​ ​“​คุณหนู​ ​จับ​ไว้​แน่น​ๆ​ ​นะ​ขอรับ​!​”

เหล่า​ฉิน​ที่​ขี่ม้า​ตามมา​อย่างรวดเร็ว​พลัน​ลอยตัว​ขึ้น​กลางอากาศ​ ​เขา​กระโดด​จาก​ม้า​ที่​ขี่​และ​ข้าม​ไป​ยัง​ม้า​ที่​ตกใจ​แทน​ ​ม้า​ตื่นตกใจ​พลัน​ยก​เท้าหน้า​ขึ้น​ต้องการ​สลัด​คนที​่​อยู่​ด้านหลัง​ ​รถม้า​จึง​โยก​ไป​โยก​มา​ใน​ทันใด​ ​ดูเหมือน​อันตราย​มากกว่า​เดิม​เสียอีก

ชั่ว​วินาที​ที่​ได้ยิน​เสียง​เหล่า​ฉิน​ ​เจียง​ซื่อ​หดตัว​เข้าไป​ยัง​รถม้า​ทันที​ ​นาง​เอา​ตัว​บัง​เจียง​อี​และ​เกาะ​ด้าน​ข้าง​ไว้​แน่น​ ​“​พี่ใหญ่​ไม่ต้อง​กลัว​ ​เหล่า​ฉิน​ต้อง​มี​วิธี​แน่ๆ​ ​พี่​แค่​จับ​ไว้​ให้​แน่น​ระวัง​อย่า​ให้​ถูก​เหวี่ยง​ออก​ไป​”

เจียง​อี​หน้าซีด​ ​นาง​พูดไม่ออก​แม้​คำ​เดียว​ ​รู้​เพียง​พยักหน้า​ไม่​หยุด

รถม้า​ดูเหมือน​จะ​ช้า​ลง​ ​ภายใต้​พลัง​และ​ทักษะ​การควบ​คุม​ของ​เหล่า​ฉิน​ ​ม้า​ที่​ตื่นตกใจ​เริ่ม​เชื่อฟัง

แต่​ในเวลานี้​ ​ตรง​ถนน​ด้านหน้า​พลัน​มี​เด็กน้อย​คน​หนึ่ง​วิ่ง​ออกมา​แล้ว​ยืน​จ้อง​รถม้า​ที่​กำลัง​วิ่ง​มา​จน​ลืม​ตอบสนอง

เส้นเลือด​บน​หน้าผาก​ของ​เหล่า​ฉิน​พลัน​ปูด​ขึ้น​จน​เป็น​สีเขียว​ ​เขา​ดึง​ให้​ม้า​เปลี่ยน​ทิศทาง​ด้วย​แรง​ที่​มี​ ​ตอนที่​เห็น​ว่า​ระยะห่าง​ใกล้​เด็กน้อย​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มี​เงา​ร่าง​ๆ​ ​หนึ่ง​พุ่ง​ออกมา​กลาง​ถนน​ ​โดย​อุ้ม​เด็กน้อย​ขึ้น​และ​กลิ้ง​อยู่​หลาย​ตลบ​จน​ไป​ถึง​ข้าง​ถนน

หลังจาก​ชั่ว​วินาที​นั้น​ผ่าน​ไป​ ​เสียงร้อง​ไห้​ของ​เด็กน้อย​ก็​ดังสนั่น

รถม้า​วิ่ง​ไป​ข้างหน้า​อีก​หลาย​สิบ​จั้ง​ ​สุดท้าย​ก็​หยุด​ลง​อย่าง​ช้าๆ

รถม้า​ทั้ง​คัน​ดูเหมือน​ใกล้​พังทลาย​และ​จอด​นิ่ง​อยู่​ข้าง​ถนน​อย่าง​น่าเวทนา​ ​เจียง​อี​ออกจาก​รถม้า​ด้วย​การ​ช่วย​พยุง​จาก​เจียง​ซื่อ​ ​นาง​ก้มตัว​ลง​แล้ว​เริ่ม​อ้วก

“​คุณหนู​ ​มิ​เป็น​อะไร​ใช่​หรือไม่​”​ ​เหล่า​ฉิน​ผูก​ม้า​ไว้​กับ​ต้นไม้​ข้าง​ถนน​และ​เดิน​มาหา

แม้​สีหน้า​เจียง​ซื่อ​ก็​ดู​แย่​ไม่​ต่าง​ ​แต่​สติ​นับว่า​ยัง​นิ่ง​พอสมควร​ ​นาง​ปัด​มือ​และ​กล่าว​ ​“​ข้ามิ​เป็นไร​ ​เหล่า​ฉิน​ ​เจ้า​ไปดู​เด็ก​คน​นั้น​หน่อย​ว่า​ได้รับบาดเจ็บ​หรือไม่​”

เหล่า​ฉิน​พยักหน้า​และ​เดิน​ไป​ด้านหลัง

เจียง​อี​พัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จึง​เริ่ม​กล่าว​พร้อมหน้า​ที่​ซีด​ ​“​น้อง​สี่​ ​ข้า​ไม่เป็นอะไร​แล้ว​ ​พวกเรา​ไปดู​เด็ก​คน​นั้น​กัน​เถอะ​”

สอง​พี่น้อง​พยุง​กัน​เดิน​ไป​ ​คนที​่​ช่วยชีวิต​เด็ก​เอาไว้​กำลัง​ตำหนิ​เหล่า​ฉิน​อย่าง​โมโห​ ​“​นี่​พวก​เจ้า​บังคับ​รถม้า​กัน​อย่างไร​ ​ผู้คน​เดินไปเดินมา​เต็ม​ถนน​ไม่พอ​ ​เกือบจะ​ชน​เด็กน้อย​คน​นี้​แล้วด้วย​”

เจียง​ซื่อ​เพิ่ง​เห็น​ว่า​คนที​่​ช่วยชีวิต​เด็ก​ไว้​คือ​หญิง​วัยสาว​คน​หนึ่ง

นาง​ต่าง​จาก​กุลสตรี​ทั่วๆ​ ​ไป​ ​หญิงสาว​ตรงหน้า​รูปร่าง​สูง​เพรียว​ ​สวมใส่​ชุด​แขน​แคบ​เสื้อ​สั้น​สี​ถั่วเขียว​ ​รองเท้า​เซ​วีย​ยาว​หนึ่ง​คู่​ ​และ​กางเกง​ที่​สอด​ไว้​ข้างใน​รองเท้า​ ​ทั้ง​ชุด​โดดเด่น​ด้วย​คิ้ว​โก่ง​ยาว​สีดำ​เข้ม​ ​ชวน​ให้​รู้สึก​ถึง​ความ​องอาจ​ผ่าเผย​และ​เฉียบขาด​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

“​เด็กน้อย​เป็น​อะไร​หรือไม่​”​ ​เจียง​ซื่อ​เอ่ย​ถาม

หญิงสาว​หันมา​ฝั่ง​เจียง​ซื่อ​พลาง​เห็น​ว่า​หญิง​ผู้​นี้​มี​ใบหน้า​สวย​ ​มีน​้ำ​เสียงอ่อน​โยน​ ​สีหน้า​ที่​เข้ม​ขรึม​ก็​พลาง​ผ่อนคลาย​ลง​ ​“​โชคดี​ที่​ไม่เป็นอะไร​”

เจียง​ซื่อ​ถอนหายใจ​โล่งอก​พร้อมกับ​เผย​รอยยิ้ม​ที่จริง​ใจ​ ​“​ดี​แล้ว​ ​โชคดี​ที่​ได้​แม่นาง​ช่วย​ไว้​เมื่อครู่นี้​”

หญิงสาว​กำลังจะ​พูด​อะไร​ ​พลาง​มีส​ตรี​คน​หนึ่ง​ที่ทำงาน​ใน​ทุ่งนา​วิ่ง​มา​อย่าง​ร้อนใจ​ ​นาง​คว้า​เด็ก​ที่​กำลัง​ร้องไห้​ฟูมฟาย​เอาไว้​และ​ร้องไห้​ตาม

เจียง​ซื่อ​ยื่นมือ​ไป​จับ​เหอ​เปา​ตรง​เอว​ ​พลาง​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ถูก​เล็กน้อย

เหอ​เปา​ต้อง​บรรจุ​ของ​จำนวนมาก​ ​จน​ไม่​สามารถ​เหลือ​พื้นที่​ให้​กับ​เงินได้​ ​แล้ว​เงิน​ทั้งหมด​ก็​เอา​ไป​เก็บ​ไว้​ที่​อาหมาน

“​ท่าน​น้า​เจ้า​คะ​ ​ข้า​ขออภัย​จริงๆ​ ​นี่​คือ​ค่ายา​รักษา​ของ​เด็ก​เจ้าค่ะ​”

สตรี​รับเงิน​จาก​เจียง​อี​พร้อม​ดึง​เด็ก​ขึ้น​มาก​ล่าว​ขอบใจ​ ​นาง​กลัว​จะ​มี​คน​เห็น​เงิน​วิบวับ​นี่​ ​จึง​ได้​อุ้ม​เด็ก​ขึ้น​มา​แล้ว​วิ่ง​ไป​ทันที​ ​นาง​ทิ้ง​แม้กระทั่ง​เครื่องมือ​ทำนา​…

เจียง​อี​พา​เจียง​ซื่อ​ไป​กล่าว​ขอบคุณ​หญิงสาว​อีกครั้ง

หญิงสาว​ปัด​มือ​อย่าง​ไม่สน​ใจ​และ​เดิน​จากไป​ ​และ​ในเวลานี้​ ​ใน​กลุ่ม​ฝูงชน​ที่​ยืน​ดู​ความคึกคัก​ ​มีด​วง​ตา​อยู่​สอง​คู่​ได้​จับจ้อง​ไป​ยัง​หญิงสาว