บทที่ 273 ทำไมต้องมาจับฉัน

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่273 ทำไมต้องมาจับฉัน

แต่ว่าความคิดของคนมากมายนั้น พวกเธอก็ไม่ได้มีหน้ามีตาเท่ากับส้งหวั่นหวั่น ไม่ได้โชคดีเท่าเธอ ที่จะมาเป็นภรรยาของชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเมืองจิ่งเฉิง

ดังนั้นเลยทำได้แค่มองให้เยอะหน่อย ไม่ว่าอย่างไรแค่ถูกเชิญมาร่วมงานแต่งของตระกูลลี่ ก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้วล่ะ

ส้งหวั่นหวั่นที่อยู่ในห้องแต่งตัวตอนนี้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ เลยเอาแค่ขบริมฝีปาก

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะท่าทีที่เธออยากจะแสดงออกถึงความเงียบสงบและสง่างาม ตอนนี้เธอคงจะกระโดดขึ้นเต้นแล้ว ออกไปป่าวประกาศให้คนรู้ ว่าวันนี้ตัวเองจะได้เป็นภรรยาของลี่จุนถิงแล้ว

ลี่หยูนห่วนกับลี่จีถองอยู่ในห้องแต่งหน้าเหมือนกัน

“โอ้ ดูหวั่นหวั่นของพวกเราสิ สวยขนาดนี้เลย จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่ๆ เลยล่ะ” ลี่จีถองมองส้งหวั่นหวั่นที่สวยขนาดนี้ ก่อนจะชมไม่หยุดเลย

ส้งหวั่นหวั่นก้มหน้าลง ยิ้มด้วยความอ่อนหวาน

ลี่หยูนห่วนเองก็ชื่นชม: “คุณหนูคนโตของตระกูลส้ง ใคร ใครในเมืองจิ่งเฉิงไม่อยากได้บ้างเล่า”

ส้งหวั่นหวั่นถูกชื่นชมเป็นอย่างมาก มีผู้ชายมาชมแบบนี้ เป็นผู้หญิงก็คงรู้สึกดีไม่น้อยเลย

จู่ๆ ลี่จีถองก็นึกถึงเจียงหยุนเอ๋อ เลยพูดแดกดันไป: “คุณดูสิ งานแต่งสุดท้ายก็ไม่ใช่ของคุณ เจียงหยุนเอ๋อเทียบไม่ได้อยู่วันยังค่ำ”

ตัวเองทำลายหญิงคนหนึ่งได้สำเร็จ ส้งหวั่นหวั่นมีแต่ความภูมิใจ ว่าไม่มีใครชนะตัวเองได้ เลยพูดกำชับลี่หยูนห่วน: “วันนี้ช่วยดูให้หน่อยนะ อย่าให้ตอนที่งานแต่งสำคัญที่สุดถูกทำลายไป ฉันเกือบจะสำเร็จแล้วจริงๆ”

ลี่หยูนห่วนพยักหน้า: “แน่นอนอยู่แล้ว จะต้องช่วยคุณแน่นอน”

ต้องรู้ด้วยว่าตอนนี้เขากับส้งหวั่นหวั่นลงเรือลำเดียวกันแล้ว เลยต้องช่วยกันเป็นธรรมดา

ส้งหวั่นหวั่นเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะรู้สึกภูมิใจมาก เพียงแค่ผ่านวันนี้ไปได้ ตัวเองก็จะเป็นผู้หญิงของลี่จุนถิงแล้ว และจะได้เป็นคุณหญิงลี่ที่ใครๆ ก็รู้จักในเมืองจิ่งเฉิง

มีผู้หญิงมากมายมีสายตาอิจฉาตาร้อนอย่างเห็นได้ชัด เธอเลยทำให้ตัวเองดูโอ่อ่าได้มากกว่าเดิมอีก

แต่ตอนนี้ลี่จุนถิงกำลังต้อนรับแขกอยู่ด้านหน้าโบสถ์ สมิทธ์เองก็อยู่ในลิสต์ของแขกรับเชิญด้วย

สมิทธ์มาถึงงานแล้ว เห็นลี่จุนถิงจัดงานแต่งงานครั้งนี้ ก็ชื่นชมไม่หยุด เพราะมันสวยเกินบรรยาย

แต่เมื่อเขารู้ว่าเจ้าสาวของงานแต่งไม่ใช่เจียงหยุนเอ๋อก็ขมวดคิ้ว

ตอนนั้นลี่จุนถิงเห็นสมิทธ์ เลยเข้ามาต้อนรับเป็นอย่างดีด้วยความสบายอารมณ์: “คุณสมิทธ์มาได้ในวันนี้ ถือเป็นเกียรติของฉันมากเลย”

สมิทธ์เหมือนมีอะไรอยากจะบอกกับลี่จุนถิง เลยถามด้วยใบหน้ามืดมน: “ทำไมเจ้าสาวของคุณไม่ใช่เจียงหยุนเอ๋อ?มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ลี่จุนถิงไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยิ้มให้

สมิทธ์เลยพูดต่อ: “ฉันว่าคุณคงไม่ใช่คนที่จะทิ้งอะไรง่ายๆ แบบนั้น ถ้าเกิดคุณเป็นคนแบบนั้นจริงๆ งั้นฉันก็ผิดหวังมากเลย”

ลี่จุนถิงได้ฟังจนจบก็ยิ้มพลางพูดออกมา: “คุณวางใจเถอะ ชีวิตฉันไม่ได้มากรักขนาดนั้น คุณรออีกหน่อยเดี๋ยวก็รู้ เจ้าสาวของฉันมีเพียงคนเดียวก็คือเจียงหยุนเอ๋อเท่านั้น”

สมิทธ์รู้สึกเหมือนมีหมอกหนาอยู่ในหัว ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงหมายความว่าอย่างไร

แต่ว่าภรรยาของสมิทธ์กลับเหมือนรู้สึกแปลกใจต่อสายตาของลี่จุนถิง เลยดึงแขนเสื้อของสมิทธ์: “พวกเรารอดูก่อนเถอะ”

สมิทธ์เลยฟังคำพูดภรรยา จากนั้นพยักหน้าแล้วเดินไป แต่ใบหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก

สมิทธ์เพิ่งจะเดินไป ลี่จุนซินก็เดินเข้ามาหา พลางถามไปว่า: “จุนถิง คุณตัดสินใจดีแล้วเหรอ?ถ้าเกิดตอนนี้กลับใจยังทันนะ”

ลี่จุนถิงพยักหน้าด้วยความแน่วแน่: “ต้องตัดสินใจดีแล้วสิ เรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ”

ลี่จุนซินไม่พูดอะไรต่อ ตัวเองถามไปหลายรอบแล้ว เลยไม่อยากจะยุ่งมากอีกแล้ว

ลี่จุนถิงมองดูนาฬิกาข้อมือ ผ่านไปอีกสองชั่วโมง เจ้าสาวก็จะปรากฏตัวแล้ว มุมปากของลี่จุนถิงเองก็เหมือนกัน เขาคิด ว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่เขาวางแผน

เจียงหยุนเอ๋อนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดเลย

เธออยากจะนอนต่อแต่ว่าปัญหาคือเธอนอนต่อไม่หลับแล้ว

เธอนอนอยู่นิ่งๆ มองเพดาน ก่อนจะรอให้ถึงตอนกลางคืน แต่ว่าเธอยิ่งไม่มีอะไรทำ เธอยิ่งรู้สึกไม่ดี

เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้ง เลยอดไม่ได้ที่จะเดินไปเดินมา

ทำไมเธอทำให้ตัวเองใจเย็นลงไม่ได้ ตอนนี้เลยมีอาการร้อนรน ในใจก็รู้สึกแย่มาก และมักจะคิดว่าเหมือนจะเสียอะไรสักอย่างหนึ่งไป เมื่อคิดแบบนี้ในใจเธอก็เหมือนถูกบีบรัด

สุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อก็ยืนอยู่หน้าหน้าต่าง พลางมองตึกด้านที่มีคู่รักนั่งอยู่ที่ม้านั่งยาวในสวนของโรงพยาบาล ซบกันไปกันมา ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขึ้นมา

เจียงหยุนเอ๋อจับเสื้อผ้าตรงหน้าอกของตัวเองพลางถามตัวเอง: “เจียงหยุนเอ๋อ คุณเสียดายใช่ไหม?ถ้าเกิดเสียจุนถิงไป คุณจะเสียดายไหม?”

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็เจ็บปวด มันเจ็บปวดมากเสียจริง

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว: “ถูกต้องแล้ว มันเจ็บปวดมากเลย ฉันไปไม่ได้ นี่มันเป็นงานแต่งงานของจุนถิงกับผู้หญิงคนอื่น”

เธอจะออกงานในฐานะอะไรกัน?

แฟนเก่าเหรอ?หรือว่าภรรยาเก่า?ไม่สิ เหมือนจะไม่ใช่อะไรเลยล่ะ

ในใจของเจียงหยุนเอ๋อสับสน ในหัวมีปีศาจและนางฟ้าตีกันอยู่

เมื่อลังเลอยู่ราวๆ หนึ่งชั่วโมง เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าเธอหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้แล้ว เธอทนมองลี่จุนถิงกับผู้หญิงคนอื่นแต่งงานกันแบบนี้ เธอกลัวว่าเธอจะเสียดายไปตลอดชีวิต

“เจียงหยุนเอ๋อ คุณเห็นแก่ตัวเสียหน่อยเถอะ” เจียงหยุนเอ๋อทำมือให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะจับประตูของห้องพักผู้ป่วย แล้วปรี่ออกไป

ครั้งนี้เธอทำเพื่อความสุขของตัวเอง และก็เพื่อคนที่ตัวเองรัก

เพิ่งจะออกไปได้ไม่นาน หลันเยว่เฉินก็มาหาเจียงหยุนเอ๋อที่ห้องพักผู้ป่วย เลยยิ้มพลางพูดออกมา: “ดูเหมือนจะทนไม่ได้แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”

หลันเยว่เฉินบ่นอยู่คนเดียวจนจบ ก็เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ก่อนจะโทรหาลี่จุนถิง: “คุณชายลี่ของฉัน เป็นความคิดที่ดี คุณเดาถูกจริงๆ ด้วย เธอออกไปแล้ว”

ลี่จุนถิงยิ้มขึ้น มันแน่นอนอยู่แล้ว เจียงหยุนเอ๋อสนิทใจกับตัวเองมากที่สุด

เจียงหยุนเอ๋อวิ่งออกจากโรงพยาบาล เธอรู้ว่าทุกๆ ก้าวที่ตัวเองวิ่งออกไปนั้น มันแน่วแน่มาก และจะไม่เสียดายอะไร ส่วนเขาเองก็ไม่เสียดายเหมือนกัน

แต่ตอนที่เธอไปถึงประตูของโรงพยาบาล จู่ๆ ก็มีรถมาจอดอยู่ด้านหน้าเธอ แล้วก็มีบอดี้การ์ดสองคนลงมาจากรถ ก่อนจะขนาบข้างเจียงหยุนเอ๋อ แล้วพาขึ้นไปบนรถ

เจียงหยุนเอ๋อม่านตาหดลง ก่อนจะดิ้นอย่างสุดกำลัง: “พวกคุณเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องมาจับฉัน?”

ทำไมเจียงหยุนเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่ตัวเองตัดสินใจจะตามหาความสุขของตัวเองนั้น ระหว่างทางจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น แล้วก็ลากตัวเองขึ้นรถไป

แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้เป็นใคร แล้วเป็นคนดีหรือไม่ดี

บอดี้การ์ดสองคนไม่ได้สนใจเขา เพียงแค่ให้คนขับรถขับรถไป

คนขับรถขับรถออกไป บอดี้การ์ดสองคนก็เอาผ้าสีดำมาปิดตาของเจียงหยุนเอ๋อ

เมื่อไม่เห็นวิวด้านหน้า เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เลยรีบถามไปว่า: “พวกคุณเป็นใครกันแน่?พวกคุณจะทำอะไร?”

แต่ว่าไม่มีใครตอบกลับเธอเลย