บทที่ 276 ฉันจะทุ่มสุดความสามารถ เพื่อช่วยคุณรักษาความลับ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

“ซ่าซ่า——” เสียงของกระแสไฟที่ตีกันยุ่งเหยิงดังขึ้น ทันใดนั้นเองภาพถ่ายของประวัติการทำงานบนจอกว้างและภาพต่อมาที่จะปรากฏขึ้นนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวในทันที ไม่นานนัก ก็ถูกภาพขาวดำลาย ๆ เข้ามาแทนที่

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง หลานเสี่ยวถางพึ่งจะหาหลานเซี่ยวเฉิงพบ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา

“คุณพ่อคะ!” เธอมีท่าทางตื่นตระหนกไม่หายเล็กน้อย เป็นเพราะว่า เมื่อครู่นี้สือมูเฉินขาดอีกเพียงแค่ไม่ถึงวินาทีเดียว ก็จะถูกเปิดเผยตัวตนออกมาจริง ๆ แล้วน่ะสิ!

“ถางถาง ทำไมถึงวิ่งเร็วมากขนาดนี้ล่ะ รีบนั่งลงเร็วเข้า!” หลานเซี่ยวเฉิงก่อนหน้านี้ก่อนที่หลานเสี่ยวถางจะมาหา ก็ใส่รหัสเข้าระบบไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังเปิดความเคยชินนั่นบนร่างกายของเขาอีกด้วย แต่ทว่ากลับใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือน้อยมาก

“คุณพ่อคะ ขอบคุณนะคะ!” ทรวงอกของหลานเสี่ยวถางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “เมื่อกี้นี้ถ้าหากว่าช้าไปอีกเพียงแค่ก้าวเดียวต้องจบเห่แล้วแน่ ๆ เลยค่ะ!”

หลานเซี่ยวเฉิงตบเข้าที่หัวไหล่ของเธอเบา ๆ สองสามที “เสี่ยวถาง คนคนนั้นต้องการที่จะป่าวประกาศอะไร ลูกรู้หรือเปล่า?”

หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “คุณพ่อคะ เรื่องนี้กลับไปแล้วหนูค่อยอธิบายให้ฟังนะคะ คนคนนี้มักพุ่งเป้าโจมตีมูเฉินมาโดยตลอด เพียงแค่คิดไม่ถึงเลยค่ะ ว่าเขาจะกล้าเข้ามาบุกอินเทอร์เน็ตของงานแต่งงานในวันนี้!”

“ได้ ถ้าหากว่ายังต้องการอะไรเพิ่มอีก พ่อจะเข้าร่วมด้วย” หลานเซี่ยวเฉิงเอ่ย “การรบกวนระบบนี้ ขอเพียงแค่พ่อไม่ปิดมันไป อินเทอร์เน็ตที่นี่ก็จะเป็นเพียงแค่ของที่จัดเตรียมเอาไว้เท่านั้น! แน่นอน นอกจากแม่ของลูกและลูก เป็นเพราะว่าเมื่อครู่นี้ตั้งใจติดตั้งโดยเฉพาะเข้าไปพอดี ถึงช้าไปเล็กน้อย อีกเพียงนิดเดียวมูเฉินก็จะถูกเปิดโปงแล้ว ลูกกับมูเฉินรีบทำเวลาเข้านะ ตามหาสาเหตุมาให้ได้”

“คุณพ่อคะ พ่อเก่งที่สุด!” หลานเสี่ยวถางพูดไป ก่อนจะยื่นมือออกไปสวมกอดหลานเซี่ยวเฉิงเอาไว้

อีกทั้งที่ข้างใบหูของเธอก็มีน้ำเสียงริษยาของเย่เหลียนอีดังขึ้นมาด้วยว่า “ถางถาง แม่ก็ต้องการกอดด้วยนะ!”

“คุณพ่อคะ แม่บอกว่าแม่ก็อยากกอดด้วยค่ะ!” หลานเสี่ยวถางเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะ

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วหลานเซี่ยวเฉิงจึงยื่นมือออกมา และสวมกอดหลานเสี่ยวถางเอาไว้แน่น รับรู้ว่าเย่เหลียนอีนั้นสามารถได้ยินได้เห็นอะไรทุกอย่าง เมื่อรู้ดังนั้นแล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “เหลียนอี ผมกอดเสี่ยวถางแล้ว รอให้ครั้งหน้าลูกไปหาคุณแล้ว ก็ช่วยผมส่งมอบกอดนี้ให้กับคุณนะครับ”

หลานเสี่ยวถางได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นของบิดา ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ที่ปลายจมูกก็รู้สึกแสบร้อนขึ้นมาเล็กน้อยทันที

คุณพ่อคุณแม่ของเธอ ไม่สามารถอยู่ด้วยกันเหมือนสามีภรรยาทั่วไปได้ กลับกันกลับสามารถทำได้เพียงแค่อยู่ภายใต้ฟ้าเดียวกันแต่คนละที่เท่านั้น แม้กระทั่งอ้อมกอดง่าย ๆ เพียงแค่นี้ ยังต้องพึ่งให้เธอส่งกลับไปมาเลย……

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะกักเก็บอารมณ์กลับไป “คุณแม่คะ แม่ได้ยินหรือยังคะ คุณพ่อกอดหนูแล้ว ก็เท่ากับว่ากอดแม่ด้วยแล้วนะคะ!”

เย่เหลียนอีเอ่ยขึ้นที่ข้างใบหูของเธอ “อื้ม แม่รู้แล้วจ้ะ”

เธอนิ่งเงียบไปสองวินาที น้ำเสียงราวกับว่าแทบจะขึ้นจมูกขึ้นมาเล็กน้อย “เซี่ยวเฉิงคะ กอดนี้ ฉันได้รับแล้วนะคะ”

ทันใดนั้นเอง ทั้งสามคนก็ไม่มีเสียงอะไรออกมากันอีกเลย

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง สือมูเฉินกับหยานชิงเจ๋อประสานสายตาเข้าหากัน ทั้งสองคนเห็นความหวาดกลัวออกมาจากนัยน์ตาของกันและกัน

ช่วงเวลาหลังจากนั้น สือมูเฉินก็ต่อสายโทรศัพท์หา DR อีกทั้งยังให้ตระเตรียมการเชื่อมต่อเอาไว้เป็นพิเศษ เพื่อป้อมกันและสืบหาสถานการณ์ในครั้งนี้

ส่วนหยานชิงเจ๋อ ก็รีบพุ่งเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเริ่มเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตแบบโครงข่ายแลน หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าไปกำจัดไวรัส

ในสถานที่จัดงาน เป็นเพราะว่าสถานการณ์ที่จู่ ๆ ก็เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงวุ่นวายเล็กน้อย

ฟู่สีเกอเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเวที ก่อนจะหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “ทุกท่านไม่ต้องตกใจไปนะครับ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าบริษัทร้ายกาจนั่นได้ยินว่าอาเฉินจะแต่งงาน ก็เลยส่งของขวัญสุดพิเศษมาให้น่ะครับ!”

พูดไป เขาก็หันไปเอ่ยกับกลุ่มนักดนตรีที่อยู่ทางด้านข้างว่า “ทุกท่านครับ ตอนนี้คือช่วงเวลาที่พวกคุณจะได้แสดงฝีไม้ลายมือแล้วนะครับ! เห็นสุดหล่อสาวสวยที่อยากที่จะเต้นกันมาขนาดนี้แล้วหรือยังครับ? ดนตรี เริ่มได้เลย!”

กลุ่มนักดมตรีเดิมอยากที่จะบรรเลงจังหวะแล้ว แต่ทว่าเป็นเพราะเมื่อครู่นี้เกิดเรื่องขึ้น ดังนั้นทุกคนเลยยังตกตะลึงและชะงักกันไปทั้งหมดอยู่ ก่อนจะหลุดออกจากภวังค์และได้สติกลับคืนมาเพราะฟู่สีเกอเอ่ยออกมาเช่นนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ทุกคนเลยรีบกุลีกุจอบรรเลงเพลงตามจังหวะเดิม

ฟู่สีเกอกลัวว่าบรรยากาศจะน่าอึดอัดไป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว จึงหันไปเอ่ยกับเฉียวโยวโยวว่า “คุณโยวคนโง่ครับ งานแต่งงานของเพื่อนสนิทของคุณวันนี้จะพังไม่ได้นะครับ ดังนั้นแล้ว พวกเราไปสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นกันเถอะ!”

เฉียวโยวโยวรีบพยักหน้าในทันที การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เร็วกว่าครั้งที่แล้วมาก ดังนั้นจึงหันไปเอ่ยกับฟู่สีเกอว่า “พวกเรามาเต้นกันให้สุดเหวี่ยงกันเถอะค่ะ!”

มุมปากของฟู่สีเกอบู้เข้าหาหันไปมา กำลังคิดอยากที่จะยิ้ม แต่ทว่าจู่ ๆ กลับหวนนึกถึงสัมผัสของอะไรได้บางอย่างแทน

จะบอกว่าก่อนหน้านี้เสน่ห์ของเขาไม่เพียงพออย่างนั้นหรือ? ดังนั้นแล้ว เฉียวโยวโยวได้ยินว่าจะไปเต้นก็แสดงท่าทางไม่ค่อยอยากเต้นด้วยนักเช่นนั้นออกมา อีกทั้งเมื่อครู่นี้ก็บอกว่าจะช่วยเสี่ยวถางสร้างบรรยากาศให้ ท่าทางรวดเร็วเช่นนั้นของเธอ ราวกับว่าเธอแสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าต่างจากก่อนหน้านี้ทันทีเลย!

เมื่อเดินมาถึงลานเต้นแล้ว ฟู่สีเกอสบตามองเฉียวโยวโยวอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณโยวคนโง่ คุณคงจะไม่ได้เป็นพวกไบเซ็คชวลหรอกใช่ไหมครับ?”

เฉียวโยวโยวขมวดคิ้วแน่น “หมายความว่าอย่างไรกันคะ?”

ฟู่สีเกอเอ่ย “เสี่ยวถางกับมูเฉินแต่งงานกัน คุณหึงหรือเปล่า?”

“ทำไมฉันจะต้องหึงด้วยละคะ?!” เฉียวโยวโยวเอ่ยขึ้นมาในทันทีอย่างสมเหตุสมผลว่า “ฉันก็แค่ดีใจแทนเสี่ยวถางเท่านั้นเอง! เมื่อครู่นี้หลานเล่อซินอะไร ทำลายงานแต่งงานอะไร ถ้าหากว่าวันนี้ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนเจ้าสาว ก็ต้องระมัดระวังภาพลักษณ์อยู่ดีค่ะ ไม่สามารถทำให้เสี่ยวถางขายหน้าได้หรอกนะคะ ไม่อย่างนั้นก็จะหันไปด่าพวกเขาไปตั้งนานแล้วค่ะ!”

อ๋อ ดังนั้นแล้วเธอก็เลยเลือกที่จะมีท่าทีปกติสินะ?

หัวใจของฟู่สีเกออบอุ่นขึ้นมาในทันที จู่ ๆ ก็หวนนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกครั้ง

จะบอกว่าเขามีท่าทางเปลี่ยนไปเหมือนไอ้ผู้ชายคนนั้นที่มีท่าทางผิดปกติเล็กน้อยนั้น แล้วก็มีรูใหญ่ ๆ ที่หัวน่ะหรือ?

เฉียวโยวโยวเป็นไบเซ็คชวล? เขาคิดออกมาได้อย่างกัน!

เป็นเพราะว่าฟู่สีเกอและเฉียวโยวโยวเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยง คนในนั้นถึงถูกบรรยากาศแพร่กระจายให้เป็นไปตามกันแล้ว ทันใดนั้นเอง ก็ค่อย ๆ เข้ามาในลานเต้นกันเป็นกลุ่มใหญ่

ในตอนนั้นเอง หน้าจอดับไปแล้ว แล้วก็ไม่มีภาพขาวดำลาย ๆ อีกแล้ว ราวกับว่าเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็ไม่ปาน ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝันฉากหนึ่งเท่านั้นเอง

ที่ด้านหลังเวที หลานเสี่ยวถางกำลังจะไปดูสถานการณ์ทางฝั่งของสือมูเฉิน แต่โทรศัพท์มือถือของเธอวางอยู่บนโต๊ะหลังเวทีกลับดังขึ้นมาเสียแล้ว

เธอหยิบขึ้นมาดูครู่หนึ่ง ที่ด้านบนปรากฏว่า ‘เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว’

ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นใคร

หลานเสี่ยวถางกดเลื่อนรับสาย “ผู้ทำลาย?”

มั่วหลิงชวนชะงักนิ่งไปไม่ถึงครึ่งวินาที ก่อนจะหัวเราะออกมาแล้ว “ผู้พิทักษ์ ทำไมถึงเดาถูกได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ล่ะครับ?”

มือของหลานเสี่ยวถางที่บีบโทรศัพท์อยู่ออกแรงบีบมากขึ้นหลายส่วน “คุณทำเรื่องพวกนี้ ท้ายที่สุดแล้วจะมีประโยชน์อะไรคะ?”

ก่อนหน้านี้ สือมูเฉินตั้งแต่ที่นั่น หลานเสี่ยวถางก็รู้ว่ามั่วหลิงชวนนั้นไม่ได้เป็นเพราะเพื่อผลประโยชน์อะไร แทบจะ เป็นเพราะว่าเขาเป็นคนบ้าคนหนึ่ง เลยต้องการหลักฐานอะไรจากเรื่องแบบนี้ให้ได้ หรือว่า ทั้งหมดนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขาเลยจริง ๆ!

“ประโยชน์?” เสียงหัวเราะของมั่วหลิงชวนนั้นแฝงไปด้วยความร้ายกาจมากขึ้นหลายส่วน “ถ้าหากจะพูดถึงผลประโยชน์ละก็ มันก็จะมากเกินไปแล้วจริง ๆ นะครับ! ที่มาทำให้ความฝันของผมด่างพร้อยน่ะ!”

“ความฝัน?” หลานเสี่ยวถางหัวเราะเสียงเย็น “ความฝันของคุณก็คือการรุกรานความเป็นส่วนตัวของคนอื่น แล้วทำลายงานแต่งงานของคนอื่นด้วยอย่างนั้นหรือคะ?!”

“ไม่ ไม่ ไม่ คุณอย่ามองเรื่องพวกนี้เป็นการทำลายทั้งหมดสิครับ” น้ำเสียงของมั่วหลิงชวนนั้นแฝงไปด้วยความเคร่งขรึมมากขึ้นหลายส่วน “ที่กล่าวถึงการแต่งงาน ก็เป็นเพียงแค่พิธีรีตองที่น่าเบื่อหน่ายชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง มันก็เป็นเพียงความรู้สึกที่หลอกลวงของสัตว์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย!”

หลานเสี่ยวถางเมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็รู้ได้อย่างแท้จริงเลยว่าคนคนนี้นั้นเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ!

“ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ คุณไม่เคยมีความรักมาก่อน อีกทั้งก็ไม่เคยได้รับความรักจากคนที่คุณรักด้วย ดังนั้นแล้ว คุณจึงรู้สึกว่าความรักและการแต่งงาน มันเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสินะคะ” หลานเสี่ยวถางเอ่ยขึ้นมาทีละคำทีละประโยคว่า “มั่วหลิงชวน ฉันเห็นใจคุณนะคะ! เหมือนกัน ฉันนั้นรู้สึกโศกเศร้าแทนคนที่ทำงานเพียงอย่างเดียวอย่างจืดชืดแบบคุณด้วย!”

“ความรักงั้นหรือ?” มั่วหลิงชวนราวกับว่าได้ยินเรื่องราวที่น่าขบขันที่สุดในใต้หล้า “ความรักทำให้คนนั้นเกิดจุดอ่อน ถ้าหากให้ว่าตามกระบวนการแล้ว ก็เหมือนกับว่าตัวเองนั้นติดเข้าไปใน bug ของฝ่ายตรงข้ามแล้วโดยสมบูรณ์แบบ คุณคิดว่า ผมจะโง่เง่ามากขนาดนั้นหรือไงครับ?!”

“เอาเถอะค่ะ ฉันไม่อยากคิดที่จะเสวนากับหุ่นยนต์อย่างคุณแล้วค่ะ” หลานเสี่ยวถางเอ่ย “ขอเพียงแค่คุณบอกฉันมา เป้าหมายที่คุณโทรศัพท์มาฉันคืออะไร”

“คุณผู้พิทักษ์ คุณยังจำได้หรือเปล่า ครั้งที่แล้วที่ผมโทรหาคุณผมบอกอะไรไป?” มั่วหลิงชวนเอ่ย “ผมบอกว่า ไวรัสครั้งนั้นที่คุณโจมตีผมน่ะ ผมยังจดจำคุณได้อย่างชัดเจนมากเลยนะครับ ตอนนี้ ผมจะให้โอกาสกับคุณอีกครั้งหนึ่ง ให้คุณมาประลองฝีมือกับผมอีกครั้ง!”

หลานเสี่ยวถางขมวดคิ้ว “แพ้ชนะจะตัดสินอย่างไรคะ?”

มั่วหลิงชวนเอ่ย “คุณเข้าสู่ระบบโดยใช้ ID ผู้พิทักษ์นั่น ผมจะให้ไวรัสเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ถ้าหากว่าคุณสามารถโจมตีและกำจัดมันได้ในเวลาที่ผมกำหนด ผมก็จะสามารถรักษาความลับของสือมูเฉินเอาไว้ชั่วคราว!”

เขาเอ่ยสมทบขึ้นมาอีกว่า “อย่าลืมนะครับ วันนี้ที่ผมสามารถอาศัยจังหวะที่จะป่าวประกาศสถานะของเขาได้ พรุ่งนี้ เหมือนกันครับผมก็สามารถที่จะป่าวประกาศได้ในที่อื่นด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำมันได้ในงานแต่งงานของพวกคุณ นั่นจึงทำให้ผมที่รอคอยมาตลอดทั้งวันรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย แต่ทว่า ผลลัพธ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้น มันก็จะเป็นเหมือนกันทั้งหมดอยู่ดี!”

หลานเสี่ยวถางบันดาลโทสะเป็นอย่างมาก แต่ทว่า มั่วหลิงชวนเองก็พูดถูก ตอนนี้กำลังใช้อำนาจบนร่างของเขาอยู่ เธอจึงทำได้เพียงแค่ออกไพ่ตามกฎของเขาเท่านั้น

หลานเสี่ยวถางเอ่ย “ได้ค่ะ ฉันรับปากคุณ เวลาที่คุณกล่าวถึง มีระยะเวลาเท่าไหร่คะ?”

มั่วหลิงชวนเอ่ย “งานแต่งงานของคุณจัดต่อไปไม่ได้แล้วครับ ในตอนที่ทุกคนจะต้องจากไปหมดแล้ว อีกทั้งผมก็ยังคิดว่า คุณกับสือมูเฉินหายไปจากห้องโถงให้นานขนาดนี้ ทุกคนก็คงจะเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะครับ?”

หลานเสี่ยวถางจับอะไรได้บางอย่างจากในข้อความ “มั่วหลิงชวน ในงานแต่งงานนี้มีคนของคุณอยู่หรือคะ?”

“ฉลาด! คุณผู้พิทักษ์ นับวันผมยิ่งคาดหวังกับคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะครับเนี่ย! อีกทั้งคุณเองก็ยังเป็นผู้หญิง ดูสวยไม่หยอกเลยนะครับ น่าสนใจกว่ากลุ่ม DR ที่ทำสงครามด้วยก่อนหน้านี้เสียอีกนะเนี่ย!” มั่วหลิงชวนเอ่ย “จะบอกคุณให้ก็ได้นะครับ ด้านในนั้นมีคนของผมอยู่ด้วยจริง ๆ คนคนนั้น ก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของเด็กในท้องของหลานเล่อซินด้วยนะ แต่ทว่าเขาไม่ดีมีประโยชน์อะไรต่อผมแล้ว ดังนั้นบอกคุณก็คงจะไม่เป็นไร!”

“เป็นเขาสินะ!” หลานเสี่ยวถางหรี่ตาลง “คุณก่อนหน้านี้เมื่อสี่ปีก่อน ทำไมถึงเริ่มที่จะวางหมากละคะ? ในตอนที่หลานเล่อซินถูกบีบบังคับให้ออกนอกประเทศไป ก็เป็นเพราะว่าคุณกระทำการบงการอยู่ลับหลังนี่เองสินะ!”

“ใช่แล้วล่ะ เธอในตอนนั้นตั้งครรภ์แล้ว อีกอย่างก็เป็นลูกของเขาด้วย ในมือของเขามีภาพอัลตร้าซาวด์ของหลานเล่อซินอยู่ คุณว่าหลานเล่อซินยังจะกล้าแต่งกับสือมูเฉิน แล้วไม่ไปต่างประเทศตามแผนอีกหรือไงครับ?!” มั่วหลิงชวนเอ่ยขึ้นอย่างถอนหายใจว่า “น่าเสียดายนะครับ เด็กคนนั้น ในตอนที่อยู่ในท้องของเธอได้สี่เดือน ดันไปกินอะไรผิดสำแดงเข้า ดังนั้นก็เลยแท้งไปเสียแล้ว……”

หัวใจของหลานเสี่ยวถางเต้นระรัว เธออยากที่จะรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีก แต่ทว่า กลับนึกขึ้นได้ว่าเธอคุยโทรศัพท์มานานแล้ว มันจะไม่เป็นผลดีต่อสือมูเฉิน

เธอจึงทำได้เพียงแค่กักเก็บความสงสัยทั้งหมดเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยกับมั่วหลิงชวนว่า “ผู้ทำลาย ฉันยอมรับคำท้าของคุณ ปล่อยไวรัสของคุณมาสิ!”

พูดไป เธอก็วางสายไปแล้ว หลังจากนั้นก็วิ่งไปหาสือมูเฉินอย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้นเอง หยานชิงเจ๋อยังคงเชื่อมต่อกับทาง DR ฝั่งนั้นอยู่ กำลังโจมตีไวรัส หลานเสี่ยวถางวิ่งเข้ามาแล้ว ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแก่สือมูเฉินอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ก็วิ่งไปเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะใส่ ID แล้วเข้าสู่ระบบ

เมื่อรอให้การเข้าสู่ระบบเสร็จเรียบร้อยอยู่นั้นเอง เธอจึงหันไปเอ่ยกับสือมูเฉินว่า “มูเฉินคุณกับชิงเจ๋อออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะค่ะ ทำให้สถานการณ์มั่นคงขึ้นเสียหน่อย ทำลายความสงสัยของพวกเขาก่อน ฉันไม่อยู่ คุณสามารถบอกได้เลยว่าฉันท้องอยู่เหนื่อยก็เลยอยากพักผ่อน ด้านนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะค่ะ ฉันจะช่วยคุณรักษาความลับเอาไว้อย่างสุดความสามารถเอง!”