บทที่ 374 กวนเชิง หม่าหงสู้หวังจือหลิน
บทที่ 374 กวนเชิง หม่าหงสู้หวังจือหลิน
พอฉู่เหินเห็นว่าหวังจือหลินหมุนตัวหนีไป ฉู่เหินก็ตื่นตัวเพราะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ เมื่อกี้หวังจื่อหลินสู้กับฮาวโยวเห็นได้ชัดว่าฝีมือสูสี แถมดูแล้วหวังจื่อหลินเก่งกว่าเล็กน้อยด้วย ทำไมต้องเป็นฝ่ายถอยหนีนี้ต้องมีอะไรบ้างอย่างแน่!
หลังจากคิดถึงตรงนี้ฉู่เหินก็สั่งให้เป่าแตร่ เสียงดังกังวานก้องไปทั้งสนามรบ ฮาวโยวพอได้ยินเสียงแตร่ดังในใจก็สงสัยว่าสรุปแล้วตัวเองควรจะถอยกลับมั้ย
เพราะเมื่อกี้ตอนที่ดวลกันเขาเริ่มได้เปรียบแล้ว หวังจื่อหลินคนนั้นอาจได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ถ้าตัวเองไม่ตามไปอาจไม่มีโอกาสดี ๆ แบบนี้อีกแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้มีเสียงแตร่ถอยทัพถ้าเขาไม่กลับก็จะถือว่าขัดคำสั่ง
เขารู้ดีว่าฉู่เหินเข้มงวดกับทหารมากแค่ไหน ถ้าตัวเองไม่ทำตามก็มีความเป็นไปได้ที่หัวเขาจะหลุดออกจากบ่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจถอยกลับ แต่ฉับพลันก็หวังจือหลินก็หมุนตัว แลัวซัดมีดใส่ฮาวโยว
ฮาวโยวคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะลอบกัดข้างหลังแบบนี้ ถ้าเมื่อกี้ตัวเองควบม้าก็อาจจะหลบการโจมตีนี้พ้น แต่ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลบการโจมตีนี้ได้
ในขณะที่มีดเล่มนี้จะแทงคอหอย ฮาวโยว เขาก็ยกดาบใหญ่มาป้องกันตัว
เคร้ง!
เสียงมีดปะทะกับดาบใหญ่ เขาคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ทว่าอยู่ ๆ กลิ่นหอมก็ลอยมาจากมีดเล่มนั้น
เมื่อดมกลิ่นหอมนี้เข้าไป ฮาวโยวก็รู้ทันทีว่าไม่ดีแล้วมันมีพิษ เขาบังคับม้าให้ถอยกลับไปทางทัพของตนเอง ตอนนี้เขาถือว่าพ่ายแพ้แล้ว หวังจื่อหลินไม่ปล่อยโอกาศพุ่งเข้ามาจัดการฮาวโยวทันที เป็นกวนเชิงกับหม่าหงที่รีบควบม้าพุ่งเข้ามา โชคยังดีที่ทั้งสองคนค่อนข้างรวดเร็ว
แต่ตอนที่พวกเขาพุ่งเข้ามา หวังจื่อหลินก็ซัดมีดออกมาอีก 3 เล่ม! ฉู่เหินอยู่ด้านหลังเห็ทุกอย่างชัดเจน! เขารีบยิงธนูออกไปสามดอก ลูกธนูสามดอกนี้เป็นลูกธนูธรรมดาที่เมืองโบราณได้เตรียมเอาไว้
ลูกธนูสามดอกปะทะเข้ากับมีดทั้งสามของหวังจื่อหลิน จนเกิดเสียงดังและมีดทั้ง 3 เล่มก็ตกลงสู่พื้น ฮาวโยวที่วิ่งกลับมาหันหัวกลับมามองมีดที่หล่นลงไป เหงื่อเย็น ๆ ก็ไหลลงมาโชคดีที่ฉู่เหินยิงธนูสามดอกช่วยเขาได้ทัน ไม่งั้นชีวิตน้อย ๆ นี้ของเขาคงต้องมอบให้อีกฝ่ายแล้ว
หวังจือหลินเพิ่มความเร็วเตรียมจะจัดการฮาวโยว แต่กวนเชิงกับหม่าหงก็พุ่งตัวมาทันพอดี
หอกยาวในมือของกวนเชิง แทงไปยังคอหอยหวังจื่อหลิน พอเห็นแบบนี้หวังจื่อหลินก็ยกดาบคู่ในมือตัวเองบัดไปด้านข้างโดยไม่พูดไม่จา
เคร้ง! หอกยาวถูกบัดไปด้านข้าง
จากนั้นหวังจื่อหลินก็ฟันไปยังลำคอของกวนเชิง แต่หม่าหงก็พุ่งมาด้านหน้าในมือถือสามง้ามไว้อันหนึ่งและแทงมายังหวังจื่อหลิน
หวังจื่อหลินชักดาบข้างที่กำลังฟันกวนเชิงกลับมาและสะบัดดาบในมือปัดสามง้ามไปด้านข้าง ทั้งสามผลัดกันรุกรับ ความสามารถของหม่าหงนั้นไม่อ่อนด้อยกว่าฮาวโยวเท่าไร ทำให้หวังจื่อหลินได้แต่ถอยร่นไปทีก้าว ๆเท่านั้น
หลังจากสู้กันหลายสิบเพลง หวังจื่อหลินก็หันหัววิ่งไปอีกทิศทางหนึ่ง แต่กวนเชิงกับหม่าหงสองคนได้แต่ยืนมองเขาจากไป พวกเขาไม่ไล่ตาม ทำให้หวังจื่อหลินที่วิ่งไปไกลจำเป็นต้องหยุดร่างเอาไว้แค่นั้น ในมือเขาก็กำมีดเล็ก ๆ เอาไว้หนึ่งเล่ม
หวังจื่อหลินเดิมคิดจะใช้กลอุบายเดิม ๆ กับทั้งสองคนนี้ แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะฉลาด ทำให้เล่ห์กลนี้ไม่ได้ผล แต่แล้วมันยังไงล่ะ ในเมื่อลอบกัดไม่ได้งั้นก็ลุยตรง ๆ เนี่ยแหละ หวังจื่อหลินก็หยิบเอามีดที่เหน็บข้างเอวมาถือไว้ ตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยมีดสั้นจำนวนนับไม่ถ้วน
พอหม่าหงเห็นก็หัวเราะจากนั้นก็ตบที่เอวตัวเองแล้วหยิบสิ่งที่คล้ายกับลูกระเบิกจากถุงมิติออกมา พอลูกระเบิกวางอยู่บนมือ เขาถึงได้ปรายตามองไปหวังจื่อหลิน
สิ่งที่หม่าหงเชี่ยวชาญที่สุดอย่างหนึ่งก็คืออาวุธลับ ไม่คิดว่าหวังจื่อหลินคิดจะสู้กับเขาด้วยอาวุธลับ นี้เหมือนแกว่งทวนต่อหน้ากวนอู่* หม่าหงไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาเลย จากที่เมื่อกี้ได้เห็นหวังจื่อหลินใช้มีดก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นแค่มือสมัครเล่นคนหนึ่ง
*แกว่งทวนต่อหน้ากวนอู่ หมายถึง อวดเก่งต่อหน้าคนที่เก่งกว่าตัวเอง
พอหวังจื่อหลินเก็บดาบวิเศษของตัวเองลงไปแล้วเตรียมใช้อาวุธลับโจมตีพวกเขา ทำให้เขาไม่เข้าใจนิดหน่อยระยะตอนนี้พวกเขาห่างกันมาก ซัดมีดให้โดนยังยากเลย ไม่ต้องพูดถึงการฆ่าคนเลย
เขามีความคิดแบบนี้ แต่หวังจื่อหลินนั้นไม่ใช่
หวังจื่อหลินแอบวางแผนในใจ มีดของเขานั้นไม่ใช่มีดธรรมดา มีดอาบด้วยยาพิษ อีกทั้งถ้าอีกฝ่ายใช้อาวุธป้องกัน พิษเหล่านี้ก็จะถูกปล่อยออกมาแค่ได้กลิ่นก็จะหมดแรง เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เปล่าประโยชน์!
เขาขี่เสือเข้าใกล้หม่าหงกับกวนเชิง อีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะซัดมีดสิ้นในมือออกไป ถ้าทั้งสองคนถูกพิษแล้วค่อยว่ากัน
หม่าหงเองก็กำลังกะระยะระหว่างเขากับอีกฝ่ายอย่างละเอียด พวกเขาทั้งสองค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จากเดิมทีไกลกันหลายร้อยเมตรก็ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว! แต่หวังจื่อหลินช้าเป็นพิเศษ คล้ายกับว่าเขาเองก็กังวลใจ ยิ่งระยะของทั้งสองใกล้เข้ามา สายตาก็คลี่เล็กลง
แม้หม่าหงจะไม่แสดงอารมณ์ แต่ในใจของเขากำลังยิ้มกว้างอยู่ เพราะระยะห่างเท่านี้อยู่ในรัศมีที่เขาจะโจมตีได้ แต่ที่ยังไม่จู่โจม เพราะเขาอยากจะรอให้มั่นใจอีกหน่อย
ทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนมีระยะห่างประมาณ 80 เมตรแล้ว ระยะห่างเพียงเท่านี้ หม่าหงมีความมั่นใจเต็มร้อย เขาจึงยกมือขึ้นมาปกติเขาไม่ค่อยใช้อาวุธลับเท่าไร เพราะเขาใช้พลังฝีมือตัวเองก็สามารถเอาชนะศัตรูได้แล้ว เลยไม่ค่อยได้ใช้อาวุธลับ
ยิ่งไปกว่านั้นการใช้อาวุธลับนั้นค่อนข้างไร้เกียรติ แม้อีกฝ่ายจะเป็นซอมบี้เรื่องการใช้อาวุธลับคงไม่เป็นไร แต่เขาก็ไม่อยากขายหน้าคนอื่นเหมือนกัน แต่ในเมืออีกฝ่ายไม่อายใช้อาวุธลับออกมาก่อน เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายได้เห็นว่า แบบไหนถึงเรียกว่ามีฝีมือที่แท้จริง
ระหว่างนั้นหม่าหงก็สะบัดมือปล่อยระเบิดออกไป หวังจื่อหลินที่มองเห็นระเบิดของอีกฝ่ายก็มองอย่างเหยียดหยาม
ในความคิดเขาความเร็วของระเบิดนี้ไม่ถือว่าเร็วอะไร ความเร็วแค่นี้ไม่มีทางโดนตัวเขาได้เลย ต่อให้เขาโดนก็คงเป็นแค่รอยขีดข่วนตื้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นหวังจื่อหลินจึงไม่สนใจระเบิดนี้ เขารอให้ระเบิดมาอยู่ด้านหน้าตัวเองก่อนแล้วค่อยปามีดไปสักเล่ม