บทที่ 376 ธรรมะย่อมชนะอธรรม

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 376 ธรรมะย่อมชนะอธรรม

บทที่ 376 ธรรมะย่อมชนะอธรรม

“ฉันขอบอกเลยนะนายพลฉู่ คุณน่ะดีใจเร็วไปหน่อยแล้ว อาศัยแค่ความฉลาดของพวกคุณ เพียงแค่นี้เทียบพวกฉันไม่ได้หรอกนะ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่หรือตาย!” หลังจากประโยคนี้ถูกปล่อยออกมา ก็ปรากฏซอมบี้ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากกองทัพ ใบหน้านั้นยิ้มอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับปรายตามองมาที่ฉู่เหิน

“หมายความว่าอะไร หรือว่าพวกคุณไม่คิดที่จะยอมแพ้จริง ๆ” ฉู่เหินพูดออกมาด้วยท่าทางที่ดูมึนงง น้ำเสียงเขาแฝงไปด้วยความตื่นตระหนกไม่น้อย พร้อมทั้งหลบนัยน์ตา

“ฮ่า ๆๆ แกยังไม่ถือว่าโง่เกินไป อาศัยกำลังคน 10,000 ของพวกแกมาสู้กับทหาร 1 ล้านของพวกเรา เพียงแค่นี้ก็ถือว่าไม่เจียมตัวแล้ว วันนี้พวกฉันจะทำลายเมืองนี้และสังหารนายพลอย่างแกซะ!” หลังจากคนนั้นพูดจบ ซอมบี้ที่อยู่โดยรอบก็พากันคำรามออกมา

หลังสิ้นเสียงนั่น ซอมบี้นับแสนตัวที่กำลังเข้าเมืองก็เกิดอาการผิดปกติ อยู่ ๆ พวกมันก็บ้าคลั่งขึ้นมา ฝูงซอมบี้ในเมืองเริ่มโคจรพลังเตรียมพร้อมจะโจมตีชาวเมือง ฉากนี้ทำเอาชาวเมืองโดยรอบที่ออกมาต้อนรับพากันตกใจจนสะดุ้ง ต้องเข้าใจว่านี้มันซอมบี้ 100,000 ตัว ถ้าวันนี้พวกเขาถูกสังหารจนหมด สถานการณ์ในเมืองก็คงยากจะกู้คืนได้แล้ว

ถึงตอนนี้พวกเขาถึงเพิ่งคิดขึ้นมาได้ เมื่อกี้พอได้ยินว่าซอมบี้พวกนี้อยากยอมแพ้ พวกเขาก็รู้สึกดีใจมากจนยอมรับคำโดยเร็วจะมีก็แต่นายพลฉู่ที่ลังเลไม่ตัดสินใจ ซึ่งก็เป็นพวกเขาอีกนั่นแหละที่ไปพูดกล่อมไม่หยุดจนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ชาวเมืองโบราณ ทว่าก็ยังมีพวกขุนนางเหล่านั้นอีก พวกเขารู้สึกอยากที่จะตบหน้าตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าว่านายพลฉู่นั้นชาญฉลาดขนาดไหน ทำไมพวกเขาถึงไม่ฟังคำเตือนของนายพลฉู่กันนะ! คิด ๆ ไปแล้วก็ได้แต่รู้สึกผิดโดยที่ไม่อาจทำอะไรได้

ฉู่เหินยังคงยืนเงียบ ๆ อยู่ที่เดิม ชายหนุ่มจ้องมองหัวหน้าของซอมบี้พวกนั้น เดิมใบหน้าของฉู่เหินนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าตอนนี้มันกลับหายไปแล้ว เหลือไว้เพียงแค่มุมปากที่กระตุกยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

“พวกแกคิดว่าตัวเองเดายากขนานนั้นเลยเหรอ ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสพวกแกเป็นครั้งสุดท้าย ยอมให้ฉันชำระล้างพวกแกซะดี ๆ ถ้าไม่อย่างงั้นก็รอความตายได้เลย! หรือว่าพวกแกคิดว่าอาศัยไอคิวของฉัน จะเดาความคิดพวกแกไม่ได้กัน ?”

ฉู่เหินพูดถึงตรงนี้ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา เดิมทีซอมบี้พวกนี้เตรียมพร้อมโจมตีแล้ว แต่หลังจากเห็นว่าฉู่เหินไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย พวกมันก็เริ่มหวาดหวั่นขึ้นมา

เพราะฉู่เหินเป็นนายพลที่กำจัดพวกซอมบี้ไปเป็นจำนวนมาก เมื่อคิดถึงพี่น้องที่ต้องตายตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย น่ากลัวว่าคงจะเกิน 1 ล้านตนไปแล้ว เพราะเหตุนี้เอง ชื่อของคน ๆ นี้ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่ได้ยิน!

ซอมบี้ร่างสูงที่เป็นหัวหน้ากำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ถ้าเขาเลือกยอมแพ้น่าจะดีกว่า เมื่อกลับไปเป็นมนุษย์แล้ว ชีวิตของซอมบี้ที่ตายไปก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอยู่แล้ว?

เมื่อถูกชำระล้างแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซอมบี้ได้อีก สายตาของพวกเขาจึงปรากฏความลังเลออกมาให้เห็น

แต่ทว่าตอนที่ผู้นำของเหล่าซอมบี้มองสำรวจฉู่เหิน เขาก็พบว่าชายหนุ่มกำลังหลบสายตาอยู่ คล้ายจะไม่กล้าสบตา เมื่อมองท่าทางดังกล่าว ซอมบี้ผู้เป็นหัวหน้าก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“ทุกคนอย่าไปฟังคนคนนี้พูดเพ้อเจ้อ ตอนนี้พวกเราอยู่ในเมืองแล้ว มันไม่มีปัญญาจับพวกเราได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นในมือของพวกเรายังมีกำไลหลบเลี่ยงค่ายกลอยู่ เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องกลัว!”

เดิมพวกซอมบี้หลายตัวนั้นลังเลเล็กน้อย แต่พอได้ยินหัวหน้าซอมบี้พูดแบบนี้ก็คล้ายจะมีเหตุผล พอคิดได้ดังนั้น สายตาที่ลังเลก็พลันเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมา

“ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสสุดท้ายกับพวกนาย สำหรับคนที่อยากยอมแพ้จริง ๆ เท่านั้น เพียงแค่เดินออกมาแล้วถอดกำไลไว้ที่พื้น เมื่อถึงตอนที่ฉันจะลงมือฆ่าจะมีก็แต่เพียงคนที่ไม่มีกำไลข้อมือเท่านั้นจึงจะได้รับการไว้ชีวิต!” ฉู่เหินราวกับไม่สะทกสะท้อนในสถานการณ์แบบนี้ ยังคงพูดยืนยันอย่างหนักแน่น

แต่ทว่าคำพูดของเขานั้นก็เป็นคำพูดที่ช่างดูเลื่อนลอยเหลือเกิน แล้วแบบนี้ซอมบี้ทุกตัวจะเชื่อได้ยังไง ให้พวกเขาถอนกำไลออกงั้นเหรอ นี่ล้อกันเล่นรึไง ! เดี๋ยวค่ายกลที่นี่ก็ได้ฆ่าพวกเขาตายกันพอดี เรื่องแบบนี้มันไม่ต้องใช้ความคิดเลยและไม่จำเป็นต้องปรึกษากันด้วยซ้ำ! แม้กระทั่งตอนนี้ภายในกองกำลังซอมบี้เอง พวกมันก็ต่างก็พากันยกยิ้มอย่างดูถูก

“ฉันว่านายพลฉู่คงไม่กลัวตายสินะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าอาศัยทหาร 10,000 คนของแกจะสามารถต่อกรกับพวกเราซอมบี้ที่มีนับแสนที่เข้ามาในนี้ได้ยังไง ช่างเป็นการเอาไข่มาทุบกับหินจริง ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน หลังจากวันนี้ก็จะไม่มีเมืองโบราณอีกแล้ว” หลังจากพูดจบหัวหน้าซอมบี้คนนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“ชาวเมืองโบราณและขุนนางทุกคน จงดูให้ดีว่าไม่ใช่ฉันฉู่เหินอยากฆ่าพวกเขา และก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะช่วยพวกเขาเช่นกัน คนแบบพวกเขานั้นได้สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้ว ดังนั้นวันนี้ฉันขอถามทุกคนหนึ่งคำถาม พวกคุณคิดว่าซอมบี้พวกนี้สมควรตายหรือไม่?”

เมื่อได้ยินฉู่เหินพูดประโยคนี้เสียงดัง ไม่เพียงแต่ซอมบี้รอบ ๆ พวกทหารเองก็ต่างก็รู้สึกโง่งมไปตาม ๆ กัน ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน หรือว่านายพลฉู่จะยังไม่ยอมแพ้? แต่ท่าทีดังกล่าวก็ทำให้ดูยากที่จะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง

ใช้เวลาครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกชาวเมืองจะพากันส่งเสียงตะโกนออกมาว่า

“ฆ่าพวกมัน พวกมันสมควรตาย ฆ่าพวกไร้ความรู้สึกนี้ให้หมด!” การเลือกเส้นทางนี้ ส่งผลให้ชาวเมืองหลายคนพากันน้ำตาไหลออกมา เพราะซอมบี้พวกนี้ก็มีบางตนที่เป็นญาติของพวกเขาด้วยเช่นกัน

เพียงแต่ตอนนี้ ญาติที่ว่าก็ได้สูญเสียความรู้สึกเดิมไปแล้ว คนแบบนี้ให้อยู่ในโลกต่อไปก็มีแต่หายนะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ให้พวกเขาเหลือทิ้งไว้เพียงแค่ความทรงจำดี ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ ?

กลับกัน หลังจากซอมบี้พวกนี้ได้ยินชาวเมืองเลือก พวกมันก็พากันแบะปากดูถูก เพราะพวกซอมบี้รู้สึกไม่เข้าใจว่าทั้งหมดจนถึงตอนนี้พวกมนุษย์ก็ยังคิดว่าจะสามารถกลับมาชนะได้อยู่อีกเหรอ? ในความคิดพวกซอมบี้ พวกมันคิดว่านายพลฉู่คนนี้จงใจพูดเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น และเพราะเหตุนี้ พวกซอมบี้จึงไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย

“เดิมทีฉันว่าจะไว้ชีวิตพวกนาย แต่ในเมื่อพวกนายแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงแบบนี้ งั้นฉันก็คงทำได้แค่คล้อยตามลิขิตสวรรค์ และฆ่าพวกแกซะ!” ฉู่เหินเล่นละครอย่างจริงจัง

“ฉันว่านายพลฉู่นี้พูดโม้ไปหน่อยมั่ง จะโม้ก็ไปโม้ให้ตัวเองฟังคนเดียวเถอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หรือว่าแกยังยอมรับความจริง ๆ ไม่ได้กัน?”

“พวกแกนี้ไม่เข้าใจเลยใช่ไหม การที่ธรรมะย่อมชนะอธรรมน่ะเป็นเรื่องปกติ วันนี้ฉันจะทำให้พวกแกได้รู้ว่าฝั่งไหนกันแน่ที่เป็นฝ่ายธรรมะ!”

หลังสิ้นเสียง ฉู่เหินก็ขยับสองมือผสานอินอย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาเดียวเขาก็ผสานอินได้ถึงร้อยรูปแบบแล้ว ทันทีที่ผสานอินเสร็จ ถนนเล็กใหญ่ของเมืองโบราณก็พลันเปล่งแสงสว่างจากผลของค่ายกลที่ถูกเปิดใช้งานในทันที

ฉากนี้แม้ว่ามันจะดูมีอิทธิฤทธิ์มากจนพวกซอมบี้เริ่มหวาดกลัวขึ้นมานิดหน่อย แต่จริง ๆ แล้วพวกมันก็ไม่ได้สนใจ ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะซอมบี้รู้ว่ามีกำไลอยู่ในมือ การที่เข้ามาในเมืองได้ทำให้พวกมันมั่นใจมาก เพราะแม้แต่ชาวเมืองเอง พวกเขาก็ยังสวมกำไลที่ว่านั่นกันทุกคน!

ทว่าฝูงซอมบี้เหล่านี้ไม่รู้เลยว่า กำไลที่พวกมันมีกับกำไลที่ชาวเมืองใส่นั้นไม่เหมือนกัน กำไลที่ชาวเมืองสวมเป็นกำไลที่ใส่ไว้ปกป้อง แต่กำไลที่พวกเขาสวมอยู่นั้นเป็นกำไลแห่งความตายอย่างแท้จริง!