บทที่ 281 ไร้ประโยชน์จริงๆ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่281 ไร้ประโยชน์จริงๆ

ในเมื่อส้งหวั่นหวั่นลงมือกับเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อได้ งั้นเขาก็สามารถใช้โอกาสนี้ในการเก็บกวาดตระกูลส้งได้ทั้งหมด

หึ ตระกูลส้ง โดยเฉพาะส้งหวั่นหวั่น แล้วก็พ่อส้ง เขาไม่เคยคิดจะปล่อยไปเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้ตระกูลส้งไม่มีอารมณ์จะแก้แค้นตระกูลลี่ พวกเขากำลังวุ่นวานกับเรื่องการหายตัวไปของส้งหวั่นหวั่น

โดยเฉพาะแม่ส้ง เมื่อคิดว่าหาส้งหวั่นหวั่นไม่เจอ เธอก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุกๆ วันพยายามเร่งให้คนออกไปตามหา

แต่ส้งหวั่นหวั่นกลับมาในตอนนี้

“คุณนาย คุณหนูกลับมาแล้ว” เมื่อคนใช้เห็นส้งหวั่นหวั่นที่เข้ามาตรงประตู ก็รีบไปบอกแม่ส้งที่อยู่ในห้องรับแขก

แม่ส้งทั้งสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา แล้วปรี่ออกไปทางประตู

เมื่อเห็นเงาที่คุ้นตาก็รู้ว่าเป็นส้งหวั่นหวั่น ในตาก็มีน้ำตารินไหลลงมาจนอาบแก้ม

เมื่อวิ่งมาหยุดตรงหน้าของส้งหวั่นหวั่น ก็ยื่นมือเข้าไปกอดเธอ: “หวั่นหวั่น คุณไปไหนมา รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงคุณมากแค่ไหน!”

ในตอนนั้นเอง บนห้องหนังสือชั้นสองเมื่อได้ยินว่าส้งหวั่นหวั่นกลับมาแล้วพ่อส้งเองก็ริบวิ่งลงมา เมื่อถึงที่โถง ก็เห็นแม่ลูกกำลังกอดกันอยู่ เขาเองก็รีบเดินไป ก่อนจะกอดแม่ลูกทั้งสองเอาไว้

“แม่ ไม่เป็นไร” ส้งหวั่นหวั่นตบหลังแม่เบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้แม่ส้ง

แม่ส้งตีส้งหวั่นหวั่นแรงๆ หนึ่งที ก่อนจะดุว่า: “ยัยนี่หนิ คุณดูสิ ออกไปไหนก็ไม่บอก ทำให้พ่อแม่เป็นห่วงแทบแย่”

ส้งหวั่นหวั่นมองพ่อแม่ เหมือนจะไม่ได้ดูแย่เหมือนตอนแรกแล้ว รู้ว่าเป็นห่วงตัวเอง ในใจเลยรู้สึกผิดไม่น้อย

พ่อส้งเองก็เปิดปากพูด: “หวั่นหวั่น คุณไปไหนมาเหรอ?เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? ”

ส้งหวั่นหวั่นส่ายหัว: “พ่อ ฉันไม่เป็นอะไร พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

“เข้าไปกันก่อนเถอะ” พ่อส้งพูดไปก่อนจะจูงมือของส้งหวั่นหวั่นเดินไป

“หวั่นหวั่น ช่วงหลายวันมานี้ไปอยู่ที่ไหน? กินอิ่มไหม?นอนหลับหรือเปล่า? ” แม่ส้งเดินไป ถามไป

ส้งหวั่นหวั่นพูดออกมาเบาๆ : “แม่ ฉันแค่ออกไปปลดปล่อยอารมณ์นิดหน่อย ไม่มีอะไร พวกคุณไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้”

พ่อส้งแม่ส้งทั้งสองคนมองตากัน แล้วก็หันไปมองส้งหวั่นหวั่น เมื่อเห็นว่าเธอเหมือนจะไม่เป็นอะไร ก็วางใจลงได้

พวกเขากลัวว่าส้งหวั่นหวั่นจะคิดสั้น เลยมีความคิดนี้ขึ้นมานิดหน่อย

“หวั่นหวั่นคุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ พ่อจะเรียกร้องความยุติธรรมให้คุณเอง ฉันไม่มีทางปล่อยตระกูลลี่ไปแน่” พ่อส้งพูดขึ้นเหมือนสาบานอย่างจริงจัง

ส้งหวั่นหวั่นไม่ได้ส่ายหัวแต่ก็ไม่ได้พยักหน้า พลางพูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์: “พ่อแม่ ฉันเหนื่อยแล้ว ขึ้นไปพักก่อนนะ”

เมื่อพูดจบก็เดินขึ้นไปอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ได้ หวั่นหวั่น งั้นคุณนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้คนทำอาหารอร่อยๆ ให้คุณกิน” แม่ส้งพูดพลางยิ้มให้กับส้งหวั่นหวั่นที่หันหลังเดินไป

เมื่อลูกสาวเดินเข้าไปในห้อง แม่ส้งก็ต้องพ่อส้ง: “หวั่นหวั่นเพิ่งกลับมา คุณก็พูดเรื่องน่าเศร้าแบบนี้ขึ้นมา ไม่คิดให้ดีๆ เลยหรือไง?”

พ่อส้งรู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว: “ฉันไม่ได้พูดเพราะเป็นห่วงหวั่นหวั่นหรือไง”

“ถ้าเป็นห่วงหวั่นหวั่นคุณก็ต้องรีบคิดหาวิธีนะ ว่าจะแก้แค้นให้หวั่นหวั่นอย่างไร ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าตระกูลลี่ เรื่องนี้คุณต้องอธิบายให้ฉันให้ได้” แม่ส้งพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องครัว เพื่อสั่งลูกน้อง

พ่อส้งถอนหายใจอยู่ตรงนั้น เมื่อคิดถึงส้งหวั่นหวั่นที่ต้องน้อยใจ พ่อส้งก็โกรธขึ้นมา เขาจะต้องให้ตระกูลลี่รับผิดชอบให้ได้

แต่ช่วงนี้ลี่จุนถิงมั่นใจสบายอารมณ์เหลือเกิน

เพราะว่ายากที่จะได้รวมตัวกันในครอบครัว ลี่จุนถิงเลยพาถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อออกไปเที่ยว

ถึงแม้ว่าตอนนี้สมองของถวนจื่อยังลืมอะไรไปบ้าง แต่เมื่อได้เห็นเจียงหยุนเอ๋อ เขาก็ยังจะได้ว่านั่นคือแม่ของเขา

เจียงหยุนเอ๋อนั้นอยากจะเก็บเกี่ยวความสุขในตอนนี้ให้ดี การได้มาอยู่กับถวนจื่อกับลี่จุนถิงอีกครั้งนั้น เธอก็คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูก

ครอบครัวสามคนนั้นนั่งเล่นกันอยู่บนสนามหญ้าแถบชานเมือง

ถวนจื่อกำลังเล่นเครื่องบินบังคับของเขา ส่วนเจียงหยุนเอ๋อซบอยู่ตรงไหล่ของลี่จุนถิง และหลับตางีบ

ลี่จุนถิงมองถวนจื่อที่เล่นสนุก ก็หวังว่าจะหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้ได้

ทั้งครอบครัวสามคนนั้นเล่นกันสนุกสนาน

แต่ว่าทางฝั่งตระกูลลี่นั้นกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

หลายวันมานี้ โทรศัพท์ในบ้านของลี่จุนถิงนั้นโทรจนสายแทบไหม้ ลี่จุนถิงกลับทำเหมือนไม่เห็นอะไร

โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็เคยไปหาลี่จุนถิง แต่ว่าลี่จุนถิงนั้นย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว คนของตระกูลลี่เองก็หาไม่เจอ

โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับบ้านอย่างไม่สบอารมณ์

ลี่เจี้ยนหวาเห็นภรรยากลับบ้านมาแล้ว เลยรีบถามไปว่า: “เป็นอย่างไรบ้าง เจอจุนถิงไหม?”

โม่เสี่ยวฮุ่ยส่ายหัว: “ได้ยินคนในเขตนั้นพูด ว่าเขาย้ายไปแล้ว น่าจะย้ายไปที่ตึกสองหน่ะ”

“อะไรนะ? ” ลี่เจี้ยนหวาขมวดคิ้วแน่น “งั้นก็ไปหาเขาที่นั่นสิ”

“คุณพูดง่ายจริงๆ เลยนะ คุณไปหาสิ ฉันไม่ไปหาแล้ว” โม่เสี่ยวฮุ่ยเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

ลี่เจี้ยนหวาเหมือนจะบอกว่าความผิดทั้งหมดเป็นของตัวเองเลย แต่ในความเป็นจริงนั้น ใครจะอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้กันล่ะ?

ลี่เจี้ยนหวาถอนหายใจ: “ไปที่บริษัทก็ไม่อยู่”

“เขาไม่สนใจบริษัทแล้วเหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยเบิกตาโผลง ด้วยความตกใจ

มีเรื่องกับตระกูลส้งเพื่อหญิงคนหนึ่งยังไม่อะไร แต่นี่ไม่สนใจบริษัทด้วยเหรอ?

ลี่เจี้ยนหวาส่ายหัว: “เขาจัดการผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่เจอใครเลย ฉันไปที่บริษัทหลายรอบแล้ว แต่ไม่เจอเขาเลย”

“ไอสารเลว!” มีเสียงของชายชราที่แหบแห้งจากชั้นสองดังขึ้น

โม่เสี่ยวฮุ่ยกับลี่เจี้ยนหวาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าเป็นท่านปู่ลี่ ทั้งสองคนเลยก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด: “พ่อ”

“คุณบอกว่าไอสารเลวนั่นไม่กลับบ้านเลยเหรอ?บริษัทก็ไม่ไป?” ท่านปู่ลี่ค่อยๆ เดินลงมา “เขาทำขนาดนี้เพื่อหญิงคนเดียว เลวจริงๆ พวกคุณคลอดเด็กคนนี้มาอย่างไรกัน?”

โม่เสี่ยวฮุ่ยคิดว่าน้อยใจ ลูกชายเป็นที่เก่งและโดดเด่นมาตลอด ตั้งแต่เล็กก็ถูกท่านปู่ลี่ชมมาตลอด แต่ว่าตอนนี้ล่ะ เพราะว่าหญิงคนเดียว ท่านปู่ลี่เลยด่าว่าลี่จุนถิงไปตั้งไม่รู้กี่รอบ

ลี่เจี้ยนหวาเองก็คิดว่ามันเสียหน้าเหลือเกิน

“ดูแลลูกชายตัวเองไม่ได้ ห่วยจริงๆ เลย” ท่านปู่ลี่โกรธลี่จุนถิงเป็นอย่างมาก

สุดท้ายครอบครัวก็ทำอะไรไม่ได้ เลยเรียกลี่จุนซินไป

ลี่จุนซินเปลืองแรงเป็นอย่างมาก ก่อนจะรู้ว่าช่วงนี้จุนถิงอยู่ไหน

ลี่จุนถิงเห็นว่าเป็นพี่สาว เลยไม่ได้ปฏิเสธอะไร แล้วให้ลี่จุนซินเข้ามาในบ้าน

เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นว่ามีคนมา ก็กลัวไว้ก่อน เลยอดไม่ได้ที่จะหลบอยู่หลังลี่จุนถิง

แต่ถวนจื่อก็จ้องลี่จุนซินด้วยความระแวดระวัง เหมือนกับมองคนร้ายเลย

ถึงอย่างไรตอนแรกลี่จุนซินก็เป็นคนเองถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อมาขังเอาไว้เอง เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา

เจียงหยุนเอ๋อยังระแวงกับเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน อีกอย่างก็รู้ด้วยว่าคนของตระกูลลี่ไม่ชอบตัวเอง เลยรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่นิดเดียว