บทที่ 315 นางเป็นสตรี

เซียวเย่เจ๋อพยักหน้ารับรู้ “เข้าใจแล้ว”

ฮวาเซียงเซียงจึงเอ่ยขึ้น “ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็จะไม่เสแสร้งทำเป็นปฏิเสธ แต่มีอย่างหนึ่ง เรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยปาก ใครพูดก็ไม่มีประโยชน์ รวมถึงพ่อข้าด้วย”

เซียวเย่เจ๋อพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง “แน่นอนอยู่แล้ว”

ฮวาเซียงเซียงถอนหายใจออกมา “เมื่อครู่ที่เจ้าพูดล้วนเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ หากว่าต่อไปเจ้าพบผู้หญิงอื่นที่เจ้าชอบเล่า เจ้าได้คิดถึงเรื่องนี้หรือไม่?”

เซียวเย่เจ๋อส่ายหน้า “ในเมื่อข้าตัดสินใจแล้วว่าจะชอบเจ้า ข้าก็ต้องรับผิดชอบ ข้าไม่มีทางไปชอบคนอื่นอีกอย่างแน่นอน

แม้ว่าข้าจะเป็นคนไม่ได้เรื่องและดูไม่จริงจัง เรียนหนังสือไม่เก่ง วรยุทธ์ก็ไม่ได้เรื่อง แต่คำพูดของข้าเจ้าสามารถเชื่อได้”

ฮวาเซียงเซียงมองไปที่เสื้อคลุม “เช่นนั้นเจ้ารีบไปหาเสื้อผ้ามาให้ข้าชุดหนึ่ง ข้าใส่เช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรนัก”

“ได้! เจ้ารอก่อนนะ”

เซียวหรงหรงยิ่งมองจี้จือฮวนก็ยิ่งพอใจ อาศัยตอนที่จี้จือฮวนไปดูปลาหลีในบ่อ เอ่ยกับสาวใช้ขึ้นมา “มือของคุณชายจี้ช่างงดงามจริง ๆ”

“คุณหนู ที่งดงามหาใช่แค่มือของคุณชายจี้ที่ใดกันเล่าเจ้าคะ แต่เป็นทั้งตัวของคุณชายจี้ต่างหากเล่าเจ้าคะ ทว่าเมื่อเทียบกับบุรุษทั่วไปแล้ว คุณชายจี้ดูเหมือนจะตัวเล็กกว่านะเจ้าคะ” สาวใช้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เซียวหรงหรงเองก็ใบหน้าแดงเรื่อ

จนทำให้เสี่ยวลิ่วจื่อที่อยู่ทางด้านหลังสั่นไปทั้งตัว “ข้าคิดว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ คุณหนูใหญ่เสียหายไปแล้ว จะทำให้แม่นางจี้เสียหายไปด้วยอีกคนไม่ได้นะ”

อาอู๋ผลักหัวเขาออก “สองคนนี้ล้วนเป็นสตรีจะเสียหายได้อย่างไรกัน กลัวแค่ว่าถึงเวลารู้ความจริง แม่นางเซียวจะเปลี่ยนจากเขินอายเป็นความโกรธแทนน่ะสิ ถึงเวลาคุณหนูใหญ่ของเราก็จะพลอยลำบากไปด้วย”

ก็ใช่น่ะสิ คุณหนูใหญ่จะแต่งกับซื่อจื่อตระกูลเซียว เช่นนั้นเซียวหรงหรงผู้นี้ก็ถือเป็นน้องสาวของคุณหนูใหญ่

นับเป็นครอบครัวเดียวกันกับกลุ่มกองเรือ

“เช่นนั้น? แยกออก?”

“อืม แยกออก!”

“คุณชายจี้”

“แม่นางเซียว”

ทั้งสองคนแยกกันไปคนละทางเพื่อเข้าไปหาพวกนาง ก่อนจะดึงคนให้ห่างออกไป

เซียวหรงหรงด้านหนึ่งต้องคอยรับมือกับเสี่ยวลิ่วจื่อ อีกด้านหนึ่งก็คอยมองจี้จือฮวนที่เดินห่างออกไปแล้ว จึงเอ่ยด้วยความร้อนใจขึ้นมา “คุณชายจี้เล่า?”

“อ้อ เมื่อครู่เขาเห็นสาวใช้หน้าตาสะสวยในจวนของพวกท่านคนหนึ่ง จึงไปเกี้ยวนางแล้วขอรับ เรื่องพวกนี้ตอนอยู่ตำบลฉาซู่เขามักจะทำบ่อย ๆ ไม่รู้ว่า มีแม่นางน้อยถูกเขาย่ำยีไปเท่าใดแล้วเหมือนกันขอรับ” เสี่ยวลิ่วจื่อพูดส่งเดชออกไป

เซียวหรงหรงราวกับถูกสายฟ้าฟาด ก่อนเอ่ยด้วยเสียงที่สั่นเทา “อะไรนะ? เจ้า…เจ้าพูดจาเหลวไหล คุณชายจี้จะเป็นคนเช่นนั้นได้อย่างไร เจ้าเป็นคนรับใช้ของคุณชายฮวา วิจารณ์สหายของเจ้านายส่งเดชได้อย่างไรกัน”

เสี่ยวลิ่วจื่อกลอกตามองบน หากข้าไม่สาดโคลนใส่แม่นางจี้ เกรงว่าคนโง่อย่างท่านคงจะถูกแม่ทัพเผยบีบคอจนตายเป็นแน่

ตัวแค่นี้คิดจะแย่งภรรยาเขา เจ้าจะแย่งได้อย่างนั้นหรือ

เซียวหรงหรงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “ข้าจะไปหาคุณชายจี้”

เสี่ยวลิ่วจื่อจะปล่อยนางไปได้อย่างไรกัน “โอ๊ย แม่นางเซียว อย่าหาว่าข้าไม่บอกท่านนะขอรับ บุรุษทั้งใต้หล้าต่างก็เหมือนกัน เวลาเห็นสตรีสวย ๆ ก็มักจะเดินไม่ถูกทาง คุณชายจี้ก็ถือเป็นบุรุษผู้หนึ่ง หากสตรีที่ยังไม่ออกเรือนอย่างท่านเข้าไปและเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าคงไม่ดีแน่ขอรับ”

สาวใช้เองก็ตกตะลึงเช่นกัน ก็คิดว่าจะมาเป็นท่านเขยในอนาคตเสียอีก เหตุใดถึงถูกตาต้องใจสาวใช้ในตระกูลของพวกนางได้ล่ะเนี่ย!?

เป็นนางแพศยาคนใดกันแน่!

เซียวหรงหรงเบ้ปากใกล้จะร้องไห้ออกมาเต็มที ก่อนจะคิดถึงเซียวเย่เจ๋อขึ้นมา “หลีกไป ข้าจะไปหาพี่ใหญ่ ให้เขาให้ความเป็นธรรมกับข้า”

นางไม่สนว่าคุณชายจี้จะถูกตาต้องใจใคร นางและเขาแตะเนื้อต้องตัวกันแล้ว นางเป็นคนของเขาแล้ว อย่างมาก…อย่างมากนางก็แค่พาสาวใช้คนนั้นติดตามไปด้วยก็ได้

เซียวเย่เจ๋อกำลังค้นหีบและตู้ เซียวผิงล้วงชุดที่เพิ่งตัดเสร็จออกมา “ชุดนี้เนื้อผ้านุ่ม อีกทั้งเป็นแบบใหม่ของปีนี้ เถ้าแก่เนี้ยฮวาผิวขาว สวมชุดไหนก็ดูดีทั้งนั้นขอรับ”

เซียวเย่เจ๋อกำลังพิจารณาเสื้อผ้าที่เขาล้วงออกมาด้วยสายตารังเกียจ เมื่อได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลง “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางผิวขาว? เจ้ากล้ามองนางอย่างนั้นหรือ?”

ก่อนหน้านี้เป็นแค่สหายเซียวเย่เจ๋อจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงาน ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เขาต้องรับผิดชอบนาง ฮวาเซียงเซียงเป็นว่าที่ภรรยาของเขาแล้ว เป็นชายาซื่อจื่อตระกูลเซียว! เซียวผิงกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร เขาไปเห็นที่ใดมา

เซียวผิงสะอึกขึ้นมา “นายน้อย ข้าไม่ได้ตาบอดนะขอรับ ใบหน้าของเถ้าแก่เนี้ยฮวาข้าจะมองไม่ชัดได้อย่างไรกันขอรับ”

อาการหึงหวงนี่ดูจะรุนแรงเกินไปหน่อยกระมัง! ไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆ

“ชุดนี้ไม่ได้ ดูหวือหวาเกินไป”

แต่เซียวผิงกลับไม่รู้สึกว่ามีตรงไหนที่ไม่เหมาะ ปกติเถ้าแก่เนี้ยฮวาก็สวมชุดสีสันฉูดฉาดอยู่แล้ว อีกอย่าง สตรีที่ยังไม่แต่งงานรักสวยรักงามก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ?

“เช่นนั้นชุดนี้”

“เจ้าดูลายนั่นสิ ล้าสมัยตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว”

“เช่นนั้นชุดนี้”

“ชุดนี้ขนาดข้ายังใหญ่ไปเลย จะให้นางคลุมเป็นผ้าห่มหรืออย่างไร?”

เซียวผิงส่งเสียงชิชะออกมา รื้อเสื้อผ้าทั้งห้องนี้ก็เพื่อหาชุดที่ใส่ได้สักชุดไม่ใช่หรือ ต้องยุ่งยากเพียงนี้เชียวหรือ

“ท่านพี่!” เสียงของเซียวหรงหรงดังขึ้นมาจากด้านนอก ทั้งยังแฝงการสะอึกสะอื้น เซียวเย่เจ๋อจึงชะโงกหน้าออกมา ก็เห็นน้องสาวที่โง่เขลาของเขามีขอบตาแดงก่ำ

“นายท่านฮวนตีเจ้าหรือ? เจ้าไปทำอะไรไม่ดีมา?” เซียวเย่เจ๋อเอ่ยถามขึ้น

เซียวหรงหรงได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมา เซียวผิงเห็นว่าไม่เหมาะที่จะอยู่ดูคุณหนูขายหน้าที่นี่ จึงรีบถอยออกไปด้านนอก ก่อนจะเอ่ยถามสาวใช้ของเซียวหรงหรง “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

สาวใช้ถอนหายใจ “คุณชายจี้ผู้นั้นเป็นใครกันหรือ เหตุใดถึงมาที่จวนของเรา และจับสาวใช้หน้าตาสะสวยคนหนึ่งไป…”

“เป็นไปไม่ได้!” เซียวผิงเถียงกลับทันควันโดยไม่ต้องคิด

แม่นางจี้จับสาวใช้หน้าตาสะสวยไปแล้วจะสามารถทำอะไรได้

สาวใช้สะอึกขึ้นมา “พวกเราได้ยินมากับหูนะเจ้าคะ”

“พวกเจ้าคงฟังผิดแล้ว”

ภายในห้อง เซียวหรงหรงร้องไห้สะอึกสะอื้น เซียวเย่เจ๋อที่รีบจะเอาเสื้อผ้าไปให้ฮวาเซียงเซียงก็เอ่ยอย่างหงุดหงิดขึ้นมา “ไม่พูดข้าจะไปแล้วนะ”

“อย่านะ!” เซียวหรงหรงดึงเซียวเย่เจ๋อกลับมา ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา

“อะไร? ฟังไม่ชัด เจ้าช่วยพูดให้มันดัง ๆ หน่อย”

“ข้าเป็นคนของคุณชายจี้แล้ว ข้ากับเขาแตะเนื้อต้องตัวกันแล้ว คนทั้งถนนล้วนเห็นกันหมด ท่านจัดการเอาเองก็แล้วกัน”

เซียวเย่เจ๋อกลับไม่พูดอะไร เซียวหรงหรงจึงเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเซียวเย่เจ๋อยังคงตั้งหน้าตั้งตาเลือกเสื้อผ้าต่อ

“ท่านพี่!” นางกระทืบเท้า “เหตุใดท่านไม่สนใจเรื่องของข้าเลยเล่า ท่านพ่อไม่อยู่ พี่ใหญ่ก็เปรียบเสมือนท่านพ่อ ท่านไปพูดกับเขาสิเจ้าคะ”

“เป็นไปไม่ได้ คนเขาแต่งงานแล้ว ต่อให้จะยังไม่แต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เป็นเรื่องของข้าต่างหาก” น่าขัน ต่อให้จี้จือฮวนยังไม่แต่งงาน แต่นางก็เป็นคู่หมั้นตั้งแต่เด็กของเขา ดังนั้นจึงมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ แล้วจะแต่งกับนางอีกได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นางเป็นถึงลูกพี่ฮวนเชียวนะ

“อะไรนะ!” เซียวหรงหรงถอยหลังไปหนึ่งก้าว “เขาแต่งงานแล้ว?”

นางไม่มีทางเป็นอนุเด็ดขาด เซียวหรงหรงคิดถึงตรงนี้ก็รู้ว่าตนเองกับคุณชายจี้ไร้วาสนาต่อกันแล้ว

“อีกอย่างนางก็เป็นสตรี อย่าว่าแต่แตะเนื้อต้องตัวเลย ต่อให้เจ้ากับนางนอนเตียงเดียวกัน ข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอก”

เซียวหรงหรงดวงตาเบิกโพลง “สตรี?”

“มองไม่ออกหรือ? เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ” ใบหน้าของจี้จือฮวนเหมือนผู้ชายที่ไหนกัน?

เซียวหรงหรงนั่งลงอย่างเลื่อนลอย เมื่อคิดถึงหัวใจของเด็กสาวที่แหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยของตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าขึ้นมา

“เช่นนั้นนางชื่ออะไร?”

“จี้จือฮวนไง จี้จือฮวนที่เจ้ารู้จักคนนั้นนั่นแหละ”

.

.

.