บทที่ 316 ไม่หลงกล

เซียวผิงมองดูเซียวหรงหรงออกไปจากเรือนอย่างคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง “ชิ ชิ ชิ แม่นางจี้ยังมีความสามารถเช่นนี้ด้วย ข้าว่าหากเมื่อก่อนท่านเปิดตามองดี ๆ แต่งงานกับนางก่อนก็คงจะดี”

“ชู่ ยังจะเอาเรื่องเก่ามาพูดอีก ข้าเป็นอดีตคู่หมั้นที่ดีที่สุดในต้าจิ้น แม่ทัพเผยกับข้าเป็นพี่น้องกัน มีเขาคอยดูแลลูกพี่ฮวนข้าก็วางใจแล้ว ตอนนี้เรื่องของนางก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว”

เซียวผิงยักไหล่ อย่างไรเสียนายน้อยของตระกูลเซียว หากไม่ขาดความคิดก็ขาดไหวพริบอยู่แล้ว

“ท่านรีบหาดีกว่าขอรับ เถ้าแก่เนี้ยฮวาเป็นคนขี้โมโหง่ายนะขอรับ”

คำพูดนี้เตือนสติเซียวเย่เจ๋อขึ้นมา เขาจึงดึงชุดที่เมื่อก่อนเคยใส่ออกมาชุดหนึ่ง “ชุดนี้ก็แล้วกัน”

อีกด้านหนึ่ง เซียวหรงหรงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตา เหตุใดถึงเป็นจี้จือฮวนไปได้?

สาวใช้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ในเมื่อเป็นสตรี นางมาหลอกท่านเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

“หุบปาก คุณชายจี้…แม่นางจี้ไม่ได้หลอกข้า เป็นข้าที่คิดไปเองว่านางเป็นบุรุษ” เซียวหรงหรงถอนหายใจออกมา พลางมองหาเก้าอี้หินตัวหนึ่งก่อนจะนั่งลง

คิดถึงใบหน้าและรอยยิ้ม ท่าทางสง่าผ่าเผยของจี้จือฮวนเมื่อครู่

“แต่คุณหนูจี้หมิงซูบอกว่าจี้จือฮวนไม่ใช่คนดีนี่เจ้าคะ”

เมื่อพูดถึงจี้หมิงซู ทันใดนั้นเซียวหรงหรงก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เพื่อจี้หมิงซูนางจึงถูกพี่ชายต่อว่าอยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้เพราะเห็นแก่หน้าขององค์ชายรอง ทว่าตอนนี้เมื่อนางได้พบจี้จือฮวนตัวจริง ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว

“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่เรื่องน้ำใจแม่นางจี้ก็เหนือกว่าหมิงซูแล้ว”

สาวใช้ประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคุณหนูของตัวเองพูดถึงจี้จือฮวนในแง่ดี

“คุณหนู ท่านคงไม่ได้พูดเพราะหลงใหลในความงามของแม่นางจี้หรอกนะเจ้าคะ”

“ไม่ใช่ แม้ว่าหมิงซูจะดีต่อข้า แต่นางเป็นคนใจแคบ เมื่อก่อนยามที่พวกเราเล่นด้วยกัน หากไม่มีฐานะเงินทอง หรือมีประโยชน์ต่อนาง นางจะไม่มีทางพูดจาดีด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความจริงใจ การคบหากับหมิงซูนั้นช่างเหนื่อยมากจริง ๆ”

“เช่นนั้นท่านยังจะเอาเงินให้นางอีกทำไมเจ้าคะ?”

“หวังเงินของเจ้าดีกว่าหวังสิ่งอื่นจากเจ้า ที่สำคัญ ข้าไม่ขาดแคลนเงิน”

“…”

“แต่จี้จือฮวนไม่เหมือนกัน หมิงซูบอกว่านางขี้เหร่ หยาบคาย โหดเหี้ยม แต่วันนี้เมื่อได้พูดคุยกับนางจริง ๆ แล้ว เจ้าว่ามีตรงไหนเหมือนที่หมิงซูบอกบ้าง?”

สาวใช้คิดไปคิดมา “จะว่าไปแล้วดวงตาของแม่นางจี้จือฮวนก็ช่างกระจ่างใส พูดคุยด้วยแล้วสบายใจเป็นอย่างมาก ทั้งยังไม่วางท่าอะไรด้วยเจ้าค่ะ”

ดังนั้นเมื่อครู่เมื่อคิดว่า ว่าที่ท่านเขยพูดคุยด้วยง่ายเช่นนี้ ในใจนางก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

“เรื่องเมื่อครู่อีกเดี๋ยวเจอแม่นางจี้ อย่าเผยพิรุธเด็ดขาด”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

จี้จือฮวนถูกอาอู๋พาวนหนึ่งรอบ เมื่อเดินมาจนถึงศาลาน้ำชา จึงได้พบกับฮวาเซียงเซียงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และมีเซียวเย่เจ๋อคอยปรนนิบัติอย่างดีอยู่ข้าง ๆ

ดูจากท่าทีของทั้งสองคนแล้ว เกรงว่าคงจะคุยกันรู้เรื่องแล้วกระมัง

จี้จือฮวนเพิ่งจะเดินเข้ามา ฮวาเซียงเซียงก็เอ่ยขึ้นทันที “เราไม่ต้องซื้อร้านเองแล้ว เซียวซื่อจื่อบอกว่าจะให้พวกเราเช่า โดยเขาจะขอร่วมหุ้นด้วย”

“ตรงนั้นเป็นที่ของตระกูลเซียวหรือ? เมื่อครู่เหตุใดแม่นางเซียวถึงไม่บอกเล่า?”

เซียวเย่เจ๋อร้อนตัวขึ้นมา นั่นก็เพราะน้องโง่ของข้าถูกใจเจ้าอย่างไรเล่า

ฮวาเซียงเซียงเอ่ย “บางทีอาจเป็นเพราะไม่รู้จักพวกเรา? เกรงว่าพูดมากไปจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกระมัง”

จี้จือฮวนคิดตาม ฟังมีเหตุผล ไม่ว่าใครหากที่บ้านมีทรัพย์สมบัติมากมาย ก็คงไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ

เซียวเย่เจ๋อไม่อยากให้พวกนางพูดถึงเซียวหรงหรงอีก จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะถูกใจที่นั่น ในเมื่อมีคนจะปล่อยร้าน เจ้าของอย่างข้าย่อมไม่มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว”

เอ่ยจบก็แกะเมล็ดแตงโมให้ฮวาเซียงเซียงสองเม็ด

จี้จือฮวนจึงเอ่ยด้วยสีหน้าหยอกเย้าขึ้นมา “เรื่องของพวกเราอย่างไรเสียก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่เรื่องของพวกเจ้ายังมีอะไรที่ข้าไม่รู้อยู่ใช่หรือไม่?”

มือที่กำลังกินเมล็ดแตงโมของฮวาเซียงเซียงชะงักไป ก่อนจะกระแอมเบา ๆ แล้วผลักเซียวเย่เจ๋อออกไปเล็กน้อย “จะมีเรื่องอะไรได้ นี่ก็เย็นมากแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ แม่ทัพเผยจะได้ไม่ร้อนใจ”

จี้จือฮวนเอามือเท้าคาง “แม่ทัพเผยร้อนใจ หรือว่าพ่อของเจ้าร้อนใจกันแน่”

เซียวเย่เจ๋อเกือบสำลักขึ้นมา “พ่อเจ้ามาแล้วหรือ?”

ฮวาเซียงเซียงเลิกคิ้ว “ใช่ สองคนนั้นที่เซียวผิงประมือด้วยโตมาพร้อมกันกับข้า พวกเขาจะเรียกข้าว่าคุณหนูใหญ่”

เซียวเย่เจ๋อกลืนน้ำลายลงคอ “เช่นนั้น…เช่นนั้นข้าไปเตรียมของขวัญ แล้วไปส่งพวกเจ้าด้วยดีหรือไม่?”

ฮวาเซียงเซียงปัดมือไปมา “ไม่ต้อง เอาอกเอาใจแบบนี้พ่อข้าไม่หลงกลหรอก”

จี้จือฮวนรู้สึกว่าเซียวเย่เจ๋อดูแปลก ๆ ไป แปลกมากจริง ๆ

อาศัยตอนที่ฮวาเซียงเซียงไปเข้าห้องน้ำ จี้จือฮวนจึงเคาะโต๊ะเบา ๆ “สู่ขอแล้วหรือ?”

เซียวเย่เจ๋อเอ่ยอย่างกระบิดกระบวน “เจ้านิสัยไม่ดี พูดเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน!”

“…”

“พูดภาษาคน”

เซียวเย่เจ๋อจึงระบายออกมาทันที “นางไม่ยอมตกลง”

“ข้ออ้างของเจ้าคืออยากจะรับผิดชอบ นางย่อมไม่ตกลงอยู่แล้ว ว่าแต่เจ้าชอบนางจริงหรือไม่?”

เซียวเย่เจ๋อเกาหัว “สูด อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้รังเกียจนาง อืม ตอนที่แยกจากกันก็รู้สึกคิดถึงมากด้วย”

“เอาล่ะ ตัวเจ้าเองยังไม่รู้ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ คิดไปเถอะ”

“ลูกพี่ฮวน”

“ไม่ต้องมาใช้ไม้นี้ ข้าไม่ช่วยเจ้าพูดหรอก”

เซียวเย่เจ๋อไร้เรี่ยวแรงทันที สมกับเป็นพี่น้องกันจริง ๆ คนนอกแทรกเข้าไปไม่ได้เลย

เซียวผิงเตรียมรถม้าด้วยความรวดเร็ว และนำของขวัญไปด้วยจำนวนมาก โดยมีเซียวเย่เจ๋อคุ้มกันอยู่ด้านนอก คฤหาสน์ตระกูลมั่งคั่งในเมืองหลวงไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก เมื่อใกล้ถึงคฤหาสน์ ฮวาเซียงเซียงก็สั่งห้ามเสี่ยวลิ่วจื่อกับอาอู๋พูดถึงเรื่องวันนี้

เสี่ยวลิ่วจื่อมีท่าทางอึกอัก แต่เมื่อมองหน้าฮวาเซียงเซียงแล้ว สุดท้ายก็ยอมปิดปากเงียบ

“เอาล่ะ พวกเจ้าส่งถึงแค่ตรงนี้ก็พอ ไม่ต้องเข้าไปหรอก” ฮวาเซียงเซียงปัดมือไปมา ไม่คิดจะให้เซียวเย่เจ๋อเข้าไป

เซียวเย่เจ๋อมุ่ยปากพลางเอ่ยขึ้น “ไหน ๆ ก็มาแล้ว…”

จี้จือฮวนนึกขัน “นั่นน่ะสิ ไหน ๆ ก็มาแล้ว”

“ไม่ได้ ๆ” ฮวาเซียงเซียงเห็นเซียวเย่เจ๋อจะลงจากหลังม้า ก็เอื้อมมือไปผลักก้นเขากลับขึ้นไป

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น ฮวาเส้าจงกับเผยยวนก็เดินออกมารับพอดี “เซียงเอ๋อร์ เหตุใดถึงออกไปนานเพียงนี้ อาหารในบ้านจะเย็นหมดแล้ว มีอาหารทะเลที่ทำให้เจ้าเป็นพิเศษด้วยนะ”

ฮวาเส้าจงเอ่ยไป สายตาก็ชำเลืองไปยังก้นที่ฮวาเซียงเซียงประคองเอาไว้

เจ้าของก้นนั้นเป็นเจ้าหนุ่มหน้าขาวคนหนึ่ง

เซียวเย่เจ๋อรู้สึกตื่นเต้นจนกลิ้งลงมาจากหลังม้า ก่อนจะจับมือของฮวาเซียงเซียงเอาไว้ “เลิกเล่นได้แล้ว”

ฮวาเส้าจงคิ้วกระตุก ก่อนจะเลิกขึ้นสูง

เผยยวนเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน ทว่าเซียวเย่เจ๋อกลับยิ้มแย้มออกมา ก่อนจะเริ่มเอ่ยทักทาย “ท่านนี้คือหัวหน้าฮวากระมัง ผู้น้อยเลื่อมใสชื่อเสียงของท่านมานานแล้วขอรับ”

ฮวาเส้าจงจ้องฮวาเซียงเซียง “คนผู้นี้คือ?”

“เซียวเย่เจ๋อ”

ฮวาเส้าจงดึงฮวาเซียงเซียงไปอยู่ข้างหลัง “ไม่เคยได้ยินเซียงเอ๋อร์พูดถึงมาก่อน ในเมื่อมาแล้วก็เข้ามานั่งก่อนสิ”

“ไม่ต้องหรอกท่านพ่อ เขาไม่นั่งเจ้าค่ะ”

“เซียงเอ๋อร์!” ฮวาเส้าจงปรามฮวาเซียงเซียง จากนั้นก็ผายมือออกไป “เชิญ”

เซียวเย่เจ๋อร่าเริงอย่างมาก ดูสิ ว่าที่พ่อตากระตือรือร้นกับเขาเพียงใด!

ทั้งหมดเดินเข้าไปด้านใน เผยยวนดึงมือของจี้จือฮวนเอาไว้ “นี่มันเรื่องอะไรกันหรือ?”

“เรื่องมันยาว อีกเดี๋ยวรอดูเจ้าทึ่มนั่นแสดงดีกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเราอย่าสอดมือเข้าไปยุ่งเด็ดขาด”

เผยยวนรู้สึกงุนงง แต่ไม่นานก็ถูกน้ำตาลปั้นในมือจี้จือฮวนดึงดูดสายตาเข้า “ซื้อไปให้พวกเด็ก ๆ หรือ?”

“อืม ข้าวาดภาพร่างของตัวละครในซุนหงอคงให้เถ้าแก่คนนั้น แม้ว่าสีจะเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็นับว่าใกล้เคียง”

“อาชิงต้องมีความสุขมากแน่ ๆ”

.

.

.