บทที่ 294 ยืนอยู่ข้างสนาม
บทที่ 294 ยืนอยู่ข้างสนาม
หัวใจของเหมยเหมยเต้นไม่เป็นจังหวะ มันหดหู่มาก
แต่เธอไม่เผยสีหน้าอะไร เพียงดูอยู่นิ่ง ๆ ราวกับภูเขาไท่ซาน คล้ายกับว่าเธอรู้ล่วงหน้ามานานแล้ว
แต่ทว่าสีหน้าของผู้กำกับกลับตกตะลึง หากซูโย่วอี๋ตัดสินใจยุติสัญญาตั้งแต่แรก เธอก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายเวลาการถ่ายทำ ก่อนจะเสนอการยุติสัญญา
เว้นแต่ว่าเธอต้องการอย่างอื่น
“คุณซู มีอะไรที่รายการทำได้ไม่ดีหรือเปล่าครับ? การถ่ายทำดำเนินไปเกินครึ่งทางแล้ว และมันก็สายเกินไปที่จะหาคนมาแทน คุณจะต้องชดเชยความเสียหายจำนวนมาก ไม่ว่าจะมองยังไง การยกเลิกสัญญาตอนนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเลยนะครับ”
การแสดงออกของซูโย่วอี๋นั้นราบเรียบ “ผู้กำกับคะ ฉันขอโทษที่ทำให้คุณลำบาก แต่บรรยากาศการถ่ายทำของรายการมันกดดันจริง ๆ”
กดดัน?
ทันใดนั้นผู้กำกับก็เข้าใจว่าบทสนทนาที่เขากับกัวหลินหลินพูดคุยกันเมื่อกี้น่าจะถูกได้ยินเข้าแล้ว
เมื่อนึกถึงซูโย่วอี๋ที่ปกป้องไป๋เหิงตลอดเวลา ก็เดาได้ไม่ยากว่าซูโย่วอี๋ต้องการขู่รายการโดยการยกเลิกสัญญา เพื่อให้พวกเขาปฏิบัติต่อไป๋เหิงอย่างเป็นธรรมและห้ามกลั่นแกล้งอะไรเธอ
ผู้กำกับรีบเงยหน้ายกยิ้มอีกครั้ง “คิดว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก คุณซู ไม่ต้องกังวลครับ เราจะใส่ใจกับกระบวนการถ่ายทำในอนาคต และเราจะไม่ทำให้คุณรู้สึกกดดันอย่างนั้นแน่นอน”
“คุณซู โปรดคิดดูให้ดีอีกครั้งและอย่ายกเลิกสัญญาเลยนะครับ”
ซูโย่วอี๋เงยหน้าขึ้น ใบหน้าด้านข้างที่ขาวเนียนดูเรียบเฉย “เอาล่ะ งั้นฉันหวังว่าในอนาคตเราจะร่วมมือกันได้อย่างดีนะคะ”
“ฉันไม่รบกวนแล้ว”
หลังจากพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและเดินออกไป แต่เดินออกไปได้ 2-3 ก้าว กัวหลินหลินก็ไล่ตามเธอมา
“อาจารย์โย่วโย่ว รอฉันด้วยค่ะ”
ซูโย่วอี๋และเหมยเหมยหยุดทันที “มีอะไรหรือเปล่า?”
กัวหลินหลินถามอย่างระมัดระวัง “คุณได้ยินเหรอคะ? คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แย่มากเหรอคะ?”
“ใช่” ซูโย่วอี๋พูดด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน “ฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกว่าด้วยความสามารถเพียงอย่างเดียว เธอก็อาจสามารถเอาชนะไป๋เหิงได้ ทำไมเธอถึงยังคิดทำอะไรแบบนั้นอีก?”
กัวหลินหลินรู้สึกน้อยใจอย่างมาก “แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้”
“ไป๋เหิงไม่ได้อ่อนแอและใสซื่ออย่างที่คุณคิดนะคะ อาทิตย์ที่แล้ว ฉันไม่ได้เป็นหวัด แต่ถูกไป๋เหิงทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาลต่างหาก!”
ดวงตาของซูโย่วอี๋มองไปที่กัวหลินหลินด้วยท่าทางแปลก ๆ
แท้จริงแล้วคนที่อีกฝ่ายกล่าวโทษก็คือตัวเธอเอง
“เลิกเสแสร้งต่อหน้าฉันได้แล้ว มันน่ารำคาญ”
กัวหลินหลินตกใจ เธอไม่คาดคิดว่าซูโย่วอี๋จะรังเกียจเธอมากขนาดนี้
ถูกต้อง รังเกียจ
“ทำไมคุณถึงรังเกียจฉันมากขนาดนี้ ฉันแค่ใช้เส้นสายของฉันเพื่อไล่ไป๋เหิงออกไป แต่ฉันก็อธิบายไปแล้วว่าไป๋เหิงรังแกฉันก่อน”
ซูโย่วอี๋ยกมือขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ “พอแล้ว หยุดแสดงสักที”
“ฉันอยากจะถามแค่ว่าเธอทำขาของไป๋เหิงหักหรือเปล่า?”
กัวหลินหลินกัดริมฝีปากของเธอเพื่อแก้ต่าง “ไม่ใช่ฉัน”
ซูโย่วอี๋ตะคอกอย่างเย็นชา “ไม่เหรอ?”
“เธอรู้ไหมว่าฉันเห็นเธอตอนที่ทำร้ายไป๋เหิงในคืนนั้น? แต่ก่อนที่จะทันได้ห้าม เธอก็จากไปซะแล้ว”
กัวหลินหลินต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกขัดจังหวะโดยซูโย่วอี๋ “พอแล้ว”
“ถ้าเธอยังต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมในรายการ อย่าคิดเล่นลูกไม้อะไรอีก”
“ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่รับประกันว่าฉันจะไม่เล่นลูกไม้เหมือนกัน”
กัวหลินหลินโกรธมากจนน้ำตาไหลออกมา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
หลังจากกลับมาที่หอพัก เหมยเหมยก็กล่าวว่า “พี่ซู พี่ควรคุยกับฉันก่อนนะคะ เผื่อว่าทีมงานรายการจะยกเลิกสัญญากับคุณจริง ๆ…”
“ก็ยกเลิกไปสิ ยังไงฉันก็จ่ายไหว”
เหมยเหมยมองดูการแสดงออกที่แน่วแน่ของศิลปินของเธออย่างหมดหนทาง “ไม่ใช่เรื่องเงินค่ะ”
“การกระทำของผู้กำกับและกัวหลินหลินเป็นเพียงสิ่งสกปรกธรรมดา ๆ ในวงการบันเทิง ตราบใดที่พี่อยู่ในวงการนี้ พี่ก็จะต้องพบกับสิ่งที่สกปรกกว่านี้แน่”
“ไม่มีใครเป็นฮีโร่ได้ตลอด และพี่ไม่สามารถช่วยทุกคนได้นะคะ”
แค่ทำหน้าที่ของคุณให้ดี
หลังเวลาผ่านไป ซูโย่วอี๋ก็ถอนหายใจ “เธอคิดว่าฉันยังไม่ได้คิดถึงความเป็นจริงเหรอ? ใช่ ฉันไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้ แต่ฉันมีหลักการของฉันเอง”
เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอไม่สามารถเพิกเฉยได้
“เหมยเหมย เธอเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม?”
“อะไรคะ?”
“ถ้าฉันยืนอยู่ข้างสนามในวันนี้ ในอนาคต เมื่อเรื่องร้ายพวกนั้นมาถึงตัวฉัน ก็จะไม่มีใครมาช่วยฉัน”
…
การถ่ายทำยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ซูโย่วอี๋ใช้ชีวิตไป ๆ มา ๆ ระหว่างการถ่ายทำกับบริษัท เมื่อใดก็ตามที่เธอมีเวลา เธอจะไปที่ห้องซ้อมเพื่อดูความคืบหน้าของทีมที่เธอเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
ในวันนี้ ซูโย่วอี๋มาที่ห้องซ้อมเต้นอีกครั้ง ห้องอุ่นดี เด็กฝึกกำลังนั่งบนพื้นเพื่อพักผ่อน พวกเธอเหงื่อออกและหน้าแดงก่ำ
เห็นได้ชัดว่าเพิ่งซ้อมเสร็จไม่นาน
เมื่อเห็นอาจารย์มา พวกเธอก็ลุกขึ้นทันที “อาจารย์โย่วโย่ว”
“ซ้อมเป็นไงบ้าง?”
พวกเด็กฝึกเอามือไพล่หลังอย่างเป็นระเบียบ “เราเริ่มเต้นกันแล้วค่ะ แต่รายละเอียดบางส่วนยังไม่ดี”
อันที่จริง พวกเธอมีคำถามมากมาย แต่เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ซูโย่วอี๋ยุ่งมากและไม่เชี่ยวชาญด้านการเต้น พวกเธอจึงไม่ได้ปรึกษาอีกฝ่าย
ซูโย่วอี๋พยักหน้า ทีมนี้ดูไม่มีอะไรต้องกังวล “พักก่อนเถอะ แล้วค่อยเริ่มใหม่อีกครั้ง”
“อาจารย์โย่วโย่วต้องการแนะนำพวกเราเหรอคะ?”
มีความประหลาดใจปรากฎอยู่ในสายตาของเหล่าเด็กฝึก
ซูโย่วอี๋อดไม่ได้ที่จะเริ่มพิจารณาว่าตัวเธอไร้ความสามารถในฐานะที่ปรึกษาหรือเปล่า แค่การให้คำแนะนำง่าย ๆ ถึงกับทำให้นักเรียนมีความสุขมากขนาดนี้
[ซู่จู่ คุณคิดมากไปเอง พวกเธอแค่สงสัยว่าคุณสอนเต้นได้จริง ๆ หรือเปล่าต่างหาก]
ซูโย่วอี๋ “…”
เมื่อมองไปที่เหล่าเด็กฝึก เธอรู้สึกได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ
หากคุณไม่เคยแสดงทักษะบางอย่าง คุณก็อาจจะโดนดูถูก
เจ้าจิ้งจอกเน่าแค่นเสียง [ก็คุณเต้นไม่เป็นจริง ๆ นี่]
“แต่ฉันโกงได้”
เจ้าจิ้งจอกเน่าคิดไม่ทันไปพักหนึ่ง [โกงอะไร? ทำไมฉันไม่รู้ว่าคุณยังโกงได้?]
“หึ” ซูโย่วอี๋ยิ้มเยาะ หันหลังกลับและหยิบ [แว่นตาวิเคราะห์ท่าทางการเต้น] ออกจากระบบมาใส่
ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเธอจะเต้นไม่เป็น แต่เธอก็จะรู้ว่าคนอื่นเต้นได้ดีหรือเปล่า และปัญหาอยู่ที่ตรงไหน
ส่วนเจ้าจิ้งจอกเน่ารู้สึกเพียงว่ามีฝูงกาบินอยู่เหนือศีรษะของเขา
ให้ตายสิ
พูดไม่ออกเลย
เด็กฝึกมองไปที่แว่นตากรอบดำบนใบหน้าของซูโย่วอี๋และหัวเราะ พลางพูดติดตลกว่า “อาจารย์โย่วโย่ว พอคุณสวมแว่นตาก็ทำให้คุณดูมีบรรยากาศที่พิเศษขึ้นมาทันทีเลยค่ะ”
“บรรยากาศแบบไหน?”
“บรรยากาศของอาจารย์ภาษาจีน”
ซูโย่วอี๋ปรบมือของเธอ “เอาล่ะ คราวนี้มาเต้นกันอีกครั้ง”
สายตาของหัวหน้าทีมส่งสัญญาณไปยังสมาชิก “แสดงให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้กัน”
ทันทีที่เพลงเล่น [แว่นตาวิเคราะห์ท่าทางการเต้น] ก็เริ่มทำงานเมื่อท่าเต้นปรากฎตรงหน้า
เท่าที่สายตามองเห็น แว่นตาได้นำเสนอปัญหาในการเต้นของแต่ละคน
การเต้นซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบในระดับของเธอเมื่อครู่นี้เต็มไปด้วยช่องโหว่
คิ้วของซูโย่วอี๋ขมวดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อการแสดงจบลง เหล่าเด็กฝึกไม่กล้าพูดเมื่อเห็นสีหน้าหนักใจของอาจารย์ผู้สอน
พวกเธอแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
ซูโย่วอี๋ไอเบา ๆ “ไม่เลว”
เด็กฝึกต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“แต่มีปัญหาหลายข้อ ฉันจะพูดถึงทีละปัญหาแล้วกัน”
“เริ่มจากหัวหน้าทีมก่อน แล้วพวกเธอที่เหลือก็ฟังด้วยกัน ปัญหาของพวกเธอก็เยอะเหมือนกัน”