บทที่ 295 น่าสงสาร

บทที่ 295 น่าสงสาร

เด็กฝึกคนหนึ่งเบิกตากว้าง “อาจารย์โย่วโย่ว คุณเต้นเป็นจริง ๆ เหรอคะ?”

พอพูดจบก็เอามือปิดปากอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”

ซูโย่วอี๋ยิ้ม “ถ้าเต้นไม่เป็นจะมาเป็นอาจารย์ได้เหรอ?”

“หัวหน้าทีม ทักษะการเต้นของเธอดีอย่างไม่ต้องสงสัย ทักษะของเธอดีกว่าฉันมาก แต่เพราะเป็นแบบนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่เธอจะเพิกเฉยต่อปัญหาเพราะความมั่นใจของตัวเอง”

“มีใครจำท่าเต้นของท่อนที่สี่ได้บ้างไหม?”

เหล่าเด็กฝึกก้มหน้าครุ่นคิด “ใช่ท่านี้ไหมคะ?”

หลังจากนั้นต่างก็เริ่มแสดงท่าทาง

ซูโย่วอี๋มองไปยังหัวหน้าทีม “เธอลองดู”

หัวหน้าทีมไม่รู้อะไรเลย แต่ยังคงทำตามคำสั่ง เธอรีบทำท่าทางตามในทันที

เหล่าสมาชิกตรวจสอบดูก็ไม่พบปัญหาอะไร

“อาจารย์โย่วโย่ว ท่าทางของหัวหน้าทีมดูดีมาก ๆ เลย”

“ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับท่าทางของพวกเราเลยนะคะ”

ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน ซูโย่วอี๋ไม่ได้รีบอธิบายอะไรเลยสักนิด แต่กลับถามคำถามหนึ่งขึ้นมา “ตอนพวกเธอทำท่านี้รู้สึกว่ามันยากหรือเปล่า?”

หัวหน้าทีมนิ่งไป เธอสัมผัสได้ถึงเจตนาของอาจารย์แล้ว “ถ้าเรื่องท่าเต้นมันไม่ยากมาก แต่ทุกครั้งที่ต้องเต้นท่าต่อไปก็มักจะไม่ลื่นไหลค่ะ”

มันดูติดขัดนิดหน่อย

ซูโย่วอี๋พยักหน้า “ปัญหาก็คือตรงนี้แหละ”

“จุดโฟกัสของพวกเธออยู่ผิดจุด จุดศูนย์ถ่วงของส่วนรองรับไม่ได้อยู่ที่ขาแต่มันอยู่ที่เอว พวกเธอลองใส่แรงไปที่เอวดูสิ”

หัวหน้าทีมเริ่มทำตามเป็นคนแรก ทันใดนั้นท่าทางทั้งหมดก็ดูไหลลื่นขึ้นมา

พวกเธอรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา “แบบนี้นี่เอง”

เพราะพวกเธอดูตัวอย่างจากวิดีโอ จึงไม่สามารถเห็นได้ถึงจุดโฟกัสเลย จึงทำให้เหล่าเด็กฝึกหลงจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายไปโดยไม่รู้ตัว

หลักจากการแนะนำนี้ ทุกคนเริ่มไว้วางใจเธอมากขึ้น และกลับมาตั้งใจฟังคำชี้แนะจากซูโย่วอี๋

อธิบายไปถึงสองชั่วโมง ซูโย่วอี๋จึงพูดปัญหาของเด็กฝึกทั้งแปดคนออกมาจนหมด จนรู้สึกว่าคอของเธอเริ่มจะไม่ไหวแล้ว

เป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่ได้พูดอะไรมากขนาดนี้

“วิเคราะห์ปัญหาของตัวเองออกมาให้ดี ในด้านการฝึกซ้อมฉันเองก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก พวกเธอต้องพึ่งตัวเอง หวังว่าถ้าเจอกันในครั้งหน้าฉันจะได้เห็นการพัฒนาของพวกเธอนะ”

เด็กฝึกได้รับประโยชน์อย่างมากในห้องเรียนนี้ ตอนนี้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก “วางใจได้เลยค่ะอาจารย์โย่วโย่ว พวกเราจะพยายามอย่างหนักแน่นอน”

เมื่อออกมาจากห้องฝึกซ้อม เหมยเหมยส่งกระติกน้ำร้อนให้เธอ “พี่ซูไปเรียนรู้เรื่องการเต้นมาตอนไหนกันคะ?”

ดูเชี่ยวชาญมากเลย ถ้าเป็นอย่างนี้แม้แต่อวี๋ชิงจ้าวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเต้นยังสู้ไม่ได้เลย

ซูโย่วอี๋เลิกคิ้วขึ้นอย่างมีเลศนัย “ฉันก็แค่พอจะพูดอธิบายได้บ้าง ไม่ต้องสนใจหรอก”

บริษัทผู้จัดพิมพ์ [นิตยสารรายสัปดาห์]

กองบรรณาธิการต่างก็งานยุ่งกันมาก ในทุก ๆ วันมีรูปภาพมากมายส่งเข้ามายังอีเมลของพวกเขา

ซึ่งงานคัดแยกรูปถ่ายที่ส่งมายังอีเมลตกเป็นหน้าที่ของเด็กฝึกงานอย่างไม่ต้องสงสัย ทุก ๆ วันที่เธอลืมตาขึ้นมา รอบตัวก็จะเต็มไปด้วยการแจ้งเตือนทางอีเมล

และแล้ววันสุดท้ายกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

หลังคัดแยกรูปภาพแล้วเธอจะต้องส่งรูปภาพไปให้กับรองบรรณาธิการที่ชื่อว่าเคลลี่ การคัดกรองภาพถ่ายเบื้องต้นก็คือหน้าที่ของเคลลี่ เธอจะทำหน้าที่ลบรูปภาพที่ไม่ผ่านเกณฑ์ทิ้งไป

“เจน เจน!”

เสียงตะโกนที่ดูไม่พอใจดังขึ้นมาจากในห้องทำงานของเคลลี่

เจนรีบวิ่งเข้าไปในทันที และถามขึ้นอย่างกระวนกระวาย “รองบรรณาธิการ เกิดอะไรขึ้นคะ?”

เคลลี่ชี้ไปยังรูปภาพในคอมพิวเตอร์ “พระเจ้า เธอดูรูปพวกนี้สิ เบลอจนเห็นเค้าโครงได้ไม่ชัดเจน นี่เธอส่งรูปภาพแย่ ๆ แบบนี้มาให้ฉันได้ยังไง?”

“รองบรรณาธิการ งานของฉันคือการจัดระเบียบรูปภาพ ไม่มีสิทธิ์ในการคัดกรองรูปภาพค่ะ”

เคลลี่เกาหัวของเธออย่างบ้าคลั่ง “ฟังนะ เจน ถ้าพูดตามความคิดของคนที่ต้องการจะมาเป็นพนักงานประจำ เธอควรจะต้องกระตือรือร้นในการทำงานให้มากกว่านี้ และควรมีเซนส์ด้านแฟชั่นมากกว่านี้ด้วย”

“ไม่อย่างนั้น ฉันคงคิดว่าเธอคงจะยังไม่พร้อมสำหรับงานนี้”

เจนเงียบไป

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป รูปภาพทุกรูปให้เธอเป็นคนคัดกรองแล้วค่อยส่งมาให้ฉัน เข้าใจไหม?”

“ได้ค่ะ รองบรรณาธิการ”

“ออกไปได้แล้ว”

เจนกลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างหดหู่ใจ พนักงานรุ่นพี่ที่อยู่ข้าง ๆ เธอมองเธออย่างเห็นอกเห็นใจ “เคลลี่ทำให้เธอลำบากใจอีกแล้วเหรอ? น่าสงสารจริง ๆ”

เจนยิ้มอย่างฝืน ๆ “ใครให้ฉันเป็นแค่เด็กฝึกงานกันล่ะ?”

พูดจบเธอก็ไล่บันทึกรูปภาพที่ส่งมาใหม่ในอีเมลลงในโฟลเดอร์ทีละรายการ เพียงแต่ว่าครั้งนี้เธอไม่ได้ส่งไปเลยในทันที แต่ต้องเปิดรูปภาพและคัดกรองออกก่อน

พนักงานรุ่นพี่ถึงกับประหลาดใจ “เคลลี่ให้เธอเลือกรูปภาพเหรอ?”

“อืม”

“เจน เธอจะต้องระวังให้ดีนะ ถ้ารูปภาพที่เลือกออกมานั้นเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา เคลลี่ไม่ปล่อยเธอไปแน่ ๆ”

แน่นอนว่าเจนเข้าใจในเหตุผลนี้ดี แต่ก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

เธอทำได้เพียงพยายามเลือกรูปภาพที่มีจิตวิญญาณออกมา

วันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ 31 ธันวาคมแล้ว ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเลือกรูปขึ้นปก [นิตยสารรายสัปดาห์] ซึ่งวันนี้ก็ยังคงมีรูปภาพส่งเข้ามายังอีเมลอย่างไม่ขาดสาย

เจนรู้สึกเหนื่อยล้ากับการจัดระเบียบรูปภาพมาก แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็สั่นขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูพบว่าเป็นข้อความจากเพื่อนสนิทของเธอ

[เบบี๋ งานปาร์ตี้วันเกิดเริ่มหกโมงนะ อย่าลืมล่ะ]

เจนตบหัวของตัวเอง อีกนิดก็ลืมเรื่องสำคัญไปแล้ว

แต่ยังมีรูปภาพอีกมากที่เธอยังจัดระเบียบไม่เสร็จ นอกจากรูปภาพที่พึ่งส่งเข้ามาใหม่ในวันนี้แล้ว ก็ยังมีรูปภาพที่ส่งมาก่อนหน้านั้น 2-3 วันที่เธอดูไม่ทันอีกด้วย

ต่อให้ทำทั้งคืนก็ไม่แน่ใจว่าจะทำเสร็จหรือเปล่า เลิกคิดเรื่องที่จะได้เลิกงานตรงเวลาตอนหกโมงไปได้เลย

เจนถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

เวลาค่อย ๆ ผ่านไป นาฬิกาชี้ไปยังเวลาบ่ายสอง ในใจของเจนก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ

หรือจะไม่ดูแล้วดี รูปที่ไม่ได้ดูก็แค่ลบทิ้งไปให้หมด

จากประสบการณ์การคัดกรองรูปภาพมาตลอดหลายวันนี้ คนที่ส่งมาทางออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา ๆ จึงไม่เข้าใจทักษะถ่ายภาพ ภาพก็ไม่ได้สวยงามอะไร ยิ่งไปกว่านั้นบางคนก็ดูไม่ได้เลยสักนิด

สิ่งเดียวที่สามารถหยิบเอามาพูดได้ก็คือความมั่นใจของผู้เข้าร่วมที่ตัวเธอไม่สามารถอธิบายได้ จึงเป็นการเพิ่มภาระงานกองบรรณาธิการโดยเปล่าประโยชน์

เจนแอบถามพนักงานรุ่นพี่เป็นการส่วนตัว “แค่คู่แข่งที่มีทักษะจริง ๆ พาผู้จัดการไปเข้าร่วมการคัดเลือก [นิตยาสารรายสัปดาห์] โดยตรงที่สำนักงานใหญ่ของกองบรรณาธิการเลยก็ได้นี่ ทำไมต้องเปิดให้ส่งรูปแบบออนไลน์ด้วยล่ะคะ?”

พนักงานรุ่นพี่ยักไหล่ “เพื่อชื่อเสียงไงล่ะ การเพิ่มขึ้นของสื่อใหม่ ๆ ส่งผลกระทบต่อสื่อสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิมอยู่ไม่น้อย ยอดขายนิตยสารของพวกเราก็ลดลงไปไม่น้อยเช่นกัน”

คิดได้อย่างนั้น ดวงตาของเจนก็แนวแน่มากยิ่งขึ้น ยังไงก็เป็นแค่รูปภาพที่เหมือนกองขยะกองหนึ่งอยู่แล้ว ดูหรือไม่ดูก็คงไม่ได้สำคัญอะไร

เธอคลิกเมาส์ไปที่ ‘ลบ’ จากนั้นหายใจเขาลึก ๆ และกดปุ่มลบ

ทำให้หน้าเดสก์ท็อปว่างเปล่าในทันที

พนักงานรุ่นพี่เอียงศีรษะเข้ามา “เจน ในที่สุดวันเวลาอันแสนยากลำบากของเธอก็จะจบลงแล้ว ดูรูปภาพเป็นยังไงบ้าง?”

เจนดูลุกลี้ลุกลน “ดู… ดูเสร็จแล้วค่ะ”

“ไวจัง? เมื่อวานเธอบอกว่ายังมีอีกเยอะไม่ใช่หรอ?”

“ใช่… ใช่ค่ะ ฉันคัดรูปภาพกลับไปดูที่บ้านเมื่อคืนนี้ เลยดูหมดแล้ว”

เจนอ้ำอึ้ง “ฉันคัดเลือกรูปภาพที่พึ่งส่งมาเมื่อครู่นี้เสร็จแล้ว ตอนนี้ต้องส่งไปให้รองบรรณาธิการ คุยกับพี่ต่อไม่ได้แล้วค่ะ”