ตอนที่ 503 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (3) / ตอนที่ 504 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (4)
ตอนที่ 503 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (3)
ทั้งสองหนีไปเร็วจริงๆ แต่กลับทิ้งคนพวกนี้ไว้ที่นี่ เกรงว่าจะใช้พวกเขาเป็นแพะรับบาป หมายให้หลงฉีฆ่าพวกเขาระบายความแค้น และไม่ติดใจสืบสาวราวเรื่องอีกต่อไป
ฉลาดดีนี่ รู้จักใช้ให้คนอื่นมารับกรรมแทน ส่วนตัวเองก็หนีเอาชีวิตรอด
ใจทมิฬหินชาติจริงๆ สหายกลุ่มเดียวกัน บอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งได้อย่างง่ายดาย
จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว ชั่วขณะหนึ่งไม่ได้ให้คำตอบใดๆ เลย
ความเงียบงันของจวินอู๋เสียทำให้ฟ่านจิ่นประหม่า และยิ่งทำให้กลุ่มชายหนุ่มที่กำลังรอคอยประกาศิตต่างก็รู้สึกกระวนกระวายใจ
ตอนที่ฟ่านจิ่นเรียกหลงฉีว่า ‘แม่ทัพเอกหลง’ นั้น พวกเขาก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ เกรงว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ใช่ขบวนพ่อค้าทั่วไป แต่มีฐานะที่ไม่ธรรมดา
แม่ทัพเอก…
นี่เป็นคำเรียกของนายทหารชั้นสูง!
ลู่เว่ยเจี๋ยที่ถูกหลงฉีเตะจนปางตายเอามือกุมท้อง มองหลงฉีด้วยสีหน้าสยดสยอง
เขารู้ว่าหลงฉีพวกเขามีฐานะไม่ธรรมดาเหมือนเปลือกนอกที่มองเห็น แต่เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นทหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารจากแคว้นไหน เพียงหนึ่งในบรรดาแม่ทัพเหล่านี้ก็สามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดตายโดยไร้ที่ฝังศพ การวางแผนประทุษร้ายแม่ทัพของแคว้นใดแคว้นหนึ่งนั้น แม้แต่สำนักศึกษาเฟิงหัวก็ไม่กล้าปกป้องคนผิด!
ในช่วงเวลานี้ ลู่เว่ยเจี๋ยแทบอยากจะลากตัวหนิงซินกลับมา และโดนตบหน้าสักฉาดสองฉาด ถ้าไม่ใช่เพราะหนิงซินคอยปลุกปั่นล่อลวง เขาจะถูกผีสางดลจิตใจให้ก่อเรื่องเลวร้ายกับคนพวกนี้ได้อย่างไร แล้วตอนนี้เป็นเช่นไรเล่า หนิงซินแอบหนีไปอย่างเงียบๆ ส่วนเขากลับตกอยู่ในกำมือของคนพวกนี้!
เมื่อมองกระบี่อันคมกริบที่เปล่งประกายวาววับ ลู่เว่ยเจี๋ยก็เกิดความคิดอยากฆ่าหนิงซินขึ้นมา
โชคดีที่ฟ่านจิ่นมาห้ามปรามเอาไว้ แต่ครั้นเห็นสีหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยจากแม่ทัพเอกหลง หัวใจของลู่เว่ยเจี๋ยพลันกระตุกขึ้นอีกครั้ง สุดท้ายเขากลับพบว่าแม่ทัพเอกหลงชายตามองเด็กหนุ่มท่าทางธรรมดาไม่น่าสนใจคนหนึ่ง มิหนำซ้ำยังส่งสายตาสอบถามออกไป ราวกับต้องการจะถามความคิดเห็นของเด็กหนุ่มคนนั้น
เมื่อลู่เว่ยเจี๋ยมองตามสายตาของหลงฉีไป กลับต้องอึ้งตะลึง
เขาก็เคยเจอเด็กหนุ่มนั่นอยู่ครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเข้ามาป่าประลองวิญญาณ หนิงซินเคยแอบชี้ตัวให้เขาเห็น นั่นก็คือจวินเสียที่เคยถูกคนถุยน้ำลายและด่าประณามที่สำนักศึกษาเฟิงหัวมาก่อน
ลู่เว่ยเจี๋ยทะนงตนว่าได้ลำดับที่สองของศึกประลองภูติวิญญาณ จึงไม่เคยเห็นศิษย์ต่ำต้อยเช่นนี้อยู่ในสายตา สำหรับชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของจวินอู๋เสียเขาก็เคยได้ยินมาบ้าง คิดว่ามันไม่ควรค่าพอให้เขาต้องสนใจ ถึงกับนึกรังเกียจการกระทำอันเลวทรามต่ำช้าของจวินอู๋เสีย และรู้สึกสะอิดสะเอียนเด็กหนุ่มที่เขาไม่เคยคบค้าสมาคมมาก่อน เนื่องมาจากการปลุกปั่นของหนิงซิน
แต่ลู่เว่ยเจี๋ยไม่เคยคิดมาก่อนว่า ความเป็นความตายของเขาจะขึ้นอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาดูถูกและเกลียดชัง
จากสายตาของหลงฉี เขาสามารถบอกได้เลยว่าเมื่อใดที่จวินอู๋เสียพยักหน้า ศีรษะของเขาก็จะหล่นลงพื้นทันที!
ลู่เว่ยเจี๋ยไม่เข้าใจว่าทำไมบุรุษผู้องอาจกล้าหาญที่ถูกเรียกขานว่า ‘แม่ทัพเอกหลง’ จะขอความคิดเห็นจากเด็กหนุ่มธรรมดาที่ไม่น่าสนใจคนนั้น
แต่เขารู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเขาตกอยู่ในกำมือของจวินอู๋เสีย
เขาไม่สามารถวางท่าโอหังอวดดีได้อีกต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดที่มีอยู่ทั่วทั้งสรรพางค์กาย เขาพยุงตัวเองขึ้น มองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความหวาดกลัวและเคร่งเครียด พลันกล่าวว่า “จวินเสีย! เจ้าคือจวินเสียใช่หรือไม่ ขอร้องล่ะ ให้พวกเขายกโทษให้พวกข้าในครั้งนี้ด้วย ข้าสัญญา ข้าจะชดใช้ทั้งหมดนี้แน่นอน! เรื่องนี้…ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการจะทำจริงๆ เป็นหนิงซิน! ทั้งหมดเป็นเพราะนังสารเลวหนิงซินคนนั้น! เป็นนางที่บงการ! นางเป็นคนให้อิ่นเหยียนล่อสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้นมา! มีเพียงนางเท่านั้นที่มีแผนที่ของที่นี่ พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอยู่ที่ไหน”
ตอนที่ 504 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (4)
เพื่อปกป้องตัวเอง และเพื่อแก้แค้นหนิงซินที่ทรยศ ลู่เว่ยเจี๋ยจึงรีบเปิดเผยทุกอย่าง
“ทำไมนางถึงทำแบบนี้” หลงฉีขมวดคิ้วมุ่น เขาไม่เข้าใจเลย ทำไมจากการร่วมมือกันดีๆ ถึงเดินมาถึงขั้นนี้ได้ ทำไมเด็กสายที่น่ารังเกียจคนนั้นถึงต้องการให้พวกเขาตายด้วย
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์พลิกผันไปในทางที่ดีขึ้น ลู่เว่ยเจี๋ยจึงรีบกล่าวว่า “คนอย่างหนิงซิน ถูกคนประคบประหงมเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าทุกคนในแผ่นดินจะหมอบกราบอยู่ใต้ชายกระโปรงของนาง แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่นางที่ชักสีหน้าใส่คนอื่นได้ ส่วนคนอื่นไหนเลยจะกล้าชักสีหน้าใส่นาง นางเห็นพวกเจ้ามีกองกำลังแข็งแกร่ง จนกระทั่งสามารถล่าสังหารสัตว์วิญญาณระดับสูงได้ หมายจะดึงมาเป็นพวก แต่เจ้า…ท่านกลับมองข้ามครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งนั่นทำให้นางรู้สึกอายมาก และคิดว่าไม่สามารถดึงท่านมาเป็นพวกได้ ถึงได้…ถึงได้…”
“ถึงได้ทำไม”
“ถึงได้ต้องการให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติฆ่าพวกท่าน ด้านหนึ่งก็สามารถระบายความแค้นได้ และอีกด้าน หลังจากที่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติจากไปแล้ว ก็จะสามารถค้นหาของที่อยู่บนตัวพวกท่านได้ นางบอกว่าผู้ที่มีความแข็งแกร่งมีฐานะลึกลับอย่างเช่นพวกท่านย่อมมีของดีติดตัวมากอยู่แล้ว…นางรู้ว่าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติมีการรับรู้ทางจิตวิญญาณจึงไม่กินคน ถึงได้เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้น” ลู่เว่ยเจี๋ยมองหลงฉีด้วยท่าทางอันสั่นเทา ด้วยกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิด ทำให้ตัวเองต้องพบกับหายนะถึงชีวิต
หลงฉีไม่พูดอะไรอีก หากแต่มองไปที่จวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น สายตาเหลือบมองฟ่านจิ่นที่กำลังหน้าซีดเผือดอยู่
ในคำพูดทุกถ้อยคำของลู่เว่ยเจี๋ยนั้น แต่ละคำล้วนเต็มไปด้วยการเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของหนิงซิน หน้ากากอันงดงามอ่อนโยนจอมปลอมเหล่านั้น ได้ถูกบดขยี้จากคำพูดของลู่เว่ยเจี๋ย ความจริงอันฟอนเฟะได้ประจักษ์ต่อหน้าของฟ่านจิ่นด้วยประการฉะนี้
คราวนี้ถึงแม้ฟ่านจิ่นจะไม่อยากเชื่อ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเชื่ออยู่ดี
“เจ้าได้ยินชัดทุกคำพูดแล้วหรือยัง” จวินอู๋เสียกล่าวเสียงเย็น
ฟ่านจิ่นสะท้านไปทั่งตัว เงยหน้าขึ้น สีหน้าท่าทางผิดไปจากปกติจนน่าตกใจ ตัวแข็งทื่ออยู่เนิ่นนาน จากนั้นพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
จวินอู๋เสียถอนสายตากลับมา ทำให้ฟ่านจิ่นได้เห็นธาตุแท้ของนางก็ดีเหมือนกัน การที่ได้รู้ว่าหนิงซินไม่ใช่น้องสาวตัวน้อยคนดีที่มีเหตุผลเหมือนในความคิดของเขา วันหลังเมื่อกลับไปยังสำนักศึกษาเฟิงหัว จะได้ไม่ใจอ่อนจนทำเสียเรื่อง
จวินอู๋เสียไม่ต้องการให้ความใจอ่อนดุจอิสตรีเหมือนมั่วเฉี่ยนยวนในวันนั้น ต้องมาบังเกิดขึ้นกับฟ่านจิ่นอีก
แม้ว่าฟ่านจิ่นจะซื่อตรง แต่ก็เป็นคนเด็ดขาด
“แม่ทัพเอกหลง ในเมื่อเป็นศิษย์ตึกหลักของสำนักศึกษาเฟิงหัว ฉะนั้นก็มอบให้อาจารย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวเป็นผู้จัดการเถอะ เชื่อว่าสำนักศึกษาเฟิงหัวจะให้คำอธิบายแก่พวกท่าน” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา หันไปพูดกับหลงฉีด้วยท่าทางจริงจัง
หลงฉีตกตะลึงชั่วขณะ และเมื่อเขาเห็นสายตาที่จับจ้องมาของศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวจากหางตา เขาก็เข้าใจเจตนาของจวินอู๋เสียในทันที
คุณหนูใหญ่ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยสถานะของตัวเอง
“ถ้าเช่นนั้นก็จัดการตามนี้แล้วกัน แต่ว่าเรื่องนี้จะจัดการแบบลวกๆ ไม่ได้ สำนักศึกษาเฟิงหัวต้องให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่พวกเรา” การที่ได้ติดตามจวินอู๋เสียมานาน หลงฉีก็อ่านความหมายจากคำพูดของจวินอู๋เสียได้อย่างง่ายดาย เข้าใจเจตนาของคุณหนูใหญ่ของตน
เกรงว่าคุณหนูใหญ่ต้องการเก็บคนพวกนี้ไว้เป็นประโยชน์ แต่การเก็บไว้ไม่ได้แปลว่าจะปล่อยพวกเขาไป โทษที่สมควรได้รับ ย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงพ้น!
“เป็นเช่นนั้นแน่นอนขอรับ” ฟ่านจิ่นสูดหายใจลึกพร้อมกับให้คำมั่น
“ถ้าอย่างนั้น ก็เชิญอาจารย์ของพวกเจ้ามาที่นี่เถอะ ข้ารู้ว่าศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคน ตอนที่เข้าร่วมงานล่าวิญญาณจะพกพลุสัญญาณติดมาด้วย” หลงฉีกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง