ตอนที่ 327 ไม่เชื่องได้ถูกอัดสิ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 327 ไม่เชื่องได้ถูกอัดสิ

มู่เถาเยากับลู่จือฉินพากลุ่มคนเหาะไปยังอาณาเขตของงูเถาวัลย์

“เสี่ยวหวัง ฉันมาเยี่ยมแล้ว”

ลู่จือฉินกับพวกศิษย์พี่ศิษย์หลานพากันทำหน้างง

มีคนอยู่ในนี้ด้วยเหรอ เก่งขนาดนั้นเลย!

“เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวหวังคือใครเหรอ ทำไมอาศัยอยู่ในป่านี้”

“อาจารย์สามคะ เสี่ยวหวังก็คืองูเถาวัลย์ค่ะ ดูนะคะ มันหลับอยู่ตรงนั้น”

งูเถาวัลย์แกล้งตาย

มันไม่ใช่เสี่ยวหวังนะ!

มันคือต้าหวัง!

เฮ้อ ถ้ารู้ว่านางปีศาจตนนี้จะมา มันจะหลบไปซ่อนก่อนเลย

อาการปวดตัว เวียนหัว แบบครั้งที่แล้ว โผล่มาอีกครั้งตอนเห็นนางปีศาจตนนี้

ลู่จือฉินกับพวกศิษย์พี่ศิษย์หลานต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตั้งชื่อแบบนี้ออกจะนั่นไปหน่อยไหม!

ชื่อเจ้างูน้อยยังจะเพราะกว่าเสี่ยวหวังเลยหรือเปล่า

คนไม่รู้ยังจะคิดว่าเป็นคน!

“ที่นี่เป็นอาณาเขตของเสี่ยวหวัง ไม่มีสัตว์ร้ายหรือสัตว์มีพิษอื่นๆ ทุกคนตัดเถาวัลย์ตี้หวังได้เต็มที่เลยนะคะ”

และก็เพราะเป็นแบบนี้เธอถึงได้พาทุกคนมา

ถึงแม้งูเถาวัลย์จะไม่มีพิษ แต่ก็เป็นเจ้าถิ่นที่ร้ายกาจ สัตว์อื่นไม่กล้ามาทำกร่างในบริเวณนี้

ลู่จือฉินถามด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวเยาเยา พวกเราเข้ามาในอาณาเขตของมันตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ทำไมงูเถาวัลย์ไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิดล่ะ”

ควรจะโกรธมากแล้วอยากไล่พวกเขาออกไปหรือเปล่า

“มันอาจหลับอยู่มั้งคะ” ไม่อย่างนั้นควรจะยินดีต้อนรับการมาถึงของเธอหรือเปล่า

ลู่จือฉิน “…” ลูกศิษย์พูดล้อเล่นเหรอ แถมยังทำตลกหน้าตายด้วย!

“หนูเข้าไปดูหน่อย”

ทุกคนพูดเตือนเป็นเสียงเดียวกัน “ระวังด้วย”

“อืม”

มู่เถาเยาเดินเข้าไปใกล้งูเถาวัลย์ เอานิ้วจิ้มหัวของมันที่ใหญ่กว่าตัวเธอ “เสี่ยวหวัง ตื่นได้แล้ว ตะวันแยงก้นแล้ว”

ทุกคนเงยหน้ามองฟ้า

แสงแดดส่องเข้ามาไม่ถึงด้วยซ้ำ! เพราะแมกไม้กับเถาวัลย์ตี้หวังของที่นี่เจริญงอกงามขึ้นทึบมาก!

งูชอบที่มืดและเย็น

“เสี่ยวหวัง ถ้ายังไม่ตื่นอีกจะลากออกไปแล้วนะ”

งูเถาวัลย์เห็นว่าแกล้งตายไม่สำเร็จเลยจำต้องขยับหัว

“ระวัง”

ทุกคนจับท่อนไม้ที่พกเข้ามาด้วยความตึงเครียด เตรียมสู้เต็มที่

มู่เถาเยาหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ บอกทุกคน “ไม่เป็นไรค่ะ เสี่ยวหวังเชื่องมาก”

งูเถาวัลย์ ‘ไม่เชื่องก็ถูกอัดน่ะสิ!’

น้ำตาจะไหล…

พวกศิษย์พี่ศิษย์หลานพอเห็นงูตัวเขื่องตัวนี้ไม่มีท่าทีจะทำร้ายคนจึงลงมือตัดเถาวัลย์อย่างสบายใจ

ลู่จือฉิน “เสี่ยวเยาเยา ของเหลวจากตัวงูเถาวัลย์เป็นของดีเลยนะ”

“ครั้งที่แล้วหนูเก็บไปนิดหน่อยค่ะอาจารย์ ก็เลยรู้จักกับเสี่ยวหวัง”

“ไม่สู้กันเหรอ”

ทำไมงูเถาวัลย์ตัวนี้เจอ ‘ศัตรู’ แล้วไม่ล้างแค้นล่ะ

“มันก็อยากสู้อยู่นะคะ แต่หนูออกหมัดทีเดียวมันก็หมอบเลย”

“…”

ก็ได้ นี่เป็นสไตล์ของลูกศิษย์เธอ

เร็ว แม่น โหด ทีเดียวจอด!

ก็ไม่แปลกที่งูจะทำเป็นนิ่งเฉย ปล่อยพวกเขาเข้ามาในอาณาเขตของมันได้

ลู่จือฉินพูดด้วยความจนปัญญา “เอาล่ะ พวกเราตัดเถาวัลย์แล้วขนกลับกัน ที่นี่ไกลมาก วันเดียวขนได้ไม่เท่าไรหรอก”

“ค่ะ”

กลุ่มคนตั้งหน้าตั้งตาตัดเถาวัลย์ตี้หวัง

แต่ละคนใช้เชือกที่ถือมาด้วยมัดเถาวัลย์แล้วผูกกับท่อนไม้ จากนั้นก็หามบนบ่า

ซย่าโหวเจี๋ยเฟยยิ้มพูด “ศิษย์น้องเล็ก พี่จะพาพวกเขาเอาเถาวัลย์พวกนี้กลับไปก่อน ศิษย์น้องกับอาจารย์ลู่อยู่ที่นี่ก็ระวังตัวด้วย”

มู่เถาเยาพยักหน้า “พวกศิษย์พี่ใหญ่ขนกลับเถอะค่ะ ฉันกับอาจารย์สามจะตัดอยู่ที่นี่ก่อน จะระวังตัว”

“อืม”

ซย่าโหวเจี๋ยเฟยเหาะนำพวกศิษย์น้อง หลานชาย ศิษย์หลานออกไปพร้อมเถาวัลย์ตี้หวังบราวนี่ออนไลน์

ลู่จือฉินมองทุกคนออกไป จากนั้นก็หันไปพูดกับลูกศิษย์ “เสี่ยวเยาเยา สำนักซย่าโหวสมกับเป็นสำนักฝึกยุทธ์อันดับหนึ่ง ก็ไม่แปลกที่เธอจะเก่งกว่าเมื่อชาติก่อน”

ในชาตินี้วรยุทธของลูกศิษย์เธอลึกล้ำมาก แม้แต่เธอก็จับทางไม่ถูก

มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “อาจารย์ทั้งสองคนสนับสนุนหนูดีมาก ไม่เคยหวงวิชา แม้แต่พวกศิลปะแขนงต่างๆ ขอแค่หนูอยากเรียน พวกท่านก็จะหาอาจารย์ที่เก่งที่สุดมาสอนหนู เงินเก็บของอาจารย์ทั้งสองคนในช่วงหลายปีมานี้หมดไปกับหนูทั้งนั้น”

ลู่จือฉินดีใจแทนลูกศิษย์

ถึงแม้ลูกศิษย์จะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่พอพ้นวัยเด็กก็พึ่งพาตัวเองจนโต

แต่หมอเทวดาหยวนกับเจ้าสำนักซย่าโหวก็ดีต่อลูกศิษย์เธอจากใจจริง ลูกศิษย์เธอถึงตัดใจทิ้งไม่ลง

และก็โชคดีที่เป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นใช่ว่าพวกเธอสามคนจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้

“เสี่ยวเยาเยา อาจารย์ดีใจมากที่เธอเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้”

หรือจะเรียกได้ว่าไม่เปลี่ยนเลย ก็แค่เมื่อชาติก่อนเพราะความจำเป็นทำให้ต้องเก็บซ่อนตัวตนเอาไว้

มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “หนูชอบโลกนี้มากค่ะอาจารย์”

“อืม อาจารย์กับเย่ว์เลี่ยงก็ชอบ”

บ้านเมืองมั่นคง เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ชายหญิงเสมอภาค ถึงขั้นที่ว่าไม่แต่งงานไม่มีลูกก็เป็นเรื่องปกติ ไม่เหมือนชาติก่อนที่ผูกมัดผู้หญิงมากเกินไป

โลกนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้พวกเธอชอบ

“อาจารย์ว่าตอนนี้เยี่ยนหังจะอายุเท่าไรแล้วคะ”

“น่าจะ แก่แล้วหรือเปล่า ที่นี่กับชาติก่อนอาจเป็นโลกคู่ขนานกัน ไม่ใช่โลกในภายหลังแบบที่พวกเราคิดก่อนหน้านี้”

“ตั้งแต่ตำราแพทย์ที่อาจารย์เขียนให้หนู ไปจนถึงของเล่นที่หนูทำให้เยี่ยนหัง ไหนจะโถดอกท้อ รอยคล้ายจันทร์เสี้ยว…มันเชื่อมโยงกันมากเกินไป”

“นั่นสิ ถ้าเป็นโลกคู่ขนาน ของพวกนี้จะมาปรากฏที่นี่ได้ยังไง แต่ถ้าเป็นโลกในภายหลังจากชาติก่อน เยี่ยนหังจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”

“อาจารย์คะ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเราก็ไปเกิดมาหลายครั้งแล้ว สุดท้ายชาตินี้เพิ่งจะมีความทรงจำของชาตินั้น…”

ลู่จือฉินแอบอยากขำ

อย่างน้อยๆ พวกเธอก็ความรู้สูง ทำไมถึงได้คุยกันเรื่องที่ดูงมงายแบบนี้

“เสี่ยวเยาเยา ไม่รู้แล้ว พวกเราอย่าคิดมากเลยนะ”

มู่เถาเยาก็หัวเราะ “ไม่ว่ายังไง พวกเราได้เจอกันอีกครั้งต่างหากที่สำคัญที่สุด อย่างอื่นอย่าไปสนใจมันเลยค่ะ”

เรื่องของสวรรค์ พวกเธอควบคุมไม่ได้

“ใช่ ใช้ชีวิตในชาตินี้ให้ดี ชดเชยเมื่อชาติที่แล้ว อะไรที่ควรมายังไงก็ต้องมา”

“ค่ะ”

พวกเธอเชื่อมั่นว่าเยี่ยนหังต้องมาแน่ ไม่มีทางที่จะขาดเขาแค่คนเดียว

สองศิษย์อาจารย์ตัดเถาวัลย์ตี้หวังไปคุยไป กะเวลาว่าคนที่กลับไปจะมากันแล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย

“เสี่ยวเยาเยา ศิษย์น้องของเธอพาแม่กับย่าออกจากเจียงตูแล้ว กำลังไปสุ่ยเซียง”

“ค่ะ ศิษย์น้องจิตใจเข้มแข็ง ไม่ว่าตอนจบจะดีหรือร้ายก็ทำใจได้”

“ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่ก็ยังคงเสียดาย”

“ก็ไม่รู้ว่าจะเลี่ยงได้ไหมนะคะ…”

“เด็กคนนี้เด็ดเดี่ยวมาจนถึงตอนนี้ ยังมีจิตใจที่ดีแบบนี้ได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ”

“แต่พวกเรามีใครง่ายบ้างเหรอคะ”

“ก็จริง ต่อให้เสียดายแค่ไหน ไม่ยินยอมแค่ไหน ก็ต้านวาระสุดท้ายของชีวิตไม่ได้”

เมื่อชาติก่อนเธอตามหาพี่ชายไม่เจอ ตายไปพร้อมกับความเสียดาย…

เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเยาเยาป่วยตายไปพร้อมกับเป้าหมายสร้างโลกในอุดมคติไม่สำเร็จ…

เย่ว์เลี่ยงนึกเสียใจที่ตายไป ทิ้งลูกสองคนให้ผจญกับแผนชั่วของคนเลว…

พวกเธอไม่มีใครง่ายเลย

มู่เถาเยาเห็นอาจารย์เศร้าจึงพูดเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ “อาจารย์คะ หนูจะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง ตอนเด็ก…” เธอเล่าเรื่องไร้สาระที่เคยทำตอนเด็กให้ฟัง

ลู่จือฉินหัวเราะตามคาด

ตอนที่พวกศิษย์พี่กับศิษย์หลานกลับมา ทั้งสองคนกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน

พวกศิษย์พี่เป็นคนเอาอาหารกลางวันของมู่เถาเยากับลู่จือฉินมาให้

สองศิษย์อาจารย์ตัดเถาวัลย์ตี้หวัง พวกศิษย์พี่กับศิษย์หลานก็ทยอยขนกลับไป เป็นแบบนี้เรื่อยๆ

ในเวลาหนึ่งวันขนกลับไปได้แค่เต็มคันรถกระบะ แสดงให้เห็นว่าขนออกมาแต่ละรอบใช้เวลาพอสมควร

—————————–