ตอนที่ 328 ช่วยฟื้นคืนชีพได้

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 328 ช่วยฟื้นคืนชีพได้

หลังกินอาหารเย็น มู่เถาเยาก็ชวนเด็กๆ พาม้า หมาป่า หมาบ้าน ออกไปเดินเล่น

พอกลับมา พวกผู้ปกครองอย่างลั่วอันก็บอกมู่เถาเยาว่าพวกเขาจะกลับวันพรุ่งนี้แล้ว

เสิ่นรุ่ยกับภรรยาอยู่ต่อ

ซังหลิ่นหราน หงจยาเย่ว์ และเด็กคนอื่นๆ ทำปากเบะเกาะแขนขามู่เถาเยาไม่ยอมปล่อย

พวกผู้ใหญ่รู้สึกตลก แต่ก็ฝืนใจบังคับพวกเด็กๆ ที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานให้กลับไปไม่ได้

มู่เถาเยาเห็นแขนขาตัวเองมีเด็กเกาะอยู่ก็ยิ้มถาม “ไม่อยากกลับบ้านกันใช่ไหม”

หงจยาเย่ว์กอดต้นขามู่เถาเยาพลางพูดด้วยเสียงเด็กน้อย “พี่สาวงานยุ่ง จยาเย่ว์ยังไม่ได้เล่นกับพี่สาวเลย”

“จยาเย่ว์จ๊ะ พี่ก็ยังงานยุ่งอยู่ ไม่มีเวลาเล่นเลย ถ้าพวกจยาเย่ว์อยากอยู่เล่นกับพวกพี่ๆ ต่อก็อยู่ได้นะ ไว้ใกล้เปิดเทอมพี่สาวจะพากลับไปส่งบ้านเอง”

ซย่าอวี่รีบพูด “เสี่ยวเยาเยา พวกเราเกรงใจ…”

“พี่ซย่าอวี่ พรุ่งนี้ฉันยังต้องเข้าเขตป่าชั้นในตัดเถาวัลย์ตี้หวังอีกค่ะ วันมะรืนส่งพวกเกาหม่าเสร็จก็จะเข้าเขตป่าชั้นในไปเก็บสมุนไพร น่าจะอยู่ในนั้นเกือบครึ่งเดือนเลย ให้เด็กๆ อยู่เล่นกับอันเหยี่ยกับพวกข่ายเกอได้นะคะ”

ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดไว้ อยากบ่มเพาะผู้ช่วยคนสนิทไว้ให้เสี่ยวอันเหยี่ย

เด็กๆ ที่อายุเท่ากันเล่นด้วยกันแต่เด็กย่อมมีความผูกพัน

ซย่าซือเหมี่ยว “แต่พวกเขายังเด็ก ดูแลตัวเองไม่ได้”

ใช่ว่าเธอไม่วางใจให้พวกเด็กๆ อยู่หมู่บ้านเถาหยวนซาน ก็แค่ไม่อยากรบกวนคนอื่น คนในหมู่บ้านก็มีงานต้องทำ

กันลู่พูด “ซือเหมี่ยว ฉันกับเสิ่นรุ่ยช่วยดูแลให้ได้ ก็แค่ไม่มีเตียงใหญ่พอให้นอนกันได้หมด…”

เจียงเฟิงเหมียน “ฉันกับเสี่ยวเหยานอนคนละเตียง ช่วยพาน้องนอนเตียงละคนได้นะคะ”

อวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้า

มู่หว่าน “ฉันก็ด้วย”

มู่เถาเยามองพวกเด็กสาวที่ยิ้มร่า จากนั้นก็พูดกับกันลู่ “ไม่งั้น พวกพี่กันลู่ก็ไปพักบ้านผู้ใหญ่บ้าน ตอนเย็นเอาปู้อวี๋กับเจียวหยางนอน ให้ลุงผู้ใหญ่บ้านกับป้าเฟยเอาหลิ่นหรานกับจยาเย่ว์นอน จับเด็กๆ แยกคงไม่ดี”

บ้านผู้ใหญ่บ้านมีพวกพี่สาวอย่างมู่หว่านที่พวกเด็กๆ คุ้นเคยดี พวกเด็กๆ ไปอยู่ที่แปลกก็คงไม่ถึงกับหวาดกลัว

มู่หว่านยิ้มพลางพยักหน้า “พ่อแม่ฉันต้องดีใจแน่”

ซย่าอวี่พูดด้วยความเกรงใจ “แบบนี้จะเป็นการรบกวนครอบครัวผู้ใหญ่บ้านเอานะ”

มู่หว่านยิ้มกว้างให้ซย่าอวี่ “ไม่รบกวนเลยสักนิดค่ะ พ่อแม่ฉันชอบเด็กมาก ชอบเอาแต่พูดถึงฉันกับพี่ชายตอนเป็นเด็ก”

บอกว่าพวกเธอสองพี่น้องตอนเด็กๆ น่ารักมาก โตมากลับงั้นๆ…

ก่อนหน้านี้พวกผู้อาวุโสก็บอกให้ปล่อยเด็กๆ ไว้ที่นี่ก่อน ซย่าอวี่กับพวกลั่วอันจึงไม่ปฏิเสธแล้ว

คนหมู่บ้านเถาหยวนซานจริงใจ ไม่มีทางเสแสร้งจอมปลอม พวกเขาจึงไม่รั้นอีก

ซย่าซือเหมี่ยวยิ้มพูด “งั้นพรุ่งนี้พวกเราจะพาเด็กๆ ไปส่งที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เสี่ยวหว่าน อีกเดี๋ยวกลับบ้านรบกวนบอกพ่อกับแม่เธอด้วยนะ”

มู่หว่านพยักหน้า “เสี่ยวเหมียนกับเสี่ยวเหยาพักห้องเดียวกัน ในบ้านเลยเหลือห้องว่างอีกห้อง เดี๋ยวกลับไปฉันจะทำความสะอาดให้ค่ะ ผ้าปูเตียงกับปลอกผ้าห่มซักเก็บไว้แล้ว พรุ่งนี้พี่กันลู่กับพี่เสิ่นย้ายเข้ามาพักได้เลยนะคะ”

พวกกันลู่ยิ้มพลางพูดขอบคุณมู่หว่าน

มู่หว่านยิ้มตาโค้ง “ไม่เป็นไรค่ะ”

ลั่วอัน “เสี่ยวเยาเยา วันนี้ชิ่นชิ่นรู้ว่าพวกเรามาหมู่บ้านเถาหยวนซานก็เลยอยากมาด้วย”

มู่เถาเยายิ้ม “ชิ่นชิ่นมาก็อาจไม่ได้เจอฉัน รอเจอกันตอนเปิดเทอมดีกว่าค่ะ”

“เห็นชิ่นชิ่นบอกว่า หลังเปิดเทอมเธอก็จะเรียนป.โทเลยเหรอ”

“ค่ะ ฉันเก็บหน่วยกิตสี่ปีของป.ตรีครบหมดแล้วค่ะ”

“นี่เพิ่งเทอมเดียวเองนะ…”

พวกเสิ่นรุ่ยตะลึงก่อน จากนั้นก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล

ยิ่งได้อยู่ในหมู่บ้านเถาหยวนซานพวกเขาก็ยิ่งได้เห็นความเก่งของมู่เถาเยา

เสิ่นรุ่ยรู้สึกโชคดีจากใจจริงที่ตอนนั้นไม่ได้ปฏิเสธการร่วมงานเพราะสินค้าของมู่เถาเยาไม่มีชื่อเสียง

ตอนนี้เขาอาศัยสินค้าของมู่เถาเยาทำกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว

ซย่าอวี่ยิ้มถาม “งั้นเสี่ยวเยาเยาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูแล้วจะกลับมาไหม หรือไปทำงานที่อื่น”

กิจการของหมู่บ้านเถาหยวนซานใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ พลอยทำให้หมู่บ้านข้างเคียงอย่างหมู่บ้านน้ำเหนือกับหมู่บ้านสายน้ำไหลร่ำรวยขึ้นไปด้วย

การพัฒนาที่รวดเร็วนี้เหมือนเพียงแค่ชั่วพริบตา! ใครยังจะกล้าพูดอีกว่ากลับหมู่บ้านก็ไม่มีอนาคต

เดิมทีอาของเธอบอกกับซย่ามั่วลูกพี่ลูกน้องเธอว่าทำงานให้คนอื่นมีแต่ความไม่ยุติธรรม ตอนนี้เธอขอยกมือเห็นด้วย

มู่เถาเยายิ้มบาง “หลังเรียนจบฉันจะไปอยู่เมืองหลวงสองปีค่ะ จากนั้นจะตั้งใจศึกษาวิจัย” กับบริหารบ้านเมือง

วันหน้าพวกเขาอาจได้เห็นเธอทางโทรทัศน์

ตอนนี้รู้กันแค่ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงน้อยแห่งอาณาจักรธุรกิจเทียนเย่ว์

พวกเสิ่นรุ่ยพยักหน้า

ลูกศิษย์คนสุดท้ายของหมอเทวดาหยวนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางหมดอนาคต

มู่เถาเยามองพวกเด็กๆ ที่เกาะแขนขาเธออยู่ “นี่ก็เย็นมากแล้ว เด็กๆ กับผู้อาวุโสต้องพักผ่อนแล้วนะคะ”

ทุกคนเริ่มแยกย้าย

ไม่นานห้องรับแขกก็ว่างลง

ตี้อู๋เปียนลีลาไม่ยอมไป

“มีอะไรเหรอ”

“ซาลาเปาน้อย เธอบอกว่าจะหาศิษย์พี่หรือศิษย์หลานมาสอนฉันสะสมกำลังภายในไม่ใช่เหรอ”

“จางหมิงเจ๋อลูกชายของศิษย์พี่รองฉัน คุณเคยเจอ พรุ่งนี้หลังอาหารเย็นเขาจะมาที่นี่ พวกคุณนัดเวลาเรียนกันได้เลย”

“…อ่อ ซาลาเปาน้อย ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ศาสตราจารย์จินเอามามีเขียนเรื่องผลหมื่นปี เธอรู้จักผลหมื่นปีไหม”

วันนี้เขาถามเสี่ยวฉยงแล้ว ได้รายละเอียดมากกว่าที่ในตำราโบราณเขียนไว้

“ผลหมื่นปีเหรอ คุณแน่ใจเหรอ”

ตี้อู๋เปียนบรรยายลักษณะและสรรพคุณที่ในตำราบอกไว้ให้มู่เถาเยาฟัง

“ใช่ นี่แหละผลหมื่นปี! ตี้อู๋เปียน เอาหนังสือเล่มนั้นมาให้ฉันดูหน่อย” น้ำเสียงของมู่เถาเยาเร่งรัดเล็กน้อย

“อยู่ที่ห้องหนังสือ พวกเราขึ้นไปดูไหม”

“ได้”

มู่เถาเยาเดินนำหน้า แม้จะไม่ได้ก้าวยาวๆ แต่ตี้อู๋เปียนก็รู้สึกได้ว่าเธอรีบ

ไปถึงห้องหนังสือ ตี้อู๋เปียนเอาหนังสือเล่มนั้นออกมา เปิดไปหน้านั้นให้มู่เถาเยาดู

มู่เถาเยารับหนังสือมาดูที่รูปก่อนแล้วไล่อ่านทีละอักษร

“ใช่ผลหมื่นปีจริงด้วย!”

“ซาลาเปาน้อย ผลหมื่นปีมหัศจรรย์ขนาดนั้นจริงเหรอ ช่วยคืนชีพได้เหรอ ทำไมฉันดูแล้วมันเหมือนหลอกลวงชัดๆ !”

“จริงหรือหลอกยังไม่รู้ นี่เป็นของในตำนาน ฉันก็แค่เคยได้ยินมา”

“ของในตำนาน…ดูจะเยอะเกินไปแล้วนะ”

ตี้อู๋เปียนแค่ถอนหายใจ ไม่ได้สงสัย

อย่างไรเสียสรรพสิ่งที่ไม่ทราบแน่ชัดในป่าเซียนโหยวก็มีมากมาย ดีไม่ดีอาจมีสิ่งมหัศจรรย์ที่เล่าขานกันมา ก็แค่พวกเขาไม่รู้จัก

ดังนั้นขาดแคลนอะไรเข้าไปหาในป่าเซียนโหยวก็ถูกต้องแล้ว

ถ้าที่นี่ไม่มีก็อย่าไปหวังกับที่อื่นเลย

“ผลหมื่นปีแอบคล้ายเชอร์รี่นะ ท่าทางน่าอร่อย”

เถาวัลย์ตี้หวังบอกเสี่ยวฉยงว่า ผลหมื่นปีอร่อยมาก ก็ไม่รู้ว่าไปได้ข้อสรุปมาจากไหน

หรือจะมีพืชที่กินพืชด้วย

ช่างมันก่อน ไว้เขาเข้าป่าเซียนโหยวได้เมื่อไรจะพาซาลาเปาน้อยไปเก็บ

เธอต้องชอบกินแน่!

—————————–