บทที่ 347 ตัวตนของอู๋ฝาน
บทที่ 347 ตัวตนของอู๋ฝาน
หลังวางสายจากโหวเสี่ยวกวง อู๋ฝานทางหนึ่งก็โล่งใจ อีกทางหนึ่งก็รู้สึกกดดัน
ความรู้สึกที่ได้มีเพื่อนเช่นโหวเสี่ยวกวงซึ่งเชื่อใจในตนเองนั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็เพราะอีกฝ่ายเชื่อมั่นในตัวเขาถึงขนาดนั้น เขาจึงยิ่งไม่อาจทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดจนเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายได้
ร้านโลกในแหวนยังได้รับความนิยมอย่างร้อนแรง หวงถิงเฟิงกำลังยืนอยู่ที่ชั้นสองของร้านคัลเลอร์แมน สายตามองไกลออกไป รถและผู้คนที่คุ้นเคยจำนวนหนึ่ง พวกเขาไม่ได้มาที่ร้านคัลเลอร์แมนเหมือนที่เคยเป็น แต่กลับไปใช้บริการร้านฝั่งตรงข้ามถนนที่ชื่อว่าโลกในแหวน นับตั้งแต่ร้านโลกในแหวนเปิดทำการ ร้านคัลเลอร์แมนก็ยิ่งซบเซาขึ้นทุกวัน มันจึงทำให้เขาคิดแผนการร้ายขึ้นมา ในฐานะผู้จัดการของร้านคัลเลอร์แมน ผลกำไรที่ต่ำของร้าน ส่งผลให้ความกดดันต่อตัวเขาก็ยิ่งมากขึ้น
“ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นไปหาที่มาของวัตถุดิบกันเจอหรือยัง” หวงถิงเฟิงครุ่นคิดกับตนเองอยู่ในใจ
ตั้งแต่คิดโจมตีร้านโลกในแหวนด้วยที่มาของวัตถุดิบครั้งก่อน หวงถิงเฟิงก็พยายามลงแรงอย่างหนัก จนกระทั่งได้รู้ว่ามีบริษัทรถบรรทุกที่มักเข้าออกส่งวัตถุดิบให้แก่ร้านโลกในแหวน หลังจากนั้นเขาก็ไปจ้างวานคนกลุ่มหนึ่งให้คอยจับตามองบริษัทรถบรรทุก เพื่อดูว่าจะสามารถติดตามจนได้เบาะแสเรื่องวัตถุดิบที่ร้านโลกในแหวนนำมาใช้ได้ไหม
แต่บริษัทรถบรรทุกไม่ได้ร่วมงานกับอู๋ฝานเพียงแค่เจ้าเดียว ดังนั้นหวงถิงเฟิงจึงต้องใช้คนจับตาดูอยู่หลายวัน ติดตามขบวนรถบรรทุกไปหลายครั้ง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวที่ต้องการ
และเย็นวันนี้เองที่เขาได้รู้ข่าวอีกครั้งว่าบริษัทรถบรรทุกส่งขบวนรถออกไปรับสินค้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงใช้คนให้ติดตามไป ตอนนี้ตนกำลังรอให้คนกลับมารายงานให้ทราบ
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่บริกรของร้านจะเข้ามาพร้อมกลุ่มคน “ผู้จัดการครับ พวกเขาแจ้งว่าต้องการพบผู้จัดการ และมีการนัดหมายเอาไว้แล้วครับ”
หวงถิงเฟิงมอง เมื่อเห็นว่าเป็นกลุ่มคนที่ตนเองจ้างไปตรวจสอบต้นตอวัตถุดิบของร้านโลกในแหวน ตอนนี้จึงตอบรับ “อืม นายออกไปก่อน”
บริกรคนนั้นหันหลังกลับออกไป แต่ก่อนที่เขาจะออกไปนั้น ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องมองกลุ่มคนด้วยความสงสัย ว่าคนกลุ่มนี้ไปทำอะไรมาถึงหน้าบวมจมูกเบี้ยว และตอนนี้กำลังมาพูดคุยอะไรกับผู้จัดการร้าน
หวงถิงเฟิงไม่อาจใช้พนักงานของร้านไปตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบที่ร้านโลกในแหวนใช้ได้ ดังนั้นจึงต้องจ้างวานคนนอก เขาเป็นผู้จัดการของที่นี่มานานหลายปี เคยเกี่ยวข้องกับคนสารพัดวงการ ดังนั้นการหาคนที่เหมาะสมมาทำงานเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็น
งานสืบหาที่มาที่ไปของวัตถุดิบนั้นไม่ได้ลำบากอะไร อย่างไรเบาะแสก็ให้ไปแล้ว แต่เหตุใดพวกเขาถึงดูไม่จืดกันถึงขนาดนี้ได้?
“พวกนายไปทำอะไรมากันแน่? การตรวจสอบเป็นยังไงบ้าง?” หวงถิงเฟิงเอ่ยถาม
“ขบวนรถบรรทุกมุ่งหน้าไปทางโกดังนอกเมือง ภายในโกดังนั่นมีวัตถุดิบมากมายเก็บเอาไว้ครับ” หนึ่งในคนหนุ่มเอ่ยคำตอบกลับมา
“โกดัง? ข้างในเป็นยังไง? แล้ววัตถุดิบพวกนั้นมาจากที่ไหน?” หวงถิงเฟิงมีแรงขึ้นมาจนเร่งร้อนถาม หลังสืบหามาหลายวัน ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นอยู่ภายในโกดังแห่งหนึ่ง และมันจะต้องเป็นของที่ร้านโลกในแหวนนำมาใช้งาน
“ไม่รู้ครับ พวกเราพยายามตีเนียนเข้าไปดูด้านในโกดังแล้ว แต่ถูกพบเลยโดนอัดมาจนสภาพเป็นอย่างที่เห็น” คนหนุ่มอีกคนหนึ่งเอ่ยตอบ
“ใคร? คนเฝ้ายามของโกดังงั้นเหรอ?” หวงถิงเฟิงเอ่ยถาม
“ครับ มีการเฝ้าระวังความปลอดภัย แต่คนที่เล่นงานพวกเราไม่ใช่ยามรักษาความปลอดภัย เขาบอกว่าโกดังนั้นเป็นของตัวเอง ทั้งยังทุบตีพวกเราหนักมือ ผู้จัดการหวง งานนี้เป็นงานที่ทำพวกเราต้องเจ็บตัว ต้องมีค่าตอบแทนที่มากขึ้นใช่ไหมครับ?”
“บอกว่าโกดังเป็นของตัวเองงั้นเหรอ?” หวงถิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถัดจากนั้นจึงเอ่ยถาม “อีกฝ่ายเป็นคนหนุ่ม ดูหน้าตาดีพอประมาณ แค่มองก็บอกได้ใช่ไหมว่าออร่าไม่เหมือนคนทั่วไป?”
“ใช่ครับ ผู้จัดการหวงรู้เหรอครับว่าเขาเป็นใคร?”
คนหนุ่มเหล่านี้ถูกอู๋ฝานอัดจนน่วม ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รู้ว่าผู้ลงมือเป็นใคร
“เขา? ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเจ้าของร้านโลกในแหวน” หวงถิงเฟิงตอบกลับ เขาไม่นึกว่าอู๋ฝานจะดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับเรื่องวัตถุดิบมาก ไม่แปลกที่เขาซึ่งพยายามสืบมาจนถึงตอนนี้ ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้ข้อมูลส่วนนี้มา ที่แท้ก็เพราะชายคนนั้นออกหน้ารับผิดชอบเรื่องวัตถุดิบด้วยตัวเอง
แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นก็แสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบที่อู๋ฝานนำมาใช้งานมีความลับซ่อนอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วคนที่เป็นเถ้าแก่ใหญ่เช่นอีกฝ่าย คงไม่มีทางรับผิดชอบดูแลเรื่องวัตถุดิบด้วยตัวเอง
“เถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน?” กลุ่มคนหนุ่มที่ได้ยินถึงกับประหลาดใจ
เดิมพวกเขาคิดว่าตัวตนของอู๋ฝานก็แค่คนธรรมดา แค่มีโกดังในครอบครองอยู่บ้าง ไม่ได้คาดว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายจะเป็นถึงเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน
ก่อนหน้านี้หวงถิงเฟิงไม่ได้บอกพวกเขาว่าเรื่องราวที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้นคืออะไร ตอนนี้เมื่อได้รู้ถึงตัวตนของอู๋ฝาน พวกเขาจึงแสดงอาการตื่นตกใจกันออกมา
ร้านโลกในแหวนเหรอ?
แม้พวกเขาก็ยังรู้ว่ามันคือสถานที่ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าร้านคัลเลอร์แมน ทุกวันนี้พวกเขาเห็นรถหรูมากมายไปจอดกันเต็มลานจอดรถของร้านโลกในแหวน แค่นั้นก็มากพอให้เดาแล้วว่าเถ้าแก่ของร้านมีอำนาจมากแค่ไหน มีเส้นสายถึงเพียงใด ต่อให้เป็นคนนอก ก็พอคาดได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อยอย่างแน่นอน
“กลัวงั้นสิ? ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเถ้าแก่ร้านโลกในแหวน มันก็จับพวกนายกินไม่ได้หรอก!” หวงถิงเฟิงมองกลุ่มคนพลางค่อนแคะ “ในเมื่อรู้ตำแหน่งที่ตั้งโกดังแล้วก็คอยจับตาให้ฉันต่อไป ดูว่ามีรถคันไหนเอาวัตถุดิบมาส่งที่โกดังนั่น เห็นเมื่อไหร่ก็ตามรถคันนั้นไปถึงต้นทาง สืบมาให้ชัดว่าวัตถุดิบพวกนั้นมาจากที่ไหน”
มันเป็นไปไม่ได้ที่วัตถุดิบมากมายจะถูกเสกมาจากความว่างเปล่าในโกดัง วัตถุดิบเหล่านั้นจะต้องมีการลำเลียงส่งมาจากที่อื่น หวงถิงเฟิงต้องการสืบให้ได้ว่าต้นตอของวัตถุดิบเหล่านั้นมาจากที่ไหน เมื่อถึงเวลาเขาจะได้เล่นงานที่แหล่งวัตถุดิบของร้านโลกในแหวน
แต่ที่หวงถิงเฟิงไม่คาดคิด คือทันทีที่ตนเองออกคำสั่งจบ กลุ่มคนหนุ่มจะพร้อมใจกันส่ายหน้าปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ผู้จัดการหวง คุณคงต้องหาคนอื่นมารับช่วงต่องานนี้แทนแล้ว พวกเราทำต่อไม่ได้ อีกฝ่ายแข็งแกร่งและมีอำนาจ เขาเตือนพวกเราแล้วว่าอย่าโผล่หน้าไปให้เขาเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง”
หากอู๋ฝานเป็นเพียงแค่คนธรรมดา คำเตือนก่อนหน้านี้พวกเขาก็คงไม่เก็บมาใส่ใจ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ว่าจะตัวตนหรือว่าฝีมือ พวกเขาก็ได้เห็นและรู้กับตัวเองแล้วว่าไม่ธรรมดา บทเรียนอันหนักหนาที่ได้รับครั้งนี้ พวกเขาไม่คิดอยากกลับไปถูกเล่นงานจนยับอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อรู้ตัวตนของชายคนนั้นแล้ว พวกเขายิ่งทราบดีแก่ใจ ว่าหากชายหนุ่มต้องการจัดฉากอุบัติเหตุอะไรสักอย่างขึ้นมา ถึงเวลาคนเช่นพวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
“กลัวเรื่องนี้งั้นเหรอ?” หวงถิงเฟิงค่อนแคะเหยียดหยัน “ไม่ต้องกังวล ฉันจะจ่ายให้เท่าที่ควรต้องจ่าย ขอแค่สืบหามาให้ได้ว่าจริง ๆ แล้ววัตถุดิบพวกนั้นมาจากที่ไหน ฉันจะจ่ายให้อย่างงาม”
เมื่อหวงถิงเฟิงยินดีจ่ายเงินเพิ่ม กลุ่มคนจึงจิตใจหวั่นไหว แต่พวกเขาก็ยังคงหวาดกลัวอู๋ฝาน ขณะนี้เองที่หนึ่งในกลุ่มคนพูดกับหวงถิงเฟิง “ผู้จัดการหวง เขาไม่ได้แค่เตือนพวกเรา แต่ยังฝากข้อความมาถึงคุณด้วยครับ”
——————————