ตอนที่ 156 ผู้เก่งกาจในการใช้เครื่องมือเวท (2)
“ศิษย์พี่ใหญ่…” จ้าวกงหมิงพบหัวข้อที่จะกล่าวถึง “ศิษย์พี่ ท่านจะเข้าร่วมการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าในคราวนี้หรือไม่ขอรับ?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกำลังจะกล่าวอย่างเป็นกันเองว่า “ยังมีธุระอื่น”
ในเรื่องนี้ เขาได้หลอก ‘ศิษย์น้องในอนาคต’ ให้ไปดูแลเรื่องยุ่งยากนั้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วม
บังเอิญเป็นโอกาสที่จะให้ ‘ศิษย์น้องในอนาคต’ ได้แสดงผลงานบ้างเพื่อให้ท่านอาจารย์สนใจคิดจะรับเขาเป็นศิษย์
ดังนั้น เมื่อปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกำลังจะเอ่ยออกไป ทันใดนั้น เขาก็จบลงด้วยการกล่าวว่า “ข้ายังมี…”
ไป
เมื่อคำว่า ‘ไป’ วาบขึ้นมาในใจ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูจึงกล่าวว่า “ข้ายังมีงานสำคัญบางอย่างที่ต้องดูแล เมื่อจัดการเสร็จแล้ว จึงจะไปดูสักหน่อย”
ดวงตาของจ้าวกงหมิงเปล่งประกายขึ้นมาทันทีพร้อมกับคำนับให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูแล้วกล่าวว่า “ผู้น้องจะให้พวกเขาเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อรอการมาถึงของท่านอย่างแน่นอนขอรับ!”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูเงียบงันทันที…
ดูเหมือนว่าบทนี้จะซ้ำแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น บนยอดเขาหยกน้อย หลี่ฉางโซ่วก็บินกลับมาจากหอไป่ฝานด้วยระดับความสูงที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
ความจริงแล้ว ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพเคยเปรยกับเขามาแต่เริ่มแรกแล้ว เขารู้ว่าเขาต้องไปร่วมการประชุมครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาแอบส่งอิทธิพลไปยังเหล่าคนระดับสูงของสำนักอย่างลับๆ
หลี่ฉางโซ่วรีบขจัดความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว การแอบวิพากษ์วิจารณ์ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพในใจเช่นนี้ เป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งจริงๆ
เช่นเดียวกับคำพูดอันโด่งดังในชีวิตก่อนหน้านี้ของหลี่ฉางโซ่วที่ว่า – “หากมิใช่ว่าพอใจจริงๆ ผู้ใดจะเต็มใจเป็นตัวสำรอง?”
หากไม่ใช่เป็นเพราะโลกบรรพกาลอันตรายเกินไป ผู้ใดจะ…
ไม่ ข้าเต็มใจที่จะทำงานเล็กน้อยให้กับท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพมาก!
มันย่อมต้องมีเหตุผลบางอย่าง ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพจึงให้เขาไปที่การประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า
เมื่อคิดให้ดีๆ แล้ว ก็นับว่ามีเหตุผล
ดูเหมือนว่า เผ่าพันธุ์มังกรและสำนักบำเพ็ญประจิมจะอยู่นอกสำนักบำเพ็ญเต๋า แต่ความจริงแล้ว…
ความจริงแล้ว… “มันจะมีผลอย่างไร? สำนักบำเพ็ญเต๋าจะรุ่งเรืองมากขึ้นด้วยเหตุนี้หรือไม่? สำนักบำเพ็ญประจิมจะเร่งการรวมเผ่าพันธุ์มังกรหรือไม่? หรือสำนักบำเพ็ญประจิมจะวางแผนต่อต้านการประชุมครั้งนี้? ศิษย์สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินคนเดียวจะไปทำอะไรได้” หลี่ฉางโซ่วพึมพำและเดินไปมาไม่หยุดในห้องลับใต้ดินนั้น
เขาเอาแต่ขบคิดในเรื่องนี้ แต่ก็คิดไม่ออก จึงทำได้เพียงอ้างเหตุผลเท่านั้น เนื่องจากเป็นการเตรียมการของปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพ เขาจึงมองหาเหตุผลไม่ได้
หลี่ฉางโซ่วคิดว่า บางทีเขาอาจเป็นเพียงแค่ลิ่มตรึงตำแหน่งที่ไม่สำคัญบนสะพานไม้ ซึ่งหากไม่มีเขา ก็ยังใช้สะพานไม้ได้ เพียงแต่จะไม่มั่นคงเล็กน้อยเท่านั้น
หลี่ฉางโซ่วได้อ่าน ‘ไท่ชิงเต๋าหาน'[1] ประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว เนื้อหาในตำรานั้นเกี่ยวกับความมั่นคง การอยู่ติดบ้าน และความเกียจคร้านไม่ทำสิ่งใด…
แค่กๆ สิ่งที่เขาต้องการส่งเสริมคือ ความสงบ วางเฉย และหลีกเลี่ยงกรรม!
ความมั่นคง สันโดษ และความเกียจคร้าน!
หลี่ฉางโซ่วมองดูคำว่า ‘มั่นคง’ ที่แขวนอยู่บนผนังของห้องลับใต้ดินด้วยความรู้สึกสะท้อนใจเล็กน้อย
ในด้านเต๋านั้น เขาด้อยกว่า ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพไท่ชิงมาก …
ในเมื่อต้องไป เขาจึงต้องเตรียมทุกสิ่งให้พร้อม
แน่นอนว่า เมื่อออกไปข้างนอก เขาต้องมียาพิษทุกชนิดและจานเวทค่ายกลขนาดเล็ก
เขาจะต้องสร้างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใหม่อีกสองสามตัวโดยให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ระบุ ‘มนุษย์’ หนึ่งตัวอยู่กับศิษย์น้องหญิงและอีกหนึ่งตัวอยู่กับอาจารย์ของเขา
และต้องทำเพิ่มขึ้นอีกสองตัวที่ระบุว่า ‘ทะเล’ เพื่อให้ไปปกป้องสำนักเทพทะเลในทะเลทักษิณ
เขาต้องนำตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘เทพ’ ตัวใหม่สองตัวไปเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะอยู่รับมือเชิงรุกได้มากขึ้นเมื่อเผชิญกับอันตราย
เขาย่อมจะไม่ทำเช่นนั้น หากไม่เป็นเพราะต้องใช้เวลาในการสร้างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใหม่มากเกินไปและหลี่ฉางโซ่วต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำความเข้าใจ ‘ไท่ชิงเต๋าหาน’ และยับยั้งขอบเขตพลังปราณของเขาเอง
ก่อนออกเดินทาง เขาจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
หลังจากตรวจสอบเครื่องมือต้านการหยั่งรู้ต่างๆ ที่เขาติดตั้งบนร่างกาย ชุดจำแลงกายพิทักษ์วิญญาณ ไข่มุกขจัดพิษ กระบี่สมบัติวิญญาณ และสมบัติวิญญาณสายป้องกันอื่นๆ จำนวนมาก… เมื่อเขาคัดแยกถุงเก็บสมบัติขนาดใหญ่และเล็กบนร่างกายอย่างระมัดระวังและนับของที่เป็นไพ่ไม้ตายทุกชนิดแล้ว ในที่สุดเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น
ความจริงแล้ว แผ่นหยกสองแผ่นที่มีกลิ่นอายลมปราณของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูนั้นเป็นยันต์ช่วยชีวิต ซึ่งแน่นอนว่า หลี่ฉางโซ่วย่อมไม่ลืมพกพาพวกมันไปด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ เขายังพบวิธีใช้บุญของตัวเองเพื่อแสร้งทำเป็นว่าเขามีร่างทองแห่งบุญ และยังเพิ่มเข้าไปในห้องเก็บไพ่ไม้ตายช่วยชีวิตอีกด้วย…
เมื่อแยกแยะสิ่งของที่จะนำออกไปภายนอก หลี่ฉางโซ่วก็นึกถึง ‘คำถามทดสอบความมั่นคง’ ง่ายๆ
คำถามคือ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูนับพัน เขาจะมีปฏิกิริยาต่างกันอย่างไร?
คำตอบที่ถูกต้องคือ สิ่งที่ได้ยินด้วยหูและสิ่งที่ได้เห็นด้วยตานั้นแตกต่างกันไป
‘ทฤษฎีความมั่นคง’ รองรับการเลือกใช้เวทหลีกลี้ปฐพีซ่อนกาย และหลีกลี้วารีเร้นกายซึ่งลึกลับที่สุดเพื่อหลบหนี หรือใช้หลีกลมเร้นกาย และหลีกลี้อัคคีซ่อนกายที่หลบหนีได้เร็วที่สุด
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบาๆ แล้วสงบใจก่อนจะเตรียมการต่อไป
สองสามวันต่อมา เขาก็เริ่มรู้แจ้งใน ‘ไท่ชิงเต๋าหาน’ จากนั้นจึงคำนวณความเร็วในการฝึกบำเพ็ญและก้าวหน้าสู่ขอบเขตต่อไปพร้อมกับเสถียรทุกขอบเขตเล็กๆ ของเขาให้มั่นคง
รากฐานเต๋าดุจดั่งเจดีย์สูง
ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะกลายเป็นเซียน ฐานเจดีย์ของเขามีเสถียรภาพเก้าสิบเก้าในร้อยส่วนแล้ว แต่เมื่อกลายเป็นเซียน ขอบเขตพลังปราณของเขาก็ทะยานขึ้นสูงจนเหนือกว่าขอบเขตเซียนหยวนและเซียนเสิ่น…
ในความเห็นของหลี่ฉางโซ่ว รากฐานเต๋าส่วนใหญ่นั้นไม่เสถียร ในตอนนี้เขาฝึกบำเพ็ญหนักได้เฉพาะส่วนเจดีย์ระดับสูงและเจียรรากฐานเต๋าด้านล่างให้แน่นขึ้นทีละน้อย
ยังมีทัณฑ์สวรรค์แห่งเซียนรอเขาอยู่ข้างหน้า หากเขาข้ามผ่านไปไม่ได้ ก็จะกลายเป็นเถ้าธุลีในที่สุด
หลี่ฉางโซ่วเริ่มเตรียมการสำหรับแผนการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์แล้ว หนึ่งในสองเรื่องที่น่าเชื่อถือที่สุดคือ บุญคุ้มครองและบุญสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน
ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนฝึกบำเพ็ญเพื่อทะลวงด่านให้ขอบเขตพลังปราณก้าวหน้าขึ้นไป…
เขายังต้องการคงไว้อยู่ในจุดนั้น
ข้าควรสร้างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใหม่ที่อยู่เพียงขอบเขตคืนกลับเต๋าวิถีและส่งไปที่การประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าดีหรือไม่?
เมื่อหลี่ฉางโซ่วพิจารณาและวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียอย่างจริงจังแล้ว เขาก็ปัดความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
นั่นเป็นการจงใจจัดการกับงานที่จอมปราชญ์เทพมอบหมายให้มิใช่หรือ?
ต้องใช้อาหารมากเท่าใด เรื่องเล่ามากเท่าใด และต้องดื่มสุราเมามายมากเพียงใดถึงจะไร้สติ จนกล้าทำเรื่องสิ้นคิดไม่กลัวตายเช่นนี้ได้!?!
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่ฉางโซ่วจัดการเรื่องของตัวเองแล้ว เขาก็เตรียมการอื่นๆ ต่อไป
เป็นต้นว่า ในยามนี้ แบบลงรายละเอียดของนักพรตเต๋าขั้นสูงของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน ส่วนใหญ่ยังคงเว้นว่างอยู่มาก ซึ่งจะมีตัวเลือกต่างๆ เช่น ลักษณะนิสัย ประวัติความเป็นมา ความชอบและอื่นๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะต้องใช้เวทวายุวัจน์เพื่อให้ได้รับข้อมูลนั้น
อย่างที่สอง หลี่ฉางโซ่วยังได้เตรียม ‘อุปกรณ์เล็กน้อย’ สำหรับอาจารย์อาของเขา และ ‘กลยุทธ์ฉุกเฉินบางอย่างสำหรับเหล่าผู้อาวุโส’
เพื่อรับผิดชอบหน้าที่ในฐานะหัวหน้าศิษย์ให้สำเร็จอย่างเต็มที่และให้มั่นใจว่า สำนักตู้เซียนจะไม่ก่อปัญหาใด หลี่ฉางโซ่วจึงทุ่มเทอย่างหนักในการทำตำรา ‘คู่มือสำหรับศิษย์สำนักตู้เซียนที่เข้าร่วมการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋า’
เขาจะมอบคู่มือนี้ให้อาจารย์ลุงจิ่วอูในภายหลัง และมอบให้สำนักในนามของอาจารย์ลุงจิ่วอู
รางวัลก็ใช้กฎเดิมตามปกติคือ จะแบ่งรางวัลระหว่างพวกเขาเท่าๆ กันที่คนละห้าในสิบส่วน
……………………………………………………………………
[1] หลักแห่งเต๋าของบรรพชนไท่ชิง