ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 101
เจย์ส่งข้อความให้โรส เขาชวนเธอไปคาเฟ่
โรสดูข้อความแกมคำสั่งที่กล่าวว่า ‘เราต้องคุยเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูร็อบบี้น้อย ไม่งั้น ฉันจะใช้วิธีอื่น’
โรสถอนหายใจอย่างแรง เธอควรแกล้งทำเป็นไม่เห็นข้อความดีไหม?
อาจเป็นเพราะโรสตอบข้อความของเขาช้า เจย์จึงโทรหาเธอแทน
โรสลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรับสายอย่างไม่ยินยอมนัก
เสียงเย็นยะเยือกของเจย์ดังมาตามสาย “โรส ลอยล์ ทำไมเธอไม่ตอบข้อความฉัน? การหลบฉันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหานะ”
โรสสวนกลับ “ฉันไม่ได้หลบ ฉันแค่ไม่รู้ว่าต้องตอบนายยังไง”
เจย์ตะลึงกับคำตอบนั้น แต่ก็แค่เสี้ยงวินาทีเท่านั้น
เขาตำหนิ “ถ้าเธอรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เธอจะทำมันทำไมตั้งแต่แรก?”
โรสสั่นเล็กน้อย ประโยคที่เขาพูดถึงทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอมีเซ็กส์กับเขาโดยที่เขาไม่ยินยอม
ท่าทางของโรสดูน่าเกลียดและอับอาย เธอรู้สึกโชคดีที่เขาไม่เห็นท่าทางของเธอตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย “โอเค ถ้าอย่างนั้นเจอกันสิบโมง” ในที่สุดเธอก็ต้องจำใจยอม
เจย์วางสาย
ในอีกด้านหนึ่ง โรสทรุดลงกับพื้น การถูกดูหมิ่นจากเจย์ที่พยายามตัดความสัมพันธ์จากเธอนั้นไม่ได้สร้างความรู้สึกอะไรให้เธอ ยังไงก็ตาม เธอรักเขา มันเหมือนเธอกำลังกระโจนเข้ากองไฟ เธอคงไม่กระวนกระวายใจต่อให้เธอต้องถูกกลืนจากกองไฟที่ไร้หัวใจพวกนั้น
‘ฉันควรเสียใจรึเปล่านะ?’
โรสไม่รู้ว่าต้องตอบคำถามนี้ยังไง เธอเพิ่งรู้ว่า ในเมื่อเธอมีความกล้าจะทำเรื่องผิดพลาด เธอก็ต้องมีความกล้าในการรับผลที่ตามมาด้วย
เธอลุกขึ้นแล้วแต่งหน้าอ่อน ๆ เพื่อปกปิดความอ่อนล้าและเพลียของเธอ เธอต้องทำให้ตัวเองสวย
ก่อนที่โรสจะออกจากอพาร์ทเมนท์ โจเซฟินก็มาถึงเมืองงอกงามเพื่อพาร็อบบี้น้อยและเซ็ตตี้ออกไปเล่น โรสสบายใจมากที่โจเซฟินกระตือรือร้นในการช่วยเธอดูแลพวกเด็ก ๆ
เมื่อโรสถึงคาเฟ่ เจย์ก็นั่งรออยู่ได้พักหนึ่งแล้ว
เมื่อโรสเดินมาหาเจย์ ท่าทางของเขาก็ดูไม่เป็นมิตรทันที สายตาของเขาจ้องเธอ เหมือนมีดที่ทิ่มแทง
“ฉันขอโทษที่มาสาย” โรสกล่าวอย่างเคอะเขิน เธอดึงเก้าอี้ข้างเขาออก แล้วเธอก็สั่งเกตเห็นสายตาดั่งเหยี่ยวของเขาที่หรี่ลงมากขึ้นกว่าเดิม เผยให้เห็นความเกลียดชังต่อการกระทำของเธอ
เธอจึงเปลี่ยนจากเก้าอี้ที่เดิมไปนั่งที่เก้าตรงข้ามที่ไกลจากเขาที่สุดแทน
ท่าทางของเจย์ดูอ่อนลงเล็กน้อย ‘ขอบคุณพระเจ้าที่เธอรู้ที่ของตัวเอง’
โรสรู้สึกถึงความไม่ำพอใจ เธอสงสัยว่าเขากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไร
“โรส ฉันไม่มีเวลามากนัก เข้าเรื่องเลยแล้วกัน”
“ฉันต้องการสิทธิ์การเลี้ยงดูอย่างถูกต้องของร็อบบี้น้อย ถ้าเธอให้ความร่วมมือ ฉันจะให้เงินที่จะทำให้ทั้งเธอและลูกสาวของเธออยู่สบายไปทั้งชาติ แน่นอน ถ้าเธอปฏิเสธ เราก็ต้องไปเจอกันที่ศาล แต่ด้วยตัวเลือกที่สอง ฉันไม่คิดว่าเธอจะต่อต้านพวกฉันได้”
เขาเหมือนราชาผู้ส่งสูงและห้าวหาญและมองดูโรสอย่างดูหมิ่นเหมือนมองมดปลวกตัวเล็ก ๆ
โรสอาจดูเหมือนมด แต่เธอเป็นมดที่มีความฝัน เธออาจจะเป็นวัชพืช แต่เธอก็เป็นวัชพืชที่สามารถทำให้ทุ่งหญ้าไฟลุกท่วมได้ เธอมีความหัวรั้นและความปฏิเสธที่จะยอมแพ้ของแองเจลีน และเธอก็มีความอ่อนแอและละเอียดอ่อนของโรสในเวลาเดียวกัน ความย้อนแย้งในบุคลิกนี้หลอมรวมจนทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มี นี่คือ โรส ลอยล์ คนใหม่
อย่างน้อยที่สุด เจย์ก็ไม่มีทางเดาออกว่าเธอต้องการจะทำอะไรต่อไป
โรสเงยหน้ามองทันที นิสัยอ่อนแอของเธอไม่มีให้เห็นอีกแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอกล่าว “ท่านอาเรส นี่คุณกำลังจะรังแกคนอ่อนแองั้นเหรอคะ?”
เจย์เลิกคิ้ว ท่าทางจองหองสุด ๆ “ถ้าใช่ แล้วไง?”
เขานั่งพิงเก้าอี้สีดำ ร่างอันงดงามและนิ้วเรียวยาวของเขาเคาะกับโต๊ะเป็นจังหวะ ท่าทางที่ทั้งผ่อนคลายและอหังการ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์และความมั่นใจมาก
โรสไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรกับคำตอบรับทื่อ ๆ ของเขา ดังนั้นเธอจึงตอบสนองอย่างแข็ง ๆ
“นายเคยบอกว่านายยุ่ง แต่เด็ก ๆ ต้องการผู้ปกครองที่คอยดูแลพวกเขาให้เติบโต นายมีเวลาพอในการดูแลพวกเขาเหรอ หลังจากนายขโมยสิทธิ์การเลี้ยงดูของร็อบบี้น้อยไปอีกคน?”
เจย์จ้องโรสเขม็ง ‘เหนือความคาดหมายที่เธอคิดแบบนั้นได้’
“ฉันยอมรับว่าฉันไม่มีเวลามากนักที่จะดูแลพวกเขา แต่ฉันสามารถจ้างติวเตอร์ที่น่าทึ่งที่สุดในโลกมาสอนพวกเขาได้ ให้ทรัพยากรที่ดีที่สุดกับพวกเขา ไม่เหมือนกับเธอ คนที่ให้ได้แค่บ้านหลังเล็ก ๆ กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ไม่ดีต่อสุขภาพ?” เจย์กล่าว เขาคิดว่าตัวเองถูก
โรสไม่ยอมแพ้เขา เธอกล่าวแก้ไข “ฉันไม่เคยให้ลูกฉันกินบะหมี่กึ่งฯ สิ่งที่ฉันให้พวกเขากินคือบะหมี่หยางชุนต่างหาก”
เจย์แค่นหัวเราะ “มันต่างกันตรงไหน? โรส กินบะหมี่หยางชุนจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เธออยากให้พวกเขาเตี้ยเป็นคนแคระแบบเธอรึไงในอนาคต?”
โรสแทบสำลักน้ำลาย เธออาจจะตัวเล็ก แต่ส่วนสูงของเธออย่างน้อยก็ 1.6 เมตร จะมาเรียกเธอว่าคนแคระได้ยังไง?
โรสไม่ยอมง่าย ๆ “เจนส์กินอาหารรสเลิศและหรูหราตลอดเวลากับคุณ แต่เขาก็ไม่ได้ดูสูงไปกว่าร็อบบี้น้อยนะ”
เจย์พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง เจย์ก็มองเธออย่างดูถูกแล้วล้อเลียน “เธอต้องโทษยีนด้อยของเธอต่างหาก”
นี่เป็นการว่าร้ายกันโดยตรง ท่าทางของโรสดูบูดบึ้งและโมโห
เจย์รู้ได้ทันทีว่าเขาทำเรื่องโง่ ๆ เข้าไปเสียแล้ว ด้วยความขาดความเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงของเขา เธอเป็นแม่ของลูกเขา การดูถูกเธอเท่ากับการดูถูกลูกเขาเช่นกัน
จากมุมมองของเขา เจนสันและร็อบบี้น้อยนั้นเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลก พวกเขาแตกต่างกับโรสแบบคนละโลก