ตอนที่ 305 มาปิกนิกกันเถอะ 2

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 305 มาปิกนิกกันเถอะ 2
ตอนที่ 305 มาปิกนิกกันเถอะ 2

“ในที่สุดเราก็คว้าชัยชนะมาได้ งั้นคืนนี้เรามากินเลี้ยงฉลองกันเถอะ”

สวี่หลิงอวิ๋นเตรียมพร้อม และครุ่นคิดว่าจะทำอะไรสำหรับมื้อเย็นในคืนนี้ดี

“อาหารเย็น?” เมื่อเธอพูดเกี่ยวกับของกิน ไกอาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “จะกินอะไรกันเหรอครับ?”

แต่ทันใดนั้นเขากลับขมวดคิ้ว และพูดต่อว่า “แต่ฝ่าบาท เรามีเสบียงอาหารไม่พอนะครับ มีแต่พวกอาหารเสริม”

“เจ้าเด็กโง่ ต่อให้ไม่มีอาหารยังไงเราก็จะหาอาหารมาได้” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบสมุดเล่มเล็กออกมา

“สมุดเล่มนี้มีข้อมูลของพืชกับสิ่งมีชีวิตที่กินได้บนดาวเคราะห์เอบีสาม เอบีสี่และเอบีห้า!”

“โอเค พวกเรามีเวลาไม่มากแล้ว รีบไปหาอะไรมากินกันเถอะ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นด้วยท่าทีกระตือรือร้น “จำครั้งสุดท้ายที่เราปิกนิกกันได้ไหม? ตอนนี้ได้เวลาปิกนิกแล้ว”

แน่นอนว่าไกอายังจดจำการเอาตัวรอดในการแข่งขันภาคพื้นสนามของหัวหน้าได้

ในตอนนั้นพวกเขาไม่มีอะไรเลย แต่หัวหน้ากลับเปลี่ยนการทดสอบเอาตัวรอดกลางป่าใหญ่ให้กลายเป็นลานปิกนิก

“ครับ!”

ทันทีที่ถึงเวลากินข้าว ทั้งสองคนก็หยิบชุดเกราะของตัวเองออกมาและนำทีมกลุ่มเล็กออกไปค้นหา

ถือเครื่องตรวจจับอยู่ในมือ ขณะสำรวจหาสิ่งของที่กินได้โดยปลอดสารพิษ! และแน่นอนว่าต้องมีคุณค่าทางโภชนาการด้วย!

อารมณ์หดหู่ของเหล่าทหารจางหายไปเล็กน้อย และเริ่มออกไปล่ากับองค์หญิงสาม

บนดาวเคราะห์เอบีสามมีวัตถุดิบมากมาย และในไม่ช้าสิ่งต่าง ๆ ก็ถูกรวบรวมมาหมด!

สวี่หลิงอวิ๋นชั่งน้ำหนัก เนื้อสัตว์เหล่านี้ไม่แย่มาก แต่โดยรวมแล้วเนื้อค่อนข้างแข็ง!

ไม่เป็นไร! เธอมีวิธีการทำให้เนื้อนุ่มอร่อย!

และวิธีการกินที่เหมาะสำหรับจำนวนคนหมู่มากคือการตั้งหม้อไฟหรือย่างบาร์บีคิว!

สวี่หลิงอวิ๋นสังเกตเห็นว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มีเครื่องปรุงรสอยู่มาก อาทิ พริกไทยเสฉวน ขิง และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เธอไม่ได้พลาดอาหารอันแสนอร่อย

นอกจากนี้เธอยังจงใจถ่ายทอดสด…

“สวัสดีทุกคน สบายดีกันไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นพูดทักทายอยู่หน้ากล้อง

ขณะที่ผู้คนทั้งหลายไม่สามารถนอนหลับใหลได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน พวกเขาเฝ้ารอคอยข่าวจากองค์หญิงสามอย่างใจจดใจจ่อ

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าองค์หญิงสามไม่สามารถถ่ายทอดสดท่ามกลางสงครามได้ ทว่าพวกเขากลับยังคงคาดหวังให้เธอทำเช่นนั้น

แต่กลับไม่คิดเลยว่าความคาดหวังนั้นจะเป็นจริง!

ภายในฐานทัพที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย สวี่หลิงอวิ๋นเปลี่ยนเครื่องจักรกลให้กลายเป็นหม้อขนาดใหญ่อีกครั้ง! หม้อใบใหญ่กำลังเดือดปุด ๆ ขณะที่แขนกลกำลังกวนส่วนผสมด้านในให้เข้ากันอย่างขยันขันแข็ง

[องค์หญิงสาม พวกเราคิดถึงท่านมาก!]

[องค์หญิงสาม พวกเราชนะแล้วใช่ไหม?]

[ฝ่าบาท ท่านกำลังทำหม้อไฟเหรอ? ผมก็กินหม้อไฟอยู่เหมือนกัน]

[ฉันด้วยค่ะ! ตั้งแต่ท่านเปิดตัวหม้อไฟ ฉันก็ทำหม้อไฟกินที่บ้านทุกวันเลย กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ]

[หม้อไฟช่วยท้องของฉันเอาไว้ ช่วยให้ท้องฉันอิ่ม]

[ฝ่าบาท เมื่อไหร่ท่านจะถอนกำลังจากแนวหน้า? แล้วเมื่อไหร่ท่านจะพาทหารไปบุกจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สักที?]

ชาวเน็ตเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น

“อีกไม่ช้าก็เร็วเราจะโจมตีจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์” สวี่หลิงอวิ๋นพูดอย่างจริงจัง “ฉันขอสาบานว่าฉันจะทำมันแน่”

[เราเชื่อในตัวท่าน แต่ท่านควรดูแลตัวเองด้วย อย่าได้หักโหมนักนะคะ]

[ใช่ ๆๆ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ท่านไม่ควรปล่อยให้สงครามมาทำให้ร่างกายตัวเองทรุดโทรม]

[คอมเมนต์บนพูดอะไร? กำลังแช่งองค์หญิงสามอยู่หรือไง? องค์หญิงสามร่างกายแข็งแรง และจะเจริญยิ่งยืนนาน!]

“เอาล่ะ พอแล้ว ไม่ต้องเถียงกัน ฉันรู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม โบกมือ และพูดต่อ “ฉันรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงพวกเรา เพราะงั้นฉันถึงเปิดการถ่ายทอดสดให้ทุกคนได้ดูกันไง”

“แล้วฉันก็อยากให้ทุกคนได้เห็นกับอาหารล่าสุดที่ฉันค้นพบ” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นอย่างร้ายกาจ “แท่นแทนแท๊น!”

เมื่อภาพบนหน้าจอถูกสลับเปลี่ยน พวกเขาก็พบว่างานเลี้ยงครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!

สิ่งที่เกลียดที่สุดคือการเห็นเค้กก้อนมหึมาวางอยู่ตรงหน้า!

[บ้าเอ๊ย นั่นมันเค้กนี่! ฉันมองไม่ผิดแน่] ชาวเน็ตตกตะลึง!

[ฉันอยากรู้ว่าองค์หญิงสาม… ท่านทำมันบนสภาพแวดล้อมแบบนั้นได้ยังไง?!]

[ฉันอยากกินจัง! แง ๆๆ! ฉันอยากเข้าร่วมกองทัพด้วยอ่า!]

[คอมเมนต์บนคิดอะไรอยู่! ขนาดปีสี่อย่างฉันยังไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมเลย แล้วเด็กน้อยอย่างนายที่อายุเพิ่งถึงเกณฑ์จะเข้าร่วมได้ยังไง? ฝันไปเถอะ!]

“ในสายตาของพวกคุณมีแต่เค้กเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อมองดูคอมเมนต์ของชาวเน็ต พวกเขาไม่เห็นบ้างหรือไงว่าเธอต้องทำงานหนักเพื่อสร้างสรรค์อาหารมากมาย?

พวกเขาไม่เห็นปลาทะเลนั่นเหรอ?

ไม่เห็นปลาต้มในหม้อนี้หรือไง?!

ไหนจะหมูสามชั้นผัดซอสแดงอีก?!

ไม่ได้กลิ่นบาร์บีคิวอันหอมเย้ายวนเลยเหรอ?! ตอนนี้เธอเปิดการแบ่งปันรสชาติอยู่ด้วยซ้ำ!

ชาวเน็ตทั้งหลายส่ายหัวอย่างพร้อมเพรียง มีอะไรอย่างนั้นเหรอ? ไม่เห็นมีอะไรเลย!

ในสายตาของพวกเขามีเพียงเค้กก้อนโตเท่านั้น!

สวี่หลิงอวิ๋นกุมขมับเงียบ ๆ! ถ้าอย่างนั้นจะต้องแผ่กระจายลูกกวาดไปทั่วทุกมุมของจักรวรรดิชิงเหย้า!

ทหารจำนวนครึ่งหนึ่งประจำการอยู่บนดาวเคราะห์เอบีสาม และอีกครั้งหนึ่งประจำการอยู่บนดาวเคราะห์เอบีสี่

คงคิดว่าไม่มีทางที่ทหารทั้งสองฝั่งจะกินพร้อมกันได้ใช่ไหม? แต่สวี่หลิงอวิ๋นมีวิธีการ เธอสร้างสรรค์อาหารจำนวนมาก และแบ่งออกเป็นครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังมอบเค้กชิ้นใหญ่ให้ทั้งสองฝ่าย

แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับพวกเขา!

ชาวเน็ตทั้งหลายต่างรู้สึกอิจฉาริษยา!

พลเอกชั้นสูงจากจักรวรรดิชิงเหย้าฉลาดเป็นกรด! พวกเขาจงใจเผยแพร่การถ่ายทอดสดให้กับจักรวรรดิอื่นได้รับชม!

จนทำให้ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นรู้สึกขุ่นเคือง!

[ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ถึงอยากจะโจมตีชิงเหย้า! พวกเขาหยิ่งยโสกันแบบนี้นี่เอง! ได้กินเค้กด้วยสินะ!]

[เมื่อไหร่เราจะได้กินมันบ้าง?? จะต้องเอาชนะจักรวรรดิชิงเหย้าให้ได้ก่อนไหม?]

[ฉันคิดว่าเอาชนะจักรวรรดิชิงเหย้าไม่ได้หรอก! เว้นแต่ว่าคนจากจักรวรรดิชิงเหย้าจะเต็มใจมอบเค้กให้ฉันทุกวัน ฉันก็ยินดีจะอพยพไปจักรวรรดิชิงเหย้านะ ลืมแนะนำตัวเองเลย ฉัน 9 ดาวน่ะ!]

[บัดซบ! คอมเมนต์บนเป็นลูกพี่นี่นา! เกินหน้าเกินตาไปแล้ว!]

[เกินหน้าเกินตา!]

[ใครก็ตามที่อยู่ในระดับ 9 ดาวและต้องการอพยพ โปรดติดต่อที่กระทรวงการต่างประเทศของจักรวรรดิชิงเหย้าภายในเย็นนี้ พวกเรายินดีต้อนรับผู้อพยพด้วยเค้ก!]

[เชี่ย! พวกจักรวรรดิชิงเหย้าโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!]

[หลอกล่อกันชัด ๆ! ใช้ของมาล่อได้เจ๋งไปเลย! ฉันก็อยากโดนล่อซื้อแบบนี้เหมือนกัน! เมื่อจักรวรรดิของเราจะได้กินของหวานบ้าง?]

“จักรวรรดิพวกนายน่ะอย่าหวังเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูสถานที่ที่ชาวเน็ตคนนั้นอาศัยอยู่ “นายเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ เพราะงั้นเราเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน!”

“แต่ถ้าพวกนายยินดีจะแยกออกจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ ฉันก็จะพิจารณาการสอนทำเค้กให้พวกนายได้นะ!”

[ฮ่า ๆๆๆๆ! องค์หญิงทรงพลังมาก!]

[ใช่แล้ว! ก็จักรวรรดิชิงเหย้าของเราใจดีจะตาย! ตราบใดที่พวกนายยอมจำนน พวกเราก็จะเอาสูตรให้นาย!]