บทที่ 363 สูตรทั้งสาม

“มีสูตรการทำใหม่ครับ ขอเชิญทางนี้ก่อนครับ” อู๋ฝานนำอาจารย์หลี่ไปที่ออฟฟิศซึ่งเดิมเป็นของเถ้าแก่คนเก่า พื้นที่ส่วนนี้ขนาดไม่เล็ก การตกแต่งก็ทำไว้ค่อนข้างดี

เดิมอาจารย์หลี่คิดว่าอู๋ฝานจะเรียกตนเองไปดูสูตรใหม่ แต่ใครจะคิดว่าหลังอู๋ฝานเข้ามาในออฟฟิศ กลับนั่งลงพร้อมเริ่มหยิบปากกาและกระดาษออกมาเขียน

อาจารย์หลี่ที่เห็นถึงกับต้องประหลาดใจ หรือว่านี่จะเขียนสูตรกันตรงนี้เลยงั้นเหรอ? ไม่ต้องเรียบเรียงอะไรก่อนเหรอ?

สูตรการหมักบ่มประกอบด้วยหลากหลายกระบวนการ มีข้อมูลมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทว่าอู๋ฝานกลับไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้ แต่เขียนออกมาจากความทรงจำ ถ้าลืมหรือข้ามขั้นตอนใดไปจะเป็นอย่างไร?

แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มตั้งใจเขียนอย่างจริงจัง อาจารย์หลี่จึงไม่กล้ารบกวน

อู๋ฝานอาศัยเพียงแค่ความทรงจำของตัวเองเขียนสูตรขึ้นมาจริง ๆ ขณะที่เรียนรู้วิชาบ่มไวน์ระดับสูงมานั้น เขาก็ได้เรียนรู้สูตรการทำหลากหลายมาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสูตรเหล่านี้จึงประทับแน่นในความทรงจำ นอกจากนี้ความทรงจำของชายหนุ่มในตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะมองข้ามหรือหลงลืมอะไรไป

กระบวนการหมักบ่ม ไม่ว่าจะใช้กลวิธีการหมักบ่มในยุคเก่าเช่นที่โลกแห่งเกม หรือกระบวนการผลิตยุคใหม่ของโรงงาน รสชาติที่ผ่านการบ่มก็จะไม่แตกต่างกัน เพียงแต่วัตถุดิบ อุปกรณ์ที่จำเป็น และระยะเวลาที่ต้องใช้อาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง

ครึ่งชั่วโมง อู๋ฝานก็เขียนสูตรทั้งสามออกมา ก่อนจะส่งให้อาจารย์หลี่ “ลองดูสิครับ ถ้ามีกระบวนการไหนมีปัญหาก็แจ้งผมได้นะครับ”

อาจารย์หลี่รีบรับมาตรวจสอบ

อู๋ฝานไม่คิดรบกวนการใช้สมาธิของอีกฝ่าย สูตรทั้งสามมีความคล้ายคลึงกัน ที่หมักบ่มครั้งนี้คือไวน์แต่ละประเภท แต่มีความต่างกันในแง่ของปริมาณแอลกอฮอล์และรสชาติของไวน์ ในโลกความเป็นจริง ไวน์ของแบรนด์ใหญ่ทั้งหลายก็มีการแบ่งออกเป็นระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง ไวน์ที่อู๋ฝานคิดผลิตขึ้นในโรงบ่มแห่งนี้ ย่อมมีการมองตลาดเหมือนแบรนด์อื่น

ในเวลาไม่ถึงสิบนาที อาจารย์หลี่ก็อ่านสูตรทั้งสามเสร็จสิ้น พร้อมทั้งได้พบความเหมือนระหว่างสูตรทั้งสาม ขณะนี้จึงตอบรับ “เถ้าแก่ การใช้ไลน์ผลิตของโรงบ่มแห่งนี้ผลิตไวน์ทั้งสามสูตรที่ได้รับมา พบว่าไม่มีปัญหาอะไรครับ”

“ถ้าไม่มีปัญหา นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ขอให้อาจารย์หลี่รับผิดชอบดูแลไลน์การผลิตไวน์เหล่านี้นะครับ แล้วก็ขอให้เตรียมพื้นที่ว่างในโรงงานส่วนหนึ่งไว้ด้วย ผมมีไวน์ที่อยากบ่มด้วยตัวเองอยู่” อู๋ฝานบอกกับอาจารย์หลี่

ด้วยสูตรทั้งสามที่อู๋ฝานมอบให้นั้น การบ่มไวน์ย่อมมีรสชาติดี และมากพอที่จะใช้ยืนหยัดอย่างมั่นคงในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทั่งว่าสามารถต่อสู้ช่วงชิงตลาดกับแบรนด์ใหญ่ได้ด้วยซ้ำ ทว่าถ้าต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ให้ได้ การมีแค่สินค้าเอกลักษณ์ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นชายหนุ่มจึงต้องการทดลองด้วยตัวเอง อย่างไรวิชาบ่มไวน์ระดับสูงนั้นก็ไม่ใช่แค่ของประดับ

“เถ้าแก่รู้วิธีบ่มไวน์ด้วยเหรอครับ?” อาจารย์หลี่ถามด้วยความประหลาดใจ เขาคิดว่าอู๋ฝานไปซื้อหาสูตรทั้งสามเหล่านี้มา ส่วนตัวคนไม่ได้ทราบวิธีการบ่มไวน์แต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ได้คาดว่าอีกฝ่ายจะรู้วิธีการบ่มไวน์

“ครับ ก็พอรู้อยู่บ้าง” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ

ตอนที่อู๋ฝานกล่าวออกมา ย่อมเป็นการถ่อมตัว วิชาบ่มไวน์ระดับสูงของเขา สำหรับที่โลกความเป็นจริงนั้นย่อมเป็นแถวหน้าของวงการ ยังไม่กล่าวถึงความสามารถของจี้หยกกระเรียนขาว ฝีมือของชายหนุ่มตอนนี้ไม่ใช่แค่พอรู้ดังคำกล่าวอย่างแน่นอน

ทว่าในความเห็นของอาจารย์หลี่ คำพูดเหล่านี้แตกต่างออกไป อีกฝ่ายมองว่าอู๋ฝานน่าจะพอรู้วิธีการบ่มไวน์มาบ้าง อย่างไรแล้วเขาก็ไม่ได้อายุเยอะมากนัก ที่ต้องการแยกพื้นที่โรงงานเพื่อบ่มไวน์ด้วยตัวเอง ก็คงเพราะต้องการทำการทดลองหาความสนุกส่วนตัว

“สูตรที่ให้ไปเมื่อกี้นี้ อาจารย์หลี่รับผิดชอบส่วนที่เป็นแกนหลักด้วยนะครับ อย่าให้คนอื่นรู้สูตร เข้าใจใช่ไหมครับ?” อู๋ฝานเอ่ยคำขึ้น

สูตรทั้งสามเหล่านั้นต่างก็เป็นสูตรระดับสูง รสชาติของไวน์ที่ผ่านการบ่มแล้วย่อมไม่เลว ถ้าถึงเวลาเมื่อใด มันอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดการล้วงความลับทางการค้าได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้สูตรนี้เผยแพร่ออกไป

“ทราบครับเถ้าแก่” อาจารย์หลี่ตอบรับ

อาจารย์หลี่ยังไม่รู้ว่าไวน์จากสูตรที่อู๋ฝานให้มา เมื่อบ่มแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร เพียงแต่เรื่องของสูตรการผลิต มันถือเป็นส่วนที่ต้องรักษาความลับในโรงบ่มอยู่แล้ว การที่ชายหนุ่มออกปากขอเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลก

“อาจารย์หลี่ ในอนาคตคงต้องขอให้อาจารย์คอยรับผิดชอบเรื่องทางเทคนิคการบ่มไวน์ในโรงบ่มแห่งนี้ด้วยนะครับ ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้เป็นสองเท่า หวังว่าจะไม่ทำผมผิดหวังนะครับ” อู๋ฝานบอกกับอาจารย์หลี่

อู๋ฝานเริ่มมีกิจการหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคอยอยู่ที่โรงบ่มตลอดเวลา ชายหนุ่มต้องการหาคนมารับผิดชอบดูแลเทคนิคแกนหลักของที่นี่ อาจารย์หลี่ที่มีฝีมือค่อนข้างสูงในหมู่คนที่เหลืออยู่ เมื่อรวมเข้ากับผลลัพธ์จากวิชาตรวจสอบ ก็พบว่าอีกฝ่ายสามารถเชื่อถือไว้ใจได้ ดังนั้นเขาจึงพร้อมเรียกใช้งานอีกฝ่าย

“ขอบคุณเถ้าแก่ครับ ผมจะทำอย่างเต็มที่!” อาจารย์หลี่ตอบรับอู๋ฝานด้วยความยินดี

จากนั้นอาจารย์หลี่จึงนำกลุ่มคนไปเริ่มทำความสะอาดภายในโรงงานที่ไม่ได้เดินสายการผลิตมานาน ขณะเดียวกัน เขาก็ยังแจ้งและจัดเตรียมพื้นที่ส่วนหนึ่งให้อู๋ฝานตามที่ได้รับการร้องขอมา

ส่วนอู๋ฝานนั้น ตอนนี้ขับรถเดินทางไปยังร้านอาหาร เพื่อเตรียมช่วยงานที่ร้านต่อ

ขณะอู๋ฝานมาถึงร้าน ก็พบว่ามีแขกบริเวณโถงหลักที่ชั้นหนึ่งหลายโต๊ะแล้ว ตอนนี้ฝีมือการทำอาหารของหลิวอี้เตาก้าวหน้าขึ้นสู่ระดับสูง เรียกได้ว่ามีฝีมือโดดเด่นนำเชฟทั้งหลายในร้านใหญ่ ๆ แล้ว การรับผิดชอบส่วนน้อยเช่นการทำอาหารให้แขกที่โถงหลักชั้นหนึ่งจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

ขณะอู๋ฝานเข้ามาในครัว ก็พบว่าค่อนข้างยุ่งไม่น้อย อย่างไรหลิวอี้เตาก็เคยเป็นเชฟของร้านคัลเลอร์แมน ต่อให้ไม่มีชายหนุ่ม เขาก็สามารถจัดการดูแลงานในครัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้

“ทำได้ดีเลยนะครับ ฝีมือก็ก้าวหน้าขึ้นแล้วด้วย” อู๋ฝานเผยสีหน้ายิ้มแย้มบอกหลิวอี้เตา ด้วยฝีมือการทำอาหารของอีกฝ่ายในปัจจุบัน แค่ได้กลิ่นก็พอบ่งบอกถึงรสชาติอาหารได้แล้ว

“ถ้าเทียบกับอาจารย์ ยังถือว่าไกลห่างครับ” หลิวอี้เตาตอบรับอย่างนอบน้อม

ตอนที่หลิวอี้เตากล่าวคำนี้ออกมา เชฟคนอื่นด้านในครัวต่างก็ไม่มีใครมองว่าเป็นการถ่อมตัวแต่อย่างใด เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา อู๋ฝานทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าฝีมือการทำอาหารของเขาก้าวล้ำเพียงใด

ส่วนหลิวอี้เตา เขายิ่งประทับใจในตัวอู๋ฝาน ซ้ำยังมองว่าการตัดสินออกจากร้านคัลเลอร์แมน มาคำนับอู๋ฝานเป็นอาจารย์นั้นทำได้ถูกต้องแล้ว เขาได้เรียนรู้อะไรมากมาย ฝีมือการทำอาหารก้าวหน้าขึ้นมาก แต่เขาก็ยังตระหนักถึงความต่างทางฝีมือ เรื่องนี้ทำให้เขายิ่งประทับใจและนับถืออีกฝ่ายมากขึ้น

“ทำได้ดีมากแล้วครับ” อู๋ฝานแขวนเสื้อตัวนอกพลางกล่าว “วันนี้ผมมาสอนรายละเอียดมากขึ้น หลังจากนี้ที่นี่ก็คงต้องฝากคุณดูแลต่อแล้ว ถ้าไม่ได้มีสถานการณ์พิเศษ ผมคงไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรมากนักนะครับ”

“อ๋า แบบนี้จะดีเหรอครับอาจารย์? ผมกลัวว่าตัวเองจะยังทำได้ไม่ดีพอ อีกอย่างผมรู้สึกว่ามีอีกหลายเรื่องที่ยังสามารถเรียนรู้จากอาจารย์ได้นะครับ” หลิวอี้เตาตื่นตกใจ เมื่อได้รู้ว่าอู๋ฝานกำลังจะส่งไม้ต่อให้ตนเอง