บทที่ 364 ที่นี่ใช่ร้านของอู๋ฝานจริงเหรอ?

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 364 ที่นี่ใช่ร้านของอู๋ฝานจริงเหรอ?

“คุณทำได้ดีมากแล้วครับ” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ “ผมสอนเกือบทุกอย่างเท่าที่จะสอนได้แล้ว ถ้าต้องการก้าวหน้า ต่อจากนี้ก็ต้องสำรวจและทำความเข้าใจด้วยตัวเองนะครับ”

ในปัจจุบัน หลิวอี้เตาที่สำเร็จวิชาทำอาหารระดับสูง ถ้าต้องการก้าวหน้าจากระดับสูงสู่ระดับมาสเตอร์ สิ่งที่จำเป็นไม่ใช่การให้ผู้อื่นสอนหรือปฏิบัติให้มากขึ้น แต่ต้องอาศัยความตระหนักรู้ของตัวเองทำความเข้าใจ มันคือเรื่องของปัจเจกบุคคล อู๋ฝานไม่อาจช่วยได้มากกว่านี้ ด้วยพรสวรรค์การทำอาหารของหลิวอี้เตานั้น เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายจะก้าวหน้าทำความเข้าใจและตระหนักรู้ด้วยตัวเองได้สำเร็จ

“อาจารย์ ทำแบบนี้ผมยิ่งกดดันน่ะสิครับ” หลิวอี้เตาตอบกลับ

“มีแรงกดดันก็เป็นเรื่องที่ดีครับ มันจะเป็นแรงผลักดันให้คุณก้าวหน้าไปต่อได้” อู๋ฝานตอบกลับ “คุณเองก็รู้ว่าร้านนี้สำคัญสำหรับผมแค่ไหน ผมไว้ใจฝากให้คุณดูแลต่อจากนี้ อย่าทำให้ผมผิดหวังนะครับ”

“อาจารย์วางใจได้ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด ไม่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!” หลิวอี้เตารับปาก

อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ จากนั้นจึงเริ่มทำอาหาร ขณะเดียวกันก็สอนเชิงรายละเอียดให้กับหลิวอี้เตา อีกฝ่ายรู้ดีว่าโอกาสได้เรียนรู้เช่นนี้มีความสำคัญเช่นไร มันจะเป็นโอกาสต่อไปถึงภายภาคหน้า ดังนั้นจึงตั้งใจอย่างเต็มที่

ขณะอู๋ฝานกำลังสอนหลิวอี้เตาด้วยความพิถีพิถัน ครอบครัวเยี่ยเฟยเฟยทั้งสามคนก็มาถึงหน้าร้านโลกในแหวน

“มั่นใจเหรอว่าที่นี่ใช่ร้านของเสี่ยวอู๋?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยถามลูกสาวด้วยความประหลาดใจ เพราะได้เห็นถึงความหรูหราของสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงบรรดารถหรูที่จอดเทียบในลานจอดรถ

“อู๋ฝานตอบทางโทรศัพท์ว่าเป็นที่นี่ค่ะ” เยี่ยเฟยเฟยแม้จะประหลาดใจ แต่ก็รับคำด้วยความอับจน

เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาที่ร้านของอู๋ฝาน แม้หลายคนในมหาวิทยาลัยเจียงโจวรู้ว่าชายหนุ่มเปิดร้านอยู่ แต่ก็มีน้อยคนที่จะทราบชื่อและตำแหน่งที่ตั้ง ไม่เว้นแม้แต่เยี่ยเฟยเฟย ทว่าเพราะครอบครัวของเธอยืนกรานจะมาที่นี่ ดังนั้นหญิงสาวจึงโทรถามชื่อและที่ตั้งจากอีกฝ่าย

ตอนที่ได้เห็นร้านโลกในแหวน เยี่ยเฟยเฟยก็ประหลาดใจไม่แพ้พ่อและแม่ของเธอ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเปิดร้านเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คาดว่าจะเป็นร้านหรูขนาดนี้ ในความเห็นของเยี่ยเฟยเฟย ชายหนุ่มไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่เช่นนั้นคงไม่เช่าบ้านป้าสามของเธออยู่ ทว่าคนที่เธอคิดว่าไม่ได้ร่ำรวยอะไร ถึงขั้นเปิดกิจการยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ เธอจะประหลาดใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

หรือว่าอู๋ฝานโกหกเธอ ที่นี่ไม่ใช่ร้านของเขา แต่เป็นสถานที่ที่อีกฝ่ายเพียงตอบไปเรื่อย?

มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ และจากท่าทีของพ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟย ก็แสดงออกว่าคาดเดาเช่นเดียวกันอยู่ จึงทำให้ความประทับใจที่พวกเขามีให้แก่ชายหนุ่มเริ่มเลวร้ายลง

“เข้าไปดูก่อนก็แล้วกันค่ะ” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยเอ่ยคำออกมา

ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยก็ไม่เลวร้าย ร้านระดับสูงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับพวกเขา ดังนั้นแม้ร้านโลกในแหวนจะอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกท้อถอยแต่อย่างใด

“ยินดีต้อนรับค่ะ” เพียงแค่คนทั้งสามเดินถึงหน้าประตู พนักงานต้อนรับหญิงผู้งดงามก็ก้าวออกมาทักทาย “ขอเรียนสอบถามทั้งสามท่านว่าได้จองไว้หรือไม่คะ”

“ไม่ครับ” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ

“ทราบแล้วค่ะ เรียนเชิญทางด้านนี้ค่ะ” พนักงานต้อนรับนำคนทั้งสามไปยังโถงส่วนกลาง

“พวกเราขอห้องส่วนตัวห้องหนึ่งได้ไหมคะ?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถาม

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ ตอนนี้ห้องส่วนตัวถูกจองไว้เต็มแล้ว เหลือว่างแค่โถงกลางค่ะ” พนักงานต้อนรับตอบกลับด้วยความสุภาพ

“ห้องส่วนตัวทั้งหมดถูกจองไว้เต็มแล้ว?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยรับคำด้วยความประหลาดใจ

ดังได้เห็นว่าขนาดของร้านไม่ใช่เล็ก ๆ ดังนั้นย่อมต้องมีห้องส่วนตัวอยู่มาก การที่ห้องทั้งหมดถูกจองเอาไว้แล้ว กิจการของที่นี่จะต้องคับคั่งขนาดไหน?

“ใช่ค่ะ และไม่ใช่เพียงแค่วันนี้ วันพรุ่งนี้ รวมถึงวันมะรืนนี้ ห้องส่วนตัวทั้งหมดก็ถูกจองไว้เต็มแล้วค่ะ หากคุณผู้หญิงประสงค์จองห้องส่วนตัว สามารถจองในส่วนภายหลังวันมะรืนได้ค่ะ แต่ดิฉันต้องขอตรวจสอบก่อนว่าช่วงวันนั้นเหลือห้องส่วนตัวว่างอยู่ในช่วงเวลาใดค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงต้องการจอง ดิฉันขอแนะนำให้จองล่วงหน้าเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ” พนักงานต้อนรับตอบ

“ขนาดนั้นเลยเหรอคะเนี่ย?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ

“ที่ดิฉันเรียนไปไม่ใช่เรื่องพูดเกินจริงเลยค่ะ” พนักงานต้อนรับยิ้มตอบ “ช่วงที่ยุ่งที่สุด พวกเราเคยรับการจองล่วงหน้าถึงหนึ่งสัปดาห์ค่ะ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างดีขึ้นมากแล้วค่ะ”

ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยถึงกับต้องลอบถอนหายใจออกมา กิจการของร้านโลกในแหวนคับคั่งเกินไป ราคาอาหารของที่นี่ก็ไม่มีทางต่ำเตี้ย อย่างนั้นแล้วผลประกอบการของที่นี่จะสูงขนาดไหน?

ขณะเยี่ยเฟยเฟยและพ่อของเธอกำลังจะสั่งอาหาร แม่ของเยี่ยเฟยเฟยก็แสร้งทำเป็นเอ่ยถามโดยไม่ตั้งใจ “กิจการของร้านดีขนาดนี้ ทำเอาสงสัยเลยว่าเถ้าแก่เป็นใครมาจากไหนเลยนะคะ?”

“กิจการของพวกเราค่อนข้างดี นับตั้งแต่วันเปิดทำการครั้งแรกเลยค่ะ” พนักงานต้อนรับไม่คิดว่าแม่ของเยี่ยเฟยเฟยกำลังหลอกถาม ดังนั้นจึงตอบโดยไม่คิดอะไรมาก “เถ้าแก่ของพวกเราสกุลอู๋ค่ะ”

“สกุลอู๋!?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยอุทาน กระทั่งเยี่ยเฟยเฟยรวมถึงพ่อของเธอยังต้องมองพนักงานต้อนรับด้วยสีหน้าท่าทีประหลาดใจ

ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างมองว่าที่นี่ไม่น่าใช่กิจการของอู๋ฝาน คนที่เช่าบ้านอยู่แบบนั้น กลับเปิดร้านใหญ่โตขนาดนี้ มันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ที่พนักงานต้อนรับกล่าวเมื่อครู่ว่าเถ้าแก่ใช้สกุลอู๋ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอู๋ฝาน? หรือว่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญกัน?

“ใช่ค่ะ เถ้าแก่ของพวกเราสกุลอู๋ค่ะ” พนักงานต้อนรับยืนยันหนักแน่น

“ชื่ออู๋ฝานเหรอ?” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยวางเมนูก่อนจะเอ่ยถาม ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องการสั่งอาหารแล้ว

“ใช่ค่ะ รู้จักเถ้าแก่ของเราหรือคะ?” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามพร้อมกับเผยสีหน้าฉงนใจ

“คนรู้จักค่ะ” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ

ตอนนี้คนทั้งสามกำลังตกใจ พวกเขาเคยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่อู๋ฝานจะสามารถเปิดร้านใหญ่โตขนาดนี้ ชายหนุ่มที่บอกชื่อและที่ตั้งให้พวกเขานั้น เป็นเพียงแค่การพูดไปเรื่อยไม่ใช่เหรอ ถ้าถึงเวลา พวกเขาก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายคงหาข้อแก้ตัวไม่มาแสดงตัวแต่อย่างใด

แต่ปัจจุบัน สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว พนักงานต้อนรับของร้านพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าอู๋ฝานคือเถ้าแก่ของที่นี่ แม้จะมีความเป็นไปได้ที่จะมีชื่อสกุลเดียวกัน ทว่าความเป็นไปได้นั้นมีน้อยนิด โดยเฉพาะกับชื่อที่ค่อนข้างหายากเช่นนี้

ดังนั้นคนทั้งสามจึงประหลาดใจพร้อมกัน

เดิมครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยเพียงแค่ต้องการยืนยันให้แน่ชัดอีกครั้ง แต่แล้วพนักงานต้อนรับที่ได้ยินคำตอบจากแม่ของเยี่ยเฟยเฟย ก็มองทางเยี่ยเฟยเฟยก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา “คุณผู้หญิงใช่คุณเยี่ยเฟยเฟยหรือเปล่าคะ?”

“ค่ะ ฉันเยี่ยเฟยเฟย” เยี่ยเฟยเฟยถึงกับชะงักไปก่อนจะตอบรับ เพราะไม่ทราบว่าพนักงานต้อนรับของที่นี่รู้ชื่อเธอได้อย่างไร

“เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ เถ้าแก่ของพวกเราแจ้งเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าแขกของเถ้าแก่จะมาทานอาหารที่นี่ ดังนั้นจึงจองอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ แค่มาถึงก็พร้อมจะนำมาเสิร์ฟ ถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจอาหารเหล่านั้นก็สามารถสั่งรายการอื่นเพิ่มได้ค่ะ” พนักงานต้อนรับบอกเล่าออกมา

“เขาพูดแบบนั้นจริงเหรอคะ?” เยี่ยเฟยเฟยถามด้วยความไม่แน่ใจ ทั้งพ่อและแม่ของเธอต่างก็มองพนักงานต้อนรับด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ

“ไม่ผิดแน่ค่ะ ถ้าสนใจรายการใดเพิ่มเติมสามารถสั่งได้เลยค่ะ ดิฉันขอตัวไปแจ้งในครัวให้นำอาหารมาเสิร์ฟก่อนนะคะ” พนักงานต้อนรับตอบกลับ ก่อนจะเดินจากไป