บทที่ 365 อับอายมุดแผ่นดิน
เมื่อเห็นพนักงานต้อนรับไปแจ้งที่ครัวให้เสิร์ฟอาหารจริง ๆ ครอบครัวเยี่ยเฟยเฟยทั้งสามคนถึงได้มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่น
“เรื่องนี้… อู๋ฝานเป็นเถ้าแก่ของที่นี่จริงเหรอเนี่ย?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยมองชั้นหนึ่งของร้าน พลางพึมพำกับตัวเอง
ร้านนี้มองอย่างไรก็เป็นร้านระดับสูง แค่ดูจากการตกแต่งและราคาอาหารก็รู้แล้ว ต่อให้เป็นที่เมืองหลวง ร้านระดับนี้ก็ยังถือว่าเป็นแถวหน้า อู๋ฝานเป็นคนเปิดกิจการเองจริงเหรอ?
ไม่ใช่ว่าแม่ของเยี่ยเฟยเฟยดูแคลนอะไรอู๋ฝาน แต่เป็นเพราะเขายังอยู่บ้านเช่า เช่นนั้นแล้วจะเป็นเจ้าของร้านแถวหน้าของเจียงโจวอย่างที่นี่ได้ยังไง?
“ก็อาจใช่นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงนัดแนะกับพนักงานให้ช่วยโกหกเอาไว้ก่อน ถึงไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้หรือเปล่า แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำนะคะ” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับมา
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและอู๋ฝานถือว่าไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไร ดังนั้นอีกฝ่ายจึงแทบไม่มีความจำเป็นต้องโกหก เพื่อหลอกลวงเธอและครอบครัวถึงขนาดนี้
“ไม่คิดเลยว่าร้านของเสี่ยวอู๋จะหรูหราถึงขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขาบอกว่ามาจากชนบท หลังเรียนจบก็สู้ชีวิตหาทางอยู่ในเจียงโจวด้วยตัวเองมาโดยตลอดใช่ไหมนะ? แต่เวลาแค่หนึ่งปี เขากลับประสบความสำเร็จระดับนี้ได้ น่าประทับใจ น่าประทับใจมาก!” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม
“ก่อนหน้านี้ฉันก็บอกไปแล้วนี่คะว่าเสี่ยวอู๋เป็นคนดี คุณไม่เชื่อฉันเอง” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยค่อนแคะผู้เป็นสามี
“เพราะงั้นคุณถึงมีสายตากว้างไกลไงล่ะ” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยตอบรับ
“พ่อคะ แม่คะ พูดเรื่องอะไรอยู่กันคะเนี่ย?” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถามด้วยความสงสัย ช่วงที่ผ่านมาเธอรู้สึกราวกับทั้งสองกำลังมีอะไรปิดบังจากตนเองอยู่
“ไม่มีอะไร อืม… มีคนเดินมาทางนี้แล้ว” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เยี่ยเฟยเฟยจึงต้องหยุดถาม
“ยินดีที่ได้พบท่านทั้งสามค่ะ ดิฉันเป็นผู้จัดการชื่อว่าเฉินปิงเหยา เถ้าแก่ของเราได้จองห้องส่วนตัวไว้ให้ทั้งสามท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้พนักงานต้อนรับไม่ทราบเรื่อง จึงไม่ได้พาทุกท่านไปยังห้องส่วนตัวค่ะ ดิฉันขอถือโอกาสเรียนเชิญทางด้านนี้ค่ะ” ผู้ที่เข้ามารับหน้าคือเฉินปิงเหยา
เฉินปิงเหยาคือผู้จัดการของร้านแห่งนี้ ดังนั้นเธอจึงมักมีเรื่องยุ่งต้องคอยดูแล แต่หลังได้ยินว่ามีคนที่อู๋ฝานให้ความสำคัญเป็นพิเศษมาเยือน เธอจึงมาต้อนรับด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงรุ่นครั้งก่อน หวังจื่อหมิง หรือถังอวี่เฟยมาใช้บริการที่นี่ อู๋ฝานก็ไม่ได้ให้การต้อนรับอย่างเป็นทางการอะไร แต่วันนี้กลับฝากข้อความเอาไว้ ดังนั้นเฉินปิงเหยาจึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
“ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่มีห้องส่วนตัวว่างแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถามขึ้นมา
“ห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้านั้นถูกจองเอาไว้ทั้งหมดแล้วจริง ๆ ค่ะ แต่เถ้าแก่ของเราจะสงวนห้องส่วนตัวสำรองไม่หนึ่งก็สองห้องในทุกวันเอาไว้ค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบกลับ
“เป็นแบบนี้นี่เอง” พ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยพยักหน้ารับ การสงวนไว้สำรองถือเป็นเรื่องเข้าใจได้ อย่างไรที่นี่ก็เป็นร้านอาหารหรู บ่อยครั้งจะต้องมีคนใหญ่คนโตมาใช้บริการ พวกเขาเหล่านั้นอาจไม่ยินดีหากต้องทานอาหารในห้องโถง ดังนั้นการสงวนห้องส่วนตัวไว้ส่วนหนึ่งเผื่อจำเป็นนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
“ไม่ต้องไปห้องส่วนตัวก็ได้ครับ พวกเราอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยตอบรับ
“ใช่ค่ะ ทานตรงนี้ก็สบายดีค่ะ” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบรับ
“รับทราบค่ะ” เฉินปิงเหยาพยักหน้ารับ จากนั้นจึงบอกให้ทางครัวนำอาหารมาเสิร์ฟ
ไม่นานอาหารจึงเรียงรายนำมาวางบนโต๊ะตรงหน้าคนทั้งสาม ครอบครัวเยี่ยเฟยเฟยถึงกับถูกความงดงามของอาหารแต่ละเมนูสะกดจิตให้จ้องมอง แม้ยังไม่ได้ทานเข้าไป แต่เพียงแค่ได้กลิ่นก็นับเป็นการกระตุ้นประสาทรับรู้ให้เกิดความอยากอาหาร
เฉินปิงเหยาไม่ได้ยืนว่าง ๆ ทุกจานที่นำมาเสิร์ฟ เธอจะคอยแนะนำอาหารให้ครอบครัวเยี่ยเฟยเฟยได้ทราบข้อมูล
“ผู้จัดการเฉิน กิจการของที่นี่ดีไม่น้อย เท่าที่ฉันเห็น ผ่านไปไม่นานโถงชั้นแรกแห่งนี้ก็เกือบเต็มแล้ว” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยมองสถานการณ์รอบโถง
“พวกเราเป็นร้านชั้นนำแห่งเจียงโจวค่ะ ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงสุด แม้เปิดกิจการได้ไม่นาน แต่ทุกวันโต๊ะแทบจะเต็มแน่น โดยเฉพาะห้องส่วนตัวทั้งหลายบนชั้นสอง ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้าสักหลายวันก็ยากจะได้ใช้งานค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบกลับมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
แม้ความดีความชอบที่ร้านโลกในแหวนก้าวหน้าถึงระดับนี้ได้จะเป็นเพราะอู๋ฝานแทบทั้งหมด แต่เฉินปิงเหยาเองก็ลงเรี่ยวแรงและปณิธานไปไม่ใช่น้อย การได้เห็นร้านโลกในแหวนเติบโตขึ้นทุกวันด้วยมือของตนเอง หญิงสาวจึงรู้สึกทั้งเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ
เยี่ยเฟยเฟยและครอบครัวต่างก็ไม่นึกสงสัยในคำตอบของเฉินปิงเหยา เพราะพวกเขาได้เห็นกับตาตนเองแล้ว
“แล้วเถ้าแก่ของพวกคุณ… อู๋ฝานล่ะเป็นยังไงคะ?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถาม
“เถ้าแก่ของพวกเราเหรอคะ? ทั้งมีความสามารถและยอดเยี่ยมค่ะ ฉันไม่เคยได้เห็นใครที่อายุเท่าเขาประสบความสำเร็จขนาดนี้มาก่อน” เฉินปิงเหยาตอบกลับ
“แม่คะ ทานเถอะค่ะ ถามทำไมเยอะแยะคะ?” เยี่ยเฟยเฟยไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก
“พวกลูกอยู่บ้านเดียวกัน แม่ก็ต้องอยากรู้จักเสี่ยวอู๋ให้มากขึ้นสิ” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยดุลูกสาว
หืม? เรื่องตอนนี้คืออะไร? อยู่บ้านเดียวกัน? อีกฝ่ายเป็นภรรยาของเถ้าแก่งั้นเหรอ?
เฉินปิงเหยาที่ได้ยินคำพูดจากปากแม่ของเยี่ยเฟยเฟยดวงตาลุกวาว สายตาของเธอย้ายไปมองเยี่ยเฟยเฟยแทบจะในพริบตา
ไม่ผิด รูปลักษณ์ดูดีและงดงาม อายุไม่ต่างจากอู๋ฝานมากเกินไป เป็นไปได้มากว่าอีกฝ่ายคือภรรยาของเถ้าแก่ร้าน ไม่แปลกใจที่อู๋ฝานเป็นคนแจ้งให้เตรียมห้องส่วนตัว รวมถึงสั่งอาหารรอไว้ล่วงหน้า เพราะมีความสัมพันธ์ต่อกันระดับนี้ ด้วยเสน่ห์ส่วนตัวของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
“แม่คะ พูดอะไรกันเนี่ย!” เยี่ยเฟยเฟยที่ได้ยินคำของแม่ตัวเอง จึงรับรู้ได้ถึงสายตาสำรวจประเมินจากเฉินปิงเหยา ทำให้เธอเกิดอับอายจนแทบหารูมุดหนี
“แม่ของลูกพูดถูกแล้ว พวกพ่อไม่ได้อยู่ที่นี่กันเลย ลูกอยู่กับเสี่ยวอู๋ พวกเราก็ต้องอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยตอบรับ
‘ฉันอายแทบตายแล้ว!’ เยี่ยเฟยเฟยร่ำร้องอยู่ในใจ
“อู๋ฝานกับหนู เขา… พวกเราก็แค่อยู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้มีอะไรอย่างที่พ่อกับแม่คิดนะคะ!” เยี่ยเฟยเฟยรีบอธิบายด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
เยี่ยเฟยเฟยคิดอยากจะบอกให้พ่อและแม่ของตัวเองรู้ว่าจริง ๆ แล้วเธออยู่อาศัยที่หอพักในมหาวิทยาลัย ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับอู๋ฝาน ทว่าผลที่ตามมาจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที พ่อและแม่ของเธอจะเปลี่ยนความคิด จนถึงขั้นขอให้กลับบ้าน
ดังนั้น แม้เห็นพ่อและแม่ของตัวเองเข้าใจผิดไปขนาดไหน แต่เยี่ยเฟยเฟยก็ไม่กล้าที่จะบอกความจริงออกไป
“ไม่ใช่พวกเราคิดมากเกินไป พวกเราก็แค่ต้องการทำความรู้จักเสี่ยวอู๋ให้มากขึ้น ไว้พ่อกับแม่กลับกันแล้ว พวกเราจะได้วางใจให้ลูกอยู่ที่นี่ต่อได้” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ
พ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยไม่เชื่อว่าระหว่างเธอและอู๋ฝานจะเป็นแค่เพื่อนร่วมบ้านทั่วไป ถ้าเป็นความสัมพันธ์ทั่วไปจริง ลูกสาวของพวกเขาก็คงไม่ยินดีจะกินอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน และชายหนุ่มคงไม่ให้ความสำคัญถึงขนาดจัดเตรียมห้องส่วนตัวและอาหารไว้ให้ล่วงหน้า การกระทำเหล่านี้ในสายตาของคนเป็นพ่อและแม่ จึงต้องนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่เกินกว่าคำว่าเพื่อนไปแล้ว ไม่แปลกหากจะเริ่มสนใจสถานภาพปัจจุบันของว่าที่ลูกเขยขึ้นมา