ตอนที่303 ลูกเป็นชีวิตของเธอ
สีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ค่อยดีนัก ดูเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องอะไรบางอย่างกับลี่จุนถิง
เจียงหยุนเอ๋อก็ตกตะลึงอยู่สักครู่ จากนั้นจึงรีบกล่าวคำทักทาย “สวัสดีค่ะคุณป้า”
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอเป็นภรรยาของลี่จุนถิง แต่ก็ยังไม่เคยกล้าที่จะเรียกโม่เสี่ยวฮุ่ยว่า”แม่”
ถึงอย่างไรคนตระกูลลี่นอกจากลี่จุนถิงและลี่จุนซินแล้ว คงไม่มีคนตระกูลลี่คนไหนยอมรับสถานะของเธอ
โม่เสี่ยวฮุ่ยสะบัดหน้าพลางส่งเสียงตอบรับ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากจะพบหน้าเจียงหยุนเอ๋อเท่าไหร่
เมื่อเห็นหน้าเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็ถึงกับตกใจเช่นกัน
เขารู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อกลับมาวันนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาที่บริษัทได้เร็วเช่นนี้
เจียงหยุนเอ๋อ ก็คุ้นเคยกับสีหน้าแววตาของคนตระกูลลี่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความรู้สึกลำบากใจอะไรมากมาย
“กลับมาแล้วหรือครับ?” ลี่จุนถิงตอนนี้ก็ยังไม่ทันได้เตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อก็พยักหน้าตอบรับ
ถวนจื่อยังคงเป็นเด็กที่มีมารยาท ส่งเสียงทักทาย “สวัสดีครับคุณย่า”
แน่นอนว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ไม่ได้อยากที่จะเห็นหน้าถวนจื่อเช่นกัน
ถวนจื่อกลับไม่มีความรู้สึกเคอะเขินอะไร สำหรับเขาแล้วการที่เรียกโม่เสี่ยวฮุ่ยว่าคุณย่านั้นก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าของลี่จุนถิงเท่านั้น อีกทั้งเจียงหยุนเอ๋อเคยสอนเขาว่าต้องรู้จักมีมารยาท
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อได้มาถึงเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว หันชำเลืองมองเจียงหยุนเอ๋อแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เห็นหล่อนดีใจตอนเพิ่งเข้ามา น่าจะยังไม่รู้เรื่องนั้นสินะ?”
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าอย่างฉงน มองไปทางโม่เสี่ยวฮุ่ย “มีเรื่องอะไรหรือคะ?”
โม่เสี่ยวฮุ่ยดูเหมือนจะเดาถูกแต่แรก “ดูเหมือนว่าจุนถิงยังไม่ได้พูดกับหล่อนหรือ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยแอบยิ้มย่องในใจ เหมือนว่าลูกชายตัวเองยังคงทำใจไม่ได้กับเรื่องนั้น
คงไม่ต้องคิดก็รู้ มีใครบ้างที่ชอบให้ผู้หญิงของตนเองถูกผู้ชายคนอื่นย่ำยีบ้าง? สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้วยังคงเป็นเรื่องที่บีบคั้นหัวใจ
เจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงทำหน้าฉงน
โม่เสี่ยวฮุ่ยแอบชำเลืองไปที่ลี่จุนถิง พบว่าสีหน้าเขาก็ดูแย่มาก จงใจตะโกนเสียงดังว่า “พ่อผู้ให้กำเนิดแท้ ๆ ของลูกชายสุดที่รักของหล่อนมาหาถึงที่นี่แล้ว”
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินข่าวนี้แล้ว ตกใจสุดขีดจนร่างทั้งตัวถอยหลังไปสองก้าว สีหน้าซีดเซียว รู้สึกอ่อนแรงจนต้องเกาะประตูไว้
ถวนจื่อรีบเข้าไปพยุงเจียงหยุนเอ๋อไว้อย่างระมัดระวัง ทำตาขมังใส่โม่เสี่ยวฮุ่ย
เป็นครั้งแรกที่เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งจะเข้าใจว่า การที่ทำอะไรไม่ถูกมันเป็นอย่างไร
เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของถวนจื่อเป็นใคร แล้วทำไมถึงต้องโผล่ออกมาตอนนี้ด้วย
แต่ถ้าหากเรื่องที่โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดมาเป็นเรื่องจริง แล้วเธอกับลี่จุนถิงจะทำอย่างไรดี?
ตอนนี้จู่ๆพ่อผู้ให้กำหนดของถวนจื่อก็โพลเพิ่มมาอีกคน ก็เท่ากับว่ามีใครคนหนึ่งต้องเป็นบุคคลที่สาม หรือจะพูดว่าลี่จุนถิงเป็นบุคคลที่สามงั้นหรือ?
ถวนจื่อก็เข้าใจสถานการณ์ดี ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า “ผมไม่อยากได้คนอื่นเป็นพ่อ ผมมีคุณพ่อคนนี้คนเดียวเท่านั้น!” ถวนจื่อพูดจบก็วิ่งเข้าไปหาลี่จุนถิง กอดขาของลี่จุนถิงไว้แน่น และเอาหน้าตัวเองถูไปมาตรงขาของลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงรู้สึกตัวเองเหมือนหัวใจแทบสลาย ความรักของถวนจื่อที่มีต่อตัวเองช่างลึกซึ้งจริง
ลูกชายที่แสนน่ารักขนาดนี้ แล้วเขาจะตัดใจยอมยกให้คนอื่นได้หรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น หากยอมยกให้กับคุณชายในค่ำคืนหนึ่ง
ผู้ชายที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ ถ้าหากว่าจะให้ โมเฉินยี่ มาเลี้ยงดูถวนจื่อจริงล่ะก็ ไม่แน่ถวนจื่ออาจจะกลายเป็นเหมือนเขาอย่างนั้นก็ได้
แต่ถวนจื่อคนนี้เฉลียวฉลาดมีพรสวรรค์ แล้วจะปล่อยให้ต่ำตมเช่นนั้นได้อย่างไร?
ลี่จุนถิงนึกถึงตรงนี้แล้วสีหน้าเปลี่ยนไปยิ่งแย่กว่าเดิม
โม่เสี่ยวฮุ่ยตอนนี้ไม่เคยมีความรู้สึกที่ดีต่อเจียงหยุนเอ๋อเลย ดังนั้นก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อถวนจื่อเช่นกัน
เห็นถวนจื่อเฉลี่ยวฉลาดเช่นนี้ ก็คิดว่าเป็นเพราะเจียงหยุนเอ๋อเสี่ยมสอนมา จงใจที่จะให้พักอยู่บ้านตระกูลลี่ จึงแสร้งทำตัวน่ารักน่าทะนุถนอม เพื่อที่ให้เป็นที่รักใคร่ของทุกคน
แน่นอนที่ผู้หญิงจิตใจลึกล้ำอย่างเจียงหยุนเอ๋อ ยิ่งจะให้อยู่ในตระกูลลี่ต่อไปอีกไม่ได้
โม่เสี่ยวฮุ่ยตะคอกด้วยความโกรธ “จะตามแต่ใจแกไม่ได้ ในที่นี้เด็กอย่างแกไม่มีสิทธิออกเสียงและเลือกอะไรทั้งนั้น”
พูดจบโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เดินออกไปอย่างไม่เหลียวหลัง
หลังจากโม่เสี่ยวฮุ่ยจากไปแล้ว ภายในห้องประชุมก็สงบลงทันที ตามมาด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
ในสมองของเจียงหยุนเอ๋อคิดแก้ปัญหาสารพัดด้วยวิธีพันแปด แต่ยังไงก็คิดหาจุดจบของปัญหานี้ไม่ได้
ลี่จุนถิงก็ไม่รู้ว่าจะออกปากพูดกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างไรดี
เรื่องแบบนี้ เขากลัวว่าเจียงหยุ่นเอ๋อหน้าบาง ไม่สามารถรับได้
เจียงหยุนเอ๋อสูดลมหายใจลึกๆ เธอรู้ดีว่าหากสิ่งนั้นจะมาถึงก็ต้องเผชิญหน้าสู้
ฉะนั้นแล้วเธอจึงรวบรวมความกล้าขึ้น แล้วค่อยๆพูดว่า “จุนถิงคะ เราควรจะหันหน้ามาคุยกันแล้วนะคะ”
“รอเดี๋ยวครับ” ลี่จุนถิงกล่าวปฏิเสธ
เจียงหยุนเอ๋อเหลือกตาขึ้น จ้องเข้าไปในดวงตาของลี่จุนถิง เธอไม่คิดว่าเขาจะห้ามปรามตนเอง หรือว่า…………
ลี่จุนถิงกลืนน้ำลายเฮือกหนึ่ง “หยุนเอ๋อ คุณรู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร?”
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว “หน้าเขาฉันก็ยังไม่เคยเห็นเลย หน้าตาเป็นยังก็ไม่รู้ แล้วฉันจะรู้จักเขาได้อย่างไรคะ?”
พูดจบเจียงหยุนเอ๋อก็ก้มหน้าลง กัดริมฝีปากเบาๆ
“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเขาทำงานอะไร?” ลี่จุนถิงตั้งคำถามต่อ
เจียงหยุ่นเอ๋อส่ายหัว
นอกจากรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้นจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าลี่จุนถิงทำไมต้องถามเช่นนี้ แต่ว่าสัมผัสที่หกของผู้หญิงบอกเธอว่า เรื่องนี้ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้
“เขาอยากได้ถวนจื่อคืนหรือเปล่าคะ?” เจียงหยุ่นเอ๋อค่อนข้างตื่นตระหนก
เธอจะต้องได้อยู่กับถวนจื่อ เธอไม่สามารถที่จะแยกออกจากถวนจื่อได้
นี่เป็นสุดที่รักตัวน้อยที่เธออุ้มท้องสิบเดือนแล้วคลอดออกมา
ตอนแรกที่เธอรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์นั้น จิตใจมีแต่ความสิ้นหวัง แต่พอนึกถึงว่าอีกไม่นานก็จะได้เห็นหน้าเจ้าตัวน้อยน่ารักออกมาลืมตาดูโลก เธอก็มีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป
ถวนจื่อไม่เป็นเพียงแค่ลูกชายของเธอ แต่เป็นยิ่งกว่าเพื่อนคู่ใจยามที่เธอสิ้นหวัง
ถวนจื่อนับว่าเป็นชีวิตของเธอเลยทีเดียว
ยังไม่ทันรอให้ลี่จุนถิงตอบ เจียงหยุนเอ๋อรีบพูดขึ้นมา “ไม่ค่ะ ไม่ได้ค่ะ ฉันทำไม่ได้ที่จะให้ถวนจื่อไปจากฉัน จุนถิงคุณต้องช่วยฉัน คุณจะต้องช่วยฉันนะคะ”
เจียงหยุนเอ๋อตรงรี่เข้าไปประชิดตัวลี่จุนถิง ตอนนี้น้ำตาที่กลั้นไว้นานก็ไหลพรั่งพรูอาบเติมหน้า
ลี่จุนถิงโอบกอดเจียงหยุนเอ๋อไว้ ตบหลังเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ “เรื่องนี้ผมรู้ดี คุณฟังผมก่อนนะ”
เจียงหยุนเอ๋อปาดน้ำตาแล้วพยักหน้า “ คุณพูดเลยค่ะ”
“ผมอยากบอกคุณว่า อาชีพของฝ่ายนั้นคือเป็นคุณชายคนหนึ่ง” ลี่จุนถิงรู้สึกลำบากใจที่ออกปากพูดออกมา เพราะเขาไม่รู้ว่าคำพูดนี้ออกจากปากแล้วมีผลกระทบอะไรต่อเจียงหยุนเอ๋อหรือไม่
พอได้ยินคำพูดของลี่จุนถิงแล้ว เจียงหยุ่นเอ๋อก็ตกใจยืนฉงนอยู่กับที่
ตอนนั้นเธอที่เสียตัว เสียความเป็นสาวให้กับผู้ชายที่เป็นคุณชายเชียวหรือ?
เจียงหยุนเอ๋อเคยคิดเดาว่าเขาน่าจะเป็นคนประเภทไหน แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนจำพวกนี้
เจียงหยุ่นเอ๋อยืนงงอยู่ที่เดิม กล้ามเนื้อทั่วเรือนร่างแข็งไปทั้งตัว พูดไม่ออกไปนานพอสมควร
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรจะพูดอะไรดีในเวลานี้
ลี่จุนถิงรู้แต่เพียงว่าสภาพจิตใจของเจียงหยุนเอ๋อตอนนี้ นอกจากล่มสลายก็ยังล่มสลายอีก
สุดท้ายแล้ว ลี่จุนถิงก็เสนอว่า “ หรือไม่คุณก็ไปเจอหน้ากับฝ่ายนั้นก่อน ไปพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่”