บทที่ 403 ที่บ้านเกิดเรื่อง
บทที่ 403 ที่บ้านเกิดเรื่อง
“หวังปาเทียน นายอยากจะเป็นใหญ่มากรึไง ยังไม่ต้องพูดถึงว่านิกายกายกิเลนเป็นคู่ต่อสู้พวกนายรึเปล่า แต่อาศัยพลังวรยุทธ์ของฉันในตอนนี้ก็ทำให้นายตายอย่างไม่ยากเย็นอะไรแล้ว!” ตอนนี้ผู้เฒ่าแห่งนิกายกิเลนโมโหจริง ๆ แล้ว นิกายกิเลนของพวกเขาอดทนมาหลายปี ถึงเวลาที่จะต้องตื่นตัวบ้างแล้วเหมือนกัน
แม้ว่าในทะเลตงไห่ตอนนี้จะเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่ง แต่พลังของนิกายกิเลนตอนนี้จำเป็นต้องกลัวเขาอย่างงั้นเหรอ ล้อเล่นหรือไง ต่อให้มีหวังปาเทียนสองคนรวมกันก็ไม่อยู่ในสายตาที่จะเป็นคู่มือของนิกายกิเลน ทว่านิกายกิเลนยังไม่ทันได้ประกาศในโลกรู้ เพราะพวกเขาอยากจะประกาศศักดาที่การแข่งขันร้อยนิกาย เพื่อที่จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอย่างเป็นทางการ
ดังนั้นแม้ผู้เฒ่านิกายกิเลนจะโมโห แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลงมือ เพราะเขาเพียงต้องการคุ้มครองชีวิตฉู่เหินเท่านั้น เรื่องอื่นจะยังไงก็ช่าง!
“ตาแก่ ฉันขอเตือนให้แกหลบไปซะ ถ้าไม่อยากให้นิกายกิเลนล่มจม! คิดว่าตัวเองเป็นใคร แค่อันดับสองกล้ามาเห่าต่อหน้าฉันแบบนี้ พวกแกคงไม่กลัวตายกันสินะ” หวังปาเทียนแม้แต่ชายตามองก็ยังไม่เห็นนิกายกิเลนอยู่ในสายตา! ตอนที่พูดก็แสดงออกถึงความเหยียดหยาม
“หวังปาเทียน แกคิดว่าฉันไม่กล้าลงมือกับแกใช่มั้ย ถ้าแกกล้าทำอะไรฉู่เหินและคนอื่น ๆ แม้แต่ขนเส้นเดียว แกกับฉันได้เห็นดีกันแน่” ตอนนี้ผู้เฒ่าโคจรพลังทั้งหมดในร่างกาย เพียงแค่หวังปาเทียนขยับเขาก็สามารถลงมือได้ทุกเมื่อ!
“กิเลนดำ คิดจะรังแกคนของไห่เทียนเก้อของฉันโดยไม่ให้ใครรู้สินะ” บัดนี้เองท่ามกลางความว่างเปล่า จู่ ๆ ก็มีเสียงส่งออกมา หลังจากนั้นก็เห็นเพียงความว่างเปล่าสั่นกระเพื่อม แล้วชายชราอายุมากคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายหวังปาเทียน!
หวังปาเทียนเป็นคนของไห่เทียนเก้อ เพียงเพราะหลายปีมานี้หวังปาเทียนจัดการเรื่องราวได้เก่งกาจ ดังนั้นคนส่วนมากจะรู้จักแค่หวังปาเทียนแต่ไม่รู้จักไห่เทียนเก้อ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าอำนาจของไห่เทียนเก้อถูกจัดเก็บไว้อย่างลับ ๆ
เป็นเพราะเบื้องหลังของหวังปาเทียนคือไห่เทียนเก้อ ดังนั้นจึงมีน้อยคนมากที่จะกล้าสร้างความวุ่นวายกับเขา ในตระกูลหวังปาเทียนมีพรสวรรค์ด้านพลังวรยุทธ์อย่างมาก ในเวลาร้อยปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่คนเดียวที่ตอนนี้สามารถทะลวงขั้นปราชญ์ดาราระดับต้นได้
ในนิกาย ๆ หนึ่งนั้น การมีลูกหลานที่เก่งกาจแบบนี้จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีคนคุ้มครอง ในเมื่อตัวของหวังปาเทียนเองก็เก่งกาจ ทว่าเบื้องหลังเขาจะมีคนคุ้มครองคนหนึ่งอยู่เสมอมา ตอนนี้หลังจากผู้ช่วยปรากฏตัว ก็ทำให้หวังปาเทียนรู้สึงลิงโลด กลับกันใบหน้ากิเลนดำแห่งนิกายกิเลนกลับดูปั้นยากแทน
คนที่เพิ่งออกมานี้เขารู้จัก คน ๆ นี้ก็คือหนึ่งในสี่ผู้อาวุโสของไห่เทียนเก้อ พลังวรยุทธ์ของเขาสูงกว่าตัวเองไม่กี่ส่วน ถ้าเขาต่อสู้กับคน ๆ นี้เกรงว่าตัวเองคงปกป้องฉู่เหินไปด้วยไม่ไหว นี้ทำให้เขารู้สึกหมดแรงขึ้นมา แม้กระทั้งในเวลานี้เขาก็พร้อมที่จะติดต่อกับหัวหน้านิกาย โดยหวังว่าในนิกายจะส่งคนฝีมือสูงส่งมาอีกสักคน ไม่เช่นนั้นวันนี้ต้องเกิดอันตรายขึ้นแน่แล้ว
อย่างแต่ก็ตาม ในตอนนี้เองก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเหนือหัวของพวกเขาทุก “ตอนไหนกันที่ไห่เทียนเก้อกลายเป็นคนหน้าไม่อายไปแล้ว ลงมือกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งแล้วยังจะรุมฆ่าเขาอีก ถ้าวันนี้พวกแกกล้าลงมือฉันจะฆ่าพวกแกทิ้งซะ!” สิ้นเสียงก็เห็นเพียงเงาร่างหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าฉู่เหินและคนอื่น ๆ
คน ๆ นี้อายุไม่มาก ดูแล้วน่าจะประมาณ 60-70 ปี หนวดยาวท่าทางน่าเกรงขาม สวมชุดฉีผาวสีม่วงดวงตาแวววาว พอคน ๆ นี้ปรากฏตัวก็ทำให้ทั้งหวังปาเทียนและชายชราอ้าปากค้าง! กลับเป็นกิเลนดำที่ส่งสายตาสงสัย เขาไม่รู้ว่าทำไมคน ๆ นี้ถึงมาช่วยตัวเอง
ในตอนนี้เองก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งออกมาจากด้านหลังของฉู่เหิน เห็นเพียงเด็กหนุ่มคนนี้คุกเข่าที่พื้นด้านหน้าคาราวะชายชราคนนี้ “ฉู่ฉุนคาราวะท่านปู่!” คน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นเขาก็คือผู้เฒ่าของตระกูลฉู่นั้นเอง! สมาชิกตระกูลฉู่รวมกันแล้วมีเพียงแค่สามสิบสี่สิบคน แน่นอนข้ารับใช้นั้นไม่นับ
ทว่ามีเพียงแค่คนตระกูลฉู่สิบคน ก็ทำให้ขุมอำนาจทั้งหลายในมหาสมุทรโกลหลได้แล้ว! กระทั้งขุมอำนาจอันดับ 1-3 เมื่อเจอคนตระกูลฉู่ก็ไว้หน้าพวกเขาถึงสามส่วน ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าพลังของครอบครัวฉู่นั้นต่างก็แข็งแกร่ง ทั้งยังมีพลังวรยุทธ์ที่สูงจนน่าตกใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจำนวนสมาชิกน้อยเกินไป น่ากลัวว่าพวกเขาคงจะเป็นขุมอำนาจที่แกร่งที่สุดไปแล้ว หวังปาเทียนไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะเป็นคนของตระกูลฉู่ที่รากฎกายออกมา ทำให้เขารู้ตะลึงลนลานไปหมดแล้ว
“ท่านผู้อาวุโสฉู่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตระกูลฉู่ของคุณ ทำไมคุณต้องมากวนน้ำให้ขุ่นด้วย” เมื่อเห็นคนที่แข็งแกร่งกว่าออกหน้าเพื่อฉู่เหิน หวังปาเทียนไม่มีทางเลือกนอกจากพูดยุยง!
“จนถึงตอนนี้ทำไมนายยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเราอีก นายลองคิดดี ๆ สิว่าเด็กหนุ่มที่นายอยากฆ่าเขาชื่อว่าอะไร!” สิ้นประโยคนี้ของผู้เฒ่าฉู่เขาก็ยืนอย่างสงบโดยไม่พูดอะไรอีก ทว่าสายตากลับดุดัน!
หวังปาเทียนมองฉู่เหินปากขยับพูดชื่อของอีกฝ่ายเบา ๆ หลังจากพูดคำว่าฉู่ของฉู่เหินออกมา สายตาที่เคยครี่เล็กพลันเบิกกว่า ชายชราเข้าใจแล้วว่าทำไม ที่แท้ฉู่เหินก็คือลูกหลานตระกูลฉู่ ถึงว่าทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้พูดจาเด็ดเดี่ยวนัก
จะให้ถอยแบบนี้เขาก็ไม่ยอม แต่ว่าเขาก็รู้ดีว่ามีเพียงตระกูลฉู่เท่านั้นก็ไม่อาจย้อนเกล็ดมังกรได้ ไม่มีคนกล้าเป็นปรปักษ์กับพวกเขา ตระกูลฉู่เดิมมีคนน้อย ดังนั้นลูกหลานรุ่นหลังจึงสำคัญสำหรับพวกเขามาก เพราะแบบนี้ ใครที่กล้าผิดใจกับลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขา ครอบครัวตระกูลจะฆ่าตามเอาชีวิตคน ๆ นั้น!
หลังจากเห็นฉากนี้ หวังปาเทียนก็ถอนหายใจยาว ทำได้เพียงเก็บความแค้นไว้ในใจ เขารู้ว่าวันตัวเองพูดออกออกไป ก็ไม่อาจลงมือได้อีกแล้ว ไม่งั้นไม่ช้าก็เร็วตระกูลฉู่ไม่เพียงแต่จะสร้างความหายนะให้กับตัวเอง เกรงว่าทั่วมหาสมุทรก็จะซวยไปด้วย
ชายชราเพียงทิ้งประโยคว่าฝากไว้ก่อน จากนั้นก็จากไปพร้อมกับชายชรา
ฉู่ฉุนแนะนำให้ฉู่เหินรู้จักกับชายชราตรงหน้าว่าเป็นปู่ของครอบครัวเรา ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุกเขาคาราวะ! เดิมทีฉู่เหินเคยเข้าใจผิดเกี่ยวกับพ่อของเขา ว่าพวกเขาทอดทิ้งตัวเองเมื่อตอนยังเด็ก เรื่องดังกล่าวสร้างบาดแผลในใจเขาเรื่อยมาไม่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา
ทว่าหลังจากได้พบกับฉู่ฉุน น้องของเขาก็ได้บอกว่าหลายปีที่ผ่านพ่อของตัวเองตามหาชายหนุ่มมาเสมอ จนทำให้สูญเสียอะไรไปหลายอย่าง ท่ามกลางคำบอกเล่านี้ นี่จึงทำให้ความแค้นใจของฉู่เหินหายไปกับสายลม!
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาทะลวงหมิงอู๋หรือตระหนักรู้หลักการของสวรรค์ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนเลือด น่ากลัวว่าพ่อของเขาตอนนี้คงมีชีวิตรอดอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว! ทว่าตอนนี้เรื่องราวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ฉู่เหินคาดหวังว่าจะได้พบกับพ่อและแม่ตนเองเร็ว ๆ บางทีทุก ๆ เรื่องก็มักจะเกิดแบบนี้ขึ้นได้!
ฉู่เหินออกมาพร้อมกับพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะกลับไปที่นิกายของตัวเอง แต่ยังมีส่วนน้อยที่ไม่มีนิกายเป็นของตัวเองแล้ว! สำหรับคนพวกนี้ฉู่เหินไม่พูดมาก ให้พวกเขาทั้งหมดเข้านิกายกิเลนซะเลย! คนพวกนี้ไม่ว่าจะพรสวรรค์หรือว่าคุณธรรมการนำเข้านิกายกิเลน นี่จะส่งผลดีกับนิกายอย่างมาก
อย่างไรก็ตามหลังจากพวกเขาเพิ่งจะเข้านิกายกิเลนแล้ว ชายหนุ่มพลันได้ยินข่าว ๆ หนึ่งว่าตระกูลฉู่เกิดเรื่องแล้ว ก่อนหน้านี้หัวหน้านิกายได้สั่งให้สี่ราชันและก็โป๋อีกู่ไปช่วยจัดการเรื่องที่บ้านของฉู่เหินแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังสะสางไม่เสร็จ ดังนั้นพอฉู่เหินที่เพิ่งมาถึงนิกายกิเลนหัวหน้านิกายก็ให้ฉู่เหินรีบกลับบ้านไปซะ!
หลังจากทุกคนเป็นลูกศิษย์ของนิกายแล้ว เสี่ยวชิงกับฉู่ฉุนก็เตรียมตัวกลับหมู่บ้านชาวประมง พอฮาวโยวรู้ว่าที่บ้านของฉู่เหินเกิดเรื่อง ไม่ว่าจะพูดยังไงก็จะไปด้วยให้ได้ ฉู่เหินไม่มีทางเลือกเลยให้เขาไปด้วย!
สำหรับผู้เฒ่าตระกูลฉู่และหัวหน้าของปัจจุบันของนิกายกิเลน พวกเขาสองคนได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมกันด้วยปากเปล่า ส่วนจะทำให้เป็นทางการนั้นต้องรอเวลาอีกสักหน่อย ในอนาคตพวกเขาจะร่วมตกทุกข์ได้ยากด้วยกัน! ที่จริงที่นิกายกิเลนและตระกูลฉู่เป็นพันธมิตรกันคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือนิกายกิเลน เพราะพลังของตระกูลฉู่มากกว่าพวกหลายเท่านัก!