ขณะนี้โลกทั้งใบราวกับเงียบสงัด ซูสือจิ่นไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น รู้สึกเหมือนว่ามีดอกไม้ไฟนับพันเบ่งบานอยู่ในใจ ชั่วขณะความสวยงามก็ทำให้คนเกือบจะลืมหายใจ
ถึงแม้จะเป็นแค่สองสามวินาทีสั้นๆ หยานชิงเจ๋อก็แยกจากไป แต่เธอก็รู้สึกราวกับว่าตนเองได้สัมผัสกับความฝัน ความฝันที่งดงามจนให้คนเคลิบเคลิ้มไม่อยากตื่นขึ้นมา
เมื่อหยานชิงเจ๋อละออกจากริมฝีปากของซูสือจิ่นไป จู่ๆก็ตระหนักได้ว่าตนเองทำอะไรอยู่ ชั่วขณะหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมา และดูประหม่าเล็กน้อย
เขามองไปรอบๆ ก็พบว่าแม้แต่คนที่ตรวจตั๋วตรงทางเข้าก็จ้องมองพวกเขาอยู่ ใบหูของเขาก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา
เขาผละออกอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยมือของซูสือจิ่นออก แกล้งทำเป็นไปรับตั๋ว เพื่อปกปิดความเขินอายและความไม่เป็นธรรมชาติของเขา
และในเวลานี้ ฉับพลันก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นมา : “เฮ้ เสี่ยวสือจิ่น?”
ซูสือจิ่นได้ยินเสียง จึงหันกลับไป เห็นชายวัยรุ่นแต่งตัวแบบลูกผู้ลากมากดี กำลังโบกมือให้เธอ แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“เฉิงเลี่ยง?” ซูสือจิ่นยิ้ม แล้วก็โบกมือให้เขา : “คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“ฉันมาดูหนังคนเดียว น่าเวทนาจริงๆเลย!” พูดจบเขาก็มองซูสือจิ่น จากนั้นก็มองหยานชิงเจ๋อ แล้วเอ่ยถามซูสือจิ่นว่า : “พี่ชายคุณเหรอ? ไม่เคยเจอกันนานหลายปี เกือบจำพี่ชายคุณไม่ได้เลย! ทำไมหล่อขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีก แล้วเราจะมีชีวิตอยู่กันอย่างไร?”
ซูสือจิ่นเข้าใจในทันที
ในตอนนั้น ที่เธอแนะนำหยานชิงเจ๋อให้เพื่อนร่วมชั้นรู้จัก ก็แนะนำว่าเขาเป็นพี่ชายจริงๆ ประการแรกคือปกปิดความรู้สึกของตนเอง ประการที่สองหยานชิงเจ๋อคิดกับเธอเป็นแค่น้องสาวมาตลอด
ซูสือจิ่นกำลังจะชี้แจง เฉิงเลี่ยงก็พูดขึ้นว่า : “อืมใช่สิ คุณเพิ่งกลับประเทศมา? มีแฟนหรือยังล่ะ?”
ได้ยินเขาถามแบบนี้ ซูสือจิ่นอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหยานชิงเจ๋อ
เวลานี้ความรุ่มร้อนที่ใบหูของหยานชิงเจ๋อลดลงไปแล้ว บรรยากาศรอบๆตัวเขาค่อยๆเย็นชาขึ้นมา
เขาจับมือของซูสือจิ่นที่เพิ่งปล่อยออกเพราะความเขินอาย จากนั้นก็พูดกับเฉิงเลี่ยงอย่างเย็นชาว่า : “เธอไม่มีแฟน”
“อืม ฉันก็โสดอยู่——” เฉิงเลี่ยงยังไม่ทันได้บอกว่าให้มาดูหนังด้วยกัน หยานชิงเจ๋อก็พูดว่า : “แต่เธอมีสามีแล้ว”
“ห๊ะ?” เฉิงเลี่ยงเหมือนถูกตบหน้า ถึงแม้ว่าจะเห็นหยานชิงเจ๋อจับมือของซูสือจิ่น ก็ไม่ได้คิดว่าตำแหน่ง ‘สามี’ นี้จะเป็นของหยานชิงเจ๋อ
เขามองไปรอบๆ : “ล้อเล่นหรือเปล่า! เสี่ยวสือจิ่น คุณแต่งงานแล้วจริงๆเหรอ? อย่างนั้นสามีของคุณล่ะ?”
ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างมาก จึงรีบชี้ไปที่หยานชิงเจ๋อ แล้วพูดว่า : “คือเขาไง!”
“เสี่ยวสือจิ่น คุณล้อฉันเล่นนะสิ!” เฉิงเลี่ยงทำท่าทางเหมือนไม่เชื่อ : “ชัดเจนว่าเขาเป็นพี่ชายของคุณ!”
“เราไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด……” ซูสือจิ่นยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆก็ถูกหยานชิงเจ๋อดึงมา เขาจับท้ายทอยของเธอไว้ แล้วจูบลงไปที่เธอ
ครั้งนี้เขาจูบนานกว่าเมื่อกี้
เขาจูบเสร็จ ก็ทำท่าทางแสดงออกทางอำนาจอธิปไตยกับเฉิงเลี่ยง จากนั้นก็ดึงซูสือจิ่นเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“นี่——” เฉิยงเลี่ยงยังไม่อยากจะเชื่อ : “เสี่ยวสือจิ่น พี่ชายคุณทำไมกลายเป็นสามีของคุณไปได้ล่ะ?”
ซูสือจิ่นได้ฟังคำพูดของเฉียงเลี่ยง จิตใจก็ค่อยๆสงบลงมา
เวลานี้หยานชิงเจ๋อได้พาเธอไปนั่งยังที่นั่งด้านหน้าของพวกเขา
เขาหันไปมองเธอ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย : “คนคนนั้นเป็นใครมาจากไหน? ต่อไปอย่าคบเพื่อนที่ไม่ได้เรื่องประเภทนี้อีก!”
“เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายของฉัน……” ซูสือจิ่นพูดว่า : “คุณยังจำได้ไหม ในตอนนั้นที่เคยนั่งโต๊ะเดียวกันกับฉันมาครึ่งเทอม……”
“ใครจะจำคนเละเทะอย่างนั้นได้” หยานชิงเจ๋อนึกถึงแววตาของเฉิงเลี่ยงเมื่อกี้นี้ ก็ยังคงหงุดหงิดเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าสายตาของคนคนนั้นดูอยากจะได้อย่างมาก ดูเหมือนว่ามีแผนการอยู่ในหัว เห็นแล้วไม่ถูกชะตาเลย!
ยังบอกว่านั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับคุณอีก ชื่อก็แทบไม่อยากจะได้ยินเลย……
ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อนั่งลงด้วยหน้าตาท่าทางที่ไม่สบายใจ นึกถึงเขาที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นของเฉิงเลี่ยงเมื่อกี้นี้ เขาก็เริ่มที่จะจูบเธอเพื่อประกาศอำนาจอธิปไตย และความสงสัยก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเธอ
หรือว่าเขาจะหึง?
เขาหึงใช่ไหม?!
ซูสือจิ่นแอบหันไปมองหน้าหยานชิงเจ๋อ
เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย บริเวณคางตึงแน่น คิ้วสวยๆไม่มีแนวโน้มที่จะคลายออก
ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธจริงๆใช่ไหม?
ซูสือจิ่นรู้สึกดีใจและประหลาดใจเล็กน้อย เหมือนคลื่นเล็กๆที่กระเพื่อมขึ้นมา ทำให้รู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว
เธอยื่นมือไปดึงแขนของหยานชิงเจ๋อเบาๆ จากนั้นก็กระซิบพูดกับเขาว่า : “โอเค ต่อไปนี้ฉันจะไม่คุยกับเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมาพูดกับฉัน ฉันก็จะทำเหมือนว่าตนเองเป็นใบ้!”
หยานชิงเจ๋อหันมามองซูสือจิ่น เห็นท่าทางที่เชื่อฟังของเธอ ก็รู้สึกได้ว่าลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอเมื่อกี้นี้ ก็ค่อยๆจางหายไปทันที
เขายังคงแสร้งทำเป็นโมโห แล้วพูดสั่งสอนเธอว่า : “ต่อไปอยู่ข้างนอก ก็ระวังคำพูดและการกระทำด้วย”
ซูสือจิ่นเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของหยานชิงเจ๋อ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม : “โอเค”
หยานชิงเจ๋อเห็นเธอยิ้ม ก็ไม่สบายใจเล็กน้อย เขายื่นมือไปบีบแก้มของซูสือจิ่น : “ยิ้มอะไร? ฉันพูดเรื่องที่จริงจังอยู่!”
“โอเคๆๆ!” ซูสือจิ่นพยักหน้าเหมือนเด็กนักเรียน : “อย่างนั้นต่อไปนี้ฉันจะระวังให้มากขึ้น!”
พูดจบแววตาของเธอก็ฉาบไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แล้วแกล้งพูดกับเขาต่อว่า : “ต่อไปถ้าผู้ชายมาชวนฉันคุย ฉันจะทำเป็นฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา หรือว่าถ้าเขาเริ่มจะพูดอะไรกับฉันอีก ฉันก็จะบอกเขาว่า ฉันแต่งงานแล้ว”
หยานชิงเจ๋อมีชีวิตชีวากลับมา เขาหรี่ตามอง มีแสงอันตรายประกายอยู่ในแววตา : “ซูสือจิ่น?!”
ซูสือจิ่นถอยไปด้านหลัง พิงติดกับเก้าอี้ เพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้มากขึ้น: “พวกเราควรจะดูภาพยนตร์นะ!”
หยานชิงเจ๋อเห็นเธอแสร้งทำเป็นหวาดกลัว ก็รู้สึกเพียงว่าหัวใจมีความสุขขึ้นมา เขาจงใจเข้าไปใกล้ๆ ทำให้ซูสือจิ่นหลีกหนีไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ จึงยื่นฟันออกมา แล้วกัดที่ติ่งหูของซูสือจิ่น
รู้สึกเพียงว่ากระแสไฟฟ้าได้กระจายไปทั่วทั้งตัวในชั่วพริบตา ซูสือจิ่นตัวสั่นเล็กน้อย ขยับตัวไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ในทันทีหัวใจของหยานชิงเจ๋อก็รู้สึกมีความสุข คล้ายกับว่าในสงครามครั้งนี้ ในที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะ เขานั่งตัวตรง จากนั้นก็ดึงฉากกั้นระหว่างที่นั่งของคนทั้งสองขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือออกไป ดึงซูสือจิ่นที่เขินอายอยู่มาไว้ในอ้อมกอด
ซูสือจิ่นไม่ได้ขยับตัว ปล่อยให้หยานชิงเจ๋อโอบกอดเธอ หลังและแขนของเธอครึ่งหนึ่งแนบชิดอยู่บนหน้าอกของเขา ผ่านเสื้อผ้าที่กั้นเอาไว้ เธอรู้สึกได้ถึงพลังการเต้นของหัวใจหยานชิงเจ๋อ
ภายในใจมีดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง และส่งกลิ่นหอมกรุ่น
มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นทีละน้อยๆ นี่คือรสชาติของความรักใช่ไหม?
บล็อกบัสเตอร์ไซไฟ ฉากอลังการมาก แต่ซูสือจิ่นแทบจะไม่เข้าใจมันเลย เพราะความคิดทั้งหมดของเธออยู่ที่บนร่างกายของหยานชิงเจ๋อ
จนกระทั่งตอนสุดท้าย เธอเห็นเด็กผู้หญิงอายุสิบกว่าขวบคนนั้นในภาพยนตร์ จึงกล่าวถามหยานชิงเจ๋อว่า: “เด็กผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรเหรอ?”
หยานชิงเจ๋อยักไหล่: “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เหมือนกับว่าฉันดูภาพยนตร์ไม่ค่อยเข้าใจ” ซูสือจิ่น: “เพียงแต่ฉาก 3Dนี้ไม่เลวจริงๆ!”
หยานชิงเจ๋อพยักหน้า: “โดยภาพรวมฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ไม่มีเรื่องไหนดีเท่าTransformersเลย”
คนทั้งสองดึงแว่น3Dออกมา ซูสือจิ่นเปิดโต้วป้าน (เต็งหนึ่งอาณาจักรบันเทิงไฮเทคแห่งแดนมังกร) ดู แล้วกล่าวกับหยานชิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆว่า: “เดิมที ทุกคนก็บอกว่าเค้าโครงเรื่องมันสับสนมาก!”
ไม่ใช่เพราะพวกเขาจิตใจฟุ้งซ่าน แต่ภาพยนตร์นี้มีฉาก และเนื้อหาที่ทำให้คนดูแล้วไม่เข้าใจ!
“อ้อ” หยานชิงเจ๋อพยักหน้า ดูแล้ว ไม่ใช่ปัญหาของเขา ถึงแม้ที่เขาจะโอบกอดซูสือจิ่นมาโดยตลอด จะคิดเรื่องที่พวกเขาทำกันทุกคืน ทำจนเหงื่อแทบจะท่วมไปทั้งตัว…..
พอคนทั้งสองมาถึงบ้าน ซูสือจิ่นก็หยิบชุดนอนแล้วรีบเดินไปยังห้องน้ำ: “ชิงเจ๋อ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ!”
เพราะบนร่างกายมีเหงื่อออกเหนียวเหนอะหนะ ตอนนี้จึงรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย
หยานชิงเจ๋อตอบรับคำหนึ่ง แล้วจึงไปที่ห้องนอน เปลี่ยนเสื้อผ้า
เขาสวมชุดนอนบางๆแล้วออกมา กำลังวางแผนจะไปอุ่นนมสักแก้วหนึ่ง แต่เมื่อเดินผ่านห้องน้ำ ก็จับพลัดจับผลูหยุดฝีเท้าลง
คิดถึงอะไรบางอย่าง เขาก็รู้สึกว่าเลือดของตนเองเริ่มอุ่นขึ้น หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น จนกระทั่ง ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งมากขึ้น คล้ายกับระลอกคลื่นที่ดำขลับ แต่แก้มกลับแดงขึ้นเล็กน้อย หายใจได้ไม่ทั่วท้อง
เพียงแต่ลังเลใจอยู่แค่สองวินาที เขาก็ยื่นมือออกไป หมุนเปิดประตูห้องน้ำ
ตอนแรกซูสือจิ่นอาบน้ำก็มักจะล็อกประตู แต่ในบ้านมีพวกเขาแค่สองคน แค่เธออาบน้ำ หยานชิงเจ๋อก็จะไม่เข้ามา ดังนั้น สองสามวันต่อมา เธอแค่ปิดประตูก็พอ
ด้วยเหตุนี้ ได้ยินเสียงประตูถูกเปิด เธอก็ตกใจอย่างมาก
เธอหันไปมอง ก็เห็นหยานชิงเจ๋อเดินเข้ามา ทันใดนั้นเธอก็รีบหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวกับเขาอย่างร้อนใจว่า: “คุณเข้ามาได้ยังไง?”
“ตัวฉันก็มีเหงื่อ ไม่สบายตัวเลย อาบด้วยกันเถอะนะ!” หยานชิงเจ๋อแสร้งทำเป็นกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ
“อาบด้วยกัน?” ซูสือจิ่นคิดว่าตนเองฟังผิดไป
“อืม” หยานชิงเจ๋อพูดพลาง เริ่มถอดเสื้อผ้า
“อีกเดี๋ยวฉันก็จะอาบเสร็จแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณรอฉันสักสองนาทีนะ ฉันจะอาบเสร็จแล้ว!” ซูสือจิ่นพูดพลาง รีบชำระล้างฟองที่อยู่บนหัวออก
แต่พอเธอเริ่มเปิดฝักบัวอีกครั้ง หยานชิงเจ๋อก็พาตัวที่เปลือยเปล่าเดินเข้ามา
ในทันใด มือของเขาก็โอบเอวของเธอจากด้านหลัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าปกติว่า: “จำได้ว่าตอนเป็นเด็ก เหมือนกับว่าพวกเราก็เคยอาบน้ำด้วยกันนะ……”
ซูสือจิ่นหน้าแดงขึ้นมาทันที
ใช่ ตอนนั้นเธอเพิ่งจะสามสี่ขวบ เขาก็เพิ่งจะแปดเก้าขวบ ตอนนั้นคนทั้งสองไม่รู้ว่าไปเล่นอะไรมาจนเลอะเทอะไปทั้งตัว ส่งเสียงร้องพลาง เข้าห้องน้ำไปด้วยกัน
ในบ้านเธอมีฝักบัวอันเดียว ดังนั้น คนทั้งสองจึงเบียดกันใต้ฝักบัว แล้วอาบน้ำด้วยกัน…..
เหมือนกับว่ามันอยู่ในความทรงจำของหยานชิงเจ๋อ มือของเขาเลื่อนไปบนผิวที่เรียบเนียนและนุ่มลื่นของซูสือจิ่น แล้วกล่าวด้วยเสียงเบาๆว่า: “อันที่จริง ตอนที่ฉันดูภาพยนตร์ ก็อยากที่จะอาบน้ำด้วยกันกับคุณ ดังนั้น ภาพยนตร์เรื่องนั้นฉันจึงไม่ได้ดูโดยสิ้นเชิง จึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแสดงอะไรบ้าง…..”
ซูสือจิ่นรู้สึกเพียงว่า ตามคำพูดของเขาที่จบลง สมองของเธอก็ว่างเปล่าไปในทันที
เพียงแต่เรื่องแบบนี้ ผู้ชายก็ยิ่งรู้ดีกว่า
หยานชิงเจ๋อเริ่มดึงศีรษะเธอเข้ามา แล้วเอียงหน้าไปจูบเธอ มือของเขาโอบกอดเธอเอาไว้แน่น ร่างกายของคนทั้งสอง เริ่มร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น เขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไร จากนั้นเข้าไปอย่างไร ซูสือจิ่นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว……