นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 150 ไปหาชุ่ยฮวา
“แม่ แม่จับนางไว้ก่อน ข้าจะไปเรียกอาสะใภ้ชุ่ยฮวาชุ่ยฮวา ให้นางมาช่วยแม่พาเขาไปส่ง เพื่อไม่ให้เกิดความไม่ชัดเจนขึ้นในภายหลัง” โจวกุ้ยหลานตะโกนบอกเหล่าไท่ไท่ แต่สายตาของนางมองไปยังหลิวเซียง

หลิวเซียงได้ยินคำพูดของโจวกุ้ยหลานว่าอาสะใภ้ชุ่ยฮวา ร่างของนางแข็งทื่อ จากนั้นออกแรงดิ้นรนมากกว่าเดิม

ไม่ได้ จะปล่อยให้อาสะใภ้ชุ่ยฮวามาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางจะต้องถูกส่งกลับไปเป็นอย่างแน่ นางไม่อยากแต่งงานกับเจ้าบ้านั่น นางต้องการแต่งงานกับผู้ชายที่ดี ! อีกอย่าง……อีกอย่างบ้านหลังนี้มีข้าวให้กิน แถมยังมีเนื้ออีก ! นางจะต้องแต่งงานเข้าบ้านหลังนี้ให้ได้ !

คิดเช่นนี้นางยิ่งอยากวิ่งเข้าชนกำแพง ขอแค่นางสัมผัสกำแพงสักเล็กน้อยก็สามารถอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปได้แล้ว !

เหล่าไท่ไท่ออกแรงที่มือเพิ่มขึ้นมาก จับนางไว้แน่น หันกลับมาพูดกับโจวกุ้ยหลานว่า “เจ้ารีบไปเรียกอาสะใภ้ชุ่ยฮวาชุ่ยฮวาของเจ้ามาเร็ว !”

โจวกุ้ยหลานตอบรับและรีบวิ่งออกไปด้านนอกทันที

หลิวเซียงเห็นเช่นนั้น ในใจยิ่งตื่นตระหนก หันไปด้านหลังของโจวกุ้ยหลานและตะโกนออกมาว่า “นี่เจ้ากำลังบีบให้ข้าตายอยู่ใช่ไหม ?”

“ใครบีบบังคับเจ้า ?” โจวกุ้ยหลานตอบกลับมา

เห็นลูกสาวตนเองยังพูดกับหลิวเซียงด้วยเหตุผล จึงตัดบทนางในทันที “พูดอะไรของเจ้า รีบไปเรียกอาสะใภ้ชุ่ยฮวาของเจ้ามาได้แล้ว !”

โจวกุ้ยหลานยกขาและวิ่งออกไปทันที ในห้องโถง หลิวเซียงพบว่าเรี่ยวแรงของตนไม่สามารถสู้เหล่าไท่ไท่ได้ จึงเริ่มพูดจาอ้อนวอนอีกครั้ง “ท่านป้า ท่านจะผลักข้าเข้าไปในกองไฟไม่ได้ !”

“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวเจ้า ครอบครัวของข้าเป็นครอบครัวที่สงบสุข ไม่สามารถทำเรื่องนอกกรอบได้ อีกอย่าง ครอบครัวของเจ้าบอกปัดครอบครัวของข้า เรื่องนี้ข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้ เจ้าทำได้แค่กลับไปคุยกับพ่อแม่ของเจ้าเท่านั้น”

เหล่าไท่ไท่พูดอย่างแข็งกร้าว

แค่นี้นางก็สามารถมองออก หลิวเซียงผู้นี้ไม่ใช่คนที่สามารถจัดการได้โดยง่าย คิดจะพุ่งชนบ้านของนาง แถมยังต้องการอาศัยอยู่ต่อไปด้วย

แม้นางอยากจะหาภรรยาให้กับบุตรชายของนาง แต่ก็ไม่อยากได้ลูกภรรยาที่เป็นปัญหาเช่นนี้

แบบนี้ถึงต่อให้ได้แต่งงานกันก็ไม่มีทางมีชีวิตที่ดี

หลิวเซียงตกตะลึงในคำพูดของเหล่าไท่ไท่ “ทำไมป้าพูดแบบนี้? ทำไมป้าถึงใจร้ายเช่นนี้?”

“แม่หนู ไม่ใช่ว่าข้าบังคับให้เจ้าไปแต่งงานกับคนโง่นั่น แต่เป็นพ่อแม่ของเจ้า ทำไมเจ้าถึงต้องมาสร้างปัญหาที่นี่ด้วย ?” เหล่าไท่ไท่พูดออกไปโดยไม่สบอารมณ์

ทำไม นี่ต้องตามใจให้นางอยู่อย่างนั้นหรือ? จะต้องให้ลูกชายของนางช่วยเหลือแม่หนูคนนี้อย่างนั้นหรือ?

“หากอยากตายเพราะไม่อยากแต่งงาน งั้นเจ้าก็ไปตายที่บ้านของเจ้า ข้าไม่เชื่อ พ่อแม่เจ้าจะสามารถยกศพของเจ้าไปที่ครอบครัวนั้นได้จริง ถึงต่อให้ยกไป เจ้าคิดว่าครอบครัวนั้นจะต้องการอยู่อีกอย่างนั้นหรือ ?” เหล่าไท่ไท่พูดออกอย่างหมดความอดทน

นางไม่รู้สึกว่าแม่หนูผู้นี้จะอยากตายจริง แต่นางก็ไม่สามารถปล่อยมือได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถปล่อยมือได้ หากเลือดนางออกมาแม้แต่นิดเดียว งั้นครอบครัวก็คงไม่สงบสุข

หลิวเซียงตะลึงงัน ลืมการดิ้นรนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง

มีคนโหดเหี้ยมขนาดนี้อยู่ได้ยังไง นี่คิดจะมองนางกระโดดเข้ากองไฟโดยไม่ช่วยอะไรเลยอย่างนั้นหรือ?

“ป้ายังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า ? จะมองข้าตายไปทั้งอย่างนี้งั้นหรือ ? แล้วคืนนี้ป้าจะหลับสบายได้อย่างนั้นหรือ ?” หลิวเซียงทนไม่ไหว เถียงใส่เหล่าไท่ไท่ด้วยความโกรธ

โอ้ นางสวีเหมยฮวาสิ่งที่ไม่กลัวที่สุดก็คือคนเย่อหยิ่งหรือรับมือยาก !

“ข้าจะมีหัวใจหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า ? ถึงต่อให้ข้าไม่มีหัวใจแล้วมันยังไง ? หากเจ้าอยากตายก็ไปตายไกล ๆ อย่ามาสร้างปัญหาให้ครอบครัวของข้า !”

“หากเจ้ายังมีน้ำใจทำไมถึงไม่ยอมให้ต้าไห่แต่งงานกับข้า ? เขาแต่งงานกับข้า ข้าก็ไม่จ้องไปแต่งงานกับเจ้าโง่นั่นแล้ว !” หลิวเซียงตะโกนออกไปอีกครั้ง

เหล่าไท่ไท่อยากจะหัวเราะออกมาในทันที นี่ชุ่ยฮวาแนะนำคนอะไรให้นางรู้จัก โชคดีเหลือเกิน ! ไม่อย่างนั้นคงเป็นหายนะ !

“ข้าเป็นพ่อหรือเป็นแม่ของเจ้า ? ทำไมข้าต้องคิดเช่นนี้กับเจ้าด้วย ? ทำไมข้าถึงต้องให้ต้าไห่ไปแต่งงานกับคนอย่างเจ้า ? อย่างนั้นวันหลังใครมาสร้างความวุ่นวายบ้านข้า ข้าก็ต้องให้ต้าไห่ไปแต่งงานกับนางอย่างนั้นหรือ ?”

ก่อนหน้านี้อย่างน้อยก็ยังมีความเห็นใจแม่หนูคนนี้ แต่ตอนนี้นางไม่หลงเหลือความเห็นใจเลยแม้แต่น้อย !

อะไรกัน นี่เป็นความผิดของนางงั้นหรือ ? นี่มันเกี่ยวอะไรกับนางงั้นหรือ?

ดวงตาคู่นั้นของหลิวเซียงเบิกกว้าง ไม่กล้าเชื่อว่าเหล่าไท่ไท่จะพูดออกมาเช่นนี้

“พ่อของข้า ป้าต้องจ่ายค่าสินสอด หากป้าไม่ยอมจ่าย พ่อข้าจะให้ข้าแต่งงานกับเจ้าโง่นั่น แบบนี้ไม่เรียกว่าป้าทำร้ายข้าอีกอย่างนั้นหรือ ?” น้ำเสียงของหลิวเซียงแฝงมาด้วยความเกลียดชัง

ไม่ว่าพูดอย่างไรโจวต้าไห่ก็ถือเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ สามารถทำงานได้ ที่บ้านก็มีข้าว มีเนื้อให้กินไม่ขาด นางไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายแน่นอน !

เหล่าไท่ไท่ขี้เกียจจะพูดกับนาง หากไม่ใช่เพราะว่าไม่อย่ากให้บุตรชายของนางหาพรรยาไม่ได้ในภายหลั นางอยากจะมัดแม่หนูคนนี้ไว้ จะได้ไม่ต้องมาดึงมารั้งนางไว้แบบนี้

เห็นเหล่าไท่ไท่ไม่พูดอะไร หลิวเซียงแยกมือของเหล่าไท่ไท่ออก เห็นว่าไม่ขยับ นางจึงใช้การหยิกแทน

แรงมือของเหล่าไท่ไท่นั้นแรงขึ้นอีก นางบีบกระดูกของหลิวเซียงไว้อย่างรุนแรง หลิวเซียงร้องออกมา และไม่กล้าทำอะไรเหล่าไท่ไท่อีกเลย

ยิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเศร้าใจมากขึ้นเท่านั้น ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วก็แดงยิ่งกว่าเดิม

เหล่าไท่ไท่ที่อยู่ข้าง ๆ ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เพ่งสายตาจ้องมองนาง กลัวว่านางยังมีความคิดพุ่งจนกำแพงเหลืออยู่

ทั้งสองคนอยู่กับแบบนั้น โดยกระทั่งโจวกุ้ยหลานกำลังไปตามอาสะใภ้ชุ่ยฮวาชุ่ยฮวาเข้ามา

“อั๊ยย่ะ อาเซียง นี่เจ้ากำลังทำอะไร ?” ทันทีที่ชุ่ยฮวาเข้ามาก็พูดออกมาด้วยความตกใจ

ทางด้านของหลิวเซียงเมื่อเห็นชุ่ยฮวาเข้ามา น้ำตาก็ไหลออกมาทันที

“อาสะใภ้ชุ่ยฮวา!” ตะโกนคำนี้ออกไป ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา

“นี่……นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ใครรังแกเจ้า ?” ชุ่ยฮวาเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถาม

เห็นฉากที่เกิดขึ้น โจวกุ้ยหลานรู้สึกไม่พึงพอใจ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการกล่าวหาว่าเหล่าไท่ไท่กำลังทำร้ายหลิวเซียงไม่ใช่หรือไง ?

แม้เหล่าไท่ไท่จะมีฝีมือ แต่ก็เป็นเหล่าไท่ไท่ที่มีเหตุผล นางจะไปทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลยได้อย่างไร ?

“อาสะใภ้ชุ่ยฮวา หลิวเซียงกำลังเศร้าเสียใจเมื่อนึกถึงเรื่องแต่งงานของตนเอง” โจวกุ้ยหลานพูดออกมา

หลิวเซียงกลืนคำพูดที่ต้องการจะพูดลงไปทันที นางอยากแต่งงานเข้ามาบ้านหลังนี้ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

“อาสะใภ้ชุ่ยฮวา ข้า……ข้าชอบต้าไห่ ข้าอยากแต่งงานกับเขา ข้าไม่อยากกลับบ้าน !” นางพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรุนแรงกว่าเดิม

ตอนที่เดินมาที่นี่ โจวกุ้ยหลานได้เล่าเรื่องนี้ให้ชุ่ยฮวาฟัง ตอนนี้ได้ยินหลิวเซียงพูดออกมา นางรู้สึกอับอายในทันที รีบเข้ามาคว้าแขนของนางและดึงออกไป “ต่อให้ชอบต้าไห่เจ้าก็ต้องกลับบ้าน อาสะใภ้ชุ่ยฮวาจะไปส่งเจ้า จากนั้นค่อยไปพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเจ้า”

ทำไมแม่หนูคนนี้โง่ได้โง่เขลายิ่งนัก ? วิ่งมายังบ้านของฝ่ายชายด้วยตนเอง ? นี่ไม่ใช่การถวายตัวหรอกหรือ ? เมื่อคนอื่นเอาไปพูดยังไงลับหลังนาง แถมยังพูดถึงแม่สื่อด้วย แบบนั้นนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

เหล่าไท่ไท่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พูดออกมาว่า “ชุ่ยฮวาเอ๊ย นางต้องการพุ่งชนบ้านข้าเพื่อฆ่าตัวตาย แล้วจะไม่ให้ข้ารั้งนางไว้ได้อย่างไร ? เจ้ามาแล้วข้าก็สามารถปล่อยนางได้ เจ้าจับไว้ให้ดี และในอนาคตอย่าให้มีคนพูดว่าครอบครัวโจวของข้ารังแกคนอื่น”

คำพูดนี้ยิงตรงไปยังชุ่ยฮวา ถึงคำพูดในตอนที่นางเข้ามาแล้วถามว่าใครเป็นคนรังแกหลิวเซียง

มุมปากของชุ่ยฮวากระตุก “จะเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร พี่สะใภ้เหมยฮวาจะเป็นคนแบบนั้นไปอย่างอย่างไร ?”

ตอนนี้ชุ่ยฮวาก็มาแล้ว ให้นางจับแม่หนูคนนี้ไว้ต่อไปก็ดูไม่ค่อยดี เหล่าไท่ไท่จึงปล่อยมือในที่สุด

ในตอนที่โจวกุ้ยหลานกำลังเดินเข้าไป มือของนางถูกมือเล็ก ๆ จับไว้ นางก้มหน้ามองก็เห็นเจ้าก้อนน้อยที่หายไปเมื่อครู่กำลังเงยหน้ามองนางอยู่

บทที่ 149 ไม่เห็นใจ

บทที่ 151 การคิดคำนวณ