“นายจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าฉันจะอนุญาต”

ซาบริน่าพูดด้วยรอยยิ้ม 

เมื่อเห็นแบบนั้นออสตินก็ส่ายหัว และภายใต้ดวงตาที่ไม่เชื่อของเธอ ต้นไม้ที่พันอยู่รอบตัวเขาก็เริ่มเหี่ยวเฉาและในไม่ช้าพวกมันก็กลายเป็นฝุ่นไป 

ซาบริน่าไม่ได้แม้แต่จะตอบสนองด้วยซ้ำก่อนที่หมัดของเขาจะกระแทกมาที่ใบหน้าของเธอ ทำให้เธอกระแทกกำแพงจนเกิดรอยแตกร้าวกระจายไปทั่วกำแพง

“ฉันไม่ชอบของที่เหนียวเหนอะหนะเลย”

ออสตินพูดขณะที่ร่างกายของเขาร้อนขึ้นเพื่อกำจัดสารที่ไม่พึงประสงค์บนร่างกายออกไป ก่อนเขาจะเห็นเถาวัลย์นับร้อยถูกสร้างขึ้นและระเบิดออกมาจากพื้นดินโดยมีเป้าหมายที่จะฆ่าเขา

น่าเศร้าที่ทุกอย่างกลับกลายเป็นไม่มีอะไรที่สามารถเข้ามาใกล้เขาได้เลย

“ต่อยผู้หญิงมันไม่ดีเลยนะ”

เสียงแห่งความโกรธดังออกมาจากฝุ่นและรอยแตก

“ใครบอกหล่ะ?”

ออสตินถามขึ้นมา ในขณะที่มีต้นไม้หลายพันต้นในรูปแบบต่างๆ เริ่มโจมตีเขา 

ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีคาถาหลายคาถาที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งถัดไปมุ่งเป้าไปที่เขา แต่เวทย์มนตร์ทั้งหมดกลับจางหายไปเหมือนเดิมจนไม่เหลืออะไรเลย พวกมันไม่ได้แม้แต่เข้าใกล้เขาด้วยซ้ำ 

ออสตินยืนอยู่ที่เดิมโดยเอามือล้วงกระเป๋าพร้อมกับยิ้มสงบก่อนจะพูดขึ้นมา

“หยุดเถอะ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ตาม เธอทำร้ายฉันไม่ได้หรอก แถมฉันก็ไม่ใช่ศัตรูของเธอด้วย คนที่มีสติปัญญาอย่างเธอคงสามารถเข้าใจเรื่องนั้นได้”

ไม่มีการตอบสนองใดๆ อยู่สักระยะหนึ่ง หลังจากนั้นเพียงนาทีเดียวเขาก็เห็นซาบริน่าหรือพูดให้ถูกคือซาบรีนาที่แตกต่างกัน 7 คนปรากฏขึ้นตรงหน้า 

ตอนนี้พวกเธอทั้งหมดกำลังมองมาที่เขาด้วยความระมัดระวังมากกว่าเดิม

“พูดมา”

พวกเธอทั้งหมดพูดขึ้นมาพร้อมกัน

“ความเย่อหยิ่งของเธอนี่ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังทำเอาฉันอึ้งอยู่เลย”

ออสตินพูดในขณะส่ายหัวพร้อมกับสะบัดมือ ก่อนที่คลื่นที่มองไม่เห็นจะแผ่กระจายไปรอบๆ และซาบริน่า 6 ใน 7 คนก็แตกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไป 

ในขณะที่ตัวจริงของเธอกระอักเลือดออกจากปากก่อนจะล้มลงกับพื้นพร้อมกับออร่าของเธอที่อ่อนลง

“แค่กกก…นายเป็นอะไรกันแน่?”

เธอถามถึงความเจ็บปวดของตัวเอง

ออสตินยิ้มอย่างลึกลับขณะที่เขาตอบ

“สำหรับปัจจุบันนี้ เธอคือพันธมิตรที่ขาดไม่ได้”

คำพูดของเขาแพร่กระจายไปรอบๆ พร้อมกับคลื่นสีเขียวอ่อนที่แผ่ออกจากร่างกายของเขาไปยังซาบริน่า ผู้ที่มองเขาด้วยตาตกตะลึงเมื่อสิ่งประดิษฐ์และสมบัติทั้งหมดของเธอถูกแสงสีเขียวทะลุทะลวงได้อย่างง่ายดาย และเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว แต่ขัดกับความคาดหวังของเธอ อาการบาดเจ็บทั้งหมดที่เธอประสบจนถึงตอนนี้กลับหายอย่างรวดเร็ว

แม้แต่สิ่งที่ซาบริน่าคิดว่าไม่สามารถรักษาได้ก็ยังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้จักร่างกายของตัวเองดีกว่าใครๆ และเธอรู้ดีว่าตัวเองกำลังกระพือปีกผ่านประตูแห่งความตาย

“รู้สึกดีขึ้นไหม?”

ซาบริน่าหลุดออกจากความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยเสียงของออสติน ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยรอยยิ้มอันสงบบนใบหน้าของเขา 

การกระทำทั้งหมดของเขาชี้ให้เห็นว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา

“ดีขึ้นมาก”

ซาบริน่าตอบก่อนจะยืนขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นตัวเองเล็กน้อย หูยาวของเอลฟ์เงยขึ้นเล็กน้อยขณะที่เธอมองออสตินด้วยความสนใจ

“ทำไมถึงช่วยฉันหล่ะ?”

เธอถามขึ้นมาตรงๆ

“ฉันมีเหตุผลของฉัน”

เขาตอบกลับไป

“ต้องการความช่วยเหลือของฉันงั้นเหรอ?”

เธอถามต่อ

“ใช่ มันจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม”

เขาตอบกลับไป โดยที่คำพูดของเขาทำให้เธอผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเขาช่วยเธอเพราะมีสิ่งที่อยากให้เธอช่วย 

ซาบริน่ารู้ดีกว่าใครๆ ว่าของฟรีไม่มีในโลก เธอผ่อนคลายมากขึ้นมากเมื่อรู้ว่าสถานการณ์นี้เป็นข้อตกลง

“ตกลง แม้ว่าฉันต้องบอกว่านายซ่อนตัวเองได้ลึกมากออสติน”

เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายในขณะที่ดวงตาที่ชาญฉลาดของเธอสว่างขึ้นเป็นคำถาม 

คนที่ฉลาดพอๆ กับเธอมักจะถูกดึงดูดให้เป็นคนลึกลับ ยิ่งยากเท่าไหร่ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาก็จะยิ่งลุกไหม้เพื่อค้นหาคำตอบมากขึ้นเท่านั้น

“ทุกคนล้วนต้องมีความลับกันอย่างน้อยก็หนึ่งอย่าง”

ออสตินตอบพร้อมยักไหล่ 

หลังจากมองเธออีกครั้งแล้วเขาก็เริ่มเดินไปที่ประตู ดวงตาของเขามองไปยังลวดลายมากกว่าความงามที่อยู่ตรงหน้าเขา

“เอมิลี่ทำอะไรเกินตัวจริงๆ เพื่อพยายามให้ได้นาย”

ซาบริน่าพูดด้วยสายตาที่แคบลง

“มีปัญหางั้นเหรอ?”

เขาถามขณะจับจ้องไปที่ประตูพรางลากนิ้วผ่านตัวอักษรบนนั้น

“ถึงเธอจะค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่เธอก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันจะไม่ทนถ้านายคิดจะทำร้ายเธอ”

ซาบริน่ากล่าวโดยที่การแสดงออกทางสีหน้าของเธอจริงจังมากขึ้น 

แม้จะได้ยินแบบนั้น ออสตินก็ยังยิ้มอยู่ในใจจากความสุขที่การกระทำบางอย่างที่เขาทำไปนั้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี 

ถ้าเป็นในเกมแล้วหล่ะก็ ซาบริน่าจะยอมเสียสละเอมิลี่เพื่อเป้าหมายของตัวเองได้โดยไม่ลังเล แม้ว่าส่วนหลักของความดำมืดภายในซาบริน่านั้นจะเกิดจากการที่มรดกเลือกเธอก็ตาม สิ่งเดียวกันนั้นเอง คือสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการ

“เห้อออ…..ฉันรู้สึกประทับใจกับมิตรภาพของพวกเธอจริงๆ นะ เธอสบายใจได้เลย ฉันคิดจะทำร้ายเอมิลี่หรอกนะไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”

ออสตินพูดขึ้นมา

“ถ้างั้นทำไมนายถึงแกล้งทำเป็นไม่เห็นความรู้สึกของเธอหล่ะ?”

ซาบริน่าถามโดยไม่ถอย

“ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว…..”

ออสตินตอบโดยที่น้ำเสียงของเขานั้นแฝงไปด้วยความโศกเศร้าที่ไม่สามารถปิดบังได้ 

คำตอบเหล่านั้นทำให้ซาบริน่าเงียบไป

“ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะรักคนอื่นได้”

เขายังคงทำให้ซาบริน่าถามกลับมา

“ทำไมไม่ปฏิเสธเอมิลี่ไปหล่ะ?”

สิ่งนี้ทำให้ออสตินหันไปหาเธอและมองเธอด้วยท่าทีเลิกคิ้วราวกับจะถามว่าเธอโง่หรือเปล่า 

ท่าทางของเขานั้นทำให้เธอโกรธมาก แต่เธอก็ห้ามใจตัวเองไว้ในขณะที่ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าคำถามของตัวเองนั้นโง่จริงๆ

“เธอเองก็น่าจะรู้ว่าเอมิลี่จะไม่หยุด มันไม่มีประโยชน์”

เขาพูดด้วยเสียงประชด ทำให้ริมฝีปากของซาบริน่ากระตุก แม้อย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถเพ่งความสนใจไปที่ความโกรธของตัวเองได้ เนื่องจากมือของออสตินเริ่มเคลื่อนไปทางสัญลักษณ์ที่ถูกสลักอยู่ในประตู 

เขาวางมือลงบนพวกมันในขณะที่เริ่มไล่นิ้วไปตามสัญลักษณ์แต่ละอันด้วยการรับรู้และการควบคุม

“ถ้าเธอไม่พอใจจริงๆ ทำไมเรา 2 คนไม่คิดแผนที่จะทำให้เอมิลี่เลิกรักฉันกันหล่ะ?”

คำพูดของเขาทำให้ซาบริน่านิ่งไปเล็กน้อยพร้อมกับความรู้สึกลังเลที่เกิดขึ้นภายในใจ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับเขาไป

“ไว้ค่อยคุยเรื่องนั้นกันทีหลัง บอกฉันก่อนว่าฉันเป็นอะไร? ทำไมฉันถึงต้องเจอกับเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย?”

คราวนี้เสียงของเธอสูงขึ้นกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าข้อมูลนี้มีความสำคัญต่อเธอมาก จากสิ่งที่เธอเห็นจนถึงตอนนี้เธอเข้าใจว่าออสตินดูเหมือนจะเข้าใจดีถึงสิ่งที่เธอเป็น ข้อมูลที่ราชวงศ์เอลฟ์ทั้งหมดไม่สามารถค้นหาคำตอบได้

“ฉันไม่สามารถบอกเธอได้”

“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้!”

ซาบริน่าตอบสนองอย่างหนักต่อคำตอบของออสติน 

ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เนื่องจากเธอค้นหาคำตอบของเรื่องนี้มาตลอดชีวิตและตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แต่เธอกลับถูกปฏิเสธ 

อารมณ์ของซาบริน่านั้นอยู่ห่างจากการระเบิดด้วยความโกรธเพียงไม่กี่นิ้ว เมื่อได้ยินเสียงที่ระเบิดอารมณ์ของเธอออกมา ออสตินก็หยุดขยับมือก่อนจะหันหน้ากลับมาทางเธอ 

ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ดวงตาสีมรกตที่สวยงามที่กำลังสั่นไหว

ออสตินยกมือขวาขึ้นขณะเข้าหาใบหน้าของเธอ ดูเหมือนจะจับคางของเธอไว้เพื่อพยุงตัว แต่ทว่ากลับเกิดเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เมื่อออสตินขยับไปข้างหน้าและจับจมูกของเธอมาบีบแล้วหมุนมัน

“นี่นาย!”

เธอตะโกนโดยชี้มือไปทางเขา ในขณะที่ออสตินทำเพียงแค่เยาะเย้ย

“อย่ามาเล่นแง่ใส่ฉัน ฉันรู้ดีว่าเธอฉลาดแค่ไหน และฉันรู้ดีว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ ดังนั้นโปรดอย่าพยายามดูถูกสติปัญญาของฉัน”

คำพูดของเขาทำให้ซาบริน่าเงียบไป หลังจากนั้นสีหน้าของเธอก็สงบลงก่อนเธอจะพยักหน้า

“นายพูดถูกแล้ว”

เธอพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ออสตินไม่ได้สนใจมันในและกลับมามุ่งความสนใจไปที่ประตู มือของเขาเลื่อนไปรอบๆ สัญลักษณ์ ในขณะที่ซาบริน่ามองเขาด้วยความสนใจ


ขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้น ลูกครึ่งเอลฟ์ผมสีเขียวแสนน่ารักกำลังมองดูเครื่องติดตามของเธอและวางแผนด้วยสีหน้ารำคาญใจ 

“แล้วนี่เขาอยู่ที่ไหนกันหล่ะเนี่ย?” 

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เครื่องติดตามพิเศษที่เธอติดไว้บนตัวเขาหลังจากจ่ายเงินให้สาวใช้คนหนึ่งที่ทำงานในคฤหาสน์ของออสตินมีความผันผวน แผนการของเธอทั้งหมดขึ้นอยู่กับการค้นหาออสตินก่อน 

“ฉันจะไม่ยอมแพ้ตอนนี้” 

เธอกล่าวพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย ด้านหลังเธอนั้นมีศพของผู้เสียชีวิตหลายคนตั้งแต่นักเรียนบางคนและบางคนที่ไม่สามารถระบุได้ 

 

 

 

-Donate- 

True Money Wallet ID : mraxzy  

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต