บทที่ 375 ใช้งานได้ดี

“หือ เหมือนแผลจะเริ่มจางลงแล้ว!” หลังทายาไปได้ครู่หนึ่ง ลั่วเยวี่ยก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

ลั่วเยวี่ยเองก็เป็นสตรี แม้จะเรียนรู้วิชายอดศัสตราวุธได้ดีกว่าคนอื่น อย่างไรก็ยังเป็นผู้หญิง และผู้หญิงทุกคนต่างก็มีความรักสวยรักงาม ในโลกแห่งเกมนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ถึงก่อนหน้านี้นางไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ใจย่อมกังวลต่อแผลเป็นขนาดใหญ่บนเรือนร่าง ทว่าก็ไม่ได้นึกเสียใจที่เข้าไปช่วยเหลือรับการโจมตีแทนอู๋ฝาน หากต้องให้เลือกอีกครั้ง นางก็ยังจะเลือกทางเดิมโดยไม่ลังเล

ตอนนี้เมื่อได้เห็นว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายจางลงไปพอสมควร ลั่วเยวี่ยย่อมรู้สึกยินดีอยู่ในใจ

อันที่จริงแม้เด็กหญิงจะไม่พูดอะไรออกมา อู๋ฝานที่คอยจับตามองรอยแผลเป็นของนางอยู่ตลอดก็เห็น เพราะรอยแผลดูจางลง อีกทั้งไม่ใช่แค่เล็กน้อย แต่เป็นการจางลงอย่างเห็นได้ชัด ความแตกต่างที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการใช้นี้สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

สรรพคุณของยาทาลบรอยแผลเป็นที่อาจารย์ปรุงยาหลี่คิดค้นขึ้น มันเยี่ยมยอดอย่างถึงที่สุด ขอเพียงใช้ต่อเนื่องสามครั้ง ก็สามารถลบเลือนรอยแผลเป็นจนหายหมดสิ้น อู๋ฝานที่ได้เห็นจึงยิ่งแน่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหก

“เก็บยาขวดนี้เอาไว้ ขอแค่ทาวันละครั้งต่อเนื่องอีกสองวัน รอยแผลเป็นจะหายไปอย่างสมบูรณ์” อู๋ฝานบอกกับลั่วเยวี่ย

“ขอบคุณนายท่านเจ้าค่ะ” ลั่วเยวี่ยตอบรับด้วยความซึ้งใจ

“ขอบคุณอะไรกัน อาการบาดเจ็บของเจ้า เดิมทีก็เป็นเพราะข้า ที่ควรขอบคุณควรจะเป็นข้าต่างหาก” อู๋ฝานตอบกลับ

“เพื่อปกป้องนายท่าน ลั่วเยวี่ยคนนี้ไม่คิดลังเลแม้ต้องสละชีวิตเจ้าค่ะ!” ลั่วเยวี่ยเผยสีหน้าหนักแน่นออกมา

“รู้แล้ว ข้าเชื่อในตัวเจ้า” อู๋ฝานอดยื่นมือไปลูบผมของลั่วเยวี่ยไม่ได้ “แต่ว่านะ เจ้าไม่ควรต้องเข้ามาเสี่ยง ข้าไม่ตายง่าย ๆ เช่นที่คิดหรอก ดังนั้นภายหน้าขอให้ระมัดระวังตนเองมากกว่านี้ เข้าใจหรือไม่?”

อู๋ฝานรับรู้ได้ถึงความภักดีอันแรงกล้าของลั่วเยวี่ย ทว่าเขาคือผู้เล่นของโลกแห่งนี้ และเชื่อว่าต่อให้ตายที่นี่ก็สามารถฟื้นคืนชีพได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่ปรารถนาที่จะเห็นใครก็ตามเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องชีวิตตนเองเหมือนดังที่เด็กหญิงกระทำ

ลั่วเยวี่ยหน้าแดงเล็กน้อยขณะมองไปยังอู๋ฝาน ในใจคล้ายไม่ได้ฟังคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะไม่ทราบว่าเขาคือผู้เล่น ทำให้เด็กหญิงมองว่าเขาไม่ต้องการให้นางเข้าไปเกี่ยวข้องหรือบาดเจ็บ แต่ที่ชายหนุ่มต้องการคือให้เธอห่วงตนเองมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ประโยคดังกล่าวลั่วเยวี่ยสลักมันเอาไว้ในหัวใจ ขณะเดียวกันก็ตั้งมั่นว่าตนพร้อมที่จะยอมสละชีวิตเพื่อช่วยอู๋ฝาน

อู๋ฝานไม่คิดว่าลั่วเยวี่ยจะเข้าใจความหมายผิดไป ทั้งยังไม่ทราบความคิดอันแน่วแน่ที่เกิดขึ้น หลังเห็นยาทาลบรอยแผลเป็นได้ผลดี ชายหนุ่มจึงขอตัวเพื่อไปเริ่มศึกษาการปรุงยาด้วยตนเอง

ยาทาลบรอยแผลเป็นไม่ใช่ยาวิเศษอันเลิศล้ำแต่ประการใด ไม่เช่นนั้นแล้วอาจารย์ปรุงยาหลี่คงไม่มองว่าสมุนไพรระดับสูงทั้งหลายที่อู๋ฝานมอบให้นั้นมีค่าจนเกินไป ด้วยวิชาปรุงยาระดับมาสเตอร์ ชายหนุ่มย่อมสามารถปรุงมันได้สำเร็จด้วยตัวเอง ทั้งยังใช้สมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิด และทั้งหมดยังเป็นสมุนไพรระดับต่ำถึงระดับกลาง ที่ไม่ได้มีมูลค่าสูงล้ำแต่อย่างใด

แต่ที่ทำอู๋ฝานยิ่งพึงพอใจ คือการที่หลังอาจารย์ปรุงยาหลี่มอบสูตรยาให้ รายการกระบวนการผลิตในโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต้องใช้อย่างอุปกรณ์ ทั้งหมดปรากฏขึ้นบนสูตรยาโดยอัตโนมัติ เห็นได้ชัดว่ามันคือการดูแลพิเศษที่มอบให้แก่ผู้เล่น

นอกจากนั้นอู๋ฝานยังได้ตระหนักว่าสมุนไพรตามสูตรยาไม่มีในโลกแห่งความเป็นจริง มีเพียงแค่ที่โลกแห่งเกมเท่านั้น นั่นหมายความว่าสูตรยานี้คือสิ่งที่ต่อให้หลุดรั่วออกไปในโลกความเป็นจริง คนอื่นก็ไม่สามารถทำเลียนแบบได้ เอกสิทธิ์ครอบครองตัวยาทาลบรอยแผลเป็นในโลกความเป็นจริง จะมีเพียงเขาที่สามารถปรุงมันขึ้นมาได้โดยสูตรลับเฉพาะ

จากสูตรยาของอาจารย์ปรุงยาหลี่ ทำให้อู๋ฝานปรุงยาทาลบรอยแผลเป็นออกมาได้หลายขวดในเวลาสั้น ๆ

“ไว้กลับโลกความเป็นจริงเมื่อไหร่ ค่อยให้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์สักขวดหนึ่งก็แล้วกัน” อู๋ฝานเก็บยาทาลบรอยแผลเป็นพลางพึมพำกับตัวเอง “มันคือของดีที่โลกความเป็นจริงต้องการ แต่ที่โลกความเป็นจริงคงจะให้มันออกฤทธิ์ในเวลาแค่สามวันไม่ได้ ไม่งั้นผลกำไรคงตกต่ำ น่าจะแก้ไขได้ด้วยการเจือจาง อย่างน้อยก็ต้องใช้ทั้งขวดถึงจะสามารถลบเลือนรอยแผลเป็นได้หมด ดีที่สุดคือการใช้สักสามขวดต่อเนื่อง จะได้เป็นการเพิ่มปริมาณการขายไปในตัว จะว่าไปแล้ว…เราชักเหมือนพ่อค้าหน้าเลือดเข้าไปทุกที”

อู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตัวเอง เพราะยาทาลบรอยแผลเป็นคือสิ่งที่ทุกคนควรเข้าถึงได้ ดังนั้นราคาขายต้องไม่สูงจนเกินไป ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นการจำกัดการเข้าถึงของผู้ซื้อ หากตั้งราคาที่เหมาะสม ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นเพราะกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น และผลกำไรก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องหาปริมาณเจือจางที่เหมาะสม

ส่วนสูตรยาผิวกระจ่าง แม้จะยังไม่ได้ทดสอบ แต่เพราะเป็นผลงานของตัวตนระดับปรมาจารย์เช่นอาจารย์ปรุงยาหลี่ สรรพคุณของมันไม่ใช่อะไรที่ต้องสงสัย เมื่อถึงเวลามันจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน

แค่คิดว่าสูตรทั้งสองในมือสามารถทำเงินได้มากมายเพียงใด อู๋ฝานก็ยินดีจนหัวใจเต้นรัว

หลังออกจากบ้านพักของตัวเองในหมู่บ้าน อู๋ฝานก็มุ่งตรงไปลานกว้าง อันเป็นสถานที่ซึ่งจอแจที่สุดในหมู่บ้านเร้นลับ เพราะคนทั้งหมู่บ้าน ไม่ว่าจะผู้อพยพหรือคนงาน ตอนนี้ต่างปรับตัวกับชีวิตในสถานที่แห่งนี้กันได้แล้ว เนื่องจากชายหนุ่มดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี กลุ่มคนจึงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับสถานที่ ทำให้การทำงานของพวกเขายิ่งมีประสิทธิภาพ

อู๋ฝานหาตัวเสี่ยวลิ่ว และขอให้เขาส่งคนไปจัดการปรับแต่งสวนสมุนไพรส่วนตัว ชายหนุ่มเพิ่งได้รับสูตรยา ดังนั้นจึงต้องการสมุนไพรที่มากพอจะรองรับความต้องการ แม้สมุนไพรในป่าด้านหน้าและด้านหลังของหมู่บ้านมีไม่น้อย แต่การไปเก็บจากป่าก็มีข้อจำกัด ดังนั้นสวนสมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่ดี สิ่งที่สามารถเพาะปลูกเอง ภายหน้าต้องการขยับขยายเท่าใดก็ย่อมเป็นไปได้

หลังเสี่ยวลิ่วไปจัดการ อู๋ฝานจึงไปหาลั่วหยาง เพื่อถามว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทางเทศมณฑลมีข่าวใหญ่หรือข่าวคราวที่พอจะเป็นประโยชน์บ้างหรือไม่

“ไม่กี่วันมานี้ทางด้านเทศมณฑลค่อนข้างเงียบขอรับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พวกผู้อพยพต่างก็รู้ตัวว่าทางเทศมณฑลไม่คิดเปิดประตูเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงละทิ้งความหวังไป บางส่วนเริ่มไปจากเทศมณฑลชิงหยวนแล้ว แต่หลายคนก็ยังอยู่ต่อท่ามกลางความสิ้นหวัง …นายท่านขอรับ พวกเราต้องการคนเพิ่มหรือไม่ ข้ามองว่าพวกเขาเหล่านั้นน่าเวทนาไม่น้อยเลยขอรับ” ลั่วหยางบอก

ลั่วหยางที่ยังเด็กจึงใจอ่อน ยังไม่กล่าวว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นเช่นผู้คนเหล่านั้น แต่เพราะได้พบอู๋ฝาน โชคชะตาจึงแปรเปลี่ยนไป ไม่เช่นนั้นก็คงเป็นดังเช่นผู้อื่น หรืออาจเลวร้ายกว่าเช่นหิวโหยจนสิ้นชีวิต

อู๋ฝานที่ได้ยินคำพูดของลั่วหยางก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด “ข้าเองก็อยากช่วยพวกเขาเช่นกัน แต่ที่หมู่บ้านเร้นลับของพวกเรามีคนค่อนข้างมากแล้ว กระทั่งมีปัญหาผลผลิตที่อาจไม่เพียงพอต่อจำนวนคนด้วยซ้ำ เรื่องนี้น่าหนักใจอยู่เหมือนกัน”