ตอนที่ 316 ประชันวรรณกรรม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินเยวียนทำเรื่องนี้ผิดพลาด ครั้งที่แล้วเขาก็โพสต์โคลงคู่ผิดบัญชี
หลังจากครั้งนั้นเป็นต้นมา หลินเยวียนก็ระแวดระวังมาก
ไม่ระวังไม่ได้หรอก ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา ตัวตนจะถูกเปิดเผยเชียวนะ
ทำไมครั้งนี้ยังพลาดพลั้งอีกน่ะหรือ?
เหตุผลหลักก็เพราะหลินเยวียนหน้ามืดตามัว เมื่อใดก็ตามที่คิดว่าเรื่องสะพานแขวนตงตงหล่นลงมาของตนถูกผู้อ่านซึ่งต่อต้านรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ลากลงมาอยู่ในอันดับสอง ไฟโทสะก็พลันสุมเต็มอก
ปรากฏว่าเมื่อล็อกอินเข้าบัญชีปู้ลั่ว ยังไม่ทันแม้แต่จะตรวจสอบว่าเลือกบัญชีถูกต้องหรือไม่ ก็ไปนัดประลองกับคนเขาแล้ว
‘จบกัน’
หลินเยวียนคิดเช่นนี้ในใจ
จินมู่กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูพื้นที่แสดงความคิดเห็นบนปู้ลั่วของเซี่ยนอวี๋ ถึงขั้นที่เลื่อนอ่านด้วยความเพลิดเพลินอย่างอดไม่ได้
“อาจินหัวเราะอะไรครับ” หลินเยวียนไม่สบอารมณ์
“หัวหน้าดูเองเถอะครับ” เสียงหัวเราะของจินมู่ดังขึ้นเรื่อยๆ
หลินเยวียนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กระจ่างขึ้นมา ว่าจินมู่หัวเราะเพราะอะไรกันแน่
นั่นก็เพราะการที่ตนล็อกอินผิดบัญชี และโพสต์ผิดบัญชี ในสายตาของชาวเน็ตแล้วไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไรเลย!
‘ฮ่าๆๆๆ เหลิ่งกวงไม่ทันได้ผิดใจกับฉู่ขวง ก็ผิดใจกับเซี่ยนอวี๋ซะแล้ว!’
‘อย่างที่เรารู้กัน ถ้าไม่ไว้หน้าฉู่ขวง ก็เท่ากับไม่ไว้หน้าเซี่ยนอวี๋’
‘เซี่ยนอวี๋จะมาดวลกับเหลิ่งกวงแทนฉู่ขวงเหรอ?’
‘ดูท่าเซี่ยนอวี๋จะมั่นอกมั่นใจกับฝีมือการเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนของตัวเองอยู่แฮะ’
‘เซี่ยนอวี๋: ฉันอยู่ตรงนี้ จะไม่มีใครมารังแกอาขวงได้!’
‘อาจารย์เหลิ่งกวงคงงงอะ นักแต่งเพลงมาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย’
‘พอนึกถึงเรื่องโคลงคู่ครั้งก่อนแล้วน้ำตาจะไหล เซี่ยนอวี๋คอยปกป้องฉู่ขวงอยู่ตลอดเลยนะเนี่ย!’
‘ฉู่ขวงก็คอยปกป้องเซี่ยนอวี๋เหมือนกัน’
‘ประธานจอมโหดกับแฟนเด็กเขา’
‘ได้อยู่นะแก นึกภาพตามออกเลย’
‘…’
หลินเยวียนตะลึงไปเล็กน้อย
ตนเพียงแค่ล็อกอินผิดบัญชี ในสายตาของชาวเน็ตแล้ว เป็นเพียงการแสดงออกและบทพิสูจน์ความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ?
และเป็นเพราะความสัมพันธ์ของฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋แน่นแฟ้นลึกซึ้ง จนไม่มีใครนึกโยงไปถึงความผิดพลาดทำนองนั้นเลย
ลำพังแค่อ่านคอมเมนต์ของชาวเน็ต ก็พลอยทำให้หลินเยวียนคิดตามไปว่าเรื่องนี้ไม่ได้ผิดแปลกแต่อย่างใด
ช่างเป็นความเข้าใจผิดที่งดงามเสียจริง
มีเพียงเหลิ่งกวงซึ่งงุนงงเล็กน้อยหลังจากที่ถูกแท็ก
เซี่ยนอวี๋คือใครกัน
ช่วยไม่ได้ ก็เหลิ่งกวงเป็นผู้รักวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน ในโลกของเขามีเพียงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน แถมต้องเป็นสืบสวนสอบสวนแบบดั้งเดิมด้วย
นี่เป็นรูปแบบที่เขาชื่นชอบที่สุด
เขาไม่รู้จักดาราดังในช่วงนี้เลยด้วยซ้ำ
โชคดีที่มีแฟนคลับมาอธิบายไว้ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น แนะนำถึงความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวง
“เป็นเพื่อนสนิทกันเหรอ”
เหลิ่งกวงแววตาเป็นประกาย แท็กเซี่ยนอวี๋กลับไป ด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ ‘คุณหมายความว่า ฉู่ขวงรับคำท้าแล้วหรือครับ’
คงไม่ได้รับหน้าที่แทนกันหรอกใช่ไหม
ครั้งนี้หลินเยวียนไม่กล้าใช้บัญชีของเซี่ยนอวี๋ตอบ แต่สลับเป็นบัญชีของฉู่ขวง ก่อนจะแท็กเหลิ่งกวง ตอบไปสั้นๆ
‘ผมรับคำท้า’
เหลิ่งกวงมีท่าทีขึงขังขึ้นมา ‘ผลงานสืบสวนสอบสวนเรื่องถัดไป เรามาตัดสินกัน!’
เขาต้องปกป้องศักดิ์ศรีของวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนดั้งเดิม!
รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ คือวิถีมาร!
เพียงแต่เหลิ่งกวงคาดเดาไม่ได้เลยว่าหลินเยวียนไม่คิดจะใช้รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้มาเขียนผลงานสืบสวนสอบสวนชิ้นถัดไปแล้ว
สะพานแขวนตงตงหล่นลงมาในครั้งนี้ ทำให้หลินเยวียนตระหนักได้ว่า บางครั้งการลงแรงมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี
ยามที่รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ยังไม่เติบโตเต็มที่ การเขียนนิยายประเภทนี้ออกมาเป็นแนวคิดที่ล้ำหน้าเกินไปสักหน่อย
……
หลังจากฉู่ขวงตอบกลับไป ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นก็คึกคักขึ้นมา แน่นอนย่อมมีคำแดกดันเซี่ยนอวี๋อยู่ไม่น้อย
‘นี่คือถูกบังคับให้ตอบรับ?’
‘ฉู่ขวง: ช่วยไม่ได้ เซี่ยนอวี๋ตอบรับแทนผมไปแล้ว ผมจะทำให้เพื่อนรักถูกหักหน้าไม่ได้’
‘ผมสงสัยว่าเซี่ยนอวี๋น่าจะเป็นคนมาตอบเองจริงๆ ฉู่ขวงถึงถูกบังคับให้ตอบ ไม่งั้นทำไมฉู่ขวงไม่มาตอบเองตั้งแต่แรก แต่ดันรอหลังจากที่เซี่ยนอวี๋เอ่ยปาก?’
‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ นอนใต้ผ้าห่มเดียวกัน’
‘แนะนำว่าให้เขียนแบบฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์มาอีก!’
‘การปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นสิ่งที่ทำได้ทันท่วงที’
เมื่อเทียบกับการแดกดันต่อทั้งสองแล้ว เห็นได้ชัดว่าการประชันวรรณกรรมครั้งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่า
เยี่ยนโจวน่าสนใจเหมือนกันนะเนี่ย รู้ว่าผู้คนชื่นชอบอะไร ถึงได้มีการประชันวรรณกรรมเกิดขึ้น
ในความเห็นของหลายคน การประชันวรรณกรรมควรมีมากกว่านี้!
เพราะมันน่าตื่นเต้นไงล่ะ!
ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตตั้งตารอให้เยี่ยนโจวเข้าผนวกรวม การประชันวรรณกรรมจะได้กลายเป็นที่นิยมในพื้นที่ผนวกรวมอื่นๆ ด้วย
ถึงอย่างไร คนสายวรรณกรรมของทางเยี่ยนโจวก็มี ‘ดีเอ็นเอของผู้กระหายการแข่งขัน!’ ฝังอยู่ในกระดูกอยู่แล้ว ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ โนเวล ขอบคุนจ้า
‘ประเด็นก็คือตอนจบของเรื่องสะพานแขวนตงตงหล่นลงมาบิดๆ เบี้ยวๆ ไปหน่อย ไม่เหมือนกับรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ก่อนหน้านี้ เต็มไปด้วยจุดหักมุม!’
‘ใช่ รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้สามารถเล่นคำได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็ควรอยู่บนพื้นฐานของความเป็นสืบสวนสอบสวน’
‘ทำให้รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ให้ดีกว่านี้หน่อย! ไม่เอาแบบเมาๆ งงๆ อะ!’
‘…’
ในสายตาของชาวเน็ตบางส่วน ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ถึงจะเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้อย่างแท้จริง
ส่วนสะพานแขวนตงตงหล่นลงมา ก็คือสิ่งที่เมาๆ งงๆ ซึ่งชาวเน็ตเรียกกัน
ทีนี้ก็คึกคักขึ้นมาจริงๆ แล้ว
วงการวรรณสืบสวนสอบสวนต่างมุ่งความสนใจมา!
‘เหลิ่งกวงจัดการฉู่ขวง…ไม่ได้เห็นการประลองวรรณกรรมระดับนี้มานานแล้ว!’
‘ทำไมไม่ใช่ฉู่ขวงจัดการเหลิ่งกวง…ถ้าฉู่ขวงปล่อยผลงานระดับเดียวกับฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ออกมา โอกาสชนะก็มีมากทีเดียว!’
คนหนึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน เป็นนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนอย่างแท้จริง
อีกคนหนึ่งเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการสืบสวนสอบสวน นักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนหน้าใหม่ยอดอัจฉริยะ ผู้ได้ชื่อว่ารับมือกับวรรณกรรมได้ทุกประเภท
ในความเห็นของผู้คนในวงการ การประชันวรรณกรรมครั้งนี้เหมือนกับศึกระหว่างรูปแบบดั้งเดิมกับรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้เสียมากกว่า!
นี่คือข้อดีของการไม่เปิดเผยข้อมูลล่วงหน้า
เมื่อผู้อ่านอ่านเรื่องสะพานแขวนตงตงหล่นลงมา พวกเขารู้สึกสับสนไปชั่วขณะหนึ่ง และคิดว่านี่เป็นนิยายสืบสวนสอบสวนแบบดั้งเดิม จนกระทั่งในท้ายที่สุดถึงได้เข้าใจว่าฉู่ขวงกำลังเล่นรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้อยู่
และในตอนนี้ ทุกคนล้วนคิดว่าฉู่ขวงจะใช้ผลงานใหม่รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้มาประลองกับเหลิ่งกวง
น้อยคนนักที่คิดว่าในครั้งนี้ฉู่ขวงจะใช้แนวสืบสวนสอบสวนรูปแบบดั้งเดิม!
ซึ่งก็คือสิ่งที่เรียกว่าแนวไขปริศนานั่นเอง!
ยามที่ผู้คนเปิดอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนรูปแบบดั้งเดิมของฉู่ขวง พวกเขาจะต้องสับสนไปชั่วขณะ และสุดท้ายจะยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อคุณคิดว่าผมกำลังเขียนรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ อันที่จริงผมกำลังเขียนแนวไขปริศนา เมื่อคุณคิดว่าผมกำลังเขียนแนวไขปริศนา อันที่จริงผมกำลังเขียนรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้
ในความจริงแล้ว บนโลกมีผลงานของนักเขียนหลายคนซึ่งเปิดเรื่องด้วยรูปแบบนี้
ถ้าไม่ได้อ่านถึงตอนจบ คุณจะเดาไม่ออกเลยว่านักเขียนใช้เทคนิคผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้
ความคึกคักเช่นนี้ แม้แต่สื่อก็ต้องเข้าร่วมสักหน่อย
ฉู่ขวงตอบรับไปได้ไม่นาน ข่าวก็เริ่มรายงานเกี่ยวกับการประชันวรรณกรรมในครั้งนี้แล้ว
[เหลิ่งกวงเปิดประชันวรรณกรรม ฉู่ขวงรับคำท้า!]
[ศึกระหว่างยอดฝีมือแห่งวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน คุณเชียร์ฝั่งไหน]
[รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้และรูปแบบดั้งเดิม ใหม่ปะทะเก่า ใครจะเป็นผู้ชนะ?]
[ฉู่ขวงรับคำท้าจากเหลิ่งกวง พลังของเซี่ยนอวี๋เพื่อนรัก!]
[เหลิ่งกวงและฉู่ขวงเปิดสังเวียน การประชันวรรณกรรมดึงดูดความสนใจจากทั้งในและนอกวงการ!]
มีชาวเน็ตเรียกอย่างติดตลกว่า ‘เมื่อจอมบ่นปะทะเจ้าแก่จอมตลบหลังคนอ่าน’
ความคึกคักครั้งนี้คึกคักจริงๆ!
ในเว็บบอร์ดนิยายหลายแห่ง ชาวเน็ตเริ่มตั้งกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับผลแพ้ชนะของการประชันวรรณกรรมครั้งนี้!
ทว่าในตอนนี้
หลินเยวียนเริ่มขบคิดแล้วว่าจะใช้นิยายเรื่องใดในการเปิดสนาม ครั้งนี้หลินเยวียนไม่กล้าให้ระบบสุ่ม เขาจะต้องเลือกผลงานชิ้นที่เขามั่นใจมากพอ!
ขอบเขตนั้นกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
ปัวโรต์!
หรือไม่ก็…
โฮล์มส์!
…………………………………………….