บทที่ 319 เป็นครั้งแรกที่จริงจังกับผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนั้น

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่319 เป็นครั้งแรกที่จริงจังกับผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนั้น

จริงๆ แล้วคิดถึง คิดถึงมากเลยจริงๆ เธออยากจะกลับไปอยู่ข้างๆ ของลี่จุนถิงมากขนาดไหน อยากกอดเขา อยากได้กลิ่นของเขา

โดยเฉพาะหลายวันมานี้ ลี่จุนถิงไม่อยู่ข้างๆ อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อแทบบ้า ถึงเฟิงจิงเป่ยจะอยู่ข้างๆ พวกเขาแม่ลูก แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี

เจียงหยุนเอ๋อหลับตาพลางขอพรอยู่เงียบ หวังว่าตัวเองจะสามารถออกจากสถานที่นี้ให้ได้ หวังว่าลี่จุนถิงจะสามารถหาตัวเองกับถวนจื่อให้เจอ แล้วครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

ลี่จุนถิงไปต่างประเทศคนเดียว บินตรงไปที่ทวีปแอฟริกา

เพียงไม่นานก็มีคนมารับเขา

แต่ว่าเขาหาคนไม่เจอ ที่ทางออกของสนามบิน ก็มองไปรอบๆ และเห็นความครึกครื้น

คนที่ถูกล้อมอยู่คือลูกครึ่งจีนอังกฤษ ส่วนสูงเมตรเก้าสิบ ตาสีฟ้ากับผมสีทองนั้น ดูหล่อเหลาเป็นอย่างมากเลย

ความหล่อเหลาขนาดนี้ เลยได้รับเสียงกรี๊ดจากสาวๆ มากมาย

ลี่จุนถิงแค่มองไปที่ที่ครึกครื้นมากที่สุดในสนามบินก็รู้ว่าชิงโม่อยู่ที่ไหน

ต้องรู้ด้วยว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูด ถึงแม้ว่าหน้าตาไม่ดี แต่ก็ยังเป็นแบบที่ดูโตแล้ว บวกกับเสน่ห์ที่น่าดึงดู ดังนั้นเลยมีคนเข้าหามากมาย

ชิงโม่จัดการเรื่องราวต่างๆ ได้ดี เป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องในต่างประเทศของลี่จุนถิง สำหรับเขา ลี่จุนถิงนั้นวางใจได้มากเลยล่ะ

ชิงโม่เสียแรงไปมากกว่าจะออกมาได้ ก็มองเห็นลี่จุนถิงยืนอยู่คนเดียว ก่อนจะรีบเดินมาทางตัวเอง

“ออกมาแล้วเหรอ?” ลี่จุนถิงมองชิงโม่ด้วยความกระตือรือร้น

“อือ” ชิงโม่ในใจก็รู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้จะได้แต่งตัวให้มันมิดชิดหน่อย อย่างน้อยก็ควรใส่หน้ากากอนามัย

“ไปกันเถอะ” ลี่จุนถิงลากกระเป๋าก่อนจะเดินออกไป

ชิงโม่เป็นลูกน้องของเขา และก็เป็นเพื่อนด้วย

ถ้าเกิดปกติ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะแซวอะไรชิงโม่สักหน่อย

แต่ว่าวันนี้มันตึงเครียด เพราะทางเจียงหยุนเอ๋อนั้นรอไม่ได้อีกแล้ว

ถ้าเกิดอะไรขึ้นบนเรือที่ลักลอบไป ลี่จุนถิงไม่กล้าคิดเลยล่ะ

หลังจากขึ้นรถไป ลี่จุนถิงก็มีสีหน้าเย็นชา

“จัดการไปถึงไหนแล้ว?” ตอนที่ตัวเองยังอยู่บนถนน ลี่จุนถิงก็สั่งให้ชิงโม่เริ่มตามการเดินทางของเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อแล้ว

ชิงโม่ขยับปากเล็กน้อย: “ท่าเรือในแอฟริกามันมีเยอะมาก และเปิดรับเรือที่ลักลอบเข้ามามากมาย แต่มีเรือเข้ามาไม่น้อยเลย พวกเราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอันไหนเหมือนกัน”

ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองไปทางชิงโม่ก็เห็นว่ามีแววตาของความไม่พอใจ

“ฟังฉันให้จบก่อน” ชิงโม่ค่อยๆ พูดขึ้น “แต่ว่าพวกเราตรวจสอบแล้ว สุดท้ายมีเพียงแค่สามลำ”

ลี่จุนถิงได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจ ดีแค่มีเพียงแค่สามลำ ลดระยะเวลาในการช่วยเจียงหยุนเอ๋อไปได้มาก

ชิงโม่ดีไปหมด ตอนที่กำลังเล่าเรื่องนี้ ถึงจะเป็นเรื่องที่รีบร้อน แต่ก็ยังพูดเบาๆ อย่างไม่รีบร้อน ทุกครั้งที่พูดถึงอะไรที่สำคัญก็หยุดไปเล็กน้อย ทำให้คนร้อนใจ

แต่ว่านี่เป็นประสิทธิภาพการทำงานแบบปกติของชิงโม่ ถึงก่อนลี่จุนถิงราวๆ ครึ่งวันได้ ถ้าเกิดในเวลานี้ยังไม่สามารถจัดการเรื่องท่าเรือได้ ลี่จุนถิงก็คงมองคนผิดไปแล้วล่ะ

“ในนั้นมีท่าเรือสองที่ ฉันจัดหาคนไปตรวจสอบแล้ว ตอนนี้ที่พวกเราจะไปก็คือท่าเรืออ้าวยี่” ชิงโม่พูดพลางหยิบแผนที่ออกมา

แผนที่ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรชัดเจน มีเพียงแค่ท่าเรือน้อยใหญ่ เพื่อสะดวกในการหาท่าเรือ เอาไว้เทียบการเดินทางเท่านั้น

ลี่จุนถิงมองแผนที่: “ท่าเรือนี้เหมือนจะไม่ใหญ่มาก?”

ชิงโม่พยักหน้า: “ไม่ผิดเลย เป็นท่าเรือเล็กๆ”

“โอเค ให้คนขับรถขับเร็วหน่อย รีบไป” ลี่จุนถิงปล่อยวางลง ก่อนจะพิงตรงพนักพิงรถ

หวังว่าตอนที่ตัวเองไปถึงท่าเรือนี้จะเป็นท่าเรือที่เจียงหยุนเอ๋ออยู่

ตอนที่อยู่บนเครื่องบิน ลี่จุนถิงแค่คิดว่าตัวเองนั่งไม่ติด อยากจะพักผ่อนสักหน่อย แต่ว่าในหัวมีแต่เงาของเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ

เมื่อคิดถึงถวนจื่อว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง ลี่จุนถิงก็ไม่ต้องบอกแล้วว่ามีความสุขมากแค่ไหน

ถวนจื่อเป็นลูกชายของตัวเอง ก็จะไม่ยอมให้ใครมาแยกครอบครัวของพวกเขา ครั้งนี้หลังจากที่เขาพาพวกเขากลับมาได้ ก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป จะไม่แยกจากกันอีกแล้ว

“เจียงหยุนเอ๋อ รอฉันก่อนนะ” ลี่จุนถิงพูดขึ้นเบาๆ ในใจ

เมื่อไปถึงท่าเรืออ้าวยี่ รถของชิงโม่ก็จอดได้ไม่นาน จากนั้นมีคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

คนคนนั้นเป็นคนกลางที่ชิงโม่หามาให้

คนคนนั้นเดินเข้ามา ชิงโม่ลงจากรถ จากนั้นก็บอกรหัสลับกับเขาเสียก่อน เพื่อยืนยันว่าเป็นคนของตัวเองถึงจะเปิดปากพูด: “ขอดูเรือที่เข้ามาในช่วงนี้หน่อย”

จากนั้นก็หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง: “นี่เป็นเรือของช่วงอาทิตย์นี้ คุณดูสิว่ามีลำที่คุณหาไหม”

เมื่อเห็นกระดาษนั้น ลี่จุนถิงก็เดินเข้ามาดูด้วยความตื่นเต้น ไม่แน่ว่าเจียงหยุนเอ๋ออาจจะอยู่บนเรือลำหนึ่งในนั้นก็ได้

ชิงโม่ตรวจดูทีละลำๆ พบว่าในนั้นไม่มีลำที่เหมือนกับจะมีเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อเลย

“เป็นอย่างไรบ้าง?” ลี่จุนถิงถามด้วยความคาดหวัง

ชิงโม่ส่ายหัว: “ไม่มี”

ตอนแรกลี่จุนถิงยังพอมีความหวัง แต่เพียงแวบเดียวก็หมดหวังในแววตาไป และแอบผิดหวังเล็กๆ อยู่ในใจ

ชิงโม่กำลังจะปลอบใจลี่จุนถิง ก่อนจะรับสาย

ชิงโม่เห็นว่าเป็นคนของท่าเรือโทรมา: “ฮัลโหล?เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลี่จุนถิงก็เงยหน้าขึ้นมอง พลางมองไปทางโทรศัพท์ของชิงโม่

“นายชิง ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง มีเรือลำหนึ่งมาเทียบท่า คนที่ขึ้นฝั่งมาเป็นคนเอเชีย ตามที่คนเห็นเขาว่ากัน มีคนท้องกับเด็กอยู่ด้วยนะ เหมือนกับที่คุณพูดเลยแต่ว่า……”

“แต่ว่าอะไร?” ลี่จุนถิงเครียดขึ้นมา

“แต่ว่าตามที่พวกเขาพูดกันข้างๆ มีชายที่มีหนวดเคราตามมาติดๆ ดูแลพวกเธอเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันหรือเปล่า” ชิงโม่บอกกับพวกเขาว่ามีแค่ผู้หญิงกับเด็ก ไม่ได้มากันเป็นครอบครัวสามคน ดังนั้นเลยไม่แน่ใจเท่าไหร่

“ไป ไปดูกันเถอะ” ลี่จุนถิงไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว ถ้าเกิดว่าใช่ล่ะ?

มีชายมีหนวดแล้วทำไมเหรอ?ถ้าเกิดว่าหญิงท้องกับเด็กคนนั้นเป็นเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อล่ะ?

ต่อให้มีแค่เบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ลี่จุนถิงก็จะไม่ยอมแพ้

ทั้งสองคนขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เพื่อไปที่อีกท่าเรือหนึ่ง

ระหว่างทาง มือของลี่จุนถิงจับเอาไว้แน่น มือเต็มไปด้วยเหงื่อ พลางขอพรอ้อนวอนไม่หยุด ว่าให้บนท่าเรือนั้นเป็นเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ

ชิงโม่สังเกตลี่จุนถิงอยู่ตลอดเวลา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้านายของตัวเองจะมีวันแบบนี้ ที่สนใจผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้ด้วย