บทที่ 320 ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนดี

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่320 ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนดี

พวกเจียงหยุนเอ๋อถูกพาไปที่ที่ตั้งหลักขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าที่นี่มันเอาไว้ทำอะไรกันแน่ แต่แค่มอง ก็ดูเท่มากแล้วล่ะ

เจียงหยุนเอ๋อเดินตามคนพวกนั้นด้วยความมึนงง ในตอนนี้ได้แต่จับมือของถวนจื่อเอาไว้แน่น เพราะกลัวว่าเขาจะพลัดหลง

เพียงไม่นาน คนทั้งแถวก็ถูกพามาด้านหน้า

“ฉันเป็นคนดูแลที่นี่ ฉันชื่อจ้าวเสวียไห่”

ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ด้านหน้าเขา ก่อนจะเริ่มแนะนำตัวเอง

จ้าวเสวียไห่พูดไป ใบหน้าก็มีความภาคภูมิใจออกมา เหมือนกับคิดว่าตัวเองนั้นเก่งมากเลยล่ะ

เมื่อเห็นท่าทีของเขา เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

เมื่อเห็นจ้าวเสวียไห่ครั้งแรก เธอก็รู้ทันที ว่าตัวเองไม่ค่อยชอบผู้ชายคนนี้สักเท่าไหร่ เหมือนจะเป็นสัญชาตญาณอย่างน่าประหลาดใจ

ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่เพียงแค่น้ำเสียง แต่จ้าวเสวียไห่เองหน้าตาดูไม่น่าไว้ใจ เลยไม่มีทางได้รับความรู้สึกดีๆ จากเจียงหยุนเอ๋อเลย

ตอนที่เธอสังเกตจ้าวเสวียไห่อย่างเงียบๆ นั้น จ้าวเสวียไห่ก็เปิดปากแนะนำขึ้น

“ทางพวกเราเป็นที่ที่ทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในเมื่อพวกคุณมาถึงที่นี่กันแล้ว ก็ตั้งใจทำงาน ไม่ต้องคิดอย่างอื่นเลย”

“ขอถามหน่อย ที่นี่จัดการเรื่องที่อยู่อย่างไรเหรอ?”

มีคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น

จ้าวเสวียไห่ส่งสายตาคมกริบราวกับมีดไป เหมือนจะไม่พอใจที่เขาถาม

“ฉันพูดไม่ได้เลยเหรอ?ฉันยังพูดไม่จบ คุณจะมาแทรกทำไม?”

เมื่อเห็นว่าจ้าวเสวียไห่ไม่พอใจ คนนั้นเลยยิ้มพลางขอโทษ

“ขอ ขอโทษ ฉันพูดมากเกินไป”

หลังจากที่ขอโทษแล้ว จ้าวเสวียไห่ก็หันกลับมา พลางมองทุกคนด้วยสายตาจริงจัง แล้วพูดขึ้น: “พวกเรารวมทั้งค่ากินค่าอยู่ แต่พอตกกลางคืนพวกคุณห้ามไปไหนนะ อย่าเรียกร้องอะไรมากมาย ก็หวังว่าพวกคุณจะรู้ตัวดี”

ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าสำหรับการลักลอบเอาคนมาทำงานแบบนี้ มีอะไรให้แบบนี้มันถือว่าดีมากๆ แล้ว ดังนั้นหน้าแต่ละคนเลยมีแต่รอยยิ้ม

“ดีมากเลยล่ะ!”

“นั่นสิ นี่มันดีกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะ”

มีคนหลายคนพูดขึ้นเบาๆ

เมื่อได้ยินพวกเขาคุยกัน แววตาของจ้าวเสวียไห่ก็มีแต่ความไม่แยแสและดูถูก

แค่ทำให้เล็กๆ น้อยๆ คนพวกนี้ก็ซึ้งใจจนน้ำตาไหลแล้ว มันมากพอที่จะรู้ว่าคุณภาพของโลกนี้มันต่ำเตี้ยขนาดไหน

“โอเค” หลังจากที่ทุกคนคุยกันเสร็จ จ้าวเสวียไห่ก็กระแอมเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้จะเริ่มแบ่งที่อยู่แล้ว สี่คนต่อหนึ่งห้อง”

หลังจากที่จ้าวเสวียไห่พูดเสร็จ ก็ให้คนพวกนั้นไปจัดแจง

เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่ขยับไปไหน ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมเบาๆ เพราะรู้สึกว่ามันแปลกๆ

ถึงแม้ว่าจะฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึก ว่าสำหรับพวกเขา เหมือนกับคุกที่เปลี่ยนรูปแบบเลยล่ะ

ก็ไม่รู้ว่าโรงงานนี้มันทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อะไรกันแน่ ถึงต้องทำอย่างลับล่อๆ แบบนี้

ดังนั้น ในใจของเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกทำตัวไม่ถูก ถึงอย่างไรเธอก็คิดว่าคงจะไม่ง่ายเหมือนที่เห็นเลยล่ะ

เจียงหยุนเอ๋อลังเลสักพัก จากนั้นก็จะไปพักผ่อน ในตอนนั้นเองไอ้หนวดกลับเดินไปด้านหน้าของจ้าวเสวียไห่ จากนั้นก็บังตัวเองให้

“สวัสดี ภรรยาของฉันท้องใหญ่มากแล้ว พวกเรายังมีลูกมาด้วย จะแยกมันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ จัดให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้ไหม?”

เจียงหยุนเอ๋อมองไอ้หนวดด้วยความแปลกใจ คิดไม่ถึงเลยว่าก่อนหน้านี้ที่ไอ้หนวดช่วยเหลือตัวเองเอาไว้ เธอก็คิดว่าไอ้หนวดไม่ใช่คนเลวอะไร ดังนั้นเลยไม่ได้แย้งอะไรไป

หลังจากที่จ้าวเสวียไห่ได้ยินไอ้หนวดพูดดังนั้น ก็ขมวดคิ้วเป็นปมเบาๆ จากนั้นก็มองไปที่เจียงหยุนเอ๋อ

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกตเลย ว่ามีผู้หญิงปะปนมาด้วย ถึงอย่างไรผู้หญิงถือว่าหาได้ยากในที่นี้

หลังจากที่ได้เห็นหน้าตาของเจียงหยุนเอ๋อ จ้าวเสวียไห่ก็มีแววตาเปล่งประกายออกมา

ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะเคยคลอดลูกแล้ว แต่ว่าก็ยังสวยอยู่ไม่สร่าง ดังนั้นเลยทำให้จ้าวเสวียไห่มีความคิดไม่ซื่ออยู่บ้าง

เมื่อสบตากับจ้าวเสวียไห่ เจียงหยุนเอ๋อก็เข้าใจความคิดของเขา และรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยหลบไปด้านหลังไอ้หนวดเองก็สังเกตเห็นสถานการณ์นั้น เลยบังอยู่ด้านหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ จ้าวเสวียไห่กลับไม่ได้รู้สึกทำตัวไม่ถูกอะไร ก่อนจะผลุบตาลงและมีสีหน้าเหมือนเดิม

“แบบนี้นี่เอง พวกคุณถือเป็นพิเศษก็แล้วกัน ปกติ ฉันจะไม่ตอบรับง่ายๆ แบบนี้ แต่ว่า ในเมื่อพวกคุณเป็นแบบนี้แล้ว งั้นฉันคงต้องตอบตกลงแล้วล่ะ”

จ้าวเสวียไห่เหมือนมีท่าทีไม่เต็มใจเท่าไหร่ไอ้หนวดเลยขมวดคิ้วเป็นปม ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ชอบคนคนนี้เท่าไหร่ แต่จะแสดงออกมาไม่ได้เด็ดขาด

“งั้นต้องขอบคุณคุณมากเลยนะ”

หลังจากที่ได้รับการยินยอมจากจ้าวเสวียไห่ไอ้หนวดก็รีบพาเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อออกไป

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้นไอ้หนวดเลยพูดกับเจียงหยุนเอ๋อเสียงเบา: “ที่นี่อันตรายมากนะ ถึงอย่างไรคุณก็เป็นผู้หญิงบอบบาง ต้องอยู่ข้างๆ ฉันถึงจะปลอดภัยหน่อย”

สำหรับคำพูดของไอ้หนวด เจียงหยุนเอ๋อเองก็เข้าใจได้

เธอเองก็รู้ถึงความอันตรายได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าไอ้หนวดช่วยตัวเองมาตั้งนาน เธอก็เลยคิดว่าไอ้หนวดน่าจะเป็นคนดี

“ที่พูดไปเมื่อครู่ ก็เพื่อไม่ให้เขาสงสัย ถ้าเกิดทำให้คุณไม่ชอบใจ ยกโทษให้ด้วยนะ”

ไอ้หนวดพูดกับเจียงหยุนเอ๋อด้วยความจริงจัง

เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็รีบโบกมือ พลางพูดขึ้น: “ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนดี”

ตอนแรกเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้หนวดมาก แต่เมื่อมาได้ยินไอ้หนวดอธิบายให้ตัวเองฟังด้วยตัวเองแบบนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าไอ้หนวดนั้นเป็นคนพึ่งพาได้ขึ้นมาทันที

จากนั้น พวกเขาไปที่หอพักด้วยกัน

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จ้าวเสวียไห่จะพูดไว้เหมือนดีมาก แต่อันที่จริงสภาพแวดล้อมนี้มันไม่มีอะไรเลย

แต่ว่า ถึงจะอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่มานาน เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อก็ไม่ใช่คนที่จะลำบากไม่ได้ เลยรู้สึกเฉยๆ กับสถานที่แบบนี้

ตอนแรกคิดว่าเจียงหยุนเอ๋อจะแสดงความไม่คุ้นชินออกมา คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะนิ่งเฉย จนทำให้ไอ้หนวดรู้สึกแปลกใจ

หลังจากนั้น ก็มีคนเรียกพวกเขาไปทำงาน

พวกเจียงหยุนเอ๋อเก็บของหมดแล้วไอ้หนวดมองเธอ พลางพูดขึ้น: “เดี๋ยวถ้าเกิดว่ามีคนมา เรียกไปทำงาน ก็ให้คุณทำเหมือนปวดท้องนะ ยังไม่ต้องไปทำงานหรอก ถึงอย่างไรร่างกายก็สำคัญ”

“แล้วคุณล่ะ?” เจียงหยุนเอ๋อถามกลับอย่างทันควัน

“ฉันต้องไปดูอยู่แล้ว”

เจียงหยุนเอ๋อลังเลสักพัก พลางมองไอ้หนวดอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

“ได้ ฉันรู้แล้วล่ะ……งั้นรบกวนคุณด้วยนะ”

ไอ้หนวดโบกไม้โบกมือ: “ไม่เป็นไรหรอก”