บทที่ 386 หลับ
บทที่ 386 หลับ
หลังทุกคนขึ้นรถเรียบร้อย รถบัสจึงเริ่มออกเดินทางสู่ภูเขาเทียนเหลียง
“อาจารย์อู๋ เล่าเรื่องแวดวงผู้ฝึกตนให้ฉันฟังบ้างสิคะ ฉันมีเรื่องสงสัยเยอะเลย” หลังรถเคลื่อนที่ ถังอวี่เฟยจึงเริ่มกระซิบข้างหูของอู๋ฝาน
“ผมไม่มีอะไรให้เล่าเลยครับ เหมือนอย่างที่คุณรู้ ผมก็เป็นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่าคุณเลย” อู๋ฝานตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้นคุณสังกัดสำนักไหนคะ ฝึกฝนเคล็ดวิชาอะไรอยู่? ทำไมถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ภายในเวลาสั้น ๆ กันล่ะคะ” ถังอวี่เฟยรัวคำถามออกมา
“คุณสปายตัวน้อย หลายคำถามเกินไปแล้วครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ไม่รู้เหรอครับว่าเรื่องพวกนี้ไม่ควรพูดออกมา?”
“ไม่บอกก็ไม่ว่ากันค่ะ” เมื่อเห็นอู๋ฝานไม่ยินดีตอบ ถังอวี่เฟยก็ไม่ซักไซ้ให้มากความ อย่างไรในแวดวงของผู้ฝึกตน เรื่องราวส่วนใหญ่ก็มักเป็นความลับ ไม่ค่อยมีการบอกเล่าให้คนนอกได้รับรู้ เธอก็แค่ถามอู๋ฝานไปเรื่อยเพราะความสงสัย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินดีตอบ ตนก็ไม่คิดรุกไล่ขุดค้นอะไรถึงขนาดนั้น
หลังเห็นถังอวี่เฟยไม่เอ่ยถามอีก อู๋ฝานจึงโล่งอก ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบ แต่เพราะเรื่องของเขาไม่อาจอธิบายออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเทเลพอร์ตไปยังอีกโลกหรืออะไรอย่างอื่น ทั้งหมดคือความลับอันยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถบอกให้คนอื่นล่วงรู้
“อาจารย์อู๋ ได้ยินจากหวังจื่อหมิงว่าไม่นานมานี้คุณทำธุรกิจไปไม่น้อยเลย ทั้งบ่มไวน์ ทำชา รวมถึงยาทาลบรอยแผลเป็น ทำไมถึงยุ่งได้ขนาดนี้กันคะ?” ถังอวี่เฟยเกิดความสงสัยต่อ
ในฐานะบุตรหลานของห้าตระกูลใหญ่ หวังจื่อหมิงและถังอวี่เฟยต่างก็มีการติดต่อหากันอย่างใกล้ชิด ทำให้หญิงสาวได้รู้เรื่องของอู๋ฝานจากหวังจื่อหมิงไม่น้อย
“ไม่ใช่ว่าผมอยากยุ่งหรอกนะครับ แต่ผมไม่ได้เหมือนพวกคุณที่เป็นพื้นฐานบ้านรวย ผมยุ่งก็เพราะต้องหารายได้ ไม่งั้นในอนาคตคงไม่มีเงินสู่ขอภรรยากันแล้วละครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“แต่งกับฉันสิคะ ไม่ต้องจ่ายค่าสินสอดสักนิด ตระกูลของเราพร้อมสนับสนุนค่ะ” ถังอวี่เฟยเสนอตัวพร้อมสายตาเป็นประกาย
ประโยคนี้ถังอวี่เฟยพูดให้ดังมากขึ้น มันมากพอจะทำให้เกิ่งหย่าเฟยและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ที่นั่งแถวหลังได้ยินอย่างชัดเจน
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ถึงกับมองถังอวี่เฟยโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหันหน้ากลับไป ภายนอกเธอทำเหมือนไม่สนใจเรื่องของอู๋ฝานกับอีกฝ่าย แต่แท้จริงนั้น หูของเธอแทบจะกางออกเป็นเครื่องดักฟัง
เกิ่งหย่าเฟยที่นั่งอยู่ข้างหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ก็ถึงกับต้องมองถังอวี่เฟยด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าตกใจกับคำพูดของหญิงสาว
‘นี่พวกเขามักจะพูดคุยกันแบบนี้เหรอเนี่ย? คุยกันถึงเรื่องแต่งงานกับสินสอดเลยงั้นเหรอ? งั้นก็ไม่น่าแปลกใจกับสายตาที่ถังอวี่เฟยใช้มองอู๋ฝานก่อนหน้านี้แล้ว’ เกิ่งหย่าเฟยครุ่นคิดอยู่ในใจ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ส่วนหนึ่งในใจของเกิ่งหย่าเฟยกลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“พูดอะไรครับเนี่ย!?” อู๋ฝานที่ได้ยินคำพูดของถังอวี่เฟยก็รู้สึกอับอายอยู่ในใจ โดยเฉพาะการที่สองคนแถวหลังต้องได้ยินเรื่องนี้อย่างชัดเจน
“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะคะ” ถังอวี่เฟยตอบรับ “ฉันพูดออกมาจากใจจริง เชื่อหรือเปล่าล่ะคะ?”
“แค่ก! แค่ก!” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของอีกฝ่าย อู๋ฝานก็ทำได้เพียงกระแอมไอออกมา “เมื่อคืนผมนอนไม่พอ ขอพักก่อนก็แล้วกันนะครับ”
จบคำ อู๋ฝานจึงเอนศีรษะพิงกับพนักและหลับตาลง ครั้งนี้ไม่ว่าถังอวี่เฟยจะเรียกหาอย่างไร เขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาตอบอีกเป็นครั้งที่สอง
ภูเขาเทียนเหลียงอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเจียงโจวหลายร้อยกิโลเมตร ทั้งคณะออกเดินทางในช่วงเช้า พอถึงช่วงบ่ายสามจึงมาถึงโรงแรมบริเวณเชิงเขาเทียนเหลียง
ขณะรถบัสหยุด อู๋ฝานก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความงุนงง เดิมนั้นเขาแกล้งทำเป็นหลับ ทว่ากลับเผลอหลับจริง และตอนนี้เมื่อตื่นขึ้นก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักบนไหล่ข้างขวา หลังมองจึงเห็นศีรษะของถังอวี่เฟยที่เอนมาพิงยืมไหล่ของเขานอนหลับ
ถังอวี่เฟยในตอนที่ตื่นอยู่นั้นค่อนข้างช่างพูดและเย้ายวนอู๋ฝาน ทว่าในยามหลับเธอกลับน่ารักน่าชัง กระทั่งเผยรอยยิ้มบางออกมา ราวกับกำลังฝันหวานอย่างไรอย่างนั้น
“ฮึ่ม!”
ขณะอู๋ฝานมองถังอวี่เฟยที่นอนหลับอยู่นั้น เสียงเย็นชากลับดังขึ้นจากทางด้านหลัง
ชายหนุ่มถึงขั้นต้องหันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว และก็ได้เห็นใบหน้าเย็นยะเยือกของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์
“แค่ก! แค่ก! อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด!” อู๋ฝานรีบอธิบาย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องอธิบายแก้ตัวกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ เพียงแต่เป็นการกระทำที่ทำออกไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด
เมื่อได้ยินคำพูดอู๋ฝาน หลิ่วเหยียนเอ๋อร์จึงมองถังอวี่เฟยที่ยังคงนอนหลับพิงกับไหล่อีกฝ่ายอยู่ จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินลงจากรถไป
เกิ่งหย่าเฟยในตอนนี้เอนเอียงศีรษะไปทางกระจกรถราวกำลังหลับอยู่ แต่จริง ๆ เธอตื่นเรียบร้อยแล้ว กระทั่งได้ยินบทสนทนาระหว่างหลิ่วเหยียนเอ๋อร์และอู๋ฝาน นับว่าเรื่องนี้เป็นอีกอย่างที่ทำให้เธอต้องประหลาดใจในรอบวัน
หรือระหว่างอู๋ฝานกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ก็ด้วยงั้นเหรอ?
อู๋ฝานที่ดูเป็นคนซื่อสัตย์ แท้จริงแล้วกลับรักสนุกไม่น้อย ทว่าอีกฝ่ายก็มีความสามารถจริง ๆ ถึงขั้นสามารถคว้าดอกไม้ทองคำของมหาวิทยาลัยทั้งสองมาไว้ในกำมือได้ พวกเขารู้ดีว่าดอกไม้ทองคำทั้งสองนี้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเพียงใด ยังไม่กล่าวถึงพื้นเพเบื้องหลังอันน่าทึ่ง ที่คนปกติไม่มีทางไล่ตามเข้าถึง ดังนั้นการเข้าหาสองคนโดยพร้อมกันจึงยิ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้
หลังเห็นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ลงจากรถบัสเรียบร้อยแล้ว เกิ่งหย่าเฟยจึงแสดงออกมาว่าเพิ่งตื่นขึ้นเมื่อครู่ ตอนนี้จึงเอ่ยคำกับอู๋ฝานที่อยู่เบาะแถวหน้าว่า “อาจารย์อู๋ พวกเราถึงปลายทางแล้วค่ะ ลงไปตรวจนับจำนวนคนก่อนนะคะ”
จบคำ เธอก็เดินตรงลงจากรถ ส่วนถังอวี่เฟยที่ยังคงพิงไหล่อู๋ฝานอยู่นั้น หญิงสาวทำเป็นมองไม่เห็นไป
เมื่อเห็นคนอื่นเตรียมตัวลงจากรถกันไปทีละคน อู๋ฝานจึงรีบเขย่าตัวถังอวี่เฟย “ตื่นครับ พวกเราถึงที่หมายแล้ว”
ตอนนี้เองที่ถังอวี่เฟยลืมดวงตาอันชุ่มชื้นขึ้นมามองภายนอก ก่อนจะหันกลับมามองอู๋ฝานที่อยู่ข้าง ๆ “ถึงแล้วเหรอคะ? เร็วขนาดนี้?”
“ผ่านไปเกินครึ่งวันแล้วครับ ถือว่าช้าด้วยซ้ำ” อู๋ฝานดันตัวถังอวี่เฟยออกห่างเล็กน้อย เพราะเมื่อกี้ทำให้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เข้าใจผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว หากนักศึกษาคนอื่นเข้าใจผิดอีก เขาก็ไม่รู้ว่าจะถูกมองอย่างไร
“ผลักไสฉันทำไมคะ” ถังอวี่เฟยที่ยังไม่ตื่นดี เมื่อเห็นอู๋ฝานดันตัวเองออกห่างจึงไม่พอใจขึ้นมา
“คุณนอนหลับกับไหล่ผมมาตลอดทาง ถึงปลายทางแล้วไม่คิดจะลุกเหรอครับ?” อู๋ฝานถามกลับ
ถังอวี่เฟยมองอู๋ฝาน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้นี้ตนเองก็เพิ่งตื่น เธอไม่ได้มีท่าทีเขินอาย แต่กลับมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ไหล่อาจารย์อู๋สบายมากเลยค่ะ ให้อิงทั้งวันยังได้เลย”
“พอเถอะนะครับ ตอนนี้รีบลงจากรถก่อน ผมยังต้องตรวจนับจำนวนคน” อู๋ฝานตอบกลับมา ในฐานะอาจารย์ที่ร่วมทางมาด้วย เขายังมีหน้าที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้นักศึกษา
“ไม่สนุกเลย” ถังอวี่เฟยเหม่อมองตอบอู๋ฝาน ทว่าก็ลุกขึ้นเตรียมตัวลงจากรถบัสอย่างเชื่อฟัง
นอกรถบัส เกิ่งหย่าเฟยที่ลงมากลุ่มแรกกำลังตรวจนับจำนวนคน กลุ่มคนบนรถแทบจะหลับกันมาตลอดทาง ขณะนี้บางส่วนเพิ่งตื่นและกำลังเดินงัวเงียลงมา
“อาจารย์อู๋ ที่นี่คนเยอะ พวกเราเข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ” เกิ่งหย่าเฟยเดินมาหาอู๋ฝานพลางบอก
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ
ก่อนจะมาถึงที่นี่ ทั้งคณะเดินทางได้จองห้องพักเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะ หากไม่จองล่วงหน้า เกรงว่าคงมีห้องพักให้ไม่พอนอน