ข้าโบกมือยิ้มๆ ชื่อจี้ จัดเตรียมที่นั่งให้คุณชายเซี่ยเสียหน่อย ส่วนเจ้าก็ออกไปก่อนเถิด ยกน้ำชาและของว่างมาด้วย เชื่อว่าคุณชายเซี่ยคงหิวแล้ว
ชื่อจี้หมุนตัวเดินออกไป ไม่นานก็ยกน้ำชาและของว่างเข้ามาก่อนเดินออกไปอีกครั้ง เมื่อเซี่ยจินอี้มีที่นั่งแล้วก็รีบกินอย่างตะกละตะกลาม ไม่นานก็เรอออกมา เมื่อกินอาหารเรียบร้อยก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ มองมาที่ข้าแล้วกล่าวว่า ใต้เท้าโปรดสั่งการมาเถิด
ข้ากล่าวอย่างเรียบเฉย เจ้าทราบฐานะของข้าหรือไม่
เซี่ยจินอี้ตอบทันควัน ข้ารู้ว่าท่านเป็นซือหม่าของจวนแม่ทัพเทียนเช่อ ชื่อแซ่ก็ได้ยินศิษย์พี่พูดถึงอยู่บ้าง ได้ยินว่าท่านคือใต้เท้าเจียงเจ๋อผู้ใช้หนึ่งกวีปลิดชีพสู่อ๋อง
ข้าแย้มยิ้มพราย เจ้าลืมพูดไปกระมังว่าข้าเป็นคนหนานฉู่ ถูกเจ้าแคว้นขับไล่ออกจากงานราชการ ตอนนี้เปลี่ยนมาสวามิภักดิ์ต่อยงอ๋องแล้ว
เซี่ยจินอี้กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า เกี่ยวอะไรกันเล่า ในเมื่อหนานฉู่ไม่เห็นค่าท่าน ข้าได้ยินว่ายงอ๋องให้ความสำคัญกับอัจฉริยบุคคลยิ่ง ใต้เท้าหันมาเข้ากับยงอ๋องก็นับว่าไม่เลว
ข้ากล่าวราบเรียบ เอาละ เดิมทีควรถามฐานะพื้นเพเจ้าเสียหน่อย แต่เมื่อคิดดูอีกครั้งก็ไม่มีความจำเป็นอันใด อย่างไรเสียหากท่านมีคู่แค้นหรืออดีตพิเศษอันใดแต่ไม่ยอมพูดออกมา หากเกิดเรื่องเหลือคาดอันใดในอนาคตก็อย่ามาตำหนิว่าข้าไม่เตือน
เซี่ยจินอี้คิดครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวตอบ ผู้น้อยไม่มีเรื่องใดที่ต้องรายงานเป็นพิเศษ แต่ผู้น้อยบุ๋นไม่ได้ความบู๊ไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดให้ใต้เท้าได้บ้าง
ข้ากล่าวด้วยท่าทีนิ่งเรียบ ง่ายมาก เจ้าก็ไปเข้ากับรัชทายาทเสีย ข้าต้องการให้เจ้าเป็นคนสนิทของรัชทายาท
เซี่ยจินอี้บ่นพึมพำออกมา ใต้เท้า ข้าเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ข้าจะไปใกล้ชิดรัชทายาทได้อย่างไรขอรับ
ข้ามิได้กล่าววาจา ทำเพียงหยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง บนนั้นเขียนตัวอักษรเล็กๆ เอาไว้จนแน่น ข้าส่งกระดาษให้เขาอ่าน เมื่อเซี่ยจินอี้อ่านจบสีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนไปพิสดารมิอาจคาดเดา ใต้เท้า เรียบง่ายเช่นนี้เชียวหรือ
ข้าแย้มยิ้มตอบ ใช่แล้ว ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเข้าไปสอดแนมความลับลึกซึ้ง และไม่ต้องการให้เจ้าติดต่อกับพวกเรา แค่เพียงเจ้าทำตามแผนการของข้าเพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากรัชทายาทเป็นพอ ด้วยนิสัยของเจ้า แม้จะเป็นลูกน้องชั้นยอดมิได้ แต่หากจะเป็นขุนนางคนสนิทก็นับว่ามากเกินพอแล้ว ข้าเตรียมปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้เจ้าได้รับความโปรดปรานจากรัชทายาทไว้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ของเจ้า ขอเพียงเจ้าทำตามหลักการข้อเดียวเป็นพอ นั่นก็คือทำให้รัชทายาทได้ปลดปล่อยความคึกคะนองออกมาเสีย คอยกล่าวคำยุยงยามเมื่อถึงเวลาเหมาะสม แต่จงจำไว้ให้ดีว่ากล่าวพาดพิงถึงฉีอ๋องได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น นอกจากนี้เจ้าต้องทำตามพระบัญชาของรัชทายาททุกอย่าง ต่อให้เป็นเรื่องเลวทรามอันใดเจ้าก็ต้องทำ ต่อให้เจ้าได้ยินความลับคับฟ้าอันใดหรือต่อให้พวกเขาต้องการทำร้ายยงอ๋อง เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เข้าใจหรือไม่ วันนี้จะเป็นการพบหน้าเพียงครั้งเดียวของพวกเรา จากนี้ไปต่อให้พบกันอีกข้าก็จะไม่สนทนากับเจ้าเกี่ยวกับเรื่องในค่ำคืนนี้อีก
แม้เซี่ยจินอี้จะไม่เข้าใจเจตนาของข้าแต่ก็ยังพยักหน้ารับ เข้าใจแล้วขอรับ ใต้เท้าต้องการให้ข้าได้รับความเชื่อใจจากรัชทายาท ส่วนเรื่องอื่นล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของข้าเอง ความจริงข้าเพียงต้องประจบประแจงรัชทายาทอย่างสุดความสามารถเท่านั้น ขอเพียงได้กินดื่มเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนรัชทายาทก็พอใจแล้ว
ข้าพยักหน้าก่อนตอบ ไม่เลว เจ้านำข้อมูลของกลุ่มจิ่นซิ่วไปบอกศิษย์พี่ของเจ้าได้เลย อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เจ้าเข้าสู่จวนรัชทายาทได้ ทั้งยังจะทำให้เจ้าได้รับความชื่นชมจากรัชทายาทด้วย ต่อไปก็ต้องพึ่งไหวพริบของเจ้าแล้ว ข้าจะมอบเทียบยาให้เจ้าสามแผ่น เป็นวิธีการปรุงยาวสันตโอสถชั้นยอด มันจะช่วยให้เจ้าได้รับความชื่นชมจากรัชทายาทมากขึ้น เทียบยาทั้งสามชนิดนี้มีฤทธิ์แตกต่างกัน เจ้าต้องเสนอพวกมันแก่รัชทายาทตามลำดับ จำไว้ให้ดี เจ้าต้องบอกว่าเจ้าเป็นคนพัฒนาโอสถชนิดนี้ขึ้นมาเอง ในเมื่อเจ้าใช้โอสถมอมเมาได้ เช่นนั้นคงรู้จักวสันตโอสถอยู่บ้างกระมัง รัชทายาทไม่กล้าให้หมอหลวงปรุงยาพวกนี้ ดังนั้นเจ้าคงไม่มีปัญหาเรื่องความเชื่อใจแล้ว
เซี่ยจินอี้กล่าวด้วยท่าทีเขินอาย ไม่ขอปิดบังใต้เท้า แม้ผู้น้อยจะไม่เคยกระทำพฤติกรรมชั่วช้าอย่างการขืนใจสตรี ทว่าเรื่องโอสถมอมเมาและวสันตโอสถกลับมีความรู้อยู่บ้างจริงๆ เทียบยาที่ใต้เท้ามอบให้ผู้น้อยก็เข้าใจกระจ่าง พวกมันนับเป็นโอสถชั้นยอด ทั้งช่วยเพิ่มพูนความสุขสมและไม่ทำร้ายร่างกาย ขอเพียงไม่ใช้มากเกินไป โอสถนี่ก็นับว่าเป็นโอสถชั้นยอด
ข้าตอบด้วยรอยยิ้ม ดี เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งวางใจ เจ้ายังมีคำถามอะไรอีกหรือไม่ หลังจากผ่านวันนี้ไปแล้วคงไม่มีโอกาสถามอีก
เซี่ยจินอี้ลังเลครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถาม ใต้เท้า ท่านวางใจเพียงนี้เชียวหรือว่าผู้น้อยจะไม่ขายท่าน
ข้าแย้มยิ้มบางเบา ขายหรือ เจ้าจะขายอันใดข้าได้ ข้ามอบข้อมูลทำให้เจ้าได้ผลงาน ข้ามอบยาทำให้เจ้าได้รับความโปรดปรานจากรัชทายาท และข้าก็ไม่ได้ขอร้องอันใดต่อเจ้า ส่วนเรื่องเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนรัชทายาท หากรัชทายาททรงพระปรีชาจะมีที่ให้เจ้าลงมือที่ไหนกัน ส่วนเรื่องยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างฉีอ๋องและรัชทายาท ต่อให้รัชทายาทรู้ว่าข้าให้เจ้าทำเช่นนี้แล้วอย่างไรเล่า เขาจะเชื่อใจฉีอ๋องได้ทั้งหมดหรือ ดังนั้นหากเจ้าฉลาดเสียหน่อยก็ทำตามคำพูดของข้าเถิด เจ้าจะได้รับความเชื่อใจโดยไม่มีความผิดร้ายแรงใดๆ หาไม่แล้ว เสี่ยวซุ่นจื่อ…
เสี่ยวซุ่นจื่อหยิบก้อนเงินก้อนหนึ่งออกมาจากสาบเสื้อแล้วค่อยๆ บดขยี้ก้อนเงินกลางฝ่ามือจนกลายเป็นผุยผงด้วยท่าทีสบายๆ เซี่ยจินอี้ถึงกับกลืนน้ำลายหนึ่งก่อนมองมาที่ข้า
ข้ากล่าวต่อไปว่า แต่ข้าก็เชื่อใจเจ้าไม่ได้ทั้งหมดจริงๆ เอาเช่นนี้เถิด เจ้าก็เขียนหลักฐานขึ้นมาเป็นลายลักษณ์อักษรฉบับหนึ่งเพื่อเป็นหลักประกันให้ข้าแล้วกัน เขียนไปว่าเจ้าเป็นสายลับที่จวนยงอ๋องส่งไป หากเจ้าปากไม่ดี ข้าก็จะทำให้รัชทายาทพบหลักฐานชิ้นนี้ เมื่อถึงตอนนั้นไม่ต้องรอให้ยงอ๋องสังหารเจ้าหรอก กระทั่งรัชทายาทคงไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ หรือแม้แต่ผู้ติดตามของข้าคนนี้ หากจะฆ่าเจ้าก็ง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ เจ้าก็แค่ลืมเรื่องในคืนนี้ รับเทียบยาและของขวัญพบหน้าที่ข้ามอบให้เจ้าไปเสีย เพียงเท่านี้ก็ประจบประแจงรัชทายาทได้อย่างสบายๆ แล้ว ทั้งยังจะทำให้เจ้าได้รับเกียรติยศและความมั่งคั่งที่เจ้าต้องการอีกด้วย แต่จำไว้ให้ดี หากเจ้าไร้ความสามารถเกินไปจนมิอาจได้รับความโปรดปรานจากรัชทายาทภายในสองเดือน คงต้องขออภัยที่ข้าต้องสังหารเจ้าก่อนเปลี่ยนคนใหม่
เซี่ยจินอี้รีบคารวะ ผู้น้อยไม่กล้าทรยศคำสั่งของใต้เท้าเป็นอันขาด ใต้เท้าโปรดวางใจเถิด ผู้น้อยเพียงคิดประจบประแจงรัชทายาทเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกผิดอันใดเป็นแน่
ข้าพูดยิ้มๆ ดี เช่นนั้นเจ้าก็เขียนจดหมายเถิด ข้าจะรอดูเรื่องสนุกๆ ของเจ้า จำไว้เล่า เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง เจ้าคงถูกลากเข้ามาพัวพันอย่างไม่อาจเลี่ยง แต่วางใจได้ ข้าเตรียมทางถอยไว้ให้เจ้าแล้ว
เซี่ยจินอี้ก้มหน้าต่ำ ผู้น้อยทราบแล้วขอรับ กล่าวจบก็เดินไปเขียนจดหมายจริงๆ เซี่ยจินอี้ทราบดีว่าหากไม่เขียนคงถูกสังหารทันทีเป็นแน่ จนกระทั่งเขาเขียนเสร็จ ข้าจึงค่อยเอ่ยขึ้นว่า ใครก็ได้
ผู้ที่เข้ามาคือชื่อจี้ ข้ากล่าวเสียงเรียบต่อไป เจ้ากลับไปพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมก่อนเถิด พรุ่งนี้เจ้านัดศิษย์พี่ไปดื่มสุราที่เจียงหนานชุนไม่ใช่หรือ ระหว่างนั้นเจ้าก็บอกไปว่าเจ้าพบร่องรอยของกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วที่เป็นพวกเหลือรอดจากแคว้นสู่ จากนั้นองครักษ์ของจวนยงอ๋องจะไปจับเจ้าตามคำสั่งของข้า แล้วส่งเจ้าไปที่สมาพันธ์กวนจง แต่ข้าคิดว่าศิษย์พี่ของเจ้าคงช่วยเจ้าได้
เซี่ยจินอี้ใจกระตุก กล่าวอย่างอับจนหนทางว่า คุณชายจัดการได้ครอบคลุมเพียงนี้ ผู้น้อยย่อมไม่ผิดพลาดเป็นแน่
ข้าโบกมือครั้งหนึ่ง เอาละ เจ้ากลับไปได้แล้ว ข้าไม่ส่งนะ เซี่ยจินอี้ชะงักงันไปโดยพลัน อ้าปากเล็กน้อยคล้ายต้องการพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเมื่อคิดดูอีกครั้งก็ได้แต่เดินตามชื่อจี้ออกไปอย่างท้อแท้หดหู่
เมื่อส่งเซี่ยจินอี้กลับไปแล้ว เสี่ยวซุ่นจื่อก็กล่าวอย่างเรียบเฉยว่า คุณชาย จดหมายนี้ให้ข้าเก็บไว้หรือไม่ขอรับ
ข้าแย้มยิ้มเล็กน้อย หยิบจดหมายฉบับนั้นมาอิงไฟเพื่อเผาให้มอดไหม้ เสี่ยวซุ่นจื่อมองข้าด้วยความประหลาดใจ ข้าจึงบอกเขาไปว่า หลักฐานเช่นนี้จะมีประโยชน์อันใดเล่า ต่อให้มอบแก่รัชทายาทจริงๆ จะมิเป็นการแสดงให้เห็นว่านี่เป็นความผิดของจวนยงอ๋องของพวกเราหรือ หากเซี่ยจินอี้ฉลาดย่อมไม่ขายพวกเราแน่นอน แต่หากเขาโง่งมเพียงนั้นจริงๆ พวกเราก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ข้าคิดว่าเขาคงไม่ขายพวกเราหรอก
ข้ามองไปยังเปลวเพลิงที่ลุกโชนพลางแย้มยิ้มออกมา เรื่องขาดทุนเช่นนี้ หากเซี่ยจินอี้ทรยศด้วยการขายพวกเราจริงๆ เขาก็จะเป็นบุรุษโง่เขลาอันดับหนึ่งในใต้หล้า
เซี่ยจินอี้ถูกสกัดจุดชีพจรแล้วจับยัดลงในกล่องอีกครั้ง เขาไปถึงห้องพักในโรงเตี๊ยมตอนเช้าตรู่ ระหว่างทาง เซี่ยจินอี้ขบคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตนสมควรทำเช่นไรดี เขาไม่ใช่คนที่เชื่อใจผู้อื่นง่ายๆ แต่เมื่อคิดไปคิดมา อีกฝ่ายเพียงมอบโอกาสและวิธีการที่จะทำให้ตนได้รับความเชื่อใจจากรัชทายาทเท่านั้น ตัวเขาเองมีชื่อเสียงย่ำแย่ วรยุทธ์ก็ดาษดื่น หากไม่มีเรื่องเหล่านี้ เกรงว่าคงไม่อาจได้รับเกียรติยศและความมั่งคั่งดังใฝ่ฝันไปชั่วชีวิต ต่อให้สารภาพทุกสิ่งทุกอย่างออกไปแล้วจะเป็นอย่างไรได้เล่า ตอนนี้ผู้ใดไม่ทราบบ้างว่ายงอ๋องเป็นดั่งดวงตะวันกลางท้องฟ้า ตนที่เป็นเพียงคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะทำให้ยงอ๋องสั่นคลอนได้อย่างไร ดูอย่างวิธีการของชื่อจี้ เพียงผู้ติดตามเล็กๆ คนหนึ่งก็ยังโหดเหี้ยมเพียงนี้ แล้ววิธีการของเหล่าเจ้านายพวกนั้นจะขนาดไหนเล่า เพียงแค่คิดก็จินตนาการได้เลยทีเดียว ทางที่ดีตนควรทำตามคำพูดของพวกเขาเสีย จะต้องได้รับความเชื่อใจจากรัชทายาทภายในสองเดือนให้ได้
เมื่อกลับมาถึงเตียงของตน เซี่ยจินอี้ก็รอให้จุดชีพจรคลายออกทั้งหมดก่อนจะลุกขึ้นนั่ง คิดคำนวณในใจว่าสมควรพูดสมควรกระทำเช่นไร จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงยามอู่ จึงค่อยๆ เดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งไปยังเจียงหนานชุนอีกครั้ง เหล่าสหายมองดูสีหน้าของเขา พบว่าแม้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สายตากลับดูพิกลอยู่บ้าง ผู้ใดใช้ให้เมื่อวานเขาไปล่วงเกินสมาพันธ์กวนจงเล่า เช่นนี้แล้วยังคิดจะไปกินดื่มกับคนในจวนรัชทายาทอีกหรือ
เมื่อเซี่ยจินอี้เดินเข้าไปถึงโถงบุปผาที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราก็พบบุรุษผู้สวมชุดผ้าไหมหลายคนกำลังนั่งพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน เขาเดินเข้าไปคาราวะชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้าทรงเหลี่ยมที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน ศิษย์พี่ใหญ่ ผู้น้องมาสายแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่โปรดอภัยด้วยขอรับ
ตอนต่อไป