บทที่ 280 สามีคือประธานนัทธี

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“คือแบบนี้……”วารุณีก็ไม่ปิดบังเขา พูดเรื่องเมื่อกี๊ออกมา

นัทธีเม้มปาก“ดูไม่ออกจริงๆเลยว่า คุณจะเป็นคนยุ่งเรื่องชาวบ้านด้วย”

วารุณีหัวเราะอย่างเขินๆ“หมดหนทาง เธอเป็นเพื่อนฉันนี่ เมื่อก่อนก็ดูแลฉันมาก เธอถูกรังแก ฉันไม่สนไม่ได้”

“วารุณี……”สองมือของเชอรีนกำไว้ด้วยกัน มองเธออย่างตื้นตัน

นัทธีจับสันจมูก“ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของเธอ ก็คือไม่มีทางที่จะไปสถานที่ฝึกอบรมได้ทันเวลาใช่ไหม?”

“ใช่”วารุณีพยักหน้า

นัทธีถอนหายใจเบาๆ“ให้มารุตไปคุยกับที่สนามบิน ให้ตั๋วชั้นหนึ่งเธอใบหนึ่ง บอกว่าผมสั่งมา”

ชั้นหนึ่งถูกเขาเหมาไปหมดแล้ว

เขามีสิทธิ์ว่าจะให้ใครขึ้นเครื่อง สนามบินก็ต้องเห็นแก่หน้าเขา

วารุณีได้ยิน นัยน์ตาดอกท้อก็เบิกโตขึ้นมาอย่างสวยงาม รู้สึกเบิกบานใจอย่างคาดไม่ถึง“นัทธี ขอบคุณนะคะ”

นัทธีตอบอือ“รีบหน่อยนะ เครื่องจะบินขึ้นแล้ว”

“โอเค ฉันจะไปพูดกับผู้ช่วยมารุต”

พูดจบ วารุณีก็รีบวางสาย แล้วพูดกับมารุตในสิ่งที่นัทธีสั่งมา ท่ามกลางความสงสัยของเชอรีน

มารุตตอบรับ แล้วไปทำตาม

พอเขาไป เชอรีนก็ดึงมือของวารุณี ถามอย่างไม่จริงจังนัก“วารุณี ฉันขึ้นเครื่องได้แล้วใช่ไหม?”

“ใช่”

“และยังชั้นหนึ่งด้วย?”

“ถูกต้อง!”

“ดีมาก!”เชอรีนกระโดดขึ้นมาอย่างดีใจ“วารุณี เธอเป็นเทพผู้คุ้มครองของฉันจริงๆ ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่ได้ฝึกอบรมครั้งนี้แล้วเสียอีก ขอบคุณนะ ขอบคุณเธอจริงๆ!”

เธอกอดวารุณีไว้ กอดอย่างแน่น บวกกับเธอที่สูงเกือบร้อยแปดสิบแล้ว วารุณีถูกเธอกอดอยู่ในอ้อมแขน ดูตัวเล็กเป็นพิเศษ

วารุณีตบหลังเธออย่างขำขัน“โอเค ที่เธอต้องขอบคุณน่ะไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคนที่ฉันคุยโทรศัพท์ด้วย ถ้าไม่ใช่เขา ฉันก็คงหมดหนทางจริงๆ”

“ใช่ๆๆ เธอเตือนฉันแล้ว”เชอรีนปล่อยวารุณีออก“วารุณี เขาเป็นแฟนเธอเหรอ?”

“ใช่!”วารุณียอมรับออกไปด้วยรอยยิ้ม

ใบหน้าของเชอรีนเต็มเปี่ยมไปด้วยคำอวยพร“งั้นยินดีกับเธอมากๆเลยนะวารุณี”

“ขอบใจจ้ะ”วารุณีตอบกลับ

ตอนนี้เอง มารุตกลับมาแล้ว และในมือก็ถือตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ่งใบหนึ่ง

เขายื่นตั๋วเครื่องบินให้เชอรีน

มือทั้งสองข้างของเชอรีนรีบรับไว้“ขอบคุณค่ะผู้ช่วยมารุต”

“ไม่ต้องเกรงใจ ตามผมมาเถอะครับ”มารุตส่ายมือ สื่อว่าไม่ต้องขอบคุณ

เชอรีนจับแขนของวารุณีไว้ ลากกระเป๋าเดินทาง แล้วตามหลังเขาเดินไปที่ช่องVIP

เดินอยู่ในช่องที่ไม่มีใคร เชอรีนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา“เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินช่องVIPเลยนะ คิดไม่ถึงว่าช่อง VIPจะหน้าตาแบบนี้”

วารุณีหัวเราะ“รอต่อไปเธอกลายเป็นนางแบบระดับโลกแล้ว ก็จะได้เดินช่องนี้บ่อยๆแล้ว”

“ยังอีกไกลเลย”เชอรีนยักไหล่“ตอนนี้ฉันยังไม่คิดจะเป็นนางแบบระดับโลกหรอก ฝึกอบรมให้เสร็จก่อนค่อยว่ากันเถอะ ฉันได้ยินบริษัทบอกว่า นางแบบที่ได้คะแนนฝึกอบรมดีเยี่ยม จะมีโอกาสเดินแบบหนึ่งครั้ง ฉันต้องคว้ามันมาให้ได้”

“สู้ๆ ฉันสนับสนุนเธอ”วารุณีกุมมือเธอไว้เพื่อให้กำลังใจ

เชอรีนพยักหน้าแรงๆ“ฉันต้องทำได้”

ระหว่างที่พูดนั้น ก็มาถึงเครื่องบิน

ทั้งสามคนขึ้นเครื่องไปทีละคน

นัทธีอยู่ชั้นหนึ่ง และไปที่ชั้นหนึ่ง ก็ต้องผ่านชั้นประหยัดกับชั้นธุรกิจก่อน

ตอนที่ทั้งสามคนใกล้จะถึงทางเชื่อมของชั้นประหยัดกับชั้นธุรกิจ สุชาดาที่นั่งข้างทางเดิน สวมแว่นกันแดดจู่ๆเห็นวารุณีกับเชอรีนที่กำลังเดินผ่านมา ก็รีบเรียกพวกเธออย่างตกใจ“หยุด!”

วารุณีกับเชอรีนก็ฟังออกว่าเป็นเสียงของสุชาดา จึงหยุดลง

“เธอมีอะไรหรือเปล่า?”เชอรีนขวางตรงหน้าวารุณี มองสุชาดาด้วยใบหน้าเกลียดชัง

สุชาดาดึงแว่นกันแดดลง“เธอขึ้นเครื่องบินมาได้ไง?”

“แน่นอนว่าเดินมาสิ ฉันคงบินมาไม่ได้หรอกมั้ง?”เชอรีนมองบนใส่

วารุณีที่อยู่ด้านหลังเธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

มารุตมองไปที่วารุณี“คุณวารุณี พวกเธอ……”

วารุณีส่ายหน้า“ไม่เป็นไร คุณไปบอกนัทธีก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันตามไป”

“ครับ”มารุตพยักหน้า เปิดม่านแล้วเข้าไปที่ชั้นธุรกิจ

สุชาดายืนขึ้นมา พูดเสียงแหลม:“ที่ฉันถามคือ เธอมีเงินซื้อตั๋วได้ไง คงไม่ใช่ว่าเอาเงินค่าโรงแรมไปซื้อหรอกนะ?”

“นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ ฉันแค่บอกเธอได้ว่า ฉันไม่พักที่โรงแรมน้อยไปแม้แต่วันหนึ่งแน่นอน ส่วนเธอน่ะ ก็ค่อยๆอยู่ชั้นประหยัดคนเดียวไปเถอะ”

พูดจบ เชอรีนก็โบกมือไปที่เธออย่างเย็นชา“พี่สาวฉันไปชั้นหนึ่งละนะ!”

“ชั้นหนึ่ง?”สุชาดาตะลึง นิ้วมือจับแว่นกันแดดแน่น“ทำไมเธอถึงนั่งชั้นหนึ่งได้?”

“เพราะว่าฉันมีวารุณีไง”เชอรีนโอบไหล่ของวารุณี

วารุณีเหลือบมองสุชาดาอย่างเย็นชา“พอเถอะเชอรีน พวกเราไปเถอะ ยืนอยู่ตรงนี้ก็ขวางทาง”

“โอเค”เชอรีนตอบอือ วางมือลง จากนั้นตามเธอเข้าไปที่ชั้นธุรกิจ

สุชาดายืนอยู่ตรงนั้น ตามองทางที่ทั้งสองคนไป แล้วในใจก็รู้สึกอิจฉาและโมโห

ก่อนหน้านี้ เธอยังเยาะเย้ยเชอรีนที่ไม่มีเงินซื้อตั๋วอยู่ จะถูกไล่ออกจากการฝึกอบรมอยู่เลย

คิดไม่ถึงว่าต่อมา เธอจะพึ่งพาวารุณีจนนั่งชั้นหนึ่งได้!

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สุชาดากระทืบเท้าอย่างทนไม่ไหว จากนั้นนั่งลงไป

อีกด้าน วารุณีพาเชอรีนมาที่ห้องโดยสารชั้นหนึ่ง

เชอรีนกังวลเล็กน้อย

ยังไงเธอก็ไม่เคยนั่งชั้นหนึ่งเลย แม้แต่ชั้นธุรกิจก็ไม่เคยนั่ง

เมื่อกี๊ตอนที่ผ่านชั้นธุรกิจ เธอก็รู้สึกว่าชั้นธุรกิจนั้นหรูพอแล้ว ไม่รู้ว่าชั้นหนึ่งจะหรูขนาดไหน

กำลังคิดอยู่นั้น ประตูของห้องโดยสารชั้นหนึ่งก็เปิดออก มารุตทำท่าผายมือเชิญ“คุณวารุณี คุณเชอรีน เชิญด้านในครับ”

“ขอบคุณค่ะ”วารุณีขอบคุณเขา แล้วจูงเชอรีนเข้าไป

เชอรีนเข้าไป ยังไม่ทันตกใจกับความหรูหราของห้องโดยสารชั้นหนึ่ง ก็เห็นเด็กสองคนวิ่งเบียดมาทางพวกเธอ จากนั้นกอดขาของวารุณีไว้คนละข้าง

“หม่ามี๊!”เด็กทั้งสองคนตะโกนกันตามออกมา

ดวงตาของเชอรีนเบิกโต มีใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ“หม่ามี๊?”

เธอก้มหน้าลงชี้ไปที่เด็กทั้งสองคน แล้วเงยหน้ามองวารุณีอีกครั้ง ริมฝีปากอ้าเล็กน้อย แล้วจึงพูดออกไป“วารุณี พวกเขาคือลูกเธอเหรอ?”

“ใช่”วารุณีพยักหน้า ลูบหัวลูกทั้งสองคน“ลูกรัก สวัสดีคุณน้าสิ”

“สวัสดีคุณน้า”เด็กทั้งสองคนมองไปที่เชอรีน ทักทายอย่างเชื่อฟัง

“สวัสดีจ้ะๆๆ”เชอรีนพยักหน้าอย่างตะลึง“วารุณี ที่แท้เธอก็แต่งงานแล้วนี่เอง ลูกโตขนาดนี้แล้ว”

ได้ยินคำว่าแต่งงานสองคำนี้ สายตาวารุณีก็สั่นคลอน ไม่ได้อธิบายใดๆ

เชอรีนไม่เห็นวคามผิดปกติของเธอ จึงมองซ้ายมองขวา“งั้นแฟนเธอ……ไม่สิ สามีเธอล่ะ?”

คำว่าสามีทำให้วารุณีหน้า ไอออกมาเบาๆแล้วมองไปที่มารุต“ผู้ช่วยมารุต นัทธีล่ะ?”

มารุตดันแว่น กำลังจะตอบ ก็เห็นประตูห้องรับรองของชั้นหนึ่งเปิดออก นัทธีก้าวเท้ายาวๆออกมาทันที

เขามีร่างสุงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางดูทรงพลัง ทำให้เชอรีนอดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน

“พ่อ”เด็กทั้งสองคนปล่อยขาของวารุณี แล้วหันกลับวิ่งไปที่นัทธี

นัทธีย่อตัวลง อุ้มไอริณขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างจูงอารัณไว้ จากนั้นมองไปที่วารุณี“มาแล้วเหรอ?”

“มาแล้วค่ะ”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

นัทธีก็เอาสายตามองไปที่เชอรีน“เธอคือเพื่อนที่คุณพูดถึงใช่ไหม?”

วารุณีพยักหน้า กำลังจะแนะนำ

เชอรีนได้สติคืนมาหลังจากที่ตะลึง ก็มองไปที่วารุณี แล้วก็มองนัทธีอีก ตื่นเต้นจนพูดออกมาไม่ชัดเจน“วา……วารุณี สามีของเธอคือประธานนัทธีเหรอ?”