“หมอเรย์ นายจบงานแล้วหรือยัง?” หมอโจวเอนกายไปพิงที่ประตูสำนักงาน เขาแขวนเสื้อไว้ที่แขนของเขและพร้อมที่จะใส่เสื้อคลุมสีขาวของเขาหรือโยนมันลงบนที่นั่งอยู่ตลอดเวลา
หมอเรย์ตะโกนสองครั้งแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วงฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว “
“สรุปแล้วเธออาหารไม่ย่อยใช่ไหม” เขามองไปที่หมอเรย์และคิดว่า ‘คงไม่มีเหตุการณ์สำคัญๆอะไรเกิดขึ้นอีกแล้วล่ะมั่ง สามสิบเจ็ดนาทีกับอีกห้าวินาทีสำหรับการทำงานล่วงเวลานี้มันไม่แย่เท่าไรนะ’
“ผมถามผู้ป่วยแล้วเธอบอกว่าเธอกินหอยนางรมแปดตัวที่ประเทศฝรั่งเศสผมจะไม่บอกคุณในเรื่องที่เหลือเพราะเธอเองที่เต็มใจที่จะนั่งในเครื่องบินส่วนตัวเพื่อไปกินหอยและยังไม่พอเธอเธอยังกลับมากินบะหมี่อีก เธอทำท่าให้ฉันดูว่ามันชามใหญ่มากแค่ไหนและเธอยังทานไข่เข้าไปอีกสองฟอง ฉันอยากจะบอกว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรมเลยเพราะเธอกินขนาดนั้นเธอยังรูปร่างดีอยู่เลย ” หมอเรย์ตบหน้าท้องของตัวเองเพื่อบ่งบอกว่าเขาเริ่มหิวแล้ว
“ทำไมเธอต้องกลับมาทานบะหมี่อีกล่ะ” หมอโจวยังไม่ย้อนกลับบ้านเพราะเขาอยากรู้เหตุผลของผู้ป่วย
หมอเรย์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรงแล้วกดเข้าไปที่เวชระเบียน เขากล่าวว่า“ ผู้ป่วยบ่นออกมาว่า…หลังจากอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งเดือนเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อยขนาดนี้”
“บะหมี่อร่อยกว่าหอยนางรมเหรอ?” หมอโจวหัวเราะเบา ๆ และถามว่า “ฉันอยากรู้จริงๆว่าบะหมี่ร้านไหนอร่อยขนาดนั้น?“
“มันก็มีอยู่ร้านหนึ่งนะ ตั้งอยู่ที่ตลาดเฮย์จู พวกเขาขายบะหมี่ ข้าวไข่เจียวและพริกทอด” หมอเรย์ได้วางโทรศัพท์ลง
“ถ้าขับรถไปก็ประมาน 20 นาที” หมอโจวพยักหน้าก่อนที่เขาจะมองไปที่ทางเดิน เขาไม่เห็นผู้อำนวยการฮวง ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวเขาโยนเสื้อคลุมสีขาวของเขาเดินออกไป ขณะที่เขาเดินออกไปเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ที่รักคุณอยากทานบะหมี่ไหมคืนนี้ โอ้วันนี้มีผู้ป่วยฐานดีเธอเกือบตายเพราะทานอาหารมากเกินไป ฉันจึงคิดถึงมันขึ้นมาและถามถึงที่ตั้งของร้านว่ามันอยู่ที่ไหน … เพศของผู้ป่วย ก็เหมือนกันกับแพทย์ของเรา … ไม่ไม่ไม่ … คุณเข้าใจผิดฉันไม่ได้คุยกับเธอฉันถามเพื่อนร่วมงานของฉันมา … “
หมอเรย์กำลังแอบฟังอยู่ข้างๆหมอโจว “พี่โจว คุณกำลังมีปัญหาแล้ว”
“ผู้ชายที่กลับบ้านตรงเวลาทุกวันอย่างฉัน … ไม่มีปัญหาหรอก”
“ครั้งสุดท้ายที่ผมชวนพี่โจวมาดื่มด้วยกัน มันดันมีวิดีโอหลุดไปว่ามีสาวบาร์เข้ามาหาพี่ จนเมียของพี่ต้องโทรมากว่าจะเคลียร์ได้เกือบสิบนาที”
“เฮ้เฮ้ อย่าไม่เหมารวมอย่างั้นสิ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฉันสักหน่อยมันอยู่ที่สาวบาร์คนนั้นตั้งหาก … “
หมอเรย์ถึงกับยิ้มกว้าง ๆ เหมือนเขากำลังเยาะเย้ยหมอโจวอยู่ จากนั้นเขาก็เปิดวีแชทขึ้นมา ขณะที่เขาแอบฟังการสนทนาของคุณหมอโจวทางโทรศัพท์เขาก็ส่ายหัวในขณะที่เขากำลังพิมพ์ข้อความบางอย่างๆตั้งใจลงไปในวีแชท
[ที่รักฉันคิดผิดมาก มาทานหอยนางรมกันเถอะคืนนี้ฉันจะแสดงให้คุณเห็นถึงความสุดยอดของมัน]
… ..
ในห้องสังเกตุอาการ …
เทียนฉี ตอนนี้เธออยู่คนเดียวในห้องของเธอและเล่นกับโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ ซึ่งการเล่นมือถือของเธอทำให้เธออดทนอยู่ในห้องสังเกตุอาการได้นานขึ้น
เมื่อเลขาเห็นเธอ เลขาของเธอจึงถามเธอว่าถามว่า “คุณหนูต้องการบอกกัปตันให้บินมารอล่วงหน้าเลยรึเปล่า เพราะเราไม่ควรรออยู่ในห้องแบบนี้โดยเปล่าประโยชน์”
“แล้วสถานที่ที่จะไปล่ะ?” เทียนฉีจ้องที่โทรศัพท์ของเธอขณะที่เธอถามคำถาม
“คุณหนูไม่ได้บอกว่าคุณหนูอยากกลับบ้านเมื่อวานนี้เหรอ?”
“ฉันคิดว่าพ่อและแม่ของฉันไปออสเตรเลียเพื่อดูทุ่งเลี้ยงสัตว์?”
“คุณหนูไม่อยากกินเต้าหู้ ปูของซิสเตอร์ตันแล้วหรอ” เลขาของเธอยิ้มออกมา
เทียนฉีส่ายหัวของเธอ เธอถือโทรศัพท์แล้วพูดอย่างไม่ใยดีว่า “ฉันกระตือรือร้นที่จะหาบทกวีถ้าฉันรู้มาก่อนหน้านี้ว่าฉันจะได้เรียนภาษาและวรรณคดีจีน … “
“กำลังมองหาบทกวี … เพื่อเอาไปคุยกับหมอหลิง” เลขาของเธอเห็นหมอหลิงกำเดินมา เมื่อเธอเห็นว่าการกระทำของเทียนฉีเธอสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หากสิ่งนั้นเป็นโรงเรียนและเทียนฉีมีปัญหากับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เลขาของเธอก็จะทำการสอบสวนบางอย่างกับเด็กผู้ชายคนนั้นทันทีและอาจรายงานให้พ่อแม่ของเทียนฉีทราบด้วบ
และในครั้งนี้แม้ว่าเลขาจะส่งคนไปสอบสวนหลิงรัน แต่เธอก็ไม่รีบรายงานเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของเทียนฉีทราบในทันทีเหมือนแต่แอน
เหตุผลก็คือมันยากที่จะแสดงความได้เปรียบรูปลักษณ์ของหลิงรันในรายงาน ในฐานะที่เป็นเพื่อนหญิงเลขาคิดว่าคนที่หล่อเหลาเหมือนหลิงรันและทำงานเป็นหมอก็ถือว่าเป็นผู้สมัครที่สมควรจะเป็นสามีในอนาคตสำหรับเทียนฉีตราบใดที่เขาไม่ได้เลวร้ายในด้านอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องรายงานสิ่งต่าง ๆ ในขณะนี้ มันอาจทำให้เกิดผลเสียต่อในภายหลังทั้งตัวเทียนฉีเองและร่วมถึงเขาด้วย
เลขามองเทียนฉีและพูดด้วยน้ำเสียงของผู้มีประสบการณ์เธอพูดว่า “คุณหนูไม่จำเป็นต้องคุยกับหลิงรันเพียงแค่การใช้บทกวีหรอก”
“เขาน่าจะชอบบทกวีที่ฉันท่องไปวันนี้ใช่ไหม?” เทียนฉีถาม
“บางทีเขาแค่ชอบคุยกับคุณหนูก็ได้” เลขายิ้ม
เทียนฉียิ้มอ่อนๆ ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะกลับมาเศร้าอีกครั้ง เธอพูดว่า “ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนกับตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นด้วยใบหน้านั้นแน่นอนว่าหลายคนเคยมาหลอกให้เธอรักและก็เดินจากไป… “
“ ตอนนี้หัวหน้าของเขายืนอยู่ตรงหน้าเขาเขาจะพูดอะไรได้? ‘
“โอ้ใช่.” เทียนฉีโล่งใจสักสองสามวินาทีก่อนที่เธอจะถามในทันทีว่า “พี่สาวต้า พี่ได้ข้อมูลอะไรจากการส่งคนไปสืบบาง”
“คงยังไม่ได้ผลลัพธ์เร็วนี้หรอกๆ นี้จนถึงตอนนี้ฉันรู้ว่าเขาเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยหยุนหัวเขากำลังฝึกงานในโรงพยาบาลหยุนหัวเขามีความสามารถในการผ่าตัดและเขาปรากฏตัวในสื่อหลายแห่งฉัน ฉันจะส่งลิงค์ข่าวให้คุณหนู นอกจากนี้ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของคลินิกขนาดเล็กๆที่ชื่อว่าคลินิคตระกูลซึ่งมีพื้นที่เพียงไม่กี่พันตารางฟุตและมีสองชั้น ดำเนินการที่ชั้นล่างและครอบครัวอาศัยอยู่ข้างบนคลินิกนอกนั้นเขาไม่มีทรัพย์สินอื่นใดนอกจากนี้แล้ว … “
เทียนฉีกระพริบตาและพูดว่า “นี่หมายความว่าเขาอาศัยอยู่กับแม่สามีของฉันหรือไม่ก็อารมณ์ของแม่ผัวใช่ไหม”
“ฉันยังไม่สามารถตรวจสิ่งนั้นได้นอกจากนี้หากคุณหนูไม่ต้องการอยู่กับแม่สามีคุณหนูสามารถซื้อบ้านและอยู่แยกกันจากกันเพราะ ครอบครัวของคุณหนูมีบ้านหลายหลังในหยุน หัว … “เลขาหยุดและพูดว่า” ทำไมคุณหนูถึงคิดเรื่องนี้ตอนนี้คุณหนูยังเด็กมันเร็วเกินไปที่จะแต่งงาน “
เทียนฉีตั้งใจฟังอย่างเชื่อฟัง
“เรามาพูดถึงแง่มุมอื่น ๆ เขาอาจมีเงินฝากของตระกูลหลิงควรอยู่ที่ประมาณสองสามแสนหยวน หลิงรันมีเงินอยู่ประมาณ 100,000 หยวนในบัญชีธนาคารของเขาเมื่อเร็ว ๆ นี้รายได้ต่อเดือนของเขาอยู่ที่ประมาณ 50,000 หยวนนอกจากนี้หลิงรันโวลสวาเกลมือสอง… “เลขาของเธออธิบายข้อมูลเพิ่มเติมข้อมูลที่เธอหามาได้
เทียนฉีฟังแล้วพยักหน้าแล้วพูดว่า “ห้าหมื่นหยวนต่อเดือนสำหรับการฝึกงานก็ถือเป็นเงินที่เยอะอยู่นะพี่ต้า”
“ใช่มันมากกว่ารายได้ของแพทย์อาวุโส”
“หมอหลิงรันนั้นเยี่ยมยอดไปเลย” เทียนฉียกย่องเขา
เลขาเริ่มหัวเราะสองสามครั้งและสัมผัสกระเป๋าของเธอ
“งานอดิเรกของหมอหลิงคืออะไร” เทียนฉีถาม
“เรื่องนี้ฉันจะได้รับรายงานจากนักสืบในวันพรุ่งนี้” เลขาตอบกลับ
“ฉันคิดว่า … ” หลังจากที่เทียนฉีพูดจบเธอก็เลื่อนดูโทรศัพท์ของเธออีกครั้ง
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาเทียนฉีก็วางโทรศัพท์แล้วถามว่า “พี่สาวต้าถ้ารถของหมอหลิงพัง เขาสามารถก็ใช้แอปเรียกรถแท็กซี่ได้ใช่ไหม”
“เขายังสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แต่พวกเขาก็มีความเหมือนกัน” ผู้ช่วยพยักหน้า
“โอ้…” เทียนฉีจมลงไปในความคิดลึก ๆ
พี่สาวต้าก็ก้มหัวลงและเตือนความจำอย่างรวดเร็วในวีแชท[นางสาวเทียนฉีกำลังคิดมากและยาวนาน]
… ..
ตอนตีสี่
หลังจากดื่มนมและข้าวโอ๊ตรวมไปถึงขนมปังร้อนๆ ที่เต็มไปด้วยหมูนึ่งในไวน์ หลิงรันเข้ามาในโรงรถชั่วคราวและนั่งในรถโฟล์คสวาเกนเจลต้า
เขาเสียบกุญแจรถของเขาเพื่อสตาร์ทรถ…แต่มันกับสตาร์ทไม่ติด
เขาบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถอีกครั้ง…แต่มันก็ไม่ติด
และรถของเขาก็ดับไป …
หลิงรันจึงปิดประตูรถและเดินออกมา เขามองไปที่ถนนที่ไร้ผู้คนและเปิดแอพการเรียกรถแท๊กซี่ออกมา
เป็นไปไม่ได้ที่แท๊กซี่จะเข้ามาในซอยนี้ ทุกวันนี้มีรถแท็กซี่เพียงไม่กี่คันเท่านั้น อีกทั้งพวกเขายังจู้จี้จุกจิกเมื่อพวกเขาถูกเรียก ในเวลานี้มีคนขับรถเพียงไม่กี่คนที่ชอบเดินทางใกล้โรงพยาบาลหยุนหัว
หลิงรันก้มหัวลงและวางคำขอของเขา ทันทีหลังจากที่เขายืนยันคำขอของเขาหน้าจอแอพก็เปลี่ยนไปแล้วแสดง [โปรรอสักครู่] ที่ด้านล่างคือคำว่า [อาจารย์หลิว, แบล๊กโลสลอยแฟลนทอม]
ในไม่กี่วินาทีรถคันใหญ่และสีดำมาจอดอยู่ตรงหน้าของหลิงรัน
ประตูเปิดออกอัตโนมัติ ประตูหน้าขยับไปข้างหน้าและประตูหลังขยับไปข้างหลังเพื่อเผยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการออกแบบตกแต่งภายในสีส้มของรถ
“หมอหลิงเป็นเรื่องบังเอิญฉันกำลังจะกลับบ้านเหมือนกันเลย” ในที่นั่งคนขับคือเทียนฉี เธอโบกมืออย่างกระตือรือร้นก่อนที่จะหาวเสียงดังแสดงความอ่อนล้าของเธอ
หลิงรันคิดเรื่องนี้เล็กน้อยนั้งลงไปที่รถคันนั้น
ตอนนั้นมันยากมากที่จะหาแท็กซี่ ยังมีผู้ป่วยที่นิ้วถูกขาดสามนิ้วและนิ้วโป้งที่ขาดคนหนึ่งรอเขาอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อเทียนฉีเห็นลิงรันเข้ามาในรถเธอก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงและปิดประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอถามว่า “คุณหมอหลิงคุณจะไปโรงพยาบาลหยุนหัวเหรอ”
“ใช่.”
“อุณหภูมิในรถโอเคไหม”
“โอเคแล้วล่ะ.”
“คุณอยากดูดาวหรือป่าว?” เทียนฉีถามเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ จากนั้นเธอก็เห็นเพดานของรถแสดงแผนที่กลุ่มดาวออกมา
หลิงรันเอนกายลงและนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสะดวกสบาย
“หมอหลิงคุณไปทำงานเช้าเช่นนี้ทุกวันเลยหรอ” เทียนฉี่เหยียบคันเร่ง และเธอสตาร์ทรถด้วยความประหม่าเล็กน้อย
“ไม่ใช่ทุกวัน.” หลิงรันนั้งลงไปสัมผัสกับเบาะหนัง ด้วยความสังสัย
“มันเป็นเรื่องยากมากเลยนะที่จะตื่นเช้ามาทำงานอย่างงี้” เทียนฉีรู้สึกถึงหัวใจของเธอเมื่อเธอมองดูเจ้าชายที่เปร่งประกายอย่างหลิงผ่านกระจกมองหลัง
หลิงรันกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่าคุณจะเป็นพวกคนขับรถรับจ้างนะ และเลือกรับลูกค้าตั้งแต่เช้าอย่างงี้แน่ๆ”
เทียนฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพยักหน้าอย่างเร่งรีบ “ ใช่ฉันยังพยายามจะทำอาชีพอิสระและหาเงินด้วยตัวเองฉันไม่สามารถพึ่งพาครอบครัวของฉันได้ตลอดหรอก”
“ขอโทษ คุณช่วยช้าลงหน่อยเพราะมันคุณจะขับเร็วเกินไปแล้ว” หลิงรันเตือนเธอ
เทียนฉีอ้าปากค้างและเหยียบเบรคอย่างแลง มันทำให้หลิงรันพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างแรง แต่โชคดีที่เขาสามารถรักษาสมดุลการนั่งของเขาได้อยู่
“ฉันขอโทษฉันขอโทษ” เทียนฉีเร่งความเร็วของรถอย่างต่อเนื่องและพูดต่อไปว่า “ฉันได้รับเงินประมาณ 10 หยวนจากคำขอของวันนี้หมอหลิงเนื่องจากคุณเย็บแผลเมื่อวานนี้ทำไมเราไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันล่ะ?
“คุณหักค่าน้ำมันแล้วหรือยัง?” เจ้าของโวลล์สวาเกลถามเจ้าของรถโรสลอยแฟลนทอม
“ฮ่ะ! ฉันลืมเรื่องนี้ไปยังไงกัน แต่ยังไงก็ดีฉันจะไม่ยอมให้คุณต้องเสียเงินค่าเดินทางเพิ่มเป็นอันขาด หมอหลิง” เทียนฉีกำกำปั้นของเธออย่างหนักแน่น