ตอนที่ 192 เฮ้อ ยากจะฆ่าเซียนจินจริงๆ (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 192 เฮ้อ ยากจะฆ่าเซียนจินจริงๆ (2)
ค่ายกลแรกคือ ค่ายกลกับดัก ห่วงโซ่จักรวาลที่ตรึงเข้ากับจักรวาล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถดักจับเซียนจินปลอมได้

ค่ายกลที่สองคือ ค่ายกลสังหาร พลังวิญญาณของค่ายกลสังหารหมื่นกระบี่ปลิดวิญญาณกลายเป็นปราณกระบี่ที่เต็มทั่วท้องฟ้า แล้วก่อตัวเป็นกระบี่ขนาดมหึมา ฟาดฟันออกไปข้างหน้า!

ค่ายกลที่สามคือ ค่ายกลพิษสายฟ้าสุ่ยหยิน แล้วทันใดนั้น แอ่งน้ำสีดำก็ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเซียนจินปลอมผู้นั้น…

เซียนจินปลอมไม่คิดว่า หลี่ฉางโซ่วจะโจมตีรุนแรงมากถึงเพียงนี้จนสภาพแวดล้อมรอบกายเขาล้วนถูกตรึงเอาไว้ชั่วคราวและไม่อาจหลบหนีไปได้

แต่เขาจะนั่งรอความตายได้อย่างไร? แล้วไยต้องหลบ?

อีกฝ่ายเป็นเพียงเซียนเทียน!

ในขณะนั้น เซียนจินปลอมของเผ่าทะเลก็พ่นไข่มุกออกมาสามเม็ดแล้วขว้างไข่มุกออกไปด้านหน้า ทันใดนั้น ก็มีแสงสีโลหิตแผ่พุ่งออกมาจากร่างของเขาและสกัดกั้นน้ำสีดำที่อยู่ใต้เท้าของเขาเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

แล้วไข่มุกก็บินออกไปทำลายกระบี่บินที่อยู่ข้างหน้ามันจนกระบี่แตกกระจายทันที!

พลังของเซียนจินปลอมนั้นไร้ผู้เปรียบได้จริงๆ!

หลี่ฉางโซ่วยังคงสงบนิ่ง

จากนั้น ร่างทั้งสี่ร่างต่างก็หยิบพู่กันออกมา แล้วเหินบินไปรอบๆ ในน้ำทะเลโดยไร้สิ่งกีดขวาง แล้วไปยืนตามตำแหน่งอย่างมั่นคงในทั่วทิศทาง ดูเหมือนจะวางตำแหน่งเป็นค่ายกลเวท…

แล้วร่างทั้งสี่ก็ยกพู่กันขึ้นพร้อมกันจนเกิดฟองอากาศออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นชุดๆ ในน้ำทะเล แล้วใช้พู่กันวาดเป็น ‘มังกร’ สี่ตัว

ทันใดนั้น มังกรทั้งสี่ตัวก็ฟื้นขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่เซียนจินปลอมในทันที

หลังจากนั้น พู่กันทั้งสี่ด้ามก็เขียนพระสูตรขึ้นมา แล้วจู่ๆ พระสูตรเหล่านี้ก็รวมตัวกลายเป็นอาวุธประเภทต่างๆ และวิหคหลายร้อยชนิดที่พุ่งเข้าหาเซียนจินปลอมจากทั่วทุกทิศทางอย่างต่อเนื่อง

น่าเสียดายที่พลังวิญญาณของค่ายกลขนาดเล็กที่ปิดผนึกจักรวาลได้หมดลงแล้ว จากนั้น เซียนจินปลอมก็กระโดดขึ้น หลบเลี่ยงน้ำสีดำและทำลายมังกรที่วาดขึ้นมาได้ แต่ถูกวิหคที่บินอยู่เต็มท้องฟ้ากลืนกินไปทันที …

การโจมตีครั้งนี้… หือ? ไม่เจ็บเลย?

ยิ่งกว่านั้น เซียนจินปลอมก็ยังงุนงง แม้จะไม่รู้อะไร แต่ก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า ในการบุกโจมตีจากทั่วทุกทิศทางนั้น เห็นได้ชัดว่าคนที่โจมตีจากด้านหนึ่งแข็งแกร่งกว่าคนที่โจมตีจากอีกสามด้านอย่างมาก

หนึ่งในนั้นใช้พู่กันสมบัติวิญญาณในขณะที่อีกสามคนใช้สมบัติอมตะชั้นยอด?

เซียนจินปลอมจึงจับเอาจุดบกพร่องที่เห็นขณะที่ยังต้านทานการโจมตีอีกสองสามระลอกอย่างสงบ แล้วจู่ๆ ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวแวบวาบไปแล้วพุ่งเข้าสู่ทิศทางที่มีการบุกโจมตีอันทรงพลังที่สุด!

ณ เวลานี้!

หลี่ฉางโซ่วมีสีหน้าตระหนกเล็กน้อย เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวแล้วร้องตะโกนว่า “คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ!”

แล้วพู่กันพิพากษาสมบัติวิญญาณในมือของเขาก็เคลื่อนขยับฉับไวราวกับเป็นภาพลวงตาเมื่อ เขียนถ้อยคำขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วว่า ‘รวดเร็วยิ่ง’

ทันใดนั้น ทุกอย่างก็อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนทันที เมื่อหลี่ฉางโซ่วไม่ได้หลบเลี่ยงไปด้านหลัง แต่กลับกระโจนออกไปข้างหน้าและกระจายถ้อยคำนั้น… จากนั้น ร่างของเขาก็ฉายวาบแล้วหายไปอย่างน่าประหลาด! และเมื่อเขาปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง เขาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของเซียนจินปลอมแห่งเผ่าทะเลแล้ว บัดนี้ ทั้งสองหันหลังชนหลัง ห่างกันไม่ถึงสองฉื่อ!

นี่สิถึงจะเรียกว่าวิธีการใช้พู่กันเขียนพระสูตรอย่างแท้จริง!

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หันกลับมาฟาดฝ่ามือลงบนแผ่นหลังของเซียนจินปลอมอย่างสุดกำลัง ทำให้เซียนจินปลอมซวนเซไปเล็กน้อย

แล้วแทบจะในเวลาเดียวกัน ร่างทั้งสามร่างที่อยู่รอบๆ แต่ละร่างก็เขียนตัวอักษรว่า ‘รวดเร็วยิ่ง’ แล้วตัวอักษรแต่ละตัวก็ปะทะกับตัวอักษรขนาดใหญ่ที่วาดขึ้น และพุ่งไปที่ด้านข้างของปรมาจารย์เผ่าทะเล!

ปรมาจารย์เผ่าทะเลผู้นี้เคยพบการต่อสู้เยี่ยงนี้ที่ใดกัน?

แต่เพราะเขามีประสบการณ์และอยู่กับพวกขุนนางแห่งเผ่าทะเลมาเป็นเวลานาน ดังนั้น แม้ในใจจะกระวนกระวาย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาก็ยังไม่ช้า ทันใดนั้น เขาก็ระเบิดคลื่นพลังเซียนที่แข็งแกร่งออกมารอบกายเพื่อผลักดันทุกคนออกไป

ในขณะนั้น ห่วงโซ่จักรวาลก็ปรากฏขึ้นรอบๆ เซียนจินปลอมแห่งเผ่าทะเลอีกครั้ง แล้วกำจัดพลังเซียนนั้นออกไปทันที!

แน่นอนว่า บัดนี้ ร่างทั้งสี่ร่างซึ่งปรากฏตัวขึ้นรอบกายเขาล้วนเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์

ในขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เหล่านี้ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ หนึ่งในนั้นฟาดฝ่ามือใส่เซียนจินปลอม แล้วพวกมันก็อ้าแขนออก!

จากนั้น พลังเซียนทั้งสี่สายที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกันก็เข้าเชื่อมโยงกันกลายเป็นห่วงโซ่เข้าห่อหุ้มเซียนจินปลอมผู้นี้ทันทีราวกับห่อเกี๊ยว…

ในขณะนั้น เซียนจินปลอมไม่อาจขยับได้ และรู้ว่าเขาตกหลุมพรางแล้ว พยายามเงยหน้าขึ้นมองหลี่ฉางโซ่วอย่างสุดกำลัง!

หลี่ฉางโซ่วยืนอยู่เงียบๆ ในน้ำทะเลที่อยู่เหนือเขาร้อยจั้ง เขากำลังโยนฐานรากค่ายกลขนาดเล็กที่มีขนาดพอๆ กับกระดานหมากรุกลงไป

ค่ายกลกับดัก ค่ายกลสังหาร ค่ายกลกับดัก ค่ายกลสังหาร ค่ายกลสังหาร…

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วได้โยนค่ายกลขนาดเล็กหลายสิบค่ายกลออกไป

แม้จะได้ผลไม่เลว แต่เขาก็เจ็บปวดใจ…

บัดนั้น ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงสว่างวาบไม่หยุด แม้ห่วงโซ่จักรวาลจะถูกเซียนจินปลอมทำลายก่อน แต่จากนั้น มันก็จะสร้างตัวขึ้นใหม่แล้วก็กลับมาพันธนาการร่างของเซียนจินปลอมอีกครั้ง เป็นเช่นนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อย ไม่ว่าเขาจะทำลายมันไปอีกกี่ครั้ง

เซียนจินปลอมที่อยู่ด้านล่างทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นมองอย่างเกรี้ยวกราดเท่านั้น แต่ไม่อาจใช้ฐานพลังปราณของเขาได้เลย

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสี่ตัวที่กักเซียนจินปลอมเอาไว้นั้น โคจรพลังเซียน แล้วอ้าปาก พ่นเพลิงสมาธิแท้ออกมาแผดเผาเซียนจินปลอมผู้นั้นในทันที แล้วเซียนจินปลอมที่ถูกเปลวเพลิงโหมกระหน่ำท่วมร่างและพยายามดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง ก็ถูกเผาไหม้เสียจนไม่อาจจำรูปร่างได้…

ในขณะนี้ ด้านบนก็ยังกระหน่ำโจมตีไม่หยุด ด้านล่างก็มีเพลิงสมาธิแท้ลุกโชนโหมไหม้รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากนั้นไม่นาน เซียนจินปลอมก็สิ้นลม ร่างของเขาแน่นิ่งราวกับท่อนไม้ไหม้เกรียม ในขณะที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสี่ตัวที่ขังเขาเอาไว้ก็ถูกเพลิงสมาธิแท้ที่พวกมันปล่อยออกมาเอง แผดเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปเช่นกัน

แต่พลังเซียนของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตทั้งสี่นี้ไม่สูญเปล่าไปแม้แต่น้อย เพราะทั้งหมดได้กลายเป็นเพลิงสมาธิแท้…

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกวาดแขนเสื้อพลางส่ายศีรษะเบาๆ และกำลังจะจากไป

ทว่ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นฉับพลัน!

จู่ๆ ท่อนไม้ที่แห้งตายอยู่ที่ด้านล่างก็แตกออกอย่างกะทันหัน และมีแสงสีเลือดพุ่งออกมา แต่ความจริงแล้วมันคือ มีดบินที่ทำจากเลือด มันปรากฏขึ้นใต้เท้าของ ‘หลี่ฉางโซ่ว’ ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าและตัดร่างของ ‘หลี่ฉางโซ่ว’ ขาดออกเป็นสองท่อนทันที!

ท่อนไม้ที่แห้งตายนั้น สั่นเล็กน้อยและค่อยๆ ลุกขึ้น ลมปราณของมันค่อยๆ ฟื้นขึ้น และบาดแผลทั่วทั้งร่างของมันก็หายเป็นปกติอย่างรวดเร็วในขณะที่มีดอกบัวโลหิตบนหน้าอกเปล่งประกายวาบวับ…

“ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า!”

เซียนจินปลอมแห่งเผ่าทะเลเงยหน้าหัวเราะเยาะเย้ยและเบิกบานใจอย่างยิ่ง เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้เป็นผู้คว้าชัย…

แต่เขาหัวเราะออกมาได้เพียงครึ่งเดียวก็หยุดลงกะทันหัน

เมื่อในน้ำทะเลเบื้องบน บัดนี้ ร่างที่ถูกผ่าครึ่งกลับกลายเป็นกระดาษสองแผ่นแล้วลอยไปในแสงเซียนอย่างแผ่วเบา

พั่บ…

ทันใดนั้น ก็มีเสียงขลุ่ยหยกที่เรียบง่ายดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของปรมาจารย์เผ่าทะเล แล้วเจาะทะลุผ่านดอกบัวโลหิตไปอย่างง่ายดาย จากนั้น ร่างหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น และมีแสงสีทองเปล่งประกายอยู่ในแขนเสื้อของเขา มันคือ ยันต์พลังเซียนสองแผ่นที่ครองพลังเซียนเทียนขั้นสูงสุด ซึ่งถูกเปิดใช้งาน และได้ระเบิดพลังออกมาพร้อมกับขลุ่ยหยก!

ด้วยแรงระเบิดนั้น ทำให้ดอกบัวโลหิตระเบิดแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่างของเซียนจินปลอมเผ่าทะเลถูกทำลายจนกลายเป็นซากที่จำไม่ได้ แล้วคลื่นหมอกพิษก็เข้าครอบคลุมปราณวิญญาณของเขาที่เคยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงมาก่อนหน้านี้ … แต่เพราะคุณภาพพิษของหลี่ฉางโซ่วไม่ดีนัก เขาจึงทำได้เพียงชดเชยด้วยการเพิ่มปริมาณเข้าไปแทน

หลี่ฉางโซ่วปล่อยขลุ่ยหยก เพราะใช้ไม่ได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจจะละทิ้งสมบัติวิญญาณชิ้นนี้ โดยใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ยันต์พลังเซียนยังสามารถใช้ได้ต่อไปอีกสักพัก และจากนั้น พลังเซียนในร่างของเขาก็กลายเป็นเพลิงสมาธิแท้

แล้วหลี่ฉางโซ่วก็ปล่อยเปลวเพลิงนั้นเข้าแผดเผาและกลืนกินปราณวิญญาณและร่างของเซียนจินปลอมผู้นั้นทันที…

เซียนจินปลอมแห่งเผ่าทะเลยังถือว่าเป็นเซียนจินได้เช่นกัน หลังจากที่กลายเป็นเถ้าถ่านแล้ว เขาอาจจะไม่แข็งแกร่งมากไปกว่าเซียนเทียน หรือเซียนเสิ่น

ในขณะนี้ มีสัมผัสเซียนรับรู้เห็นภาพเหตุการณ์นั้นจากทั่วทุกแห่งหนในเมืองใหญ่ของเผ่าทะเลแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์เผ่าทะเล และแม้แต่ปรมาจารย์เผ่ามังกร ซึ่งอยู่ในขอบเขตเซียนจินก็ยังรู้สึกเย็นยะเยือกอยู่ในใจ…

แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นมากมาย

“เป็นแค่พวกกบฏ ยังกล้ามาอวดดีกำแหงต่อหน้าข้าที่เป็นถึงปรมาจารย์เต๋าน้อยเสวียนตูอีกหรือ!?! วันนี้ เมื่อมีข้าอยู่ที่นี่ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจทำร้ายองค์ชายอ๋าวอี่ได้ ”

จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ยังแสร้งแค่นเสียงกล่าวต่อไปว่า “ผู้พิทักษ์ทั้งสี่อยู่ที่ใดกัน? จงมาจัดการกับเหล่าวิญญาณที่เหลืออยู่เดี๋ยวนี้”

ทันทีที่กล่าวจบ ร่างของหลี่ฉางโซ่วก็กลายเป็นกระแสน้ำ เขาใช้หลีกลี้วารีเร้นกายเพื่อหนีหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งสี่ตัวที่เพิ่งหายไปก็กลับมาใหม่ ในครั้งนี้ ทั้งสี่ก็ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม โดยตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนเทียนลงมือจัดการ ‘ด้วยตนเอง’ เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อเซียนจิน

สตรีชรากำลังถือปลาไม้ และชายชรากำลังถือลูกตุ้ม สตรีสาวกำลังถือระฆังสะกดวิญญาณ และชายหนุ่มรูปงามเผยรอยแย้มยิ้มแล้วหยิบแตรเวทออกมา…

ท่ามกลางเสียงท่วงทำนองเพลงไพเราะและเศร้าโศก ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็พุ่งไปที่ลานซึ่งมีปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อยู่

ยากจะฆ่าเซียนจินได้จริงๆ …

ฐานรากค่ายกลขนาดเล็กห้าสิบหกฐาน ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘ขั้นสูงสุด’ สี่ตัว และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘เทพ’ หนึ่งตัว ยันต์เซียนหย่งสองแผ่น พู่กันสมบัติอมตะระดับสูงสามด้าม โอสถพิษวิญญาณคุณภาพสูงสุดสิบสองเม็ดที่เขาสามารถหลอมขึ้นมาได้ในยามนี้…

เอ่อ ดูเหมือนจะมากกว่านั้นนะ

เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีปัญหาในกระบวนการหลอมโอสถหรือไม่ แต่เม็ดโอสถเพลิงหัวใจระดับโอสถวิญญาณสองเม็ดของเขาได้… แตกสลายไปอีกครั้งแล้ว…

……………………………………………………….