ฉินฟางตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว เธอรู้สึกกลัวจนไม่กล้าที่จะยั่วโมโหหลินอวี่หยางอีก
“ออกไปให้พ้นๆจากฉัน” หลินอวี่หยางตะโกนเสียงดัง
ฉินฟางไม่กล้าพูดอะไร ทำเพียงแค่ถอยหลัง คนอื่นๆก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลินอวี่หยางเช่นกัน
“ฮวนฮวน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เมื่อเห็นดวงตาสีแดงก่ำของเฉินฮวนฮวน หลินอวี่หยางก็ถอนหายใจแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า: “หยางหยาง พวกเราไปกันเถอะ”
“ฉันจะพาเธอไปที่ที่หนึ่ง” ในขณะที่พูดหลินอวี่หยางก็จับมือเฉินฮวนฮวนแล้วดึงเธอออกไปจากห้องน้ำหญิง
เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าหลินอวี่หยางต้องการพาเธอไปที่ไหน จนกระทั่งหลินอวี่หยางลากเธอมาที่หน้าประตูห้องรับรอง เธอขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
เธอหันกลับมาแล้วถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า: “หยางหยาง เธอพาฉันมาที่นี่เพื่ออะไร?”
“ฮวนฮวน เธอไม่จำเป็นต้องปิดบังฉันแล้ว ฉันรู้หมดแล้ว” น้ำเสียงของหลินอวี่หยางหนักแน่น เธอกล่าวต่อว่า: “เธอคุยกับเฟิงหานชวนก่อน เธอปิดบังฉันและฉันจะชำระบัญชีกับเธอในภายหลัง!”
แม้ว่าน้ำเสียงของหลินอวี่หยางจะหนักแน่น แต่ภายในน้ำเสียงก็ยังคงมีความจับผิด ทั้งยังมีความเยาะเย้ยอยู่เล็กน้อย
หลินอวี่หยางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หลังจากนั้นก็ตบไหล่ของเฉินฮวนฮวนแล้วรีบวิ่งออกไป
เฉินฮวนฮวนตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอมองดูหลินอวี่หยางที่หายออกไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นก็เหลือบมองประตูห้องรับรองที่ปิดอยู่ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยมากกว่าเดิม
เป็นไปได้ไหมที่เฟิงหานชวนจะป่าวประกาศเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาไปแล้ว? เธอไม่มีเวลาที่จะบอกหลินอวี่หยางด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นแล้วหลินอวี่หยางจะรู้ได้อย่างไร?
เมื่อมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ เฉินฮวนฮวนก็เม้มริมฝีปากแน่น พอนึกถึงเฟิงหานชวนเธอก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างไร
พวกเขาได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูดไปแล้ว และมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงมันอีกในตอนนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฉินฮวนฮวนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอหันหลังเตรียมที่จะกลับไป แต่เสียงกริ่งของคลาสเรียนสุดท้ายก็ดังขึ้นพอดี
ในขณะเดียวกันเสียงประตูก็ดังขึ้น “กริ๊ก”
เฉินฮวนฮวนหันศีรษะกลับมาโดยไม่รู้ตัวและพบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทของร่างสูงพอดี สีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าตอนที่แยกกันคราวนั้นเยอะเลย ดูไม่มีความเกลียดชังหลงเหลือแล้ว
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” เธอเม้มริมฝีปากและถามออกไป
อีกทางหนึ่งก็คือเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และถ้าเธอหันหน้าหนี ก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองหาทางออกไม่ได้
เธอคิดว่าในเมื่อก็จะหย่ากันอยู่แล้ว เป็นการดีกว่าถ้าจะหย่ากันด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน
“รอคุณไง” ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับยืดแขนออกมาเพื่อโอบเอวของเธอ
ยังไม่ทันที่เฉินฮวนฮวนจะตอบสนอง เธอก็ถูกดึงเข้าไปในห้องรับรอง จากนั้นประตูก็ถูกปิดลงอย่างรวดเร็วและแผ่นหลังของเธอแนบติดกับประตูทันที
ทันใดนั้นประตูห้องทำงานของหนีซวงก็ถูกเปิดออกพร้อมกับหลิวเฟยเฟยที่เดินออกมาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
เนื่องจากห้องพักอยู่ชั้นเดียวกันกับห้องทำงานของหนีซวง มันเป็นเพียงหนึ่งในห้องสุดท้ายและหลิวเฟยเฟยก็บังเอิญได้เห็นฉากที่เฉินฮวนฮวนถูกผู้ชายดึงเข้าไปในห้องรับรองพอดี
อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ทันได้เห็นชัดๆเลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่ประตูห้องรับรองก็ถูกปิดไปเสียก่อน
…….
ภายในห้องรับรองนั้นมืดสลัว
และตอนนี้ก็ค่ำแล้ว เฟิงหานชวนไม่ได้เปิดไฟ และมีเพียงแค่แสงไฟจากถนนเท่านั้นที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
ทั้งสองที่เผชิญหน้ากันเห็นเพียงแค่ใบหน้าของกันและกัน แต่เพราะมันมืดเกินไปเลยทำให้มองเห็นไม่ชัด
เฉินฮวนฮวนรู้สึกอึดอัดที่เธอโดนกักตัวด้วยผู้ชายตรงหน้า เธอไม่เข้าใจว่าเธอตกลงที่จะหย่ากันแล้ว ทำไมเฟิงหานชวนถึงยังทำกับเธอแบบนี้
“คุณ…คุณปล่อยฉันก่อน” เธอเม้มริมฝีปากและเอ่ยออกไป
“ไม่ปล่อย” เฟิงหานชวนก้มหน้าลงไปใกล้กับหูของเธอ ลมหายใจร้อนๆเป่าไปที่หูของเธอ
เฉินฮวนฮวนรู้สึกจั๊กจี้และอึดอัดตรงลำคอของเธอ เธอถามกลับไปว่า: “เฟิงหานชวน คุณ…คุณไม่ได้พูดเหรอว่าคุณจะไม่เหยียบเรือสองลำอีก? แล้วตอนนี้คุณกำลังจะทำอะไร?”
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเฟิงหานชวนถึงคลุมเครือกับเธอ เธอไม่เข้าใจว่าเฟิงหานชวนคิดอะไร
เป็นไปได้ไหมที่เขาต้องการคบกับหลีซืออวิ๋นและก็ไม่ต้องการที่จะปล่อยเธอไปด้วย?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เฟิงหานชวนก็คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัวสุดๆ!
“ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร ผมกำลังคุยกับภรรยาของผมอยู่” เฟิงหานชวนไม่ได้ขยับออกห่างจากเฉินฮวนฮวน แถมยังกัดเข้าที่ติ่งหูของเธออย่างซุกซนอีกด้วย
เฉินฮวนฮวนตัวสั่นราวกับกระแสไฟฟ้ากระจายไหลเข้ามาจากหัวจรดเท้า
“เฟิงหานชวน คุณ!” เขาทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกหงุดหงิด เธออดไม่ได้ที่จะด่าออกไป: “คุณมันไร้ยางอาย”
“ผมไร้ยางอายเหรอ?” เฟิงหานชวนรู้สึกขบขัน ฝ่ามือของเขาสอดเช้าไปในชุดยูนิฟอร์มของหญิงสาว
สัมผัสที่เย็นเฉียบทำให้เฉินฮวนฮวนสะดุ้งโหยง เธอจ้องเขม็งและพยายามผลักเฟิงหานชวนออกไป แต่เธอก็ไม่สามารถผลักเขาออกไปได้
“เฟิงหานชวน คุณ….คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ……” เฉินฮวนฮวนร้องไห้ จากเดิมที่ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาก็เริ่มรื้นขึ้นเต็มดวงตา
เพราะว่าแสงไฟมันสลัวเลยทำให้เฟิงหานชวนมองเห็นดวงตาของเฉินฮวนฮวนไม่ชัด แต่ว่าเขาได้ยินเสียงสะอื้นของเธอ
เขาไม่กล้าที่จะแกล้งเล่นต่ออีก จากนั้นเขาจึงรีบปล่อยเฉินฮวนฮวนและเอื้อมมือออกไปเปิดไฟทันที
ห้องสว่างขึ้นมาทันใด
แสงส่องวาบเข้าที่ตาของเฉินฮวนฮวน เธอยกมือขึ้นเพื่อปิดตาของเธอโดยไม่รู้ตัว
การกระทำนี้ยังเป็นการทำให้ตัวเธอไม่ต้องเห็นเฟิงหานชวนอีกด้วย เพราะเธอไม่อยากที่จะเห็นผู้ชายที่ไร้ยางอายคนนี้
“ฮวนฮวน เมื่อกี้ผมแค่แกล้งคุณเล่น” เฟิงหานชวนพูดอย่างกังวล
เขาเห็นเฉินฮวนฮวนที่ยกมือขึ้นมาปิดดวงตาของเธอ ร่างกายของเขากระตุก แน่นอนว่าเธอยังคงร้องไห้อยู่และมันทำให้เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก
เขาไม่ควรบังคับเธอ
“บ้า! คุณมันบ้า!” เฉินฮวนฮวนปล่อยมือที่ปิดตาออกและทุบไปที่หน้าอกของร่างสูงสองครั้งและจ้องไปที่ชายตรงหน้าของเธอด้วยความโกรธพร้อมกับดวงตาที่บวมและแดง
“ฮวนฮวน คุณสงบสติอารมณ์และฟังผมอธิบายก่อน” เฟิงหานชวนพูดอย่างจริงจัง
แต่เฉินฮวนฮวนกำลังจะบ้าตายด้วยความโกรธ เธอไม่ต้องการฟังเฟิงหานชวนพูดอีกต่อไป เธอหันหลังกลับด้วยความโกรธและเฟิงหานชวนก็ไม่สามารถรั้งเธอไว้ได้ ทำได้เพียงแต่กอดเธอไว้
“ปล่อยฉัน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้…” เฉินฮวนฮวนสะบัดขาของเธออย่างดิ้นรน เธอไม่กล้าที่ตะโกนเสียงดังเกินไปเพราะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน
เธอถูกเฟิงหานชวนอุ้มและปล่อยลงที่โซฟา นั่นทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้งเพราะเธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนต้องการที่จะทำอะไรกับเธอบางอย่างในห้องรับรอง เขาถึงได้อุ้มเธอมาวางไว้บนโซฟา
“เฟิงหานชวน แต่ก่อนฉันคิดว่าคุณจะเป็นคนดี แต่ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้…..” เธอบ่นและร้องไห้ไปด้วย
เฟิงหานชวนนั่งลงตรงหน้าของเธอ เขาจับมือเธอแน่นแล้วพูดว่า: “คุณใจเย็นๆก่อน ผมไม่ได้จะทำอะไรคุณ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนร้องไห้สะอึกสะอื้นและน้ำตาไหลอาบเต็มสองแก้ม เฟิงหานชวนก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ เขายื่นมือออกไปเพื่อเช็ดน้ำตาให้กับร่างบาง
แต่เมื่อเฉินฮวนฮวนเห็นมือของเขาที่ยื่นออกมา เธอก็รีบหันหน้าหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสของร่างสูงทันที
มือของเฟิงหานชวนลอยเคว้งอยู่ในอากาศ เขาไม่อยากเห็นสถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดออกไปว่า: “ฮวนฮวน ผมต้องการอธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดให้ชัดเจนกับคุณ”
ฮวนฮวนไม่ตอบและยังคงหันหน้าหนี
“ดูสิ ภาพนี้ใช่ไหม?” เฟิงหานชวนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นและหน้าจอหันไปทางเฉินฮวนหวน
เฉินฮวนฮวนเหลือบมองที่หน้าจอโทรศัพท์และเห็นภาพของเฟิงหานชวนกับหลีซืออวิ๋น แถมโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเฟิงหานชวนก็ยังเป็นของหลินอวี่หยางอีกด้วย
เพราะเคสโทรศัพท์ของหลินอวี่หยางเป็นรูปเป็ดน้อยสีเหลืองที่ดูตลก เธอรู้ดี
“ทำไมคุณถึงมีโทรศัพท์ของหยางหยาง?” เฉินฮวนฮวนถามด้วยความประหลาดใจ
อย่างไรก็ตามทันทีที่เธอถามเสร็จ เธอนึกถึงเรื่องที่หลินอวี่หยางลากเธอเข้ามาที่ห้องรับรอง แถมหลินอวี่หยางก็รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเฟิงหานชวนอีก
ดังนั้นจึงต้องเป็นเฟิงหานชวนที่บอกหลินอวี่หยางเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแล้วขอโทรศัพท์มือถือจากหลินอวี่หยางมาแน่ๆ
“เฟิงหานชวน ฉันเห็นภาพนี้แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเอามาให้ฉันดูอีก” เฉินฮวนฮวนหันหน้าหนีอีกครั้ง เธอไม่ต้องการเห็นเฟิงหานชวนหรือดูภาพนี้อีก
เมื่อมองไปยังท่าทางของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา
เขายกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่มีอะไรและถามว่า: “ฮวนฮวน คุณหึงเหรอ?”
“หึง?” เฉินฮวนฮวนหันหน้ามองไปที่เฟิงหานชวนอีกครั้ง และยิ้มเยาะ: “เฟิงหานชวน ในที่สุดตอนนี้ฉันก็เข้าใจสิ่งหนึ่งแล้ว จริงๆแล้วถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวยังไงก็ไม่มีสิทธิได้เข้าไปในบ้าน”
“อะไรนะ?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ทั้งนายท่านเฟิงและเฟิงเฉินเหยี่ยน คนหนึ่งคือคนที่หลายใจและเลือกปฏิบัติและฉันเห็นมันด้วยตาของฉันเอง และอีกคนก็มีเรื่องอื้อฉาวและมีข่าวในเชิงลบ ซึ่งฉันคิดว่าคุณแตกต่าง คุณสร้างรูปลักษณ์ที่ทุ่มเทแบบนั้นมาก่อนและฉันก็ยังคงเชื่อ! ”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฉินฮวนฮวนก็หัวเราะกับตัวเอง
“…” เฟิงหานชวนไม่ได้คาดหวังว่าในขณะที่เขาไล่ตามภรรยาของเขา แต่จะกลับถูกพ่อและหลานชายของเขาทำให้เสียเวลาแบบนี้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างออก ไม่เพียงแต่เขาจะไม่รู้สึกโกรธ เขายังถามกลับไปว่า: “ฮวนฮวน ตามที่คุณพูดคุณคือคนของตระกูลเฉิน หรือว่าคุณไร้ยางอายเหมือนกับเฉินเจี้ยนหมินและเฉินซินโหรว?”
“เฟิงหานชวน!” เฉินฮวนฮวนสำลัก เธอไม่คิดว่าเฟิงหานชวนจะโต้กลับเธอแบบนี้
“คิดให้รอบคอบ คุณนั่นแหละที่เป็นคนที่ไร้ยางอาย” เฟิงหานชวนพูดอย่างหงุดหงิด
“ฉันไร้ยางอายเหรอ? ฉันจะไร้ยางอายแบบคุณได้อย่างไร” เฉินฮวนฮวนเพียงรู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกายของเธอกำลังจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ
“คุณสัญญาว่าจะเป็นภรรยาของผม และคุณเริ่มที่จะนอนกับผมก่อน ทำไมตอนนี้จะหย่าแล้วถึงไม่อยากที่จะยอมรับมันล่ะ?” เฟิงหานชวนเลิกคิ้วและดูเหมือนจะเผยให้เห็นถึงความไม่ละอายใจ
เฉินฮวนฮวนพูดไม่ออกในทันที และเธอรู้สึกว่าเธอกับเฟิงหานชวนไม่ได้ไปในทางเดียวกันเลย
มันเป็นเรื่องของเขาไม่ว่าเธอจะนอนกับเขาหรือไม่? เห็นได้ชัดว่ามันพูดถึงการเหยียบเรือสองลำของเขา!
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากยอมรับ แต่คุณ…” เฉินฮวนฮวนถูกผู้ชายคนนี้ขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดจบ
“ในเมื่อคุณต้องการยอมรับ คุณก็จะไม่ได้รับอนุญาตได้ขอหย่าอีกในอนาคต”