ตอนที่ 195 ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในทะเลลึก (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 195 ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในทะเลลึก (1)
“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก! ศิษย์พี่เจ้าสำนัก!”

ในวิหารหลักของเมืองอันสุ่ย ในขณะนี้ รูปปั้นเทพเจ้าทั้งสองได้ข้ามสะพานไปด้วยเจตจำนงวิญญาณและเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันที่พร่ามัวอีกครั้ง

เมื่ออ๋าวอี่เห็นหลี่ฉางโซ่วยืนอยู่ใต้รูปปั้น เขาก็รู้สึกอับจนหนทางทันที

เสียงเรียกนั้นแฝงความวิตกกังวล หดหู่ และอับจนหนทางคละเคล้าด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ความสุข และความละอายอยู่บ้าง

หลี่ฉางโซ่วยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้มขณะวิเคราะห์สถานการณ์และสิ่งเหล่านี้อย่างรอบคอบ พอเข้าใจได้คร่าวๆ ว่าเกิดอันใดขึ้น

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วและอาจารย์ลุงจิ่วอู่ได้กลับมายังสถานที่จัดงานการประชุมแหล่งกำเนิดสามสำนักบำเพ็ญเต๋าราวกับเมื่อก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงมีกลิ่นอายธรรมดาเฉกเช่นที่รองหัวหน้าศิษย์ของสำนักตู้เซียนควรมี

หลี่ฉางโซ่วคาดว่า อ๋าวอี่จะใช้เจตจำนงวิญญาณเพื่อสื่อสารกับเขา

ทว่าสิ่งที่ หลี่ฉางโซ่วไม่คาดคิดก็คือ สิ่งแรกที่อ๋าวอี่กล่าวถึง หาใช่เรื่องที่เขาถูกโจมตีในทะเลลึกไม่ แต่…

“ข้าควรทำอย่างไรดี ศิษย์พี่เจ้าสำนัก?”

“เกิดอันใดขึ้น?”

“ข้า! อ่า ข้า! ข้าละอายใจจริงๆ ที่จะบอกว่า… มัน…”

ใบหน้าอ่อนเยาว์ของหนุ่มน้อยอ๋าวอี่เต็มไปด้วยความเขินอายซึ่งยังแฝงไว้ด้วยรสชาติที่อบอวลไม่จางหาย และในรสชาตินั้น ยังมีรอยเขินอายอยู่หลายส่วนยามรำลึกโหยหาหวนคะนึง…

หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและกล่าวว่า “การกระทำของเจ้าไม่เป็นไปตามความคิด จนทำในสิ่งที่ไม่ควรทางกายบางอย่างใช่หรือไม่?”

“ใช่ขอรับ!”

อ๋าวอี่ปิดปาก เสียงขึ้นจมูกฟึดฟัด พร้อมด้วยสีหน้าที่เผยความคับข้องใจ

หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก

เป็นไปได้หรือไม่ว่าปรมาจารย์เผ่ามังกรที่มาถึงภายหลังไม่ได้สลายพลังหยางให้อ๋าวอี่ จึงทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดนี้?

*ฟ่อ*

บางทีปรมาจารย์เผ่ามังกรเหล่านั้น อาจทำเช่นนั้นจริงๆ!

ในสายตาของเผ่ามังกร บางทีเผ่าเงือกก็เป็นแค่ลูกน้องของพวกเขา และองค์หญิงเงือกน้อยก็ดูคู่ควรกับองค์ชายรองของพวกเขา แม้ร่างมนุษย์ขององค์ชายรองจะยังคงรูปลักษณ์ของหนุ่มน้อยเยาว์วัย แต่ที่จริงแล้วเขาก็มีอายุมากพอ

เมื่อนับเวลา…

ว้าว มังกรน้อย แม้เจ้าจะดูเหมือนเด็กหนุ่ม แต่ก็ทรงพลังไม่เลวเลย

ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วยังเห็นอ๋าวอี่กำลังปกป้องเจ้าหญิงเงือกน้อยอยู่

เมื่อปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูออกไปกับเขา ทั้งสองคนก็เริ่มๆ แค่กๆ มีท่าทางจะมีอะไรกันแล้วซึ่งเป็นผลมาจากโอสถพิษของเขา…

บางทีโอสถเพลิงหัวใจของข้าน่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น…

อ๋าวอี่รีบถามด้วยท่าทางหงุดหงิด “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ตอนนี้ ข้าควรทำอย่างไรดีขอรับ?”

ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วมองไปที่อ๋าวอี่ และทันใดนั้นก็คิดถึงกลยุทธ์ที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน จริง ๆ แล้วเขามีความคิดที่คล้ายคลึงกันกับยามที่เขาเรียนหนังสือในชีวิตก่อนหน้านี้และได้ยินมาว่าเด็กชายที่นอนกับเขาได้ไปสละความโสดบริสุทธิ์กับผู้ชายคนหนึ่งและไม่ได้กลับเข้ามานอนบ้านตลอดทั้งคืน

แต่เขาไม่อาจยอมรับความผิดพลาดและเอ่ยเรื่องนี้ออกมาได้ตรงๆ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาไม่รู้จบ หลี่ฉางโซ่วจึงทำได้เพียงไถ่ถามอย่างอดทน “พี่อี่ เล่ารายละเอียดมาสักหน่อยเถิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”

อ๋าวอี่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยในทันที แต่ด้วยความไว้วางใจในตัวพี่ชาย หลี่ฉางโซ่วที่อยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้ และยังมีความกังวลในเรื่องที่เขาเติบโตขึ้นมาในชั่วข้ามคืน เขาจึงเล่ารายละเอียดออกมาว่า เขาเพิ่งพานพบประสบเหตุเช่นไรมาบ้าง

เป็นเช่นนั้น เช่นนั้น และอื่นๆ ไปเรื่อยๆ….

หลี่ฉางโซ่วได้ตัดสินใจในใจไปแล้ว ทว่าทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จึงถามว่า “เจ้าไปปราบปรามพวกกบฏและเอาใจพวกเงือก แต่เจ้าตกหลุมพรางเช่นนั้นหรือ? ในยามคับขันนั้น ปรมาจารย์ที่เรียกว่า ปรมาจารย์เต๋าน้อยเสวียนตูและผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของเขาก็ปรากฏกายขึ้น แล้วเข้าช่วยเหลือเจ้าได้ทันเวลาหรือ? แต่เมื่อทุกอย่างสงบลง จู่ๆ เจ้าก็เริ่มสับสน สูญสิ้นสติและเกิดอาการเสน่หา แล้วองค์หญิงเงือกน้อยที่เจ้ากำลังปกป้องอยู่ก็เผชิญเรื่องเช่นเดียวกับเจ้า จากนั้น พวกเจ้าทั้งสองคนก็… เอ่อ?”

“ใช่! ใช่!” “นี่…” หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย “เรื่องนี้ไม่น่าจะเลวร้ายเท่าใดนัก สำหรับเจ้า ผู้อยู่ในฐานะองค์ชายแห่งวังมังกร เจ้ามีคุณสมบัติมากเกินพอสำหรับองค์หญิงเผ่าเงือก ตอนนี้กำลังเกิดวิกฤตขึ้นในท้องทะเล หากเจ้าอาศัยเรื่องนี้เพื่อทำให้เผ่าเงือกสงบ เจ้าก็อาจช่วยคลายความกังวลให้พระบิดาของเจ้าได้”

อ๋าวอี่กะพริบตาและกล่าวอายๆ ว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนักกล่าวได้ถูกต้องแล้ว พอตื่นขึ้นมา ใจข้าก็ร้อนรนนัก ตอนนี้ ร่างของข้าก็ยังคงหลับอยู่ ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจมาหาท่านก่อนขอรับ”

หลี่ฉางโซ่วเงียบงันทันที

ฝ่าบาท บัดนี้เจ้ากำลังนอนกอดสาวงามในอ้อมแขน ยังเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงด้วยซ้ำ แต่กลับรีบรุดมาที่นี่เพื่ออวดผู้ครองหยางบริสุทธิ์วัยสองร้อยปีเช่นข้าอย่างนั้นหรือ?

นั่นเป็นตลกร้ายที่เขาไม่อาจเอ่ยถึง

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “อย่าไปพูดถึงว่ามันเกิดได้อย่างไรเลย ไม่ว่าอย่างไรก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ในเมื่อมาถึงขึ้นนี้แล้ว เจ้าคิดจะทำอย่างไรหรือ พี่อี่?”

อ๋าวอี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ

“ข้าจะไม่ทำให้นางผิดหวัง ก่อนหน้านี้ ศิษย์พี่เจ้าสำนักแนะนำให้ข้าลืมศิษย์หลานหานจื่อ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับนางอีกแล้วขอรับ ในเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแล้ว ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้ให้พระบิดาจัดการให้ และแต่งงานกับองค์หญิงทันที ข้าจะพานางกลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพาอย่างยิ่งใหญ่! เฮ้อ ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าสำนักที่ช่วยแก้ปัญหาให้ข้าในทันทีขอรับ!”

‘หน็อย เห็นได้ชัดว่า ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย! เจ้ามันเป็นแค่มังกรน้อยเจ้าเล่ห์! ’

“เช่นนั้น ให้พี่ชายเช่นข้าได้แสดงความยินดีกับเจ้าก่อน” หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาออกไป “เจ้าถูกโจมตีคราวนี้ น่าจะมีคนที่อยู่เบื้องหลังคิดวางแผนทำร้ายเจ้าอยู่”

“ต้องเป็นคนจากทางสำนักบำเพ็ญประจิมคนนั้น คิดทำร้ายข้าแน่!”

อ๋าวอี่ตอบอย่างสงบก่อนจะกล่าวต่ออีกครั้งว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ยังมีบางอย่างที่แปลกมาก มีปรมาจารย์บางคนที่ช่วยข้าหลบหนีในวันนี้ อ้างว่าพวกเขาอยู่ภายใต้บัญชาของจักรพรรดิองค์หนึ่ง ทำให้ข้าสับสนจริงๆ อาจเป็นจักรพรรดิมนุษย์ในยามนี้หรือไม่? แต่ตอนนี้ ในดินแดนเทวะทักษิณ จะมีผู้ปกครองที่เป็นเผ่ามนุษย์ได้อย่างไรกัน? หลังจากจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ต้าอวี่แล้ว ก็มีผู้ปกครองเป็นเผ่ามนุษย์มากกว่าเก้าคน หลังจากนั้นเผ่ามนุษย์ก็ขัดแย้งและแยกกันในระหว่างเผ่าออกเป็นแคว้นเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง…หลังจากคิดๆ ดูแล้ว… ข้าก็สงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จักรพรรดิองค์นี้จะเป็นจักรพรรดิหยก องค์เง็กเซียนแห่งศาลสวรรค์?

หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและกล่าวว่า “ในเมื่อเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ข้าก็จะไม่ปิดบังเจ้าอีกต่อไป “ข้าได้กล่าวถึงเรื่องของเผ่ามังกรที่ถูกคนวางคิดร้ายต่อจ้าวแห่งสามอาณาจักรซึ่งได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์ โดยผ่านท่านผู้สูงศักดิ์ไปแล้ว ข้าอยากขอให้จักรพรรดิองค์นี้ออกพระราชโองการเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มังกร แม้ศาลสวรรค์จะเพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ แต่พวกเขาก็มีความชอบธรรมในการทำหน้าที่ดูแลความยุติธรรมในสามอาณาจักร นอกจากนี้องค์เง็กเซียนยังมีรากฐานหยั่งลึกและมั่นคงยิ่ง เขาได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งมากและมีตัวตนอยู่เบื้องหลังซึ่งทำให้สำนักบำเพ็ญประจิมกลัวเขา ดังนั้น ด้วยโองการของเขา ย่อมสามารถบรรเทาแรงกดดันให้เผ่าพันธุ์มังกรจนรอดพ้นภยันตรายได้อย่างแน่นอน เสียดายก็เพียงแต่ที่ตอนนี้ องค์เง็กเซียนยังทรงมีขนไม่เต็มปีก และไม่อยากจะขัดแย้งกับจอมปราชญ์เทพ… ข้าละอายใจนักที่ยังไม่อาจขอพระราชโองการได้… แต่ในเมื่อวันนี้มีคนไปช่วยเจ้าแล้ว พี่อี่ ไม่แน่ว่า บางทีอาจจะเป็นฝ่าบาท องค์เง็กเซียนที่ยังทรงลังเลพระทัยอยู่” ดวงตาของอ๋าวอี่สว่างวาบขึ้นในตอนแรก จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและครุ่นคิด เมื่อได้ยินว่าหลี่ฉางโซ่วไม่ได้ร้องขอพระราชโองการ เขาก็อดจะรู้สึกผิดหวังไม่ได้…

หลี่ฉางโซ่วสังเกตเห็นสีหน้าของ อ๋าวอี่ที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย และในท้ายที่สุดใบหน้าของอ๋าวอี่ก็เต็มไปด้วยความกตัญญูซาบซึ้งใจ และรู้สึกขัดเขินขึ้นมา

แต่หลี่ฉางโซ่วก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำเช่นนี้

เขาต้องพิจารณารักษาอารมณ์ความรู้สึกของของเผ่ามังกรและยังต้องให้ความเคารพต่อพระเกียรติแห่งองค์เง็กเซียนอีกด้วย

แม้องค์เง็กเซียนและฝ่ายของเขาประสงค์จะให้เผ่ามังกรเข้าสู่ศาลสวรรค์ ทว่าเวลานี้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การให้เผ่าพันธุ์มังกรเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยปากเองก่อน

กระบวนการคิดของเขาต้องกระจ่างชัดเจน

หลี่ฉางโซ่วใช้เวลาส่วนมากเพื่ออุทิศตนและทุ่มเทความพยายามอยู่ในห้องลับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บัดนี้ นับว่าเขาทำงานหนักอย่างไม่เสียเปล่าแล้ว เพราะ ‘แผนผังต้นไม้’ ซับซ้อนที่เขาวาดขึ้นนั้นก็มีเรื่องสถานการณ์ที่อ๋างอี่ถูกโจมตีรวมอยู่ด้วยเช่นกัน

อ๋าวอี่ทำการโค้งคารวะเต๋าให้อย่างสุดซาบซึ้งและกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก ข้ารู้ว่าท่านห่วงใยเผ่าพันธุ์มังกร แต่ข้าก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่านจะสามารถทำเพื่อเผ่าพันธุ์มังกรได้เช่นนี้! ศิษย์พี่เจ้าสำนัก! โปรดรับการโค้งคารวะนี้จากข้าด้วยเถิดขอรับ!”

ทุกครั้งที่เขาได้ยินอ๋าวอี่เรียกเขาว่า ‘ศิษย์พี่เจ้าสำนัก’ อย่างตื่นเต้น หลี่ฉางโซ่วก็อดจะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสว่อน่า[1]ดังก้องในใจไม่ได้ มันมาจากละครโทรทัศน์ยอดนิยมในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาเรื่อง— ‘ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน'[2]

“ไยพี่อี่ต้องมากพิธีถึงเพียงนี้ โปรดลุกขึ้นเร็วเข้า!”

หลี่ฉางโซ่วรีบเข้าไปช่วยพยุงแล้วกล่าวว่า “พี่อี่ โปรดอย่าเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป ย่อมจะดีที่สุดที่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ในวังมังกร เพราะอย่างไรเสีย ข้าก็ยังทำอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้”——โปรดนิ่งเฉยไว้ก่อน อย่ารีบเร่งในเรื่องนี้ นี่ก็เป็นเช่นการหว่านเมล็ดพืชเอาไว้ก่อนในครั้งนี้และหวังผลรอให้มันเติบใหญ่ ค่อยสังเกตดูผลส่วนที่เหลือของเรื่องในอนาคต

“ศิษย์พี่เจ้าสำนักช่างเมตตานัก อ๋าวอี่จะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอย่างเชื่อฟังขอรับ!”

……………………………………………………………………

[1] เป็นเครื่องดนตรีทางตอนเหนือของจีนแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะคล้ายแตรมีเขาสองกก มีต้นกำเนิดการออกแบบพื้นฐานในอิหร่านโบราณ ปรากฏขึ้นในประเทศจีนราวศตวรรษที่สาม มีเสียงที่ดังและแหลมสูงชัดเจน มักใช้ในวงดนตรีจีนโบราณ

[2] หรือบางที่ก็เรียกว่า ผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซานเป็นเรื่องราวของนักสู้ธรรมดาที่ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในสังคม แต่กลับกลายเป็นกองโจรในสายตาของทางการ เรื่องนี้มาจากซ้องกั๋งหรือสุ่ยหู่จ้วน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดนิยายชั้นเอกของจีนที่มี สามก๊ก ไซอิ๋ว ความรักในหอแดง (บางที่เรียกว่าความฝันในหอแดง) และได้รับสถานะให้เทียบเท่าสามก๊กในแวดวงวรรณกรรมจีน