ความรู้สึกของมิติที่พันรอบตัวผมหายไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เมื่อมองไปรอบๆ ผมก็พบว่าตัวเองกลับมายังจุดเดิมที่จากมา ประตูที่อยู่ข้างหลังผมดูสั่นเทาและซีดจางกว่าเดิม 

อากาศบริสุทธิ์และมานาของโลกลอยเข้ามาผ่านจมูกของผมทำให้เกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย แม้ว่ามันจะอยู่ได้ไม่นานก็ตาม

“อะไรเนี่ย!”

“ได้ยังไง!”

“พี่ชาย!”

“ทำไมกัน?!”

ในไม่ช้าเสียงตะโกนที่สับสนก็ดังก้องเต็มหูของผมทำให้ผมต้องมองไปรอบๆ และพบกับคนที่เคยต่อสู้กับผมในเมืองที่มีสายตาที่ไม่น่าเชื่อขณะมองไปรอบๆ รอบตัวพวกเขาคือนักเรียนที่ถูกสันนิษฐานว่าตายไปแล้ว!

ใช่แล้ว ทุกคนที่ควรจะถูกฆ่าในดินแดนพิเศษกลับอยู่รอบตัวพวกเขา ต่างจากพวกเราที่พึ่งกลับมาซึ่งดูสกปรกและยับเยิน คนพวกนี้ดูผ่อนคลาย, พักผ่อนสบาย แต่ในความเป็นจริงกลับถูกควบคุมตัวไว้

ไม่เพียงเท่านั้น ร่างที่สวมเสื้อคลุมที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายไม่ได้กลับไปยังจุดเดิมก่อนที่พวกมันจะเข้ามา ส่งผลให้พวกมันทั้งหมดปรากฏตัวเคียงข้างเราในที่โล่ง

ในไม่ช้าบรรยากาศแห่งความประหลาดใจก็สงบลงและความวุ่นวายก็ปะทุขึ้น

“ไอ้สารเลว!”

“ฉันจะฆ่าแก!”

“ขอบคุณพระเจ้าที่นายไม่เป็นไร”

“พี่สาว!”

เสียงร้องไห้และเสียงตะโกนแห่งความโกรธ, ความโล่งใจ, ความโศกเศร้าและความเสียใจเริ่มก่อตัวขึ้นรอบตัวทุกคน ขณะที่ผู้ที่มีความห่วงใยมากที่สุดเดินไปข้างหน้าเพื่อกอดเพื่อนฝูง, คนรักและญาติของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เดินไปข้างหน้าเมื่อมิร่าปรากฏตัวอีกครั้ง โดยที่คราวนี้เธอมาพร้อมกับอาจารย์และเจ้าหน้าที่ที่มีชื่อเสียงหลายคน

ผมสามารถเห็นแม่ของตัวเองที่อยู่กับพวกเขาด้วย แตกต่างจากเดิมที่เธอมักมีรอยยิ้มเป็นธรรมชาติ เธอกลับมีสีหน้าจริงจังที่หาได้ยากมาก แต่ทันทีที่ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่ผม ผมก็เห็นเธอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรอยยิ้ม การแสดงออกแบบเดียวกันเบ่งบานขึ้นมาเช่นกันเมื่อเธอมองไปที่นอร่า

“ลงมือได้” 

มิร่าพูดก่อนที่ครูและเจ้าหน้าจะเคลื่อนไหวและโจมตีนักเรียนบางคนที่ถูกระบุไว้อย่างแม่นยำ ผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ใกล้พวกเขาถูกกันออกไป ในขณะที่ผู้แอบอ้างที่ใช้บัตรประจำตัวถูกจับกุมอย่างรวดเร็วพร้อมกับผู้ทรยศ 

ด้วยความสามารถระดับเจ้าหน้าที่ของบาบิโลนทำให้ศัตรูไม่สามารถแม้แต่จะสู้ได้ก่อนที่จะถูกปราบปราม

หลายคนพยายามปลิดชีพตัวเองอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นกับดักตั้งแต่แรกเริ่ม แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับโอกาสด้วยซ้ำ เมื่อมิราอยู่ที่นี่พร้อมกับมานาที่ลอยอยู่ไปทั่ว พวกเขาไม่สามารถปลิดชีพตัวเองได้แม้ว่าพวกเขาจะต้องการทำแบบนั้นก็ตาม

เมื่อเห็นฉากนี้ ผมก็สงบสติอารมณ์ขณะมองดูทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ สายตาของผมจับจ้องไปที่มาร์ลีนที่กำลังจับคอน้องชายของเธออยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้ แม้ว่าจะต้องแลกกับการต้องพบเจอกับความเจ็บปวดก็ตาม สายตาของผมเลื่อนไปยังที่คนที่ผมเคยฆ่าไปในตอนช่วยชีวิตมาร์ลีนก็พบว่าพวกมันกำลังตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่

จริงๆ แล้วพวกทรยศทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างก็สั่นกำลังตัวสั่นกันทั้งนั้น ตอนนี้พวกเขาอาจรู้สึกเสียใจที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วคนทรยศไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในกลุ่มของมาร์ลีนหรือซาบริน่าเท่านั้น แทบทุกกลุ่มต่างมีคนทรยศอย่างน้อยก็ 1 ทั้งนั้น พวกที่แย่ที่สุดคือแองเจลิน่า, อิซาเบลล่าและรอน เพราะผมไม่ได้พยายามช่วยพวกเขามากนัก

ส่วนคนที่เหลือผมได้ให้ความช่วยเหลือพวกเขาแบบลับๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไป ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีคนทรยศ

‘ฮึ เขาคงหวังว่าตัวเองจะได้ตาย’

ผมพึมพำขณะมองดูผู้ถือแหวนของเอลฟ์ที่พยายามจะโจมตีซาบริน่า ซึ่งตอนนี้ถูกเธอมัดไว้และจับกุมตัวไว้อยู่ ใบหน้าของเขาเละเทะไปหมดและดูเหมือนคนที่กำลังจวนจะตาย

‘ดูเหมือนเธอจะชอบของขวัญชิ้นนั้นนะ’ 

ผมพูดกับเธอในใจและเห็นเธอสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของเธอจะมองมายังตำแหน่งของผม

‘ฉันจะตอบแทนบุญคุณนี้ให้’

ซาบริน่าตอบก่อนที่จะมุ่งความสนใจไปที่การพวกคนที่บุกเข้ามา ชุดคลุมทั้งหมดของพวกมันถูกถอดออก พวกมันไม่สามารถต้านทานการรวมพลังกันของเจ้าหน้าที่แห่งบาบิโลนทุกคนได้ โดยเฉพาะพลังอันมหาศาลของจักรพรรดิคนใหม่ในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มต้น นี่เป็นเพียงการคัดแยกอย่างโหดร้าย

ภายใน 10 นาที ทุกคนก็ถูกปราบ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้กระทำผิดไว้หมดแล้วโดยที่ไม่มีใครเสียชีวิต แต่มีหลายคนที่สูญเสียแขนขาไปหนึ่งหรือสองข้าง ในบรรดานักสู้ที่โหดเหี้ยมนั้นมีแม่ของผมที่คอยจัดการพวกมันด้วยความคับข้องใจและความโกรธอยู่ด้วย ต้องบอกว่าเธอดูร้อนแรงมากเวลาอยู่ในเครื่องแบบ

‘บางทีเราน่าจะขอให้เธอใส่ชุดนั้นเพื่อสวมบทบาทกันดีไหมนะ?’ 

ผมเดินออกมาเพราะบรรยากาศรอบๆ ตัวเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ทั่วสถานที่ร้อนอบอ้าวเหมือนมีบางอย่างกำลังจะระเบิด ในตอนนั้นเองที่ผมได้ยินเสียงอาม่อนที่ดังขึ้นมา

“นายท่านครับ”

“ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จสินะ” 

ผมพูดพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาของเขา ก่อนหน้านี้ดวงตาของเขามีความโกรธเคืองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ผมเห็นได้ว่าส่วนใหญ่พอใจแล้ว ความโกรธยังคงมีอยู่ แต่ถูกควบคุมและสงบมากขึ้น

“ผมสนุกมากเลยครับ” 

อาม่อนพูดด้วยน้ำเสียงสงบ 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็หันความสนใจไปที่เหยื่อของอาม่อน พอได้เห็นสภาพของพวกมัน ผมก็พยักหน้า เป้าหมายทั้งหมดของเขาดูเหมือนจิตใจภายในของพวกมันได้ตายไปแล้ว ดวงตาของพวกมันว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวา แน่นอนว่าพวกมันจะไม่ตาย แต่มีวิธีอื่นในการฆ่าคนนอกเหนือจากการฆ่าพวกเขาตรงๆ อยู่

“ไม่ต้องห่วง นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น” 

ผมพูดพร้อมตบไหล่อาม่อน

“แล้วทางนายเป็นยังไงบ้าง?” 

ผมถามมาร์คที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าที่เย็นชาของเขาดูไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาเลย

“ผมทำงานเสร็จแล้ว” 

มาร์คตอบ 

ได้ยินอย่างนั้นผมก็ยิ้มก่อนจะมองดูความยุ่งเหยิงที่อยู่ตรงหน้า ความโกรธ, ความเกลียดชังและความโศกเศร้าเป็นเหมือนโรคติดต่อ และอารมณ์ก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

‘นี่คือโลกภายนอกงั้นเหรอคะ?’

ทันใดนั้นฟาร์ร่าก็ถามขึ้นมา

‘ใช่’

ผมตอบ

‘เป็นยังไรบ้าง?’

ผมถาม

‘ปกติค่ะ’

เธอตอบกลับ

‘เอาเถอะ อีกไม่นานเธอคงได้สนุกมากกว่านี้’

ผมพูด 

เมื่อพูดจบผมก็เริ่มมุ่งความสนใจไปที่มิร่าที่กำลังเริ่มพูด

“นักเรียน! ฉันรู้ว่าพวกเธอทุกคนสับสน แต่ทุกอย่างจะถูกแจ้งให้พวกเธอทราบตามเวลาที่กำหนด ดังนั้นสำหรับตอนนี้พวกเธอสามารถไปพักผ่อนและจัดการกับสถานการณ์ทั้งหมดที่พวกเธอเจอมาได้ซะ” 

มิร่ากล่าวก่อนจะหายตัวไปในขณะที่เสียงของเธอดังก้องอยู่ในหัวของผม

“มาหาน้าด้วยหล่ะ” 

เธอกล่าว

ผมเพียงพยักหน้ากับคำพูดของเธอก่อนจะหันไปมองสถานที่แห่งหนึ่งและสบตากับสการ์เล็ต ผมเป็นเพียงคนเดียวที่นี่ที่สามารถเข้าใจเธอได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นมา 

“ฉันสบายดี ไว้เจอกันทีหลังนะ” 

เธอพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแล้วหายตัวไป จากนั้นผมก็หันไปสนใจเพื่อนๆ และพูดคุยกับพวกเขา

“เราจะมีการรายงานสรุปกันในภายหลัง แต่สำหรับตอนนี้ไปพักผ่อนกันเถอะ โดยเฉพาะนายอเล็กซ์ ถ้าฉันเห็นนายตื่นอยู่ฉันจะตีก้นไล่นายไปนอนซะ” 

ผมพูด

ทุกคนพยักหน้ากับคำพูดของผม โดยเฉพาะอเล็กซ์ที่ดูเหมือนมัมมี่ 

การใช้พลังที่เพิ่งได้รับมาแบบนั้นดูเหมือนจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเขา แต่ด้วยยาที่ผมให้ไป เขาคงจะฟื้นตัวและกลับมาเป็นปกติเร็วๆ นี้

ไม่นานทุกคนก็เริ่มแยกย้ายกันไป สายตาของผมจับจ้องไปที่พวกมนุษย์สัตว์พร้อมกับเจ้าชายเรซและเนลที่กำลังทำสีหน้าน่าเกลียดอยู่ พวกเขาจะไม่ทำหน้าแบบนั้นได้ยังไงหล่ะในเมื่อกองกำลังส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกจัดการไปแล้ว?

รวมทั้งความไว้วางใจทั้งหมดที่คนอื่นมีต่อพวกเขาก็ได้พังทลายลงและแผนการโค่นผู้นำในอนาคตก็ถูกทิ้งลงในโถส้วม ทรัพยากรที่พวกเขาใช้ในการติดสินบนเองก็หมดไปแล้วเช่นกัน ทรัพยากรจำนวนมากเสียไปอย่างสูญเปล่าและสิ่งที่พวกเขาได้รับกลับคืนมากลับเป็นปัญหา อนาคตของพวกเขาคงยากลำบากอย่างแน่นอน

ผมละสายตาจากพวกเขา แล้วมุ่งความสนใจไปที่เบล อีกคนที่ผมต้องจับตามอง 

ผมส่ายหัวเนื่องจากยังรอได้อยู่และผมมีน้าสุดน่ารักที่กำลังรออยู่ ไม่นานผมก็จัดการกับกลุ่มของตัวเองและสั่งงานกับพวกเขาก่อนจะมุ่งหน้าไปพบกับมิร่า โดยที่พูดปลอบใจเกรซด้วยก่อนออกมา

ไม่มีใครพยายามคุยกับผมอีกเพราะทุกคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง การโจมตีคนระดับสูงพิเศษที่เกิดขึ้นภายในสถาบันบาบิโลนคงจะส่งผลให้เกิดเรื่องน่ารำคาญที่ตามมา

‘สำหรับตอนนี้นั่นไม่ใช่ปัญหาของเรา’

ผมหัวเราะขำๆ กับความคิดทั้งหมดของตัวเองขณะเดินผ่านความวุ่นวายด้วยย่างก้าวที่มั่นคง ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ในเมืองต่างพากันพยักหน้าแสดงความเคารพหรือขอบคุณขณะที่พวกเขาหลีกทางให้ผม ตอนนี้พอมาคิดดูแล้วผมไม่ได้ช่วยชีวิตพวกเขาจริงๆ แต่มันจะไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเราทุกคนต่อสู้ด้วยชีวิตของเราในตอนนั้น และผมก็เห็นผลลัพธ์แล้ว

ดูเหมือนว่าแต่ละเผ่าพันธุ์จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น และผมก็ตรวจพบคู่รักคู่ใหม่บางคู่ที่ก่อตัวขึ้นจากการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตายด้วย 

ผมยิ้มกับตัวเองแล้วเดินออกมาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของมิร่า

หลังจากเรื่องทั้งหมดผมยังมีน้าคนสวยที่รอให้หยอกล้อรออยู่ ~

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต