ตอนที่ 633 ไปตำบลชานหลินอีกครั้ง (3) / ตอนที่ 634 ไปตำบลชานหลินอีกครั้ง (4)
ตอนที่ 633 ไปตำบลชานหลินอีกครั้ง (3)
เปลวไฟเล็กๆ นั้นลุกลามโหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว ไม่นานบ้านผุพังหลังนั้นก็ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงร้อนแรง
มู่เชียนฟานเบิกตากว้างจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาตกใจมากที่บ้านที่เป็นที่หลบภัยเพียงแห่งเดียวของเขาถูกไฟเผาทำลายไปอย่างช้าๆ
“คุณชายจวิน! ท่านทำอะไรลงไป” มู่เชียนฟานหันไปมองจวินอู๋เสียอย่างร้อนใจ น้ำเสียงของเขากระวนกระวายแต่ไม่มีการตำหนิหรือกล่าวโทษซ่อนอยู่ในนั้น
จวินอู๋เสียช่วยชีวิตเขาไว้ และเขาถือว่าชีวิตของเขาเป็นของจวินอู๋เสียแล้ว เขาเต็มใจอย่างถึงที่สุดที่จะละทิ้งชีวิตของเขาเพื่อจวินอู๋เสีย ดังนั้นเขาจึงไม่มีความไม่พอใจใดๆ ที่จวินอู๋เสียเผาบ้านของเขา แต่เขาแค่งุนงงว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงทำเช่นนั้น
บ้านผุๆ พังๆ ของข้าไปล่วงเกินอะไรคุณชายจวินกัน
ไม่เพียงมู่เชียนฟานเท่านั้นที่สับสนงุนงง กระทั่งเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ก็ตกใจที่จู่ๆ ก็เห็นบ้านตกอยู่ในกองเพลิง
ทำไมน้องเสียพูดออกมาแค่ประโยคเดียวก็เผาบ้านผู้อื่นเสียจนกลายเป็นตอตะโกเช่นนี้แล้วเล่า
แต่ไม่มีใครกล้าต่อว่าจวินอู๋เสียเลยสักคำ ทุกคนได้แต่มองมู่เชียนฟานด้วยความรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียของเขาอย่างเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าบ้านของมู่เชียนฟานไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่แห่งสกุลจวินโกรธเกรี้ยวจนถึงกับเผามันทิ้งเช่นนี้
จวินอู๋เสียมองเปลวไฟที่เผาทำลายบ้านหลังเล็กจนสิ้นอย่างเงียบๆ หลังจากที่นางพอใจว่าบ้านถูกทำลายราบคาบแล้ว จวินอู๋เสียก็หันกลับมา
มู่เชียนฟานยังคงโศกเศร้ากับการสูญเสียบ้านเพียงหนึ่งเดียวของเขา ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาของบางอย่างถูกโยนมาที่เขา เขาเอื้อมไปคว้าตามสัญชาตญาณและพบว่ามันคือถุงเงินที่หนักมาก ที่ปากถุงมีตราสีเงินลายกิเลนเหยียบเมฆมงคลสลักเอาไว้
มู่เชียนฟานเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง เขามองจวินอู๋เสียด้วยสายตาประหลาดใจ
“หลังจากนี้จงไปที่เมืองหลวงของรัฐชี และไปแนะนำตัวเองที่จวนหลินอ๋องซะ” จวินอู๋เสียพูดเสียงเรียบแบบไร้ความรู้สึก
“รัฐชี…จวนหลินอ๋อง” มู่เชียนฟานตกใจ ถึงแม้เขาจะอยู่แต่ในตำบลชานหลินมาตลอดชีวิต แต่การใช้ชีวิตในฐานะทหารรับจ้างทำให้เขากับพี่น้องของเขามีโอกาสพบเจอผู้คนจากรัฐอื่นๆ และตระกูลที่มีอำนาจมากมาย
พวกเขาย่อมเคยได้ยินเรื่องจวนหลินอ๋องแห่งรัฐชี ถึงแม้รัฐชีจะเป็นรัฐเล็กๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกจวนหลินอ๋องแห่งรัฐชี ในฐานะเจ้าตระกูลของจวนหลินอ๋อง จวินเสี่ยนคือผู้บัญชาการกองทัพที่โจมตีได้ดุดันที่สุดในแผ่นดิน…กองทัพรุ่ยหลิน!
ชื่อของกองทัพรุ่ยหลินดังไปไกลจนแม้แต่มู่เชียนฟานก็ยังเคยได้ยิน เขาอิจฉาและต่อว่าโชคชะตาอยู่เสมอที่ไม่มีโอกาสได้พบกับพวกเขา
แต่คุณชายจวินสั่งให้เขาไปรายงานตัวที่จวนหลินอ๋อง…
หมายความว่าอย่างไร
ในที่สุดเฉียวฉู่ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขายิ้มกว้างออกมาทันทีและตบบ่ามู่เชียนฟานเบาๆ พร้อมพูดว่า “สหายเอ๋ย ส้มหล่นใส่เจ้าทั้งกระบุงแล้ว! เจ้าชอบกองทัพรุ่ยหลินหรือไม่”
มู่เชียนฟานยังคงท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกและเมื่อได้ยินคำพูดของเฉียวฉู่ เขาก็ทำได้แค่พยักหน้าอย่างเหม่อลอย
กองทัพที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วว่าโจมตีได้ดุดันมากที่สุด ผู้ใดบ้างเล่าจะไม่เคารพนับถือพวกเขา
“ทำตามที่น้องเสียพูดเถอะ หลังจากที่พวกเราทำงานที่นี่เสร็จแล้ว เจ้าก็เอาถุงเงินพร้อมกับตรานั่นไปที่เมืองหลวงรัฐชี ไปหาจวนหลินอ๋องซะ ข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่เสียใจ” เฉียวฉู่พูดพร้อมหัวเราะอย่างใจดีและขยิบตาให้จวินอู๋เสียด้วย
ในตอนแรกเขาก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาวน้อยของพวกเขา ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกเช่นเดียวกับที่พวกเขารู้สึก ไม่อยากเห็นคนที่เที่ยงตรงและมีคุณธรรมเช่นมู่เชียนฟานต้องมาอยู่ในบ้านเล็กๆ ทรุดโทรมเช่นนี้ นางตัดสินใจเผาบ้านเขาเพื่อบังคับให้มู่เชียนฟานไม่มีทางเลือกนอกจากย้ายไปตามการจัดการของจวินอู๋เสีย
แต่…
แม่สาวน้อยนี่จะใช้วิธีที่นุ่มนวลกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไร นางทำสิ่งที่ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่วิธีที่ใช้นั้นอย่างกับพวกโจรป่า!
ตอนที่ 634 ไปตำบลชานหลินอีกครั้ง (4)
เมื่อได้เห็นวิธีที่แข็งกร้าวของจวินอู๋เสีย เฉียวฉู่ก็แทบล้มทั้งยืน
สำหรับจวินอู๋เสีย ไม่ว่านางจะรักษาชีวิตใครหรือว่าช่วยเหลือผู้ใด วิธีของนางก็มักจะเป็นการใช้อำนาจเผด็จการอยู่เสมอ ถ้าผู้ที่รับความช่วยเหลือของนางเป็นคนจริงจังและตรงไปตรงมา พวกเขาอาจจะเข้าใจเจตนาดีของนางผิดไปและจะเกลียดนางแทน
“คุณ…คุณชายจวิน…ท่าน…ท่านหมายความว่า…อย่างไร” มือของมู่เชียนฟานที่ถือถุงเงินอยู่สั่นอย่างเห็นได้ชัด สมองของเขาว่างเปล่าไปหมด
“ข้าแซ่จวิน” จวินอู๋เสียพูดอย่างเรียบๆ ขณะที่มองมู่เชียนฟาน
มู่เชียนฟานตกตะลึงเมื่อตระหนักได้ถึงความจริง
ทุกคนรู้ว่าอำนาจบัญชาการกองทัพรุ่ยหลินนั้นอยู่ในมือของสกุลจวินแห่งจวนหลินอ๋อง!
แซ่ของจวินอู๋เสียคือจวิน และเขากำลังบอกให้เขาไปรายงานตัวที่จวนหลินอ๋อง…
นั่นไม่ได้หมายความว่า…
“คุณชายจวิน ท่าน…ท่านหมายความเช่นนั้นจริงๆ หรือ” มู่เชียนฟานสั่นไปทั้งตัว ในใจเต็มไปด้วยความยินดีอย่างถึงที่สุด
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“กองทัพรุ่ยหลินรับคนที่ซื่อสัตย์ภักดีเท่านั้น”
ความภักดีที่ไม่สั่นคลอนในมิตรภาพของมู่เชียนฟาน ได้พิสูจน์ให้จวินอู๋เสียเห็นแล้วว่าเขามีคุณสมบัติเข้าร่วมกองทัพรุ่ยหลิน และการที่เขากลับมาจากผาสุดขอบฟ้าได้ ก็พิสูจน์แล้วว่าความสามารถของเขาเหนือกว่าคนทั่วไป ยิ่งกว่านั้นจวินอู๋เสียก็ไม่อยากเห็นคนที่นางพยายามช่วยชีวิต ต้องมาอยู่ในสถานที่ที่ชำรุดทรุดโทรมเช่นนี้
มู่เชียนฟานเป็นคนไข้ของนาง นางย่อมไม่อยากเห็นเขาทุกข์ยากเช่นนี้
มู่เชียนฟานคุกเข่าลงทันทีและหมอบกราบลงตรงหน้าจวินอู๋เสียก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นสามครั้งเป็นการแสดงความขอบคุณ
“ข้า มู่เชียนฟาน ชั่วชีวิตของข้าขออยู่ภายใต้คำสั่งของคุณชายจวินขอรับ ข้าโชคดียิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณชายจวิน ข้าจะขอตอบแทนท่านด้วยทุกสิ่งที่ข้ามีขอรับ!”
จวินอู๋เสียไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเขา แต่ยังให้อนาคตที่สดใสแก่เขาด้วย
ทหารรับจ้างตรากตรำทำงานอย่างหนัก เอาชีวิตไปเสี่ยงเพียงเพื่อเงินจำนวนน้อยนิด พี่น้องร่วมรบของมู่เชียนฟานเสียชีวิตหมดทุกคน และถ้าเขากลับไปทำงานเดิมของเขา เขาก็จะต้องออกไปผจญกับอันตรายตามลำพัง!
มู่เชียนฟานไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถเข้าร่วมกองทัพรุ่ยหลินได้!
“ลุกขึ้น” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
มู่เชียนฟานยืนขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตา
“จะเข้าร่วมกับกองทัพรุ่ยหลิน สภาพร่างกายของเจ้าตอนนี้ทำไม่ได้หรอก ตามข้ามา” จวินอู๋เสียพูด ดวงตามองสำรวจมู่เชียนฟาน อาการบาดเจ็บของเขาอาจจะระงับเอาไว้ได้ด้วยโอสถที่นางให้ไปก่อนหน้านี้ แต่นางรู้ว่าเม็ดยาพวกนั้นไม่สามารถรักษาเขาให้หายขาดได้
มู่เชียนฟานได้สติอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะสั่งอะไรเขา เขาก็จะทำตามนั้นทุกประการ
หลังจากตามจวินอู๋เสียกลับไปที่โรงเตี๊ยม จวินอู๋เสียก็ส่งโอสถที่นางปรุงให้มู่เชียนฟาน มันทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อต่อต้านพิษในร่างกายของมู่เชียนฟาน มันจะใช้เวลาอีกสองสัปดาห์ก่อนที่ยาพิษในร่างกายของมู่เชียนฟานจะถูกกำจัดออกไปจนหมด
หลังจากขอบคุณจวินอู๋เสียซ้ำๆ มู่เชียนฟานก็กลืนโอสถลงคอไป
เฉียวฉู่และคนอื่นๆ นั่งอยู่รอบห้อง มองดูมู่เชียนฟานร้องห่มร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งตรงหน้าจวินอู๋เสีย สายตาของพวกเขาเจือไปด้วยความขบขัน
“ข้าว่านะ…น้องเสียไปเอานิสัยเที่ยวรวบรวมคนทุกประเภทไปไว้ที่จวนหลินอ๋องมาจากที่ใดกัน” เฉียวฉู่ถามฮวาเหยา เขานั่งพาดขาบนเก้าอี้อย่างหยาบคาย
อิ่นเหยียนเองก็เช่นเดียวกัน เขาสมควรตาย แต่จวินอู๋เสียก็ให้หลงฉีพาตัวเขากลับไปที่จวนหลินอ๋อง ครั้งนี้มู่เชียนฟานก็เป็นรายต่อไปที่ถูกโยนเข้าจวนหลินอ๋อง รวมถึงมู่เฉินกับศิษย์จากยอดเขาเทียมเมฆาที่เข้าไปทำงานที่จวนหลินอ๋อง เฉียวฉู่คิดได้แต่เพียงว่าจวินอู๋เสียทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเพิ่มอำนาจและความสามารถให้แก่จวนหลินอ๋อง!
ตราบใดที่พวกเขามีประโยชน์ ไม่ว่าชาติกำเนิดหรือภูมิหลังของพวกเขาจะเป็นเช่นไร นางก็ไม่ลังเลที่จะผลักพวกเขาเข้าไปอยู่ในมือของหลินอ๋อง!