ตอนที่ 649 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (1) ตอนที่ 650 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 649 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (1) / ตอนที่ 650 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (2)
ตอนที่ 649 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (1)

ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกล้อมด้วยภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายหลายตัวที่ขวางเส้นทางเอาไว้!

กรร! เจ้าสัตว์ร้ายสีดำส่งเสียงขู่คำรามออกมา ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นก็กระโจนเข้าใส่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำทันที

“เอาเลย! วิ่งสิ! ทำไมเจ้าไม่วิ่งต่อเล่า!” พวกผู้ล่าที่มีประมาณสิบคนไล่ตามมาทันอย่างรวดเร็ว พวกเขาเป็นบุรุษรูปร่างแข็งแรง และเมื่อพวกเขาเห็นเจ้าสัตว์ร้ายสีดำตกอยู่ในวงล้อมต่อสู้กับภูติวิญญาณของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาก็ปรากฏรอยยิ้มยินดี

“พวกเราเอาชนะภูติวิญญาณของเจ้านั่นไปแล้ว เจ้าสัตว์ร้ายสีดำตัวนี้ไม่ใช่ภูติวิญญาณของมันแน่ ไม่รู้ว่ามันโผล่มาจากไหน ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะมีสหายอยู่แถวนี้ รีบจัดการมันเร็วๆ จะได้ตัดปัญหาไปเสีย” หัวหน้าของคนกลุ่มนี้ออกคำสั่งพร้อมกับขมวดคิ้ว พลางมองดูภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายของพวกเขาต่อสู้กับเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่ดุร้าย

เจ้าสัตว์ร้ายสีดำตัวใหญ่ถูกล้อมอย่างหนัก มันสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายๆ ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า แต่มันถูกมู่เชียนฟานที่บาดเจ็บสาหัสถ่วงให้ช้าลงมาก นอกจากต้องหยุดการโจมตีของภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นแล้ว มันยังต้องทำให้แน่ใจว่ามู่เชียนฟานจะไม่ถูกโจมตี

ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นๆ ไม่ได้เล็งเป้าที่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำ หลังจากพวกมันปิดผนึกการหนีของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำได้แล้ว ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายประเภทสิงโตสองตัวก็โจมตีเจ้าสัตว์ร้ายสีดำจากข้างหน้าไม่หยุด ขณะที่ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นล้อมวงไปด้านข้างและด้านหลัง แล้วกระโจนเข้าใส่มู่เชียนฟานที่อยู่บนหลังของมัน!

กรร! เจ้าสัตว์ร้ายสีดำไม่สนใจการโจมตีที่มาจากข้างหน้า มันยืนขึ้นด้วยขาหลังทันทีแล้วสะบัดอุ้งเท้าตะปบเข้าที่หัวของภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวหนึ่งเต็มแรง

เสียงกระแทกดังสนั่น!

ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวนั้นลอยขึ้นไปในอากาศและกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างแรง แรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ต้นไม้งอและหักลงมา!

ในเวลาเดียวกับที่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำส่งภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายปลิวไปด้วยกำลัง ตัวมันเองก็เปิดโอกาสให้ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นๆ โจมตีเข้ามา ในชั่วพริบตาเจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็พบว่าก้อนเนื้อที่ท้องน้อยของมันถูกฉีกกระชากออกไปโดยภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวที่เล็กกว่าที่หลุดมาในช่วงชุลมุน!

แม้แต่ร่างวิญญาณ การได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเช่นนั้น ย่อมทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก

เจ้าสัตว์ร้ายสีดำม้วนตัวพุ่งออกไปจากวงล้อมของศัตรู มันลุกขึ้นยืนหอบอย่างหนัก ร่างของมันกระตุกจากความเจ็บปวดที่ท้องน้อย

ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เชียนฟานที่อยู่บนหลัง มันคงจะกลืนพวกสารเลวน่ารำคาญพวกนี้ทั้งหมดไปแล้ว!

แสงสว่างวาบหลายสายพุ่งเข้าใส่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำ มันกระโดดออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกธนูสามดอกกระทบพื้นเสียงดังตรงจุดที่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำยืนอยู่เมื่อสักครู่!

นักธนูคนหนึ่งเกี่ยวลูกธนูขึ้นสายแล้วน้าวสายไปด้านหลังจนสุด เล็งเป้าตรงไปที่เจ้าสัตว์ร้ายสีดำ พร้อมด้วยรอยยิ้มเหี้ยมบนริมฝีปาก

“น่าสงสาร ข้าอยากจะเล่นกับเจ้าอีกสักหน่อย แต่หัวหน้าเราสั่งมาแล้วว่าเจ้าคนที่อยู่บนหลังเจ้าต้องตาย” นักธนูยิ้มเยาะอย่างดุร้าย

เจ้าสัตว์ร้ายสีดำไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฉีกนักธนูคนนั้นออกเป็นชิ้นๆ แต่ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายตัวอื่นก็เข้ามาล้อมมันอีกครั้งและโจมตีมันจากทุกทิศทาง เจ้าสัตว์ร้ายสีดำพ่ายแพ้อย่างช้าๆ ภายใต้การโจมตีไม่หยุด บาดแผลปรากฏขึ้นบนตัวของมันมากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่สามารถหาหนทางออกจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ได้เลย!

“ทิ้งข้าไว้…” มู่เชียนฟานขอร้องเจ้าสัตว์ร้ายสีดำด้วยหัวใจที่เจ็บปวด เขารู้ว่าเขาไม่อาจรอดชีวิตไปได้ และถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป เจ้าสัตว์ร้ายสีดำจะถูกลากให้ตายไปพร้อมกับเขา

ผู้มีพระคุณของเขาได้ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่อาจเป็นสาเหตุให้ภูติวิญญาณของผู้มีพระคุณต้องได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้ได้!

เจ้าสัตว์ร้ายสีดำซัดภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายอีกตัวที่พุ่งเข้าใส่มันกระเด็นออกไป มันไม่มีท่าทีที่จะปล่อยมู่เชียนฟานเลยแม้แต่น้อย

ในตอนที่คนกลุ่มนั้นเห็นว่าเจ้าสัตว์ร้ายสีดำเข้ามาติดกับของพวกเขาอย่างช้าๆ ก็พลันมีเสียงคำรามแยกฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น!

ใบไม้ทุกใบบนต้นไม้รอบๆ บริเวณเสียดสีกันจนเกิดเสียงดัง เสียงคำรามดังก้องสะท้อนไปทั่ว!

ภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายที่ล้อมเจ้าสัตว์ร้ายสีดำเอาไว้ พากันตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงคำรามอันน่ากลัว พวกมันตัวสั่นหางจุกตูด ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!

ตอนที่ 650 ผู้ใดกล้าแตะต้องคนไข้ของข้า (2)

เจ้าสัตว์ร้ายสีดำเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมันได้ยินเสียงคำรามดังสะเทือนฟ้านั้น ดวงตาของมันก็ส่องประกาย มันยกหัวขึ้นและมองไปทางที่มาของเสียงคำรามนั้น!

บุรุษสิบคนที่ยืนอยู่ด้านข้างยังไม่ได้สติจากอาการตกใจ ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นเงาร่างสีดำขนาดใหญ่โตมโหฬารปรากฏขึ้นใต้แสงจันทร์กำลังพุ่งตรงเข้ามาทางที่พวกเขาอยู่ ต้นไม้ถูกขยี้เป็นแถบราวกับไม้จิ้มฟัน

พื้นดินใต้เท้าสั่นสะเทือนอย่างหนัก!

พวกภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายที่ดุร้ายม้วนหางกันแน่น หูของพวกมันลู่ติดศีรษะ และรีบล่าถอยกันอย่างรวดเร็ว

ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างเย็นตา ในที่สุดรูปร่างที่แท้จริงของเงาสีดำนั้นก็เปิดเผยออกมาต่อหน้าต่อตาพวกเขา!

สัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ยืนตระหง่านอยู่หน้าพวกเขา พวกภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายที่น่าจะ ‘เกรงขาม’ ก็กลายเป็นเล็กจ้อยไปในทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์วิญญาณขนาดมหึมาตัวนี้

“อะไร…นั่นมันตัวอะไรกัน…” หัวหน้าของคนกลุ่มนั้นเบิกตากว้างพร้อมกับพูดลิ้นพันกัน เขามองสัตว์วิญญาณตัวใหญ่เกินจินตนาการนั้นอย่างเหลือเชื่อ ร่างสีขาวบริสุทธิ์ของมันยิ่งสว่างไสวด้วยแสงจันทร์ที่ส่องลงมา หางสีขาวทั้งเก้าหางโบกสะบัดอย่างน่าหลงใหลอยู่ด้านหลัง แต่สำหรับศัตรูแล้ว มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดราวกับอสุรกายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรกเลยทีเดียว!

พวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์วิญญาณที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน!

“สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ! นั่นคือสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติสีฟ้าของจริง!” เสียงกรีดร้องดังออกมาจากกลุ่มคนพวกนั้น ไม่มีใครคิดว่าในป่าที่รกร้างห่างไกลเช่นนี้ พวกเขาจะได้มาเจอเข้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่เคยได้ยินแต่ในตำนานเท่านั้น!

กลุ่มคนที่ก้าวร้าวดุร้ายอยู่เมื่อครู่พลันแข้งขาอ่อนยวบ การวางท่าอวดเบ่งซึมหายลงดินแข็งๆ ใต้เท้าของพวกเขาอย่างรวดเร็วเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ พวกเขายืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว และภาวนาอย่างร้อนรนไม่ให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้นสังเกตเห็นพวกเขา

“มี…มีคนอยู่บนสัตว์วิญญาณตัวนั้น!” คนที่ตาไวร้องอุทานออกมาเสียงดัง พร้อมกับยกมือชี้ไปที่หัวของสัตว์วิญญาณร่างยักษ์

บนหัวของสัตว์วิญญาณ มีร่างเล็กๆ ยืนปะทะสายลมภายใต้แสงจันทร์ส่องสว่าง พร้อมกับมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่ทำให้พวกเขาเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูกสันหลัง

สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าก็คือ การที่พวกเขาพบว่าร่างที่ยืนอยู่บนหัวของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัตินั้นคือเด็กหนุ่มคนหนึ่ง!

เป็นไปได้อย่างไร

สัตว์วิญญาณทำให้เชื่องไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น นี่คือสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติในตำนานที่มีสติปัญญาใกล้เคียงกับมนุษย์!

จวินอู๋เสียยืนอยู่บนหัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ นางมองลงมาที่กลุ่มคนเบื้องล่างด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่ปิดบัง สายตาเย็นชาของนางหันไปมองเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่ยืนหอบอย่างหนักอยู่ด้านหนึ่ง โดยมีมู่เชียนฟานที่สลบไปเพราะเสียเลือดไปมากพาดอยู่บนหลัง ภาพของมู่เชียนฟานที่เต็มไปด้วยของเหลวสีแดงสด สะท้อนอยู่ในดวงตาอันเย็นชาของจวินอู๋เสีย

“พวกเจ้าทุกคนทำร้ายคนไข้ของข้าอย่างนั้นรึ” ดวงตาของจวินอู๋เสียเดือดพล่านด้วยโทสะ นางหันไปทางกลุ่มคนที่ยืนหวาดกลัวอยู่อย่างอับจนหนทาง

“อะ…อะไรนะ…” หัวหน้าของคนกลุ่มนั้นพูดตะกุกตะกักฟังแทบไม่ได้ยิน ฟันของเขากระทบกันเสียงดัง

เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน!

เขาทำให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติในตำนานยอมรับใช้เขาได้จริงๆ น่ะหรือ!

“ใคร…เจ้า…เป็นใคร…เราไม่ใช่ศัตรูของเจ้า…” ในใจของบุรุษผู้นั้นสับสนมาก คำพูดของจวินอู๋เสียไม่ได้เข้าหูเขาเลย

“อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นอย่างอันตราย ริมฝีปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอำมหิตเล็กน้อย

“แย่หน่อยนะ เพราะข้ารู้สึกอยากจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน”

คำพูดเย็นชาของนางทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของคนกลุ่มนั้น ในใจของพวกเขากรีดร้อง และทันใดนั้นพวกเขาก็หันหลังวิ่งหนีกลับไปตามทางที่พวกเขาจากมาทันที

พวกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความโกรธรุนแรงที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของจวินอู๋เสีย พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะค้นหาว่าทำไมเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงได้อยากจะฆ่าพวกเขาทุกคน แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว พวกเขารู้เพียงอย่างเดียวแน่ๆ ว่า…

ถ้าพวกเขาไม่วิ่งหนีไปเสียเดี๋ยวนี้ พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!