บทที่ 461 รวมทีมสู้

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 461 รวมทีมสู้

บทที่ 461 รวมทีมสู้

ในเมื่อเกาะแห่งนี้เป็นของกลุ่มอำนาจฝั่งนั้น ดังนั้นคนของประเทศอื่น ๆ ที่มาจึงพากันระมัดระวัง! พวกเขามาที่นี่เพื่อศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ไม่กล้าทำอะไรมากมายเพราะกลัวจะทำให้ตระกูลฉู่ไม่พอใจ!

ทางด้านผู้อาวุโสจาง ชายชราที่รีบมาก่อนหน้านั้น ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์ไปเยอะที่สุด ของสำคัญหลายชิ้นได้ถูกชายชราเก็บไปหมดแล้ว การกระทำดังกล่าวได้รับการยินยอมจากตระกูลฉู่แล้ว ซึ่งทางผู้อาวุโสจางเองก็รู้ว่าทั้งหมดนี้มีต้นตอมาจากฉู่เหิน ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่เหินล่ะก็ พวกเขาคงไม่ได้ผลประโยชน์มากมายขนาดนี้

อาศัยของที่พวกเขาเก็บได้และของที่ตระกูลฉู่สอนพวกเขา ผู้อาวุโสจางก็เชื่อแล้วว่าภายใน 3 ถึง 5 ปีจะสามารถทำให้วิทยาการของประเทศชาติก้าวหน้าไปได้อีก 50 ปี 80 ปี อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าศึกษาเทคโนโลยีพวกนี้อย่างละเอียดละก็ บางทีวิทยาการของพวกเขาก็อาจจะล้ำหน้าประเทศอื่น ๆ ไปได้กว่า 100 ปีถึง 1,000 ปีเลยก็เป็นได้

เรียกได้ว่าครั้งนี้ฉู่เหินทำความดีความชอบครั้งใหญ่เลยทีเดียว ดังนั้นคนที่มาถึงที่นี่ก่อนเลยยิ่งนับถือฉู่เหินจากใจจริง! แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ฉู่เหินกำลังนำกำลังคนไปที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง เป็นตายร้ายดีไม่อาจรู้ได้

จากเดิมที่เป็นการแข่งขันแบบจับสลาก มาตอนนี้มันได้กลายเป็นแข่งคัดออกไปแล้ว! ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งแบบนี้ก็คือทีม ต่อให้คุณมีความสามารถสูงส่งแค่ไหน แต่ถ้าคนเดียวเจอกับอีก 10 อีก 100 คนคุณก็ไม่มีทางชนะได้! ดังนั้นเลยไม่มีใครเข้ามาในลานประลองก่อน เพราะว่ามีกลุ่มอำนาจไม่น้อยกำลังรวมกำลังพลเป็นทีม ๆ อยู่!

ตระกูลฉู่ 7 คนบวกกับนิกายกิเลนอีก 4 คนรวมแล้วได้ 11 คน! แต่ที่ทำให้ฉู่เหินคาดไม่ถึงก็คือมีคนบางคนหาเขาและอยากจะเข้าร่วมทีมด้วย! ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นคนของวัดหยูฟ่อซือ 7 คน และจากนิกายหว่านเต้า 6 คนนั่นเอง

เดิมควรจะมี 7 คน ทว่าฉู่จือทำแพ้ไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้เลยเหลือเพียง 6 คน! ฉู่เหินนึกว่านิกายหว่านเต้าจะเกลียดแค้นพวกเขาซะอีก แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะลดทิฐิและยอมร่วมมือกับตระกูลฉู่! ซึ่งชายหนุ่มไหนเลยจะรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของนักพรตหูเชิง!

การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทำให้นักพรตหูเชิงคล้ายจากเข้าใจอะไรบางอย่าง มันทำให้เขารู้ว่าฉู่เหินนั้นจัดการไม่ง่ายเลย การเดินทางไปต่างโลกในครั้งนี้เต็มไปด้วยภัยอันตราย ถ้าสามารถร่วมมือกับฉู่เหินและเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันได้ละก็ ไม่แน่ว่านี่อาจกลายเป็นตัวรับประกันความสำเร็จของการเดินทางไปต่างโลกครั้งนี้ก็เป็นได้!

เมื่อเป็นแบบนี้ฉู่เหินที่มี 11 คนบวกกับพวกเขาอีก 13 คน รวมกันแล้วได้ 24 คนที่ถูกรวมกลายเป็นทีมเดียวกัน ในบรรดาทีมทั้งหมดแล้ว จำนวนคนขนาดนี้ก็ถือได้ว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากทีเดียว แต่ทว่าก็ยังมีอีกทีมหนึ่งที่แข็งแกร่งว่าทีม 24 คนนี้นับ 100 เท่า

ซึ่งทีมดังกล่าวก็เกิดจากกลุ่มนิกายอันดับสองและสามจับมือกันรวมเป็นทีมใหญ่ 1 ทีม แค่นับจำนวนคนก็ดูจะเกิน 100 กว่าคนขึ้นไปแล้ว คนพวกนี้เดินจับกลุ่มกันไป ทีมไหนที่ได้เจอพวกเขาก็ถือว่าประสบเคราะห์ร้ายเข้าให้แล้ว ซึ่งจุดศูนย์กลางของคนนับร้อยนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือมิยาโมโตะ อิจิโร่นั่นเอง!

มิยาโมโตะ อิจิโร่ทำการเคลื่อนพลเพื่อออกตามหาฉู่เหิน โดยหวังใช้จำนวนคนเยอะ ๆ เพื่อโค่นฉู่เหิน! ตอนนี้เขารู้สึกว่าการที่ฉู่เหินยังอยู่บนโลกนี้ ชายหนุ่มจะกลายเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่สุดของตัวเอง! ไม่ต้องพูดถึงตัวอย่างอื่น ดูอย่างเหม่ยชิงที่เจ้าหมอนี้สามารถล้างสมองของเธอได้ จนทำให้ตอนนี้เหม่ยชิงไม่สนใจตัวเองอีกแล้ว อาศัยเพียงเท่านี้ก็ทำให้เขาหวาดกลัวฉู่เหินขึ้นเป็นเท่าตัว

เดิมทีเขามีความมั่นใจมากว่าจะสามารถฆ่าฉู่เหินได้ แต่หลังจากเขาเห็นกับตาตัวเองตอนที่ฉู่เหินฆ่ามนุษย์ต่างดาวคนนั้น ในใจเขาก็อดที่ตื่นตระหนกไม่ได้! มนุษย์ต่างดาวตัวนั้นเขารู้จักพวกมันเป็นอย่างดี เพราะช่วงนี้เขาเองก็ใกล้ชิดกับมนุษย์ต่างดาวพวกนั้นมากที่สุด ทั้งนี้ก็เพราะเขาหวังจะพึ่งพาเทคโนโลยีล้ำหน้าของพวกมันช่วยเหลือตัวเอง

จากการตามติดพวกมนุษย์ต่างดาวพวกนี้ มันก็ทำให้เขารู้ถึงความน่ากลัวของพวกมัน! ทว่าเวลาที่เสียไปเหล่านั้นก็ทำให้เขาได้รับอะไรดี ๆ มาไม่น้อยเลย! และในเมื่อตอนนี้พวกมนุษย์ต่างดาวตายหมดแล้ว เขาก็จะกลายเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์ดี ๆ หมดนั่นเอง! เขาเชื่อมั่นว่าถ้าตัวเองเอาของพวกนี้มาได้ โลกใบนี้จะต้องปั่นป่วนอย่างแน่นอน

ฉู่เหินนำทีมของเขาเดินไปทั่วหุบเขา เมื่อพบกับผู้แข่งขันคนอื่น ๆ ฉู่เหินและคนในทีมก็ต่างทำตัวนิ่งเฉย ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเขาคิดมาดีแล้วว่าการแข่งขันครั้งนี้นั้นไม่ได้เน้นที่การฆ่ามากเท่าไหร่ ขอเพียงแค่กลายเป็น 1 ใน 1,000 คนสุดท้ายก็ถือว่าเข้ารอบแล้ว และก็เพราะเหตุนี้พวกเขาถึงได้ไม่ลงมือฆ่าใคร

ด้วยวิธีนี้เลยมีกลุ่มที่อ่อนแอติดตามกลุ่มของฉู่เหินเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ! คาดไม่ถึงว่าการตามติดอยู่ด้านหลังแบบนี้จะทำให้ไม่มีใครกล้าลงมือกับพวกเขา! แท้จริงลานประลองนี้ค่อนข้างจะอันตรายมากทีเดียว ผู้เข้าประลองส่วนมากก็ได้พ่ายแพ้ไปเยอะแล้ว การที่พวกอ่อนแออย่างพวกเขาจะมีชีวิตรอดไปได้นั้นดูคล้ายจะเป็นไปไม่ได้เลย

ทันทีที่พวกเขาเข้ามา แต่ละคนก็จะได้เครื่องมือส่งสัญญาณ 1 อัน ถ้าเกิดว่าตัวเองแพ้ขึ้นมาเครื่องมือนี้ก็จะส่งสัญญาณออกไปด้านนอกหุบเขา! ทว่าทุกคนก็อยากจะอยู่จนถึงคนสุดท้าย และก็ไม่อยากจะถูกคัดออกกันทั้งนั้น

ฉู่เหินนั้นไม่ได้หลบซ่อนตัวเลยแม้แต่น้อยตอนที่นำทีมเดินทาง เวลาไม่นานด้านหลังของเขาก็เต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้น่าจะมีประมาณ 100 กว่าคนเข้าไปแล้ว เพียงแต่คนเหล่านี้ระหว่างที่เดินนั้นต่างก็มองสำรวจซ้ายขวา ราวกับว่าถ้ามีอะไรไม่ถูกต้องขึ้นมา ก็จะหนีไปทันที ดังนั้นฉู่เหินเลยไม่ได้ใส่ใจคนพวกนี้เท่าไร!

ไม่รู้ว่าเดินอยู่ในหุบเขานี้มานานเท่าไรแล้ว ในที่สุดฉู่เหินก็สั่งให้ทุกคนหยุด จากการสำรวจรอบ ๆ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะชายหนุ่มพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับว่ามีพลังอำนาจสักอย่างกำลังจะพุ่งมาทางตน และแม้ว่าคนเหล่านี้จะหลบซ่อนตัวได้ดีมาก แต่ทว่าเจตนาของคนพวกนี้ก็ไม่อาจรอดจากสัมผัสของชายหนุ่มไปได้!

เขาเดินไปด้านหน้า ก่อนจะพบว่ามีทางเข้าซอกเขาอยู่ ฉู่เหินไม่แม้แต่คิดอยากจะพาคนเหล่านี้เข้าไปพร้อมตัวเอง! เดิมทีพวก 10 กว่าคนที่ตามอยู่ด้านหลังนั้นจะตามมาด้วย แต่เพราะประโยคนี้ของฉู่เหินจึงทำให้พวกเขาหยุดฝีเท้าลง

“พวกเราอยากจะกักตนอยู่ที่นี่สักพัก หวังว่าพวกคุณจะไม่มารบกวน! ถ้ามีใครเข้าใกล้พวกเราจะถือว่าคน ๆ นั้นเป็นศัตรู!” แม้ว่าประโยคที่ว่าจะพูดอ้อม ๆ อย่างรักษาน้ำใจ แต่พวกที่ตามอยู่ด้านหลังต่างก็รู้ดีว่าถ้าพวกเขาไม่ฟังและยังคงดื้อด้านที่จะตามเข้าไปให้ได้ ถ้างั้นก็เตรียมตัวถูกโจมตีไว้ได้เลย!

ฉู่เหินเข้ามาที่ซอกเขาตรงหน้าแล้วให้คนอื่นเฝ้าที่นี่เอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มการสร้างค่ายกลขึ้นที่ซอกเขานี้! ซอกเขาขนาดใหญ่โตถูกเขาใช้วัตถุดิบหลายต่อหลายอย่างสร้างขึ้นมาเป็นค่ายกลสังหาร ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น เพราะหลังจากที่เขาสร้างค่ายกลเสร็จแล้ว แม้แต่เขาเองยังรู้สึกตกใจ!

พอมิยาโมโตะ อิจิโร่ได้ยินว่าฉู่เหินเข้าไปในซอกหุบเขา หัวคิ้วก็ขมวดแน่นต่อมาก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา เขารู้ระดับความสามารถด้านค่ายกลของฉู่เหินดี ในเมื่ออีกฝ่ายชิงสร้างค่ายกลแล้วแบบนี้ เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่มีโอกาสอีก ด้วยความโมโห ทำให้เขาพาลมองคนอื่น ๆ ตาขวาง!

การประลองล่าสังหารครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นมา 2 วันแล้ว จากผู้แข่งขันว่า 10,000 คน ตอนนี้เหลือไม่ถึง 5,000 คน แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังห่างจากจำนวนสุดท้ายที่ต้องการแค่ 1,000 คนค่อนข้างมาก! ดังนั้นมิยาโมโตะ อิจิโร่เลยเตรียมแผนการกวาดล้างอีกครั้ง

โดยเฉพาะคนที่หวังจะสังหารเขาในตอนแรก และพวกที่โลภมาก คนพวกนั้นแม้แต่คนเดียวก็ไม่สมควรอยู่อีกต่อไป! แต่ในตอนที่เขากำลังดำเนินการ ก็ดันมีคนมากระซิบข่าวหนึ่งกับเขา ซึ่งมันก็ทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้ เพราะฉู่เหินกำลังนำทีม 20 กว่าคนเดินเข้าในซอกหุบเขา ข่าวดังกล่าวทำให้มิยาโมโตะ อิจิโร่นั้นเริ่มสับสน เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสรุปแล้วฉู่เหินกำลังเล่นเกมอะไรอยู่กันแน่

ด้านฉู่เหินและคนอื่น ๆ หลังจากที่ออกมาจากหุบเขานั้นแล้ว ชายหนุ่มก็สั่งให้คนไปสืบข่าวที่รอบ ๆ เวลาไม่นานเขาก็ได้รับข่าวว่าลูกน้องว่า 10 คนที่เขาส่งออกไปนั้นต่างก็พ่ายแพ้หมดแล้ว อีกทั้งคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ถูกทำลายเครื่องมือจนถูกส่งออกไป มีกระทั่งบางคนที่ดูท่าจะตายแล้วแต่ยังหาศพไม่เจออีกด้วย

หลังจากเห็นฉากนั้นมิยาโมโตะ อิจิโร่ก็ยิ่งตกใจขึ้นไปอีก! เพียงแต่ที่ทำให้เขาไม่เข้าใจก็คือ ในเมื่อฉู่เหินได้สร้างค่ายกลสังหารที่หุบเขานั้นแล้ว งั้นอีกฝ่ายจะออกมาทำไม?