บทที่ 462 ความดีงามสูงขึ้น 1 ฟุต แต่ความชั่วร้ายสูงขึ้น 10 ฟุต
บทที่ 462 ความดีงามสูงขึ้น 1 ฟุต แต่ความชั่วร้ายสูงขึ้น 10 ฟุต
มิยาโมโตะ อิจิโร่รู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขาดที่ตรงไหน แต่ถ้าเขาปล่อยฉู่เหินไปก็กลัวว่าจะเสียโอกาสดี ๆ ไปอีก! พอคิดแล้ว เขาก็สั่งให้ลูกน้องตัวเองติดตามฉู่เหินไป! ส่วนตัวเองจะคอยสังเกตอยู่เบื้องหลัง
หลังฉู่เหินออกมาแล้วเขาก็ไม่ได้เดินมั่ว ๆ เมื่อเดินมาได้สักพักก็พบว่ามีคนเดินตามอยู่ด้านหลังแล้ว 1,000 กว่าคน พอชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็อดยิ้มเย็นในใจไม่ได้ ในเมื่อคนพวกนี้คิดจะเอาชนะตัวเองขนาดนี้ งั้นพวกเขาก็ควรที่จะต้องจ่ายมันด้วยชีวิต!
ทันทีที่ออกมาเขาก็พบแล้วว่ามีคนนับ 1,000 คนจับจ้องมาที่ตัวเอง ในสายตาของฉู่เหินแล้วคนเหล่านี้สมควรตาย! เขานำคนนับ 1,000 คนมาที่ในบริเวณลานกว้าง! ทว่าฉู่เหินยังไม่ทันจะได้เปิดฉากลงมือฆ่าสังหาร เพราะว่าบุคคลสำคัญยังไม่ออกมา!
คนเหล่านี้ถูกพาตัวไปไว้ในลานกว้าง ส่วนฉู่เหินก็หันกลับไปบอกเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมทีม เมื่อได้ยินพวกเขาก็เริ่มจะอยากฆ่าคนพวกนี้ขึ้นมาบ้าง อย่ามองว่าพวกเขามีเพียงแค่ 20 กว่าชีวิต เพราะเมื่อปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาแล้ว มันก็คงน่ากลัวไม่ใช่เล่น!
มิยาโมโตะ อิจิโร่คิดว่าฉู่เหินจะต้องมีแผนการอะไรสักอย่างแน่ แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะอาศัยพลังตัวเองต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา! ต้องเข้าใจว่าตอนนี้มิยาโมโตะ อิจิโร่นั้นไม่ค่อยถนัดทำกับดัก ที่เขาส่งคนไปติดตามฉู่เหินนับ 1,000 ชีวิตนั้น แท้จริงแล้วเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำอะไรในขั้นต่อไปเหมือนกัน!
มิยาโมโตะวางหมากแรกลงไปแล้ว เขาคิดว่าอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถที่ไปต่างโลกได้โดยไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากถึงที่นั่นแล้วเขาก็ไม่สามารถทำได้ด้วยกำลังเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นถึงได้ร่วมกลุ่มยอดฝีมือขึ้นมา และก็เพราะแบบนี้เขาถึงไม่อยากเอาชีวิตคนเก่ง ๆ เหล่านี้มาล้อเล่น!
แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พบว่าฉู่เหินคล้ายจะไม่มีแผนการอะไรเลย! เขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ความสามารถของฉู่เหินจะไม่ต่ำต้อยเลย ยิ่งบวกกับยอดฝีมือที่อยู่ข้างกาย และเพราะแบบนี้เองฉู่เหินถึงได้ไม่สนใจคนธรรมดาพวกนั้น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็สั่งให้ลูกน้องพวกนั้นปิดล้อมฉู่เหิน! พวกนี้มีคนไม่เยอะรวมกันแล้วมีแค่ 20 กว่าคน! ส่วนทางฝั่งพวกเขานั้นมีขั้นปราชญ์ดาราระดับต้นถึง 6-7 คน ส่วนที่เหลือก็ยังมีขั้นราชันดาราระดับสูงสุดอีกหลายคน!
ตำแหน่งที่ฉู่เหินยืนอยู่นั้นแปลกมาก ด้านหลังของเขาเป็นซอกของหุบเขา อีกทั้งซอกเขานี้ยังมีทางเข้าออกแค่ทางเดียวอีกด้วย! หรือก็คือถ้าอยากจะโจมตีฉู่เหินพวกเขาเพียงต้องเข้าไปทางนี้ทางเดียวเท่านั้น!
หลังจากที่ฉู่เหินและพวกต่อสู้กับคนเหล่านี้ ชายหนุ่มก็รู้ได้ในทันทีว่ากองกำลังพวกนั้นมียอดฝีมืออยู่ไม่น้อยเลย! แต่ทว่าจอมยุทธพวกนั้นกลับไม่แสดงฝีมือ เอาแต่หลบซ่อนตัวเพื่อรอโอกาสโจมตีพวกเขา!
ต่อมาฉู่เหินถึงได้ออกคำสั่งไปให้พวกเขา 20 กว่าคนทยอยถอยไปด้านหลัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะหยิบเอาวิธีก้นหีบออกมาใช้โจมตีระยะไกล จนทำให้พวกที่ตามมาถอยร่นกลับไป!
เดิมทีคนพวกนี้คิดว่าฉู่เหินและพวกจะหมดแรงไปก่อน ทว่าจู่ ๆ พวกเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เห็นท่าจะไม่ดีเสียแล้ว! เพราะทันใดนั้นก็มีพลังบางอย่างมาห่อตัวพวกเขา บางคนฉลาดหน่อยรีบใช้เครื่องมือส่งสัญญาณและออกไปจากการนำพาของพลังที่ไม่ทราบที่มาพวกนั้นทันที
มีบางคนรวดเร็วสามารถทำได้สำเร็จ ทว่าส่วนมากแล้วมักจะไม่มีโอกาสนั้น เพราะภายในพริบตาพวกเขาก็รู้สึกว่าโลกหมุนอย่างแรง รอให้พวกเขาได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมาปรากฏอยู่ที่ในค่ายกลแห่งหนึ่งแล้ว! อีกทั้งค่ายกลนี้ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
หรือก็คือเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะใช้เครื่องมือส่งสัญญาณ เมื่อเป็นเช่นนั้นมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างห้ามไม่อยู่ ทันใดนั้นบริเวณรอบ ๆ ก็เริ่มเกิดคลื่นพลังโจมตีมหาศาลออกมา! ต้องเข้าใจว่าค่ายกลนี้ขนาดฉู่เหินที่ทำเสร็จแรก ๆ ยังตกใจเองเลย นับประสาอะไรกับคนพวกนี้
ค่ายกลสังหารทำงานได้ดีมากจนทำให้คนนับพันในนี้ต่างร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ถึงขนาดที่เสียงโหยหวนนี้ดังออกไปข้างนอกไกลกว่า 10 ลี้ก็ยังได้ยิน! เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังอยู่ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงก่อนจะค่อย ๆ เงียบลง
ทว่าหลังจากเสียงเงียบไปที่หุบเขาก็มีสายน้ำสีเลือดไหลลงมาอาบหุบเขาแห่งนี้จนกลายเป็นสีเลือด! ฉากน่าสยดสยองนี้ทำให้ผู้แข่งขันคนอื่น ๆ ต่างก็หวาดผวาไปตาม ๆ กัน! พวกเขารู้เลยว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นแผนการของฉู่เหิน แต่ถ้ามองกลับกันแล้วหากพวกเขาไม่โจมตีฉู่เหินก่อน พวกเขาก็คงไม่ตายอนาถอย่างนี้หรอก!
แต่คนที่หวาดกลัวและเศร้าที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือมิยาโมโตะ อิจิโร่เองนั้นแหละ เขาไม่คิดเลยว่าที่ตัวเองรวบรวมยอมฝีมือมาตั้งนาน จะสิ้นชีพภายในการต่อสู้เดียวแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าเขาแพ้อีกแล้วในรอบนี้ ทว่าแล้วยังไงล่ะเคยได้ยินคำว่า ความดีงามสูงขึ้น 1 ฟุต แต่ความชั่วร้ายสูงขึ้น 10 ฟุต* ไหม! หัวเราะที่หลังดังกว่าเยอะ
*เปรียบเทียบว่า ตอนนี้พบเจอกับความลำบากแล้ว ในภายภาคหน้าก็จะเจอความลำบากหนักยิ่งกว่านี้อีก
ต่อมาเขาก็ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่อย่างมิดชิด เพราะเขารู้ว่าฉู่เหินจะต้องออกตามหาเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นตอนนี้ทางที่ดีที่สุดก็คือซ่อนตัวเองให้มิดชิดที่สุด ด้วยวิธีนี้ก็รอแค่ให้การประลองสิ้นสุด ฉู่เหินก็ทำอะไรตัวเองไม่ได้แล้ว!
ทว่าฉู่เหินและคนอื่น ๆ กลับไม่ได้ทำเหมือนที่เขาคิด หลังจากที่ฉู่เหินจัดการพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ได้ออกตามหามิยาโมโตะ อิจิโร่ เพราะฉู่เหินรู้ว่าหมอนั้นฉลาด เกรงว่าคงซ่อนตัวอย่างดีไปเรียบร้อยแล้ว ออกตามหาเขาตอนนี้ก็มีแต่จะปวดหัวเปล่า ๆ!
ต่อมาฉู่เหินก็มาหุบเขาที่เพิ่งผ่านการสังหารไปอีกครั้ง ฉู่เหินอยากจะมาที่นี่เพื่อเก็บกวาด ต้องเข้าใจว่าที่นี่มีผู้แข่นขันกว่า 1,000 คนตายอยู่ที่นี่ ดังนั้นบนร่างกายของพวกเขาตอนมีของวิเศษล้ำค่าอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงที่นี่ฉู่เหินก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะเขาพบว่าค่ายกลสังหารของตัวเอง กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของหุบเขาไปแล้ว
หรือก็คือค่ายกลที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ได้กลายเป็นค่ายกลธรรมชาติไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็จะไม่สามารถควบคุมค่ายกลที่นี่ได้อีก แม้ว่าตัวเขาจะสามารถเคลื่อนย้ายให้ศัตรูมาอยู่ในที่นี้ได้ แต่ก็เพียงแค่ใช้ประโยชน์จากค่ายกลเท่านั้น เพราะค่ายกลที่นี่ได้หลุดจากได้ควบคุมของเขาไปแล้ว
อีกทั้งค่ายกลที่นี่ยังคล้ายจะมีพลังที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย บางทีอีกไม่นานน่ากลัวว่าที่นี่จะกลายเป็นลานสังหารอีกครั้งแน่ เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาที่นี่เด็ดขาด! อีกทั้งฉู่เหินยังสัมผัสได้ว่า ค่ายกลนี้คล้ายจะสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีจำกัด
ในอนาคตมันจะกลายเป็นยังไง แม้แต่ฉู่เหินก็เดาไม่ถูก บางทีในอนาคตที่นี่อาจจะมีจิตสำนึกเป็นของตัวเองก็ได้ ฉู่เหินคาดเดาเงียบ ๆ ในใจก่อนที่เขาจะหยดเลือดของตัวเองลงไปหนึ่งหยดที่บริเวณศูนย์กลางของค่ายกล! นี้เป็นเพียงการเตรียมการล่วงหน้า ถ้าวันข้างหน้าที่ค่ายกลแห่งนี้มีจิตสำนึกขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็ สายเลือดตระกูลฉู่ที่เข้ามาที่นี่จะไม่ถูกค่ายกลโจมตี
แม้ว่าวันนี้จะยังไม่เห็นผล แต่ในอนาคตอีกไม่รู้นานเท่าไหร่ ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก! ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำในวันนี้จะกลายเป็นที่พึ่งให้กับคนทั้งโลก!
คนอื่น ๆ ที่ยังเหลือรอดอยู่ก็คล้ายจะเสียสติไปแล้ว! เดิมทีก่อนหน้าฉู่เหินจะถูก 1,000 กว่าคนนี้โจมตี ก็ใกล้จะถึงกำหนดที่ตั้งเอาไว้ 1,000 คนแล้ว และหลังจบการฆ่าสังหารโหดไปเมื่อครู่ มันก็ทำให้คนที่เหลือเข้ารอบไปได้อย่างสบาย ๆ
เพียงแต่นิกายอันดับสองและสามต่างก็ส่งสายตาไม่เป็นมิตรมองมาที่ฉู่เหิน ต้องเข้าใจว่าที่ฉู่เหินฆ่าไป 1,000 กว่าคนนั้น เหมือนจะเป็นคนของพวกเขาทั้งหมด! เพียงพริบตาเดียวก็เสียลูกศิษย์ตัวเองไปเยอะขนาดนี้ ทำให้พวกเขาปวดใจมาก แต่เพราะอำนาจของตระกูลฉู่พวกเขาเลยทำได้แต่ปิดปากเงียบ!