บทที่365 สงสารจับใจ

“แม่ ทำไมคุณยังไม่นานอีก?” ลี่จุนถิงมองซูม่านลีด้วยความแปลกใจ

สุขภาพของซูม่านลีนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องรีบเข้านอนถึงจะถูก แต่เพราะว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ ซูม่านลีก็ตกใจเป็นอย่างมาก แล้วก็นอนไม่หลับมาจนถึงตอนนี้เลยล่ะ

ซูม่านลีกำหมัดเบาๆ ด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก: “ฉันวางใจไม่ได้เลยล่ะ……”

“แม่ ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อไม่เป็นอันตรายอะไรแล้ว จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณอยู่พอดีเลย” จู่ๆ ลี่จุนถิงก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เลยเปิดปากพูดกับซูม่านลี

ซูม่านลีอึ้งไป ก่อนจะยิ้มพลางพูดขึ้นว่า: “คุณอยากทำอะไรก็รีบไปทำเถอะ ไม่ต้องมาปรึกษากับคนแก่อย่างฉันก็ได้”

ลี่จุนถิงส่ายหัว ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง: “ถึงอย่างไรคุณก็เป็นแม่ของเจียงหยุนเอ๋อ เรื่องของเธอ ก็ต้องบอกคุณก่อน”

เมื่อเห็นท่าทีที่ลี่จุนถิงยกย่องเทิดทูนลูกสาวของตัวเองมากขนาดนี้ ซูม่านลีก็ยิ้มมุมปากขึ้นมาด้วยความดีใจ พลางส่งสายตาให้ลี่จุนถิงนั้นพูดต่อ

“ฉันอยากให้เจียงหยุนเอ๋อกับคุณเปลี่ยนโรงพยาบาลแบบลับๆ เพราะที่นี่……มันไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่”

เรื่องนี้ อันที่จริงก่อนหน้านี้ซูม่านลีก็เคยคิดมาก่อนแล้ว ในเมื่อลี่จุนถิงพูดออกมาพอดี เธอเลยตอบตกลงโดยไม่รีรอเลยล่ะ

“ฉันไม่ว่าอะไรอยู่แล้วล่ะ ถึงอย่างไรก็ทำเพื่อเจียงหยุนเอ๋อ……แต่ว่า ไม่รู้ว่าจะลำบากมากไหมนะ”

“ไม่เป็นไร เรื่องของเจียงหยุนเอ๋อ ไม่มีอะไรลำบากหรอก” ลี่จุนถิงพูดอย่างหนักแน่น

เมื่อได้ยินดังนั้น ซูม่านลีก็ไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่พยักหน้าตอบรับเท่านั้น

ตกดึก เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกส่งขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัว เพื่อแอบส่งตัวไป

เพราะเกรงว่าจะมีคนมาทำร้ายเจียงหยุนเอ๋ออีก ลี่จุนถิงเลยไม่อยากให้ข่าวการย้ายโรงพยาบาลของเจียงหยุนเอ๋อนั้นแพร่ออกไป เลยหาคนมาปลอมตัวมาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยแทนเจียงหยุนเอ๋อ

อีกด้านหนึ่ง การทำแบบนี้ก็จะปกปิดการเดินทางของเจียงหยุนเอ๋อได้เป็นอย่างดี ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นอดไม่ไหวจนต้องลงมือกับเจียงหยุนเอ๋ออีกครั้ง

แต่ถ้ามีอีกครั้งหนึ่ง ลี่จุนถิงจะไม่มีทางปล่อยให้คนนั้นลอยนวลไปได้ง่ายๆ แน่นอน

เพราะว่าตอนนี้เหนื่อยมากแล้ว ถึงเจียงหยุนเอ๋อจะถูกย้ายไปที่เครื่องบินส่วนตัว แต่ก็ไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมาเหมือนเคย

เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่ยังคงหลับใหล แววตาของลี่จุนถิงนั้นก็เต็มไปด้วยความสงสาร

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าเจอเรื่องร้ายๆ มามากแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อคงจะไม่กลายเป็นแบบนี้

ลี่จุนถิงคิด จากนั้นก็ใช้มือขึ้นหนึ่งจับหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ ถึงจะหลับใหลอยู่ แต่เจียงหยุนเอ๋อก็เหมือนจะตอบสนองด้วย โดยการคลอเคลียกับฝ่ามือของลี่จุนถิง

ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งนั้น ก็เป็นเช้าวันที่สองแล้ว

ตอนที่ลืมตาขึ้นมา เจียงหยุนเอ๋อยังไม่ทันจะทำอะไร แล้วก็ยังไม่รู้ว่าบรรยากาศรอบๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว

“เจียงหยุนเอ๋อ คุณฟื้นแล้วเหรอ” มีเสียงอ่อนโยนของซูม่านลีดังขึ้นมาข้างๆ หู เจียงหยุนเอ๋อเลยหันไป ก็พบว่าที่ที่อยู่นี้มันแปลกตาไป

“แม่ ที่นี่ที่ไหนเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วถาม

เพราะว่าลี่จุนถิงมีเรื่องต้องไปจัดการต่อ เลยดูแลข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อจนเช้าก่อนจะจากไป แต่ก็ยังจัดคนให้มาดูแลเจียงหยุนเอ๋อให้

ซูม่านลีตบหลังมือของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ ก่อนจะอธิบายอย่างใจเย็น: “ลี่จุนถิงบอกว่าที่โรงพยาบาลอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ดังนั้นเลยย้ายพวกเรามาที่บ้านพักตากอากาศข้างๆ น่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ทันใดนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็คิดว่าสิ่งที่ลี่จุนถิงทำนั้นมันมีเหตุผล

ศัตรูซ่อนตัวอยู่ในที่มืดแต่ฉันกลับอยู่ในที่สว่าง เจียงหยุนเอ๋อมีอันตรายอยู่รอบตัวมากมาย ยิ่งออกมาจากที่นั่นได้เร็ว ก็จะยิ่งปลอดภัยขึ้น

ดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อเลยพยักหน้าเบาๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจอะไรไปมากกว่านั้น

สำหรับเจียงหยุนเอ๋อนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการดูแลตัวเองให้ปลอดภัย แล้วก็……ดูแลลูกในท้องของตัวเองด้วย

ส่วนถวนจื่อ หลังจากที่พักฟื้นแล้ว ก็กลับไปเรียนตามเคย

มีคนดูแลโดยเฉพาะ ถวนจื่ออยู่ที่โรงเรียนอย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะมีช่วงที่ไม่ได้เจอถวนจื่อบ่อยๆ แต่ลี่จุนถิงก็บอกเจียงหยุนเอ๋ออยู่ แล้วพาถวนจื่อมาเจอเธออยู่บ้าง

ถวนจื่อนั้นเป็นเด็กดีมาก รู้ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เลยไม่งอแงเมื่อเจียงหยุนเอ๋อจากไปกะทันหัน ทำให้เจียงหยุนเอ๋อก็เบาใจลงได้เยอะ

เจียงหยุนเอ๋อนั้นอยู่ที่บ้านพักตากอากาศอย่างปลอดภัย คนใช้กับการรักษาพยาบาลก็ครบครันมาก ถึงอย่างไรลี่จุนถิงก็ลงทุนลงแรงไปเยอะ เลยจะไม่ให้ด้อยไปกว่าโรงพยาบาลเลยล่ะ

เมื่อเห็นแบบนี้ อันที่จริงในใจเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกไม่กล้าพูดออกมาอยู่ไม่น้อย เธอรู้ว่าลี่จุนถิงลงแรงเพื่อเธอมากขนาดไหน โดยไม่ต้องถามเลย ในใจเลยรู้สึกซึ้งใจขึ้นมาไม่น้อยเลยล่ะ

ในขณะเดียวกัน เจียงหยุนเอ๋อเองก็หวังว่าลี่จุนถิงจะหาคนร้ายได้ในเร็ววัน เธอถึงจะวางใจลงได้บ้าง

ในเวลานี้เอง ซู่จี้งยี้ก็จัดการสืบอย่างเข้มงวด แต่ก็ไม่เจอพยาบาลสาวคนนั้นเลย

ข้อสรุปนี้ทำให้คนต่างพากันงงไม่น้อยเลยล่ะ

ไม่มีงั้นเหรอ?แล้วคนที่อยากจะทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อในตอนแรกเป็นใครกันล่ะ?จะหายไปแบบไร้ร่องรอยไม่ได้สิ?

“เป็นไปได้ ว่าคนนั้นอาจจะทำศัลยกรรม จนไม่ได้ใช้ในหน้าที่แท้จริงแล้ว” ลี่จุนถิงคิดสักพัก ก่อนจะโพล่งออกมา

เมื่อคิดไปคิดมา ก็มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

ถึงแม้ว่าจะหาตัวจากใบหน้าไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเบาะแสอื่นอีก

หลายคนต่างตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว สุดท้ายก็พบว่าคนที่หายไปนั้นอยู่ในเขตเก่าแก่ที่หนึ่ง

“ที่นี่……” ในกลุ่มคนที่ดูเงาของพยาบาลสาวคนนั้นหายวับไป ซู่จี้งยี้ก็ขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นมา

ลี่จุนถิงกลับไม่เคยเจอที่แบบนั้นเลย เมื่อได้เห็นท่าทีของซู่จี้งยี้ เลยรู้สึกงุนงงไม่น้อย

“ทำไมเหรอ?มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า?”

ซู่จี้งยี้ส่ายหัว ในเมื่อลี่จุนถิงถามขึ้นแล้ว เขาเลยรีบตอบไป: “ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแค่ที่นี่มันวุ่นวายมากเลยล่ะ”

“วุ่นวายงั้นเหรอ?” ลี่จุนถิงเองก็ขมวดคิ้วเป็นปม เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

ซู่จี้งยี้พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะพูดเสริม: “ที่นั่นมีคนร้อยพ่อพันแม่เลย ส่วนมากเป็นคนงานที่มาจากข้างนอก คนร้ายน่าจะรู้จุดนี้ เลยมั่วสุมเข้าไปเพื่อหลีกจากก้องวงจรปิดน่ะ”