ตอนที่ 222 ของขวัญชิ้นใหญ่เพื่อล่อลวงหลี่ฉางโซ่ว (2)
อวิ๋นเซียวยิ้มและกล่าวว่า “ข้าได้ยินจากรองเจ้าสำนักเทพทะเลมาว่า เจ้าชื่นชอบภาพวาด ข้ามิใช่ผู้ทรงภูมิสูงส่งอะไรเช่นกัน รู้เพียงแค่เรื่องการฝึกบำเพ็ญเท่านั้น แต่ข้าก็ยังเก็บภาพวาดสองสามภาพเอาไว้ หวังมอบภาพวาดนี้ให้สหายเต๋าเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเหลือเอาไว้”
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสขอรับ”
หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับและหยิบม้วนภาพวาดด้วยมือทั้งสองเอาไว้พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในเมื่อเป็นเพียงภาพวาด…เช่นนั้นก็ไม่มีกรรมมากนัก
เขาอยากเก็บมันเอาไว้ในทันที แต่อวิ๋นเซียวกลับกล่าวเบาๆ อีกครั้งว่า “ไม่อยากเปิดดูก่อนหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบา ๆ เขาเป็นเพียงตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋า จึงไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของเขามากนัก อย่างมากที่สุด เขาก็จะสละพลังปราณวิญญาณส่วนเล็ก ๆ ไปเท่านั้น
หลี่ฉางโซ่วสะบัดแส้หางม้าและใช้พลังเซียนประคองภาพเอาไว้ ก่อนจะคลายเชือกผ้าที่ผูกไว้อย่างระมัดระวังและค่อยๆ เปิดม้วนภาพวาดออกช้าๆ
มันเป็นภาพภูเขาแม่น้ำที่วาดด้วยหมึก
ทันทีที่มองแวบแรก หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกว่าจังหวะที่พู่กันลงหมึกไปนั้น ช่างสมบูรณ์ สด สง่างามและมีศิลปะ แต่แล้วหลี่ฉางโซ่วก็ถูกดึงความคิดเข้าไปอย่างรวดเร็ว
อัศจรรย์นัก!
เมื่อมองดูผืนน้ำ เขาก็เห็นคลื่นน้ำค่อยๆ กระเพื่อมเป็นระลอกและฉายแสงกะพริบบางๆ
เมื่อมองดูภูเขา ก็เห็นยอดเขามีร่องหลืบและช่องทางอันตรายเป็นชั้น ๆ ซ้อนกันจนทำให้ผู้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเมฆล่องลอยอยู่บนภูเขา…
แต่ในขณะที่มองดู หลี่ฉางโซวก็รู้สึกว่าน้ำดูเหมือนจะเคลื่อนไหว มีแสงเล็กๆ สาดส่องผ่านเข้ามาข้างใน และมีเมฆขาวลอยออกมาจากภูเขา เมื่อมองด้วยตา ก็เหมือนมันจะสะท้อนเข้ามาอยู่ในใจของเขา
จากนั้นอักขระเต๋าก็หลั่งไหลออกมาจากม้วนภาพวาดแล้วเข้าล้อมรอบตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว
ในเวลาเดียวกันนั้น ในห้องลับใต้ดินของยอดเขาหยกน้อย ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็ถูกอักขระเต๋าเข้ารายล้อมพัวพันกัน
นี่คือ…
ภาพเหตุการณ์นี้ปรากฏขึ้นในใจของหลี่ฉางโซ่วอย่างกะทันหัน
ร่างสูงตรงยืนอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ ยกมือขึ้นและฟาดกระบี่สะบั้นฟ้า และมีโลกใบเล็กปรากฏขึ้นมาในลำแสงกระบี่นั้น…
นะ นี่ คือ…
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็สัมผัสได้ถึงคลื่นแห่งการตรัสรู้ในใจของเขา แรงบันดาลใจของเขาพุ่งออกมาราวกับน้ำพุบนภูเขา และทันใดนั้น ขอบเขตพลังของเขาก็ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว! ไม่เพียงเท่านั้น ในขณะนี้ พลังเวทต่อสู้หลักของหลี่ฉางโซ่ว ‘การเขียนและสร้างพระสูตร’ กำลังเปลี่ยนแปลงด้วยตัวมันเอง ราวกับว่ามันถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันโดยตรง แล้วร่างนั้นก็ฟาดกระบี่สะบั้นสวรรค์!
อันใดกัน… ภาพวาดนี้มีต้นกำเนิดอย่างไร !?!
ในวิหารเทพทะเล อวิ๋นเซียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นอักขระเต๋าปรากฏขึ้น
นางแอบคิดในใจว่า เทพแห่งท้องทะเลผู้นี้ทรงพลังหยั่งรู้ยิ่ง
อาจารย์ของนางซึ่งเป็นปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพซันชิง เจ้าสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย เป็นผู้มอบภาพภูเขาแม่น้ำนี้ให้นาง มันเป็นงานที่น่าภาคภูมิใจของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ ทงเทียนเจี้ยวจู่ แม้จะไม่ได้มีพลังเวทใด ๆ แต่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ก็ได้ฝังอักขระเต๋าเสี้ยวหนึ่งของเขาเอาไว้ในนั้น
เทพธิดาอวิ๋นเซียวมอบภาพวาดนี้ให้กับเทพแห่งท้องทะเลเพียงเพราะได้ยินจากอ๋าวอี่ว่า เทพแห่งท้องทะเลผู้นี้ ชื่นชอบภาพวาดเป็นพิเศษ
แต่นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าเทพแห่งท้องทะเลผู้ลึกลับจะสัมผัสได้ถึงเสี้ยวอักขระเต๋าที่อาจารย์ของนางมอบไว้ในนั้นได้ในทันทีที่เขาเห็นภาพวาดนี้…
เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องเบาๆ จากร่างจำแลงของเทพแห่งท้องทะเลนี้ เทพธิดาอวิ๋นเซียวก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนทันที …
นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการทะยานขึ้นสู่ขอบเขตพลังที่สูงขึ้นไป
ในห้องลับใต้ดินของยอดเขาหยกน้อย จู่ๆ หลี่ฉางโซ่วก็ลืมตาขึ้น มีแสงสีเขียวสาดประกายอยู่รอบตัวเขา และมีบงกชระดับสิบสองก่อกำเนิดขึ้นมาในแสงสีเขียว มันเข้าล้อมรอบตัวเขา และเบ่งบานอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้อิทธิพลของอักขระเต๋าที่สัมผัสได้นั้น เขาก็บรรลุเต๋าแห่งเซียนเทียนสมบูรณ์แบบในทันที!
แต่ในขณะนั้น อักขระเต๋าที่ลึกลับและคลุมเครือยังคงให้การรู้แจ้งแก่เขาและกระตุ้นแสงวิญญาณในใจของเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทะลวงด่านฐานพลังขึ้นไปตลอดทางจนพุ่งไปสู่ขอบเขตเซียนเทียนขั้นสูงสุดโดยตรง!
ม้วนภาพวาดนี้คืออะไร? ข้าจะไม่ต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์เซียนจินใช่หรือไม่ หากข้าบรรลุผ่านไปสู่ขอบเขตเซียนเทียนขั้นสูงสุดได้โดยตรง? อวิ๋นเซียวไม่ได้สร้างปัญหาให้ข้าใช่หรือไม่!?
ข้าเพิ่งเริ่มเตรียมตัวสำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจิน ข้าเหลือเวลาเตรียมตัวอีกสามพันปี และยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทัณฑ์สวรรค์เซียนจินเลย!
ยามนี้ ข้ามีโอกาสเพียงเจ็ดในสิบส่วนเท่านั้นที่จะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้ และในภายหน้า ข้าจะมีโอกาสข้ามผ่านได้สำเร็จเก้าสิบห้าในร้อยส่วน แล้วนี่จะไม่เหมือนกับการรนหาที่ตายอย่างไร้ประโยชน์หรอกหรือ!?! ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?!
หลี่ฉางโซ่วร้องตะโกนหวนไห้อย่างบ้าคลั่งในใจ แต่อักขระเต๋านั้นทรงพลังแข็งแกร่งเกินไป พวกมันกำลังบีบบังคับและดึงเขาให้ไปเผชิญหน้าทัณฑ์สวรรค์เซียนจิน…
เกิดอันใดขึ้น?
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ตัดสินใจเปิดใช้งานแผนฉุกเฉินอย่างเด็ดขาด แล้วประกบมือทั้งสองข้างทันที ฉับพลันนั้น คลื่นพลังเซียนก็ระเบิดพลังออกมา แล้วทำลายโต๊ะและตู้หนังสือในห้องลับใต้ดินไปในพริบตา!
หลี่ฉางโซ่วนั่งเหนือพื้นดินสามฉื่อแล้วตะโกนว่า “บรรพชนไท่ชิงตัดเต๋า! เร็วเข้า รีบทำตามกฎด่วน!”
ทันใดนั้น กระบี่สีเขียวขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเขา และตรงกลางกระบี่นั้นก็มีแผนภาพไทจี๋
หลี่ฉางโซ่วสวด ‘ไท่ชิงเต๋าหาน’ แล้วกวาดล้างอักขระเต๋าที่ทรงพลังกดดันในใจของเขาออกไป เขาควบคุมจังหวะการทะลวงด่านด้วยตัวเอง ก่อนจะฉวยประโยชน์จากสถานการณ์ไปตามกระแสเพื่อเพิ่มความเข้มข้น จากนั้นก็หยิบยันต์หยกออกมา แล้วสวด ‘ไท่ชิงเต๋าหาน’ ใส่ไปเต็มเล่มอย่างครบถ้วน เขารีบสวดให้จบต่อหน้าเขา! ในขณะนั้น ในที่สุด หลี่ฉางโซ่วก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดจู่ๆ เขาถึงหยั่งรู้ได้อย่างลึกซึ้งมากมาย
ม้วนภาพวาดนี้ต้องมาจากเจ้าสำนักบำเพ็ญเต๋า ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียนเจี้ยวจู่แน่นอน!
อักขระเต๋าที่ไร้เหตุผลนั้นคือ อักขระเต๋าแห่งปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพเจ้าสำนักบำเพ็ญเต๋า ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียนเจี้ยวจู่!
ผู้ใดจะให้เหตุผลกับข้าที่นี่ได้บ้าง!?! เทพธิดาอวิ๋นเซียวเพียงตอบแทนน้ำใจเท่านั้น แต่นางกลับมอบงานที่แท้จริง ซึ่งเปิดเผยตัวตนของปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพให้โดยตรง!
ในขณะนั้น อักขระเต๋าของจอมปราชญ์เทพทั้งสองได้เข้าพัวพันกันอยู่ในหัวใจเต๋าของเขา ทันใดนั้น การรับรู้ของหลี่ฉางโซ่วกว้างไกลดั่งเปลวควัน และพลังปราณของเขาก็พุ่งทะยานไปถึงเซียนเทียนขั้นสูงสุดทันที!
บัดนั้น ก็เกิดลมกระโชกแรงขึ้นบนยอดเขาหยกน้อย แล้วจู่ๆ ท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดวงดาว ก็ถูกเมฆดำบดบัง และฉับพลันนั้น พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่ก็ส่งแรงกดดันลงมา!
ทว่า!
ในห้องใต้ดินลับ หลี่ฉางโซ่วยกมือขึ้นถือกระบี่แสงสีเขียวไว้ข้างหน้าแล้วร้องตะโกนเบา ๆ ว่า “เต๋านี้ยังมีข้อบกพร่องอยู่ ข้ายังรู้สึกผิดหวังกับเต๋านี้อยู่บ้าง วันนี้ ข้ายังไม่อยากเป็นเซียนจิน ข้าเพียงหวังว่าจะได้บรรลุเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่สมบูรณ์แบบในภายหน้า และไปถึงเซียนต้าหลัวจิน! สะบั้นแรก ข้อบกพร่องของฐานเต๋า! สะบั้นที่สอง จุดที่คลุมเครือ! สะบั้นที่สาม มันยังไม่สมบูรณ์!”
หลี่ฉางโซ่วถือกระบี่ใหญ่แล้วฟันตรงที่หน้าผากของเขา ทำให้เกิดเสียงดังลั่น!
เต๋าอันยิ่งใหญ่สั่นสะท้านและสายฟ้าคำรามดังกึกก้องในยอดเขาหยกน้อย!
“พรึ่บ…”
หลี่ฉางโซ่วกระอักเลือดที่เต็มไปด้วยแสงเซียนเจ็ดสีออกมา และขณะที่เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ระดับพลังของเขาก็ลดจากเซียนเทียนขั้นสูงสุดลงสู่เซียนเทียนขั้นกลางอย่างรวดเร็ว!
มีควันบางๆ ลอยออกมาจากเลือดที่กระอักออกมา แล้วก่อตัวขึ้นเป็นร่างเงาของหลี่ฉางโซ่วเอง
หลี่ฉางโซ่วโบกมือและทำลายร่างเงานั้นทันที!
ในขณะนั้น พลังแห่งสวรรค์อันยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านนอกของยอดเขาหยกน้อย ก็สลายหายไปในทันที!
เขาต้องการบรรลุความสมบูรณ์แบบในการตัดเต๋า เขาต้องการความชัดเจนและเป็นจริง!
การรับรู้ในร่างของเขายังคงเพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มฐานพลังของเขาขึ้นไปอีกครั้ง และพุ่งเข้าสู่เซียนเทียนระดับสูง และกำลังเข้าใกล้การบรรลุสู่ขั้นสมบูรณ์แบบอีกครั้ง…
ในที่สุด คราวนี้ เขาก็อยู่ห่างจากขั้นสมบูรณ์แบบไปก้าวหนึ่ง แล้วอักขระเต๋าของจอมปราชญ์เทพทั้งสองก็สลายหายไปเงียบๆ
เมื่อครู่นี้… เขาเพิ่งตัดขอบเขตพลังของเขาเองและรวมรากฐานเต๋าของเขา
วิธีนี้เรียกว่า ‘ตัดเต๋า’ และเป้าประสงค์ของมันคือ ทำให้รากฐานเต๋าสมบูรณ์แบบ มันแพร่หลายไปในโลกบรรพกาลอย่างกว้างขวางและไม่ใช่พลังเวทที่ทรงพลัง
เมื่อเต๋าของผู้หนึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็จะมีข้อบกพร่อง และสิ่งที่ไร้ประโยชน์เกิดขึ้น ทั้งยังมีอันตรายซ่อนอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกบำเพ็ญนับไม่ถ้วนอยากทำ แต่ไม่กล้าทำ หลี่ฉางโซ่วตัดสินใจทำในวันนี้… ความจริงแล้ว เพราะเขาสรุปได้ว่า หากเขาไม่อาจยับยั้งขอบเขตพลังของเขาได้ เขาก็จะต้องฆ่าตัวเอง อย่างมากที่สุด เขาจะตกอยู่เพียงแค่เซียนเทียนระดับต้นเท่านั้น
หากเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนเทียนธรรมดา การใช้วิธีนั้นจะทำให้ขอบเขตเต๋าของพวกเขาล่มสลายอย่างรุนแรงและทำลายรากฐานเต๋าของพวกเขาเอง
แต่ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะกลายเป็นเซียน เขามีฐานเต๋าแข็งแกร่งและรากฐานของเขาก็มั่นคง เขาฝึกฝนเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดมาจากบรรพชนไท่ชิง เขาจึงทำได้เพียงแต่ใช้การตัดเต๋าเพื่อยับยั้งการเติบโตไว้ที่เซียนเทียนระดับกลาง เขายังยืมอักขระเต๋าของจอมปราชญ์เทพทั้งสองคนเพื่อฟื้นระดับพลังดั้งเดิมของเขา …
นี่ไม่ใช่เรื่องเปล่าประโยชน์
ในขณะนั้น ฐานเต๋าของหลี่ฉางโซ่ว ก็แข็งแกร่งราวกับหิน และขอบเขตเต๋าของเขาพลันมั่นคงอย่างยิ่ง ปราณวิญญาณของเขามีแสงสีเขียวและล้อมรอบไปด้วยกลิ่นอายบริสุทธิ์กระจ่างชัดเจน
แม้จะยังคงอยู่ในขอบเขตพลังเดิม แต่ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามส่วน และโอกาสที่เขาจะรอดพ้นจากการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินก็เพิ่มขึ้นมาก…
นับเป็นโชคที่ปลอมตัว และเขาบังเอิญค้นพบวิธีที่ดีในยับยั้งขอบเขตพลังของเขา ในขณะนี้ บุญจากเครื่องสักการะเหล่านั้นจะค่อนข้างขุ่นเมื่อเทียบกับพลังปราณวิญญาณของเขา
ในที่สุด…
อย่างไรก็ตาม หลี่ฉางโซ่วก็ไม่มีเวลาพักผ่อน เขามีปฏิกิริยาตอบสนองทันทีที่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าทั้งสองของเขา
ในวิหารเทพทะเล ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทรุดตัวลงนอนไปกับพื้นแล้วกลายเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งในขณะที่พลังเซียนในตัวมันหายไปอย่างรวดเร็ว
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่อยู่หน้าหอโอสถของยอดเขาหยกน้อยก็เป็นเฉกเช่นกัน มันได้เผยร่างจริงของของกระดาษวางอยู่ที่นั่นโดยที่พลังเซียนในตัวมันก็สลายไป
เทพธิดาอวิ๋นเซียวรีบตะโกนเรียกหาว่า “สหายเต๋า” ในขณะที่โหย่วฉินเสวียนหย่าดูสับสนมึนงง…
ในขณะนั้น ก็มีแสงสีทองพุ่งออกมาจากยอดเขาพิชิตสวรรค์แล้วตรงไปทางหอโอสถของยอดเขาหยกน้อย…
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วลิงโลดใจยิ่ง!
……………………………………………………………………