ตอนที่ 376 ชาวบ้านมาขอบคุณ

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 376 ชาวบ้านมาขอบคุณ

เชือดไก่ง่าย แต่จับไก่ยาก ยากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า

หลินม่ายหยิบข้าวหนึ่งกำไปที่สวนหลังบ้าน ร้องเรียกกุ๊กๆ หลอกล่อให้ไก่ทุกตัวของคุณย่าฟางที่หาอาหารอยู่ด้านนอกเข้ามาที่หลังบ้าน จากนั้นปิดประตูหลัง แอบเข้าไปทางด้านหลังเพื่อจับไก่

ไม่คิดเลยว่าไก่พวกนั้นจะตื่นตัวมาก นิ้วของหลินม่ายยังไม่ทันโดนตัว พวกมันก็ส่งเสียงร้องอย่างตกใจและวิ่งหนีไป

ไก่ตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่ขนเงาสวยถือโอกาสที่วุ่นวายนี้จิกหลินม่าย

ชีวิตเดิมของหลินม่ายเคยโดนแค่ไก่ตัวเล็กจิก

นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่โดนไก่โตเต็มวัยจิกเข้า ผิวตรงที่โดนจิกเป็นแผล เจ็บจนแทบจะน้ำตาไหล

เธอกับไก่ตัวนั้นนับว่ามีเรื่องบาดหมางกันแล้ว จึงวิ่งขึ้นวิ่งลงต้องการจับมันให้ได้

เสียงอึกทึกที่เกิดจากหนึ่งคนหนึ่งไก่ดังเกินไป สร้างความตกใจให้คุณปู่คุณย่าฟางและโต้วโต้ว พวกเขาทั้งหมดจึงเข้ามาร่วมในสงครามจับไก่ตัวใหญ่ตัวนี้ แต่ก็จับมันไม่ได้

สุดท้าย คุณปู่ฟางนำอาวุธพิเศษออกมา นั่นก็คือแหจับปลา โยนมันเข้าไปจึงดักไก่ตัวนั้นไว้ในแหได้

ไก่ตัวโตกลัวมาก วิ่งแตกตื่นไปซ้ายทีขวาที ร้องด้วยความตกใจ

ขณะที่หลินม่ายกำลังลับมีดและเดินไปทางที่มันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเสียก่อน

คุณย่าฟางรีบวิ่งไปเปิดประตู

หน้าบ้านมีชาวบ้านยืนกันอยู่หลายคน

มีคนหิ้วแม่ไก่ถูกผูกปีกอยู่ในมือและมีคนหิ้วปลาช่อนจีนตัวใหญ่ที่ถูกผูกเอาไว้ด้วยฟาง

และยังมีคนเอาเต้าหู้ที่ทำเอง ของอื่นๆ ที่ทำจากถั่วเหลือง ไปจนถึงไข่ไก่ กะหล่ำปลีดอง และอีกมากมายมาให้

มีกระทั่งชายหนุ่มถือหม้อใบใหญ่ที่มีหอยขมอยู่เกินครึ่งและสตรอเบอรี่ป่า

คุณย่าฟางถามด้วยความแปลกใจ “พวกคุณ…มาทำอะไรกัน?”

ชาวบ้านที่หิ้วแม่ไก่อยู่ยิ้มและตอบว่า

“เมื่อกี้ฉันผ่านไปทางหลังบ้านของคุณ ได้ยินเสียงบ้านคุณกำลังจับไก่ไปทำกับข้าว ฉันเลยเอาแม่ไก่ที่ไม่ออกไข่แล้วมาให้พวกคุณกินกันตัวหนึ่ง”

เขาบุ้ยปากไปทางชาวบ้านคนอื่น “พวกเขาเห็นฉันเอาแม่ไก่มาให้คุณ ก็เลยตามเอาของมาให้ด้วย”

ชาวบ้านคนอื่นๆ พูดขึ้นพร้อมกัน “นานๆ ม่ายจื่อกลับมาที่เมืองซื่อเหม่ยที พวกเราก็เลยเอาของที่ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรมาให้ คุณย่าฟางอย่ารังเกียจเลยนะ”

“คนกันเองทั้งนั้น รังเกียจอะไรล่ะ” คุณย่าฟางโบกมือแล้วตอบว่า “ฉันซาบซึ้งในน้ำใจของพวกคุณมาก แต่วันนี้พวกเราจับไก่ได้แล้วตัวหนึ่ง ตอนเย็นมีเนื้อไก่กินแล้ว ทุกคนรีบเอาของกลับไปเถอะ”

ชาวบ้านที่หิ้วปลาช่อนจีนตัวใหญ่เอ่ยขึ้น “คุณจะไม่รับของคนอื่นก็ตามใจ แต่ต้องรับปลาของฉันไปนะ ปลาตัวนี้จับได้ในบ่อน้ำ ไม่ได้เสียเงินสักเฟินเลย”

คุณย่าฟางพูดอย่างจริงจัง “ไม่เสียเงินสักเฟิน แต่ก็เสียแรงจับมานะ แถมปลาช่อนจีนยังเป็นของดี คลายร้อนและบำรุงร่างกายได้ คุณเอาไปขายที่ตลาดยังได้เงิน”

ชาวบ้านที่หิ้วปลายิ้ม “ม่ายจื่อส่งคนมารับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากเราตลอด พวกเราได้เงินจากหล่อนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว จะสนใจเงินไม่กี่เฟินจากการขายปลาได้เหรอ? คุณรับปลาตัวนี้ไว้เถอะ เผาให้ม่ายจื่อและโต้วโต้วกินก็ได้ ถือเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากฉัน”

คุณย่าฟางรีบตอบ “ไม่เป็นไรจริงๆ ถ้าคุณไม่อยากขายก็เอากลับไปทำน้ำแกงให้เด็กที่บ้านคุณกินดีกว่า เด็กๆ กำลังโตต้องได้กินของดีๆ”

คนหิ้วปลาตอบอีกว่า “ถ้าพวกเขาอยากกินปลาก็เอาแหไปดักกันเองได้ คุณย่าฟางรับไปเถอะ”

ให้ตายคุณย่าฟางก็ไม่รับ

เด็กหนุ่มข้างๆ ที่ถือหอยขมและสตรอเบอรี่ก็เอ่ยขึ้น “คุณย่าฟาง ของผมเองก็ไม่มีราคาอะไร คุณรับไปเถอะนะ”

คุณย่าฟางเหลือบมองหอยขมในหม้อแล้วตอบว่า “เอาหอยขมไว้ก็ได้ แต่เอาสตรอเบอรี่กลับไปให้น้องๆ กินเถอะ”

แม้หอยขมที่นี่จะตัวอวบอ้วน แต่คนพื้นที่ไม่นิยมกิน ส่วนใหญ่จะจับมาให้เป็ดโดยเฉพาะเป็ดที่วางไข่กิน

เด็กชายคนนั้นจึงไม่พูดอะไร เอาหม้อหอยขมและตะกร้าสตรอเบอรี่วางลงแล้ววิ่งหนีไป

ชาวบ้านคนอื่นเห็นดังนั้นจึงพูดว่า “คุณย่าฟาง อย่าลำเอียงรับแต่ของเจ้าหนุ่มฟู่เฉียงสิ ต้องรับของพวกเราด้วย!”

พวกเขานำของที่ตนเองถือมาวางลงแล้ววิ่งหนีไปเช่นกัน

คุณย่าฟางไม่มีทางเลือกนอกจากรับมันไว้

นางหันกลับไปทางสวนหลังบ้านและตะโกนว่า “ไม่ต้องเชือดไก่แล้ว ชาวบ้านเอาของมาให้เยอะแยะ ตอนเย็นจะได้กินมื้อใหญ่กัน!”

โต้วโต้วตบมืออย่างมีความสุข “ตอนเย็นได้กินมื้อใหญ่แล้ว! ตอนเย็นได้กินมื้อใหญ่แล้ว!”

คุณปู่ฟางบีบใบหน้าอ้วนๆ ของหล่อน “ดูเธอดีใจเข้าสิ!”

หลินม่ายทำได้เพียงปล่อยไก่ตัวโตที่หวาดกลัวไปจากแห “ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อนแล้วกัน”

ทันทีที่ไก่ตัวใหญ่หลุดจากแหไปได้ มันก็รีบวิ่งหนีไปไกลและยังคงมีท่าทางตื่นกลัว วิ่งไปร้องไปไม่หยุด

ทุกคนกลับไปถึงโถงกลาง ช่วยคุณย่าฟางถือของที่ชาวบ้านเอามาให้

หลินม่ายเอ่ยถาม “ใครเอาหอยขมมาให้คะ?”

ของที่ชาวบ้านคนอื่นเอามาให้ล้วนขายได้ มีเพียงคนเดียวที่นำของที่ขายไม่ได้มาให้พวกเขา

คุณปู่ฟางลองเดา “น่าจะเป็นเจ้าเด็กฟู่เฉียงเอามาให้”

“เขานั่นแหละ!” คุณย่าฟางพูดกับหลินม่ายว่า “ฐานะที่บ้านของเจ้าเด็กฟู่เฉียงไม่ค่อยดี พ่อของเขาป่วยกระเสาะกระแส แม่ก็เป็นบ้า ยังมีน้องน้องชายน้องสาวอีก ทั้งบ้านลำบากกันมาก ให้ได้แค่นี้แหละ”

หลินม่ายยิ้มรับ “ของพวกนี้ดีมากเลยค่ะ ในเมืองหาซื้อสตรอเบอรี่ป่าไม่ได้นะคะ แถมยังมีหอยขมพวกนี้อีก ทำแกงหอยขมเผ็ดได้อร่อยมาก”

เมื่อโต้วโต้วได้ยินดังนั้นจึงดึงกระโปรงของหลินม่ายอย่างเอาแต่ใจ “แม่คะๆๆ หนูอยากกินหอยขมเผ็ด”

หลินม่ายบีบจมูกเล็กๆ ของหล่อน “ลูกก็รู้จักแต่กินนะ หอยขมพวกนี้ต้องวางทิ้งไว้สองสามวันให้คายสิ่งสกปรกข้างในออกมาก่อนถึงจะกินได้”

เย็นวันนั้น ทุกคนไม่เพียงแต่ได้ดื่มน้ำแกงไก่แสนอร่อยเท่านั้น ยังได้กินปลาต้มผักดอง เต้าหู้หม่าโฝ และอื่นๆ อีก

บนโต๊ะอาหารค่ำ หลินม่ายก็บอกว่าอยากให้คุณปู่คุณย่าฟางกลับไปอยู่ที่เจียงเฉิงกับเธอด้วย

เธอคีบน่องไก่สองข้างให้ทั้งสองคน “คุณปู่คุณย่า อย่ากังวลเลยค่ะว่าจะไม่มีที่อยู่ในเมือง

ฉันซื้อตึกแบบตะวันตกเล็กๆ เอาไว้แล้ว พื้นที่กว้างขวาง แค่ชั้นหนึ่งก็มีพื้นที่ร้อยสองร้อยตารางเมตรแล้ว

ชั้นสามทั้งชั้นเป็นพื้นที่อยู่อาศัย แต่ก็กว้างขวางดี ไม่ต่างกับบ้านที่คุณปู่คุณย่าอยู่ตอนนี้เลยค่ะ”

โต้วโต้วพูดแทรกขึ้นมา “แม่เก็บห้องใหญ่ไว้ให้กับปู่ทวดย่าทวดแล้วค่ะ ปู่ทวดย่าทวดไปอยู่กับพวกเราเถอะนะคะ พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน”

คุณย่าฟางเอาน่องไก่ที่หลินม่ายให้ตนส่งต่อให้โต้วโต้ว

คุณปู่ฟางเองก็เอาน่องไก่อีกน่องให้โต้วโต้วเช่นกัน

โต้วโต้วที่ได้น่องไก่สองน้องกระโดดบนเก้าอี้อย่างเบิกบานใจ

หลินม่ายพูดอย่างจริงจังว่า “คราวก่อนแม่บอกเรื่องการเคารพผู้ใหญ่ไป ลืมแล้วเหรอ?”

โต้วโต้วได้ฟังดังนั้นจึงต้องแบ่งของรัก เอาน่องไก่ทั้งสองกลับไปคืน “ปู่ทวดย่าทวดกินเลยค่ะ หนูอยู่บ้านก็ได้กินน่องไก่ตลอด”

ไม่ง่ายเลยที่คุณปู่คุณย่าฟางจะได้เห็นโต้วโต้วแสดงความรักเช่นนี้ ไหนเลยจะกินน่องไก่ลง

จึงถือชามของตัวเองไปไว้ไกลๆ ไม่ให้เจ้าตัวน้อยวางน่องไก่ลงในชามได้

คุณย่าฟางตอบด้วยความรักใคร่ “โต้วโต้วเด็กดี ปู่ทวดย่าทวดไม่กินน่องไก่ โต้วโต้วกินเลย กินแล้วจะได้แข็งแรงและตัวสูง”

หลินม่ายมองดูคนแก่และเด็กสามคนเกี่ยงกันให้น่องไก่กันไปมาก็ถอนหายใจเบาๆ

พูดกับสองสามีภรรยาฟางง่า “คุณปู่คุณย่าต้องกินน่องไก่ค่ะ”

คุณปู่ฟางเหลือบมองอย่างขุ่นเคืองแล้วตอบว่า “พวกเราสองคนกินไม่กินก็ช่างเถอะ โต้วโต้วสุขภาพไม่แข็งแรง ให้หล่อนกินอาหารเยอะๆ หน่อย จะได้แข็งแรงขึ้น”

หลินม่ายตอบ “อาหารที่บ้านเราไม่ขาดอะไรค่ะ เดี๋ยวคุณปู่คุณย่าไปอยู่ด้วยกันแล้วก็รู้ โต้วโต้วไม่ได้ขาดสารอาหาร คุณปู่คุณย่าไม่ต้องกังวลเรื่องสารอาหารไม่พอเลยค่ะ แต่คุณปู่คุณย่าเอาของดีๆ ให้โต้วโต้วกินทุกครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เด็กคนนี้จะคิดว่าทุกอย่างเป็นของตัวเองแน่นอน ในใจไม่รู้สึกขอบคุณ และไม่เข้าใจเรื่องความกตัญญู วันไหนที่คุณปู่คุณย่าให้หล่อนไม่ได้ หล่อนอาจจะรู้สึกไม่พอใจ”

โต้วโต้วได้ฟังคำพูดนั้นจึงตอบหลินม่ายไปอย่างจริงจังว่า “แม่ หนูจะกตัญญูต่อแม่และปู่ทวดย่าทวดตลอดไป ทุกคนดีกับหนูที่สุดแล้ว”

หลินม่ายตอบอย่างอ่อนโยนว่า “ลูกต้องจำสิ่งที่ลูกพูดวันนี้ไปตลอดชีวิตนะ และในอนาคตต้องทำมันให้ดี”

เจ้าตัวน้อยพยักหน้าอย่างหนักแน่น

……………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ทำดีไว้เยอะ ก็ได้รับการตอบแทนที่ดีแบบนี้แหละค่ะ

ไหหม่า(海馬)