เฝิงเหล่าฮูหยินพูดรวบรัดออกมาว่าให้ยึดอำนาจการดูแลเรือนของเซียวซื่อ โดยไม่สนใจว่าเซียวซื่อจะรับได้หรือไม่ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหาเจียงซื่อ “ซื่อเอ๋อร์กลับเรือนฉือซินกับย่าเถอะ ย่ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
เจียงซื่อมองไปยังมือที่เต็มไปด้วยรอยย่นด้วยสายตาเย็นชา “หากยังไม่รีบไปกินซาลาเปาเนื้อที่อาหมานซื้อมาให้มันก็คงจะเย็นชืดหมด รอข้าทานอาหารเช้าเสร็จเดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้าค่ะ”
พูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับอาหมาน โดยไม่ได้สนใจเฝิงเหล่าฮูหยินที่ยืนทำหน้าแข็งทื่ออยู่
เฝิงเหล่าฮูหยินถูกหักหน้าต่อหน้าทุกคน ทว่านางก็ทำได้แค่เก็บมันไว้ในใจ แล้วสั่งให้คนรับใช้ไปเชิญเจียงอันเฉิงกับนายท่านรองกลับจวน
เมื่อกลับมาถึงเรือนไห่ถัง อาหมานกอดแขนเจียงซื่อมาเขย่าอย่างอดไม่ได้ “อ๊ากกก คุณหนู คุณหนูจะเป็นพระชายาอ๋องแล้ว!”
อาเฉี่ยวยืนมองแขนอีกข้างหนึ่งของเจียงซื่ออยู่ข้างๆ
ถึงแม้จะอยากทำเหมือนที่อาหมานทำ แต่ว่า…คุณหนูต้องการตำแหน่งพราชายาอ๋องจริงๆ หรือ
นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงชายหนุ่มที่มักจะมาในยามกลางค่ำกลางคืน แถมบางครั้งยังทำนางหน้าแดงระเรื่อเพราะได้ยินเขาเอ่ยคำรักหวานอีกด้วย
คุณหนูไม่ได้ถูกใจเยี่ยนอ๋องอะไรนั่นสักหน่อย แต่เป็นคุณชายอวี๋ต่างหาก
อาเฉี่ยวมองเจียงซื่อด้วยความกังวล “คุณหนู…”
อาหมานเหมือนจะนึกอะไรออก จู่ๆ ก็นิ่งไป พลางเอ่ยขึ้นโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว “คุณหนู ถ้าท่านกลายเป็นพระชายาอ๋องแล้ว เช่นนั้นคุณชายอวี๋ล่ะเจ้าคะ!”
เมื่อครู่มัวแต่ดีใจแทนคุณหนูที่ได้ลืมตาอ้าปาก ลืมคุณชายอวี๋ไปได้ยังไงนะ
หน้าต่างในจวนของเยี่ยนอ๋องคงไม่ได้เปิดได้สะดวกเหมือนกับที่จวนปั๋ว
เจียงซื่อยิ้มอย่างไร้ซึ่งความกังวล “คุณชายอวี๋ก็คือเยี่ยนอ๋อง”
“อะไรนะเจ้าคะ!” สาวรับใช้ทั้งสองตกใจกันยกใหญ่
อาหมานออกแรงกระทุ้งอาเฉี่ยวเบาๆ “อาเฉี่ยว เจ้าหยิกข้าหน่อย ดูสิว่าข้ากำลังฝันอยู่รึเปล่า”
หลังจากที่รู้สึกตกใจมากในตอนแรก ไม่นานอาเฉี่ยวก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
จริงด้วย ถ้าหากเยี่ยนอ๋องไม่ใช่คุณชายอวี๋ คุณหนูจะนิ่งเฉยขนาดนี้ได้อย่างไร
เยี่ยนอ๋องคือคุณชายอวี๋ คุณหนูก็กลายเป็นพระชายาอ๋อง ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ เลย
ไม่นานสาวรับใช้ก็เข้ามารายงาน “คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูสาม คุณหนูห้าและคุณหนูหกล้วนมากันหมดแล้วเจ้าค่ะ”
“เชิญเข้ามาเถอะ”
เรือนไห่ถังที่จู่ๆ ก็คึกคักขึ้นมาอย่างกะทันหันแตกต่างกับเรือนฉือซินที่เงียบสงัด
เฝิงเหล่าฮูหยินนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ยังคงรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝัน
“เฝิงมาหม่า เจ้าว่าเจียงซื่อกลายเป็นพราะชายาอ๋องได้อย่างไรกัน”
ปีที่แล้วเจียงซื่อพนันกับนางไว้ หรือว่า…
เฝิงมาหม่ารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย
นางเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนหนึ่ง ปกติก็อาศัยตอนที่อยู่ต่อหน้าเหล่าฮูหยินถึงได้มีหน้ามีตา พูดถึงเจ้านายไม่กี่คำจึงไม่เป็นไร ทว่าตอนนี้คุณหนูซื่อจะได้เป็นพระชายาอ๋องแล้ว นางเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้คนหนึ่งจะไปพูดจามั่วซั่วได้อย่างไรกัน
แต่ว่าจะไม่ตอบเหล่าฮูหยินก็ไม่ได้
เฝิงมาหม่ายิ้มพูดขึ้น “ฮ่องเต้บอกว่าคุณหนูสี่จิตใจโอบอ้อมอารีมีเมตตาอ่อนโยน และรูปลักษณ์หน้าตาโดดเด่น… บ่าวว่าคุณหนูซื่องคงทำบุญมาแต่ชาติปางก่อนถึงได้โชคดีขนาดนี้”
เฝิงเหล่าฮูหยินถอนหายใจออกมา “นั่นสินะ โชคดีมากจริงๆ”
แม้แต่ฝัน นางก็แทบไม่กล้าฝันว่าเจียงซื่อจะได้เป็นพระชายาอ๋อง และคาดไม่ถึงเลยว่าจวนตงผิงปั๋วจะได้เป็นพ่อตาแม่ยายของเยี่ยนอ๋อง!
ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายแล้วคนหนุ่มสาวในจวนที่มีอนาคตไกลมากที่สุดก็คือเจียงซื่อ!
เฝิงเหล่าฮูหยินทั้งนึกเสียใจทั้งโกรธ
หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ นางก็ไม่ควรจะเมินเฉยและดูถูกเจียงซื่อ โดยเฉพาะเมื่อวานไม่ควรจะพูดว่าจะกักบริเวณนางออกมา
แต่มานึกเสียใจตอนนี้มันก็ไร้ประโยชน์ เวลานี้ทำได้เพียงรักษาความอบอุ่นในความสัมพันธ์ต่อจากนี้
“ท่านแม่ ซื่อเอ๋อร์ได้รับพระราชโองการจริงรึ” เมื่อนายท่านรองเข้ามา เขาก็เอ่ยถามออกมาตรงๆ ทันที
เฝิงเหล่าฮูหยินพยักหน้าลงช้าๆ…
“เป็นไปได้อย่างไร”
เมื่อเห็นนายท่านรองขวัญหนีดีฝ่อ เฝิงเหล่าฮูหยินก็ขมวดคิ้วขึ้น “นี่เป็นเรื่องดี!”
พอนายท่านรองรู้สึกตัว ก็ยิ้มแล้วเอ่ยคล้อยตาม “ท่านแม่พูดถูก นี่มันเป็นเรื่องที่น่าปิติยินดีอย่างยิ่ง”
ลูกสาวของพี่ใหญ่กลายเป็นพระชายาอ๋อง แม้จะเป็นการผิดหวังครั้งใหญ่ แต่เมื่อได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ก็ถือว่าเขาแพ้ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย
มีตัวช่วยนี้ หนทางการเป็นขุนนางของเขาก็คงจะราบรื่นยิ่งขึ้น หากในอนาคต สามารถเข้าราชสำนักได้ และมีอำนาจครอบครอบอยู่ในมือ อย่างไรเสียมันก็ต้องแกร่งกว่านายท่านปั๋วที่มีชื่อเสียงอันจอมปลอมนี้อยู่แล้ว
เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกชายผู้เป็นที่รัก เฝิงเหล่าฮูหยินจึงไม่ต้องปกปิดอะไร “ข้าสั่งไปแล้วว่าให้ภรรยาของเหล่าซานเป็นคนดูแลจัดการที่จวนชั่วคราว นับจากวันนี้ไปให้ภรรยาของเจ้าไปสงบจิตสงบใจก่อน”
นายท่านรองไม่กะพริบตา “มันควรจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก ร่างกายไม่ดียังอยากจะดูแลจวนอีก สร้างปัญหาเพิ่มชัดๆ”
เขาแทบจะไม่รู้สึกอะไรกับเซียวซื่อแล้ว เพียงคิดถึงเรื่องที่นางถูกผู้ใดไม่รู้ลักพาตัวไปทั้งวันทั้งคืนแล้วกลับมาอย่างปลอดภัย ในใจก็รู้สึกรำคาญมากแล้ว
เฝิงเหล่าฮูหยินเผยรอยยิ้มออกมา
นางรู้ดีว่าเหล่าเอ้อร์จะไม่ทำให้นางกังวล
ทันใดนั้นเจียงอันเฉิงก็เดินเข้ามา “ท่านแม่ส่งคนไปบอกว่าที่จวนมีเรื่องด่วน ไม่ทราบว่าเรื่องอันใดหรือ”
แตกต่างกับนายท่านรองโดยสิ้นเชิง เฝิงเหล่าฮูหยินกำชับคนส่งสารเป็นพิเศษว่าไม่ต้องบอกอะไรกับเจียงอันเฉิง ก็เพราะกลัวว่าลูกชายคนโตจะโมโหจนเป็นบ้าไปก่อน
แต่พอเขากลับมาถึงจึงไม่กลัวแล้ว
“วันนี้มีพระราชโองการมา ซื่อเอ๋อร์ได้รับพระราชกรุณาให้เป็นพระชายาในเยี่ยนอ๋อง…”
เฝิงเหล่าฮูหยินยังไม่ทันพูดจบ เจียงอันเฉิงก็ชักดาบออกมาแล้วพุ่งตัวออกไปข้างนอก
“รีบเข้าไปขวางนายท่านปั๋วเอาไว้!”
ทุกอย่างชุลมุนไปหมด นายท่านรองพุ่งเข้าไปแย่งดาบมาอย่างไม่คิดชีวิต “พี่ใหญ่ ท่านเป็นบ้าไปแล้วรึ”
เฝิงเหล่าฮูหยินโกรธจนตัวสั่น “เหล่าต้าเจ้าชักดักออกมาทำไม อยากจะให้เจ้านายและลูกน้องในจวนปั๋วเป็นร้อยชีวิตตายเพราะเจ้าหรือ”
เมื่อเจียงอันเฉิงระบายความโกรธออกมาชั่วขณะหนึ่ง ทั้งร่างก็ดูเศร้าซึมเป็นพิเศษ
เฝิงเหล่าฮูหยินตบฉาดลงบนโต๊ะ “ดูสภาพของเจ้าสิ! หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป อยากให้พวกคนชั้นสูงคิดว่าพวกเราไม่พอใจกับงานแต่งงานนี้งั้นรึ เหล่าต้าเจ้าตั้งสติหน่อยสิ ไม่รู้ว่าต้องบำเพ็ญเพียรมากี่ชาติเจียงซื่อถึงมีบุญได้เป็นพระชายาอ๋อง!”
“โชคดีแบบนี้ไม่เอาก็ได้” เจียงอันเฉิงรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง แล้วกระทืบเท้า “เอาล่ะ ข้าจะไปดูซื่อเอ๋อร์!”
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เรือนไห่ถังก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กผู้หญิงดังออกมาจากในห้อง
เจียงอันเฉิงชะงักฝีเท้าลง
ดูเมือนว่าจะไม่แย่อย่างที่เขาคิดไว้
“นายท่านใหญ่มาแล้ว”
คุณหนูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจียงซื่อนอกจากเจียงอีกับเจียงเชี่ยนล้วนมาถึงกันหมดแล้ว แม้กระทั่งโต้วซูหว่าน
เมื่อเห็นเจียงอันเฉิงเดินเข้ามา ทุกคนต่างก็รีบขอตัวลา
เหลือเพียงแค่พ่อลูกสองคน เจียงอันเฉิงทั้งเศร้าทั้งโทษตัวเอง “ซื่อเอ๋อร์ พ่อขอโทษ หากรู้แต่แรกก็คงตกปากรับคำสู่ขอจากใต้เท้าเจินไปแล้ว ไม่มีทางให้เจ้าได้ตกลงไปในหลุมเพลิงของวังหลวงหรอก”
เจียงซื่ออดหัวเราะออกมาไม่ได้ “มันไม่เห็นจะน่ากลัวเหมือนที่ท่านพ่อพูดเลย”
อันที่จริงมันก็น่ากลัวขนาดนั้นแหละ แต่ว่าสภาพจิตใจของนางเปลี่ยนไปแล้ว
“ตำแหน่งพระชายาอ๋องเป็นเจ้าได้อย่างไรกัน!” เจียงอันเฉิงตะลึง และโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในเวลาเดียวกัน “ต้องเป็นเพราะไอ้เยี่ยนอ๋องสารเลวนั่นแน่ๆ ข้าจะไปจัดการมันเดี๋ยวนี้!”
เจียงซื่อดึงแขนเสื้อเจียงอันเฉิงเอาไว้ แล้วเอ่ยท้วงเสียงอ่อน “ท่านพ่อ ท่านไปจัดการเยี่ยนอ๋องตอนนี้ ผู้คนก็ต้องสงสัยว่าข้ากับเยี่ยนอ๋องมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันน่ะสิ”
เจียงอันเฉิงอึ้งไปเลย
ที่ซื่อเอ๋อร์กังวลก็มีเหตุผล เขาจะใจร้อนบุ่มบ่ามไปไม่ได้
อ๊ากกก ไอ้สารเลวเยี่ยนอ๋องนั่นลงมือโดยไม่ให้เขารู้ตัวเลย ทั้งหน้าเนื้อใจเสือ ทั้งเจ้าเล่ห์ เลวจริงๆ!
นายท่านใหญ่เจียงที่อารมณ์ฉุนฉียวฟังลูกสาวเอ่ยพูดอย่างช้าๆ “อีกอย่าง ข้าก็รู้สึกว่าคุณชายอวี๋เป็นคนดี…ข้าก็ชอบเขาเจ้าค่ะ”
เจียงอันเฉิง “…” เขาอาจจะหูแว่วไปเอง