บทที่ 369 โปรดสอนข้าที!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 369 โปรดสอนข้าที!
บทที่ 369 โปรดสอนข้าที!

ซูอันรู้สึกหวาดกลัว เขาเคยคิดว่ามันเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย เพราะการกระอักเลือดนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยในโลกแห่งการบ่มเพาะ แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองถ้านับแต่การกระอักเลือดเพียงอย่างเดียว เขาก็น่าจะกระอักเลือดไปได้เป็นลิตรแล้วเหมือนกันตั้งแต่มาที่โลกนี้จนปัจจุบัน

ทว่าปัญหาของฉู่ชูเหยียนกลับกลายเป็นเรื่องร้ายแรง จนแม้แต่หมี่ลี่เองก็ประเมินว่ามันรักษาไม่หาย

“เป็นไปได้ยังไง…” ซูอันพึมพำ

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น “ชูเหยียน เป็นอะไรไป?”

ร่างที่สวยงามวิ่งเข้ามาผลักซูอันออกไปด้านข้าง และดึงฉู่ชูเหยียนออกจากอ้อมแขนของเขา เมื่อสังเกตเห็นว่าบุตรสาวหมดสติ ใบหน้าของนางก็ซีดด้วยความกลัว นางหันไปหาซูอันและคำราม “เจ้าทำอะไรกับลูกสาวของข้า!!”

“ก่อนหน้านี้นางยังสบายดี ข้ายังคุยกับนางอยู่เลย แต่จู่ ๆ นางก็กระอักเลือดและเป็นลม อาจเป็นเพราะระดับการบ่มเพาะธาตุน้ำแข็งของนางก้าวหน้าเร็วเกินไป ส่งผลให้นางต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะไม่สามารถควบคุมความเย็นจัดในร่างกายได้…” ซูอันตอบ

แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ฉินหว่านหรู ก็พูดขัดขึ้นมาแล้วคำราม “เจ้าไม่รู้เหรอ? ว่าลูกสาวของข้าเป็นอัจฉริยะ! เป็นเรื่องปกติที่การบ่มเพาะของนางจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว! ข้ารู้ว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเจ้าเองก็พัฒนาขึ้นไม่น้อย แต่เจ้ายังไม่มีอะไรเทียบกับชูเหยียนได้! เจ้าไม่มีสิทธิ์วิจารณ์นาง!”

ฉินหว่านหรูกำลังโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะซูอันที่นางดูถูกมาตลอดกล้ามาวิจารณ์บุตรสาวของนาง

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 502!

นางอุ้มฉู่ชูเหยียนขึ้นและรีบพาไปหาสามีของนาง พลางคิดในใจว่า ทำไมข้าถึงไปเสียเวลาเถียงกับเจ้าขยะนี่ได้!

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 9 + 9 + 9…

เมื่อมองไปยังด้านหลังของฉินหว่านหรูที่กำลังจากไป ซูอันได้คิดว่าสิ่งเดียวที่ดีเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้คือ นางรักลูกของนางมาก

“ว่าไง? เจ้าต้องการพิจารณาข้อเสนอแนะของข้าอีกครั้งหรือไม่?” เสียงร่าเริงของหมี่ลี่ดังขึ้นในหัวของเขา

ซูอันนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบ

“ท่านรู้ไหม? มีหลายครั้งที่ข้าสงสัยว่าจริง ๆ แล้วท่านไม่ใช่จักรพรรดินี แต่เป็นปีศาจ!”

“ข้ารู้สึกปลาบปลื้มกับคำชมของเจ้า” หมี่ลี่ตอบรับอย่างสง่างาม “ในโลกนี้ใครเป็นคนบอกว่าจักรพรรดินีต้องมีคุณธรรมและมีเมตตากันล่ะ?”

น่าแปลกที่ซูอันรู้สึกว่าคำพูดนี้น่าเชื่ออย่างยิ่ง มี ‘จักรพรรดินีผู้เหี้ยมโหด’ มากมายในประวัติศาสตร์ และดูเหมือนว่าหมี่ลี่จะเป็นหนึ่งในนั้น

อย่างไรก็ตาม เขากังวลเกี่ยวกับฉู่ชูเหยียนมากเกินกว่าที่จะฟังหมี่ลี่พูดว่าจักรพรรดินีควรเป็นอย่างไร ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งตามฉินหว่านหรูไป

ฉู่จงเทียนก็รีบมาดูลูกสาวตัวเองเมื่อได้ยินข่าว ขณะโคจรพลังชี่เข้าไปในร่างกายของบุตรสาวเพื่อสลายความเย็นจัด เขารอการมาถึงของหมอประจำตระกูลอย่างใจจดใจจ่อ

ฉู่ฮวนเจาที่เข้ามาดูพี่สาวของนางกำมือแน่นอย่างเป็นกังวล แม้ว่านางมักจะทะเลาะวิวาทกับพี่สาว เพราะแม่ของนางชอบเปรียบเทียบพวกนาง แต่นางรู้ดีว่าพี่สาวรักนางมาก พวกนางผูกพันสนิทสนมกันจริง ๆ และมันก็ทำให้นางเจ็บปวดที่ได้เห็นพี่สาวของนางอยู่ในสภาพเช่นนี้

ไม่นานต่อมา ชายชราผมขาวก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนรับใช้ ซูอันจำได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหมอประจำตระกูลชื่อเปาโหย่วหลู

ทั้งเมืองจันทร์กระจ่าง ทักษะทางการแพทย์ของเขานั้นด้อยกว่าคนแค่คนเดียวคือจี้เติ้งถูเท่านั้น ด้วยความสามารถของเขา เขาจะไม่ลดละตัวเองลงมาเพียงเพื่อรับใช้ตระกูลฉู่เพียงแห่งเดียว แต่เหตุการณ์ในปีก่อนหน้านี้ ทำให้ชายชราคนนี้ติดค้างหนี้บุญคุณอ๋องฉู่ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังชราลงไปทุกวันอีกด้วย ทำให้การเดินทางรอนแรมลำบากยิ่งขึ้น เป็นผลให้เขาตัดสินใจที่จะอยู่ในตระกูลฉู่เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ติดค้างอยู่

สาวใช้พันผ้าไหมไว้รอบข้อมือของฉู่ชูเหยียน เปาโหย่วหลูจับชีพจรของ ฉู่ชูเหยียน ในไม่ช้าก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วถอนหายใจ ปฏิกิริยาของเขาทำให้ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูเป็นกังวลอย่างมาก…

ไม่นานหลังจากนั้น ในที่สุดชายชราก็ถอนนิ้วออก ฉินหว่านหรูถามอย่างกังวลทันทีว่า “ท่านหมอเปา ลูกสาวของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

เปาโหย่วหลูดูเหมือนลังเลเล็กน้อยที่จะพูด ฉู่จงเทียนจึงรีบไล่คนรับใช้ทั้งหมดออกจากห้อง ส่วนตัวซูอัน เนื่องจากชายหนุ่มถือเป็นสามีของฉู่ชูเหยียน เขาจึงได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อ

เมื่อคนอื่น ๆ ออกจากห้องไป เปาโหย่วหลูก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “นายท่าน นายหญิง น้ำแข็งได้แทรกซึมเส้นลมปราณและอวัยวะภายในของนางจนหมด ไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามช่วยชีวิตนาง จะเป็นการดีที่สุดถ้าท่านสามารถทำใจยอมรับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

คนทั้งหมดถึงกับช็อกเมื่อได้ฟังคำตอบของเปาโหย่วหลู

แม้ว่าพวกเขาสามารถบอกได้ว่าอาการของฉู่ชูเหยียนนั้นรุนแรงกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ไม่คาดคิดว่ามันจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ เมื่อได้ยินคำวินิจฉัยที่น่าสะเทือนใจนี้ ทุกคนก็ตัวแข็งทื่อ

ในขณะเดียวกัน ซูอันก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน มันเป็นคำวินิจฉัยเดียวกับที่หมี่ลี่ได้บอกเขาไว้แล้ว

“ป…เป็นไปได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ลูกสาวของข้ายังสบายดีอยู่เลย! ทำไมจู่ ๆ นางถึง…” ฉินหว่านหรูเริ่มสะอึกสะอื้น

ฉู่จงเทียนถามอย่างกระวนกระวายว่า “อันที่จริง หมอเปา! ชูเหยียนเพิ่งพัฒนาการบ่มเพาะของตนเอง แล้วทำไมนางถึงล้มป่วยกะทันหันขนาดนี้?”

ดวงตาของเปาโหย่วหลูวาววับ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น “ข้าขอทราบได้ไหมว่าคุณหนูใหญ่เลื่อนระดับการบ่มเพาะของนางด้วยวิธีใด?

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของลูกสาวของเขา ดังนั้นฉู่จงเทียนจึงไม่กล้าปิดบังรายละเอียด เขารีบบอกเปาโหย่วหลูอย่างรวดเร็วว่าพวกเขาพบดอกบัวเร้นลักษณ์ในมิติลับ และฉู่ชูเหยียนได้กินมันเข้าไป

“เข้าใจแล้ว” เปาโหย่วหลูลูบเคราของเขาครุ่นคิด “เมื่อครู่ข้ายังสงสัยว่าทำไมอาการของนางจึงทรุดลงทั้ง ๆ ที่ร่างกายแข็งแรงดีมาตลอด ปรากฏว่ารากเหง้าของปัญหาอยู่ตรงนี้เอง”

“เป็นความรู้ทั่วไปว่าการบ่มเพาะธาตุน้ำแข็งนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ผลกระทบนี้มักจะเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เส้นลมปราณ ของคุณหนูใหญ่ถูกทำลายตอนที่สำรวจมิติลับ แม้นางจะสามารถฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ได้ในภายหลัง แต่ก็ยังทำให้รากฐานพลังชี่ของนางเสียหาย การที่กินดอกบัวเร้นลักษณ์ในสภาพเช่นนั้น และการยกระดับการบ่มเพาะของนางอย่างรุนแรงก็ยิ่งทำให้ความไม่มั่นคงของรากฐานพลังชี่นั้นขยายออกไปอีก ทำให้เกิดภาระมหาศาลกับร่างกายของนางจึงกลายเป็นเช่นนี้”

มันเหมือนกับที่หมี่ลี่พูดก่อนหน้านี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าทักษะทางการแพทย์ของเปาโหย่วหลูนั้นเป็นของจริง

ทุกคนตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น การวิเคราะห์ของเปาโหย่วหลู สมเหตุสมผลดี ในที่สุดพวกเขาก็คิดถึงว่าฉู่ชูเหยียนได้ตกอยู่ในอันตรายในมิติลับจริง ๆ

“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า! ถ้าไม่ช่วยเจ้า เส้นลมปราณของชูเหยียน จะไม่มีวันถูกทำลาย! หากเจ้าไม่ได้ป้อน ดอกบัวเร้นลักษณ์ให้กับนาง นางก็คงไม่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่เลวร้ายเช่นนี้! เจ้าเป็นตัวต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด!” ฉินหว่านหรูยืนขึ้นและคำรามใส่ซูอันราวกับเสือโคร่ง ดูเหมือนว่านางพร้อมจะพุ่งเข้าหาเขาทุกเมื่อ

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!

ซูอันไม่มีอารมณ์ที่จะตอบโต้นางในขณะนี้ เขากำลังยุ่งอยู่กับการสื่อสารกับหมี่ลี่ทางกระแสจิต “พี่หญิงใหญ่ ไม่มีทางที่จะช่วยภรรยา ข้าได้จริง ๆ เหรอ?”

“ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่เหรอว่าแม้แต่เทพบนสวรรค์ก็ช่วยนางไม่ได้?”

“แต่ท่านบอกตอนที่อยู่ในมิติลับว่าท่านเป็นปรมาจารย์ด้านอักขระ ซ้ำยังมีความรู้มากมายในด้านการแพทย์ แม้ว่าเทพจะไม่สามารถช่วยนางได้ แต่ข้าเชื่อว่าพี่หญิงใหญ่สามารถทำได้!” ซูอันยืนกราน

เสียงหัวเราะของหมี่ลี่ดังขึ้นในหัวของเขา “เจ้านี่ฝีปากแกร่งกล้าจริง ๆ เจ้าพูดถูก ถ้าอิ่งเจิ้งสามารถเหนือกว่าสามราชาห้าจักรพรรดิได้ ข้าจะแพ้ให้กับพวกเทพบนสวรรค์ได้ยังไง? ถูกแล้ว ข้ารู้วิธีที่จะช่วยนางได้”

“พี่หญิงใหญ่ โปรดสอนข้าด้วย!” ซูอันขอร้อง

หมี่ลี่พูดอย่างเย็นชา “แต่แม่ของภรรยาเจ้าปฏิบัติเลวร้ายต่อเจ้าขนาดนี้ เจ้าแน่ใจเหรอว่าต้องการช่วยลูกสาวของนาง?”

“คนที่ข้าจะช่วยคือภรรยาของข้า มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉินหว่านหรูเลย ไม่ต้องกังวล ถ้าเป็นฉินหว่านหรูที่กำลังนอนอยู่ที่นั่น ข้าจะไม่แม้แต่จะยกนิ้วเพื่อช่วยนาง!” ซูอันตอบ