บทที่ 475 โลกปริศนา

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 475 โลกปริศนา

บทที่ 475 โลกปริศนา

ฉู่เหินที่อยู่บนเวทย์เคลื่อนย้ายไม่รู้เลยว่าลูกของเขาทั้งสองได้คลอดออกมาแล้ว อีกทั้งชะตาได้ลิขิตให้เด็กทั้งสองเป็นตัวพลิกผันชีวิตของเขาอีกด้วย! ชายหนุ่มที่ไม่รู้เรื่องยังคงฝึกฝนพลังอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเพียงการเข้าสู่สภาวะฝึกฝนพลังเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาไม่รู้สึกหิวโหย!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร จู่ ๆ แสงสว่างก็สาดเข้ามาจนทำให้พวกเขามึนหัวปวดตาเล็กน้อย พอพวกเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับสถานที่ที่ไม่รู้จักแห่งหนึ่ง

ที่นี่ก็คือทวีปลึกลับ! ทั่วทุกสารทิศเต็มไปด้วยทะเลทราย! ไม่รู้ว่าด้านนอกทะเลทรายอันแสนกว้างใหญ่นี้จะเป็นสถานที่แบบไหน แต่พวกเขาก็มั่นใจเป็นอย่างมากว่าที่นี่ต้องมีอันตรายนับไม่ถ้วนอยู่แน่ เพราะเพิ่งจะมาถึง พวกเขาก็รู้สึกขนลุกชันแล้ว!

ฉู่เหินรีบโคจรวิชาเนตรและเริ่มตรวจทะเลทรายแถวนี้อย่างละเอียด หากไม่มองก็คงไม่รู้ แต่เมื่อมองแล้วก็ถึงกับเหงื่อแตก! ฉู่เหินพบว่าทั่วทุกพื้นที่ในทะเลทรายเต็มไปด้วยแมลงตัวเล็ก ๆ เต็มไปหมด ทว่าโชคดีที่เหมือนพวกมันจะกำลังหลับอยู่ ไม่งั้นถ้าพวกมันออกมาพวกเขาตายแน่!

เขาอธิบายอย่างรวบรัดให้ทุกคนเข้าใจ และห้ามไม่ให้พวกเขาใช้พลังอย่างเด็ดขาด จะบ้าหรือไง ถ้าแมลงพวกนี้ตกใจตื่นขึ้นมาใครก็วิ่งหนีไม่ไหวหรอกนะ! พอพวกเขาได้ยินที่ฉู่เหินบอกว่ามีแมลงเล็กใหญ่เต็มไปหมด ก็พากันตกใจไปตาม ๆ กัน!

ต่อมาทุกคนก็ทำการสำรวจพื้นที่โดยรอบ ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าพวกเขาไม่สามารถแยกเหนือใต้ได้เลย! การจะออกไปได้อย่างน้อยที่สุดก็ต้องรู้ให้ได้เสียก่อนว่าทิศไหนเป็นทิศไหน แต่นี่กลับไม่เลย! ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหนดี! แต่ทว่านั่นมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ และพวกเขาจะต้องจำเอาไว้ให้ดี! เพราะตำแหน่งดังกล่าวคือที่ที่มีวงเวทย์เคลื่อนย้ายที่เป็นทางเดียวที่พวกเขาจะกลับบ้านได้!

ฉู่เหินทำใจให้นิ่งและมองไปรอบ ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพบว่ามีด้านหนึ่งที่คล้ายจะเต็มไปด้วยสัญญาณของสิ่งมีชีวิต! พอทุกคนได้ยินฉู่เหินพูดก็พากันลังเล ด้วยความที่ไม่รู้จะไปกันทางไหนดี ดังนั้นเขาพวกเขาจึงเลือกที่จะเดินตามทางที่ฉู่เหินพูดถึง!

ฉู่เหินเดินนำทุกคนเดินไปทิศทางหนึ่ง ตลอดทางนั้นราบรื่นปราศจากอันตราย เมื่อเห็นแบบนั้นทุกคนก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก! แต่พอเดินมาเรื่อย ๆ ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง! เขารู้สึกว่าทะเลทรายที่เคยร้อนระอุอยู่ดี ๆ ก็เย็นขึ้นมา โดยเฉพาะสายลมที่พัดมานี้!

สายลมเย็น ๆ นี้แม้จะเล็กน้อย แต่ทว่าฉู่เหินกลับสัมผัสได้ถึงอันตราย! เขาหันกลับไปบอกให้ทุกคนระวังตัวมากขึ้น หลังจากนั้นพวกเขาก็พากันเร่งฝีเท้าจนกลายเป็นวิ่ง! ฉู่เหินตัดสินใจใช้วิชาก้าวนภาจนถึงขีดสุดแล้ว แต่ทะเลทรายแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด ต่อให้พวกเขาวิ่งมาทั้งวันแล้วก็ยังหาทางออกไม่เจออยู่ดี

ขณะที่ฉู่เหินไม่รู้จะทำยังไงดี หางตาเขาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า! ชายหนุ่มรีบตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “พวกนาย พายุเฮอริเคนมีพายุเฮอริเคน!” ทุกคนหันตามนิ้วที่ชี้ออกไปของฉู่เหิน เพียงหันไปเท่านั้นก็เห็นว่าไกลออกไปนั้นมันได้มีพายุหมุนขนาดใหญ่ราวกับมังกรพัดมาทางพวกเขา!

พายุหมุนนี้มีความสูงไม่รู้กี่สิบเมตร มันกำลังพัดเข้ามาจากที่ไกล ๆ ราวกับต้องการพัดพาเอาทุกอย่างในโลกไปทั้งหมด! พอทุกคนเห็นพายุหมุนลูกนั้นก็พากันตกใจแทบสิ้นสติ!

ที่จริงถ้าพวกเขาเจอพายุหมุนในโลกก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร! อาศัยความสามารถของพวกเขาหายตัวเพียงพริบตาเดียวก็หลบพ้นแล้ว และถึงแม้จะถูกพายุพัดไป ร่างกายของพวกเขาก็คงไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไรขนาดนั้น!

แต่ที่นี่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน พลังงานของที่นี่กับบนโลกนั้นไม่เหมือนกัน หลังจากมาถึงที่นี่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะอยากเดินทางโดยการบิน แต่ทว่ากลับไม่สามารถทำได้เลย ดังนั้นเลยได้แต่เดินเท้าอย่างจำยอม และก็เพราะเหตุนี้เลยทำให้การเดินทางช้าไปไม่น้อย!

สายตามองไปด้านหลังพายุเฮอริเคนยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทุกคนรีบวิ่งเร็วขึ้น! ไม่มีใครอยากถูกดูดเข้าไปในนั้น เพราะใครจะไปรู้ละว่าเข้าไปแล้วต้องเจอกับอันตรายอะไรบ้าง! พวกเขาวิ่งเร็วขึ้น เช่นเดียวกับพายุเฮอริเคนที่ดูจะหมุนมาใกล้มากขึ้น! มันคล้ายกับว่าเจ้าพายุมีตามองเห็นอย่างงั้นแหละ!

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้กินเวลาไม่ถึงสิบลมหายใจด้วยซ้ำ พวกเขารู้สึกว่าพายุตอนที่หมุนอยู่ทำให้พวกเขาตั้งหลักไม่อยู่! จนถูกลมพัดร่างลอยขึ้นไปหมุนรวมกับพายุ!

จะเกิดอะไรขึ้นต่อมาพวกเขาก็ไม่รู้อีกแล้ว หลังจากถูกหมุนรวมกันพวกเขาก็เป็นลมหมดสติกันไปหมด! แม้แต่ฉู่เหินก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!

เสียงฝนลงมาเป็นเสียงแรกที่ดังขึ้นข้างหู! ราวกับฉู่เหินหลับมายาวนานในที่สุดก็ลืมตาตื่น! เขามองรอบ ๆ ด้วยความงุนงง

ฉู่เหินไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน หลังจากถูกพายุเฮอริเคนหมุนมาเขาก็หมดสติไป! กระทั่งนานเท่าไรเขาก็ไม่รู้ เพราะเขาเพิ่งจะตื่นเนี่ยแหละ!

เมื่อลองขยับร่างกายเล็กน้อย ชายหนุ่มก็พบว่าร่างกายของเขานั้นปวดร้าวไปหมด ราวกับกระดูกทุกส่วนแตกหักยังไงยังงั้น! อีกทั้งฉู่เหินยังพบว่ามีของบางอย่างกำลังโอบล้อมตัวเองอยู่! พอลืมตาตื่นและมองไปรอบ ๆ เขากลับรู้สึกแสบจมูกจนแทบจะรับรู้กลิ่นไม่ได้เลย

แท้จริงแล้วในตอนนี้นั้นมีหมาป่าและหมาในกำลังใช้ปากคาบตัวเขาอยู่! เป็นไปได้ว่าพวกมันน่าจะหิว และอยากกินเนื้อของเขา! แต่เนื้อของฉู่เหินที่ฝึกฝนมานั้นแข็งมาก พวกมันเลยกัดไม่เข้าเลยสักนิด! ที่พวกมันยังอยู่เพราะว่าตัดใจทิ้งอาหารของพวกมันไม่ลง!

ฉู่เหินฝืนยืนขึ้น! พอเห็นคนที่คิดว่าตายแล้วฟื้นขึ้นมา พวกหมาในกับหมาป่าก็พากันวิ่งหนีหายไป ฉู่เหินไม่ได้สนใจพวกมันเท่าไร เขาค่อย ๆ พาร่างที่บาดเจ็บเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ

ไม่นานชายหนุ่มก็เจอเข้ากับแสงสว่างเบื้องหน้า เขาที่เห็นดังนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินไปหาแสงทันที! พอเข้ามาใกล้ฉู่เหินถึงเพิ่งรู้ว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านบนภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง มันให้ความรู้สึกว่าเป็นหมู่บ้านใกล้ภูเขาโบราณที่ไม่มีอยู่จริง!

พอเดินเข้ามาในหมู่บ้าน ฉู่เหินก็ลองเคาะประตูบานที่มีไฟอยู่หน้าบ้าน! หลังจากนั้นก็มีเสียงกลับออกมาว่า “ใครน่ะ”

“สวัสดีครับ พอดีผมผ่านมาแถวนี้ ผมเดินมาถึงที่นี่แล้วรู้สึกหิวมากขอกินข้าวที่บ้านคุณหน่อยได้ไหมครับ!” แม้ฉู่เหินจะพูดอย่างงั้น แต่ในใจเขากลับรู้สึกแปลก ๆ ตามหลักการแล้วที่นี่เป็นโลกต่างมิติ ควรที่จะพูดคนละภาษาสิถึงจะถูก! ทำไมพอคนพวกนี้พูดแล้วเขาถึงคล้ายจะฟังออกกันละ

ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่าก่อนหน้าระบบเหนือโลกา ได้เปลี่ยนภาษาให้เขาแล้ว! เพราะแบบนี้ไม่ว่าจะภาษาอะไรเขาก็สามารถพูดคุยได้หมด!

“โอ้ นายรอเดี๋ยวนะ! ช่างน่าสงสารจริง ๆ!” สิ้นเสียงก็ได้ยินเสียงปลดล็อคประตู ก่อนที่หญิงชราอายุประมาณ 70-80 ปีจะออกมาจากในบ้าน ถึงแม้จะมีผมสีดอกเลา แต่ท่าทางของหญิงชรากลับยังดูกระฉับกระเฉง ไม่เหมือนกับอายุสูงอายุสักนิด!

ที่ทำให้ฉู่เหินไม่อยากจะเชื่อคือเขามองพลังวรยุทธ์ของหญิงชราคนนี้ไม่ออกเลย! นี้ก็หมายความว่าหญิงชราคนนี้มีพลังวรยุทธ์ที่ไม่น้อยกว่าขั้นปราชญ์ดารา เมื่อคิด ๆ ดู การที่หญิงชรามีพลังถึงขั้นนี้ได้ โลกใบนี้คงน่ากลัวใช่เล่น!

พอหญิงชราเปิดประตูก็มาที่ฉู่เหินและพูด “พ่อหนุ่มมาจากไหนกันเหรอ ทำไมแต่งตัวแปลก ๆ!” ฉู่เหินก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองที่เป็นมาตรฐานชุดจีนแท้ ๆ ก่อนจะคิดอย่างจนใจ! เสื้อผ้าแบบนี้สามารถสวมได้บนโลก แต่มาสวมที่นี่ก็ดูแปลกไปจริง ๆ นั้นแหละ!

เพราะเขามองเสื้อผ้าที่หญิงชราสวมใส่บนร่างกายเหมือนจะไม่ได้ใช้ผ้าทำขึ้นมา! แต่ถึงอย่างงั้น เมื่อมองไปนาน ๆ มันกลับดูสวยงามยิ่งนัก จากกลิ่นของเสื้อผ้าที่ปล่อยออกมา ฉู่เหินจึงรู้ได้ในทันทีว่าเสื้อผ้าพวกนี้คล้ายจะทำมาจากส่วนที่ดีที่สุดของพืชชนิดหนึ่ง!

หลังจากนั้นในใจเขาก็อดคิดไม่ได้ หรือว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมจะทำมาจากเปลือกต้นไม้! ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขาพูดถูกหรือเปล่า เพราะในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าผ้าอยู่ แล้วคนที่นี่จะใส่เสื้อผ้าอะไรล่ะ ทั้งหมดก็คงต้องเป็นของที่หาได้ง่าย ทั้งต้นไม่ ก้อนหิน ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถเอามาทำเสื้อผ้าได้หมด