ตอนที่ 376 ขบวนจอหงวน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​รัช​ศก​จิ​่ง​หมิง​ปี​ที่​สิบ​เก้า​ฝนตก​ชุก​ ​การ​สอบ​ชิงตำแหน่ง​ขุนนาง​ภูมิภาค​ที่​หมู่​มวล​มหาชน​รอคอย​ได้​เริ่มต้น​ขึ้น​ท่ามกลาง​สายฝน​ที่​โปรยปราย​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ

​กว่า​การ​สอบ​ทั้ง​สาม​สนาม​จะ​สิ้นสุดลง​ ​เวลา​ก็​ล่วงเลย​ไป​เกือบ​สอง​เดือน​แล้ว​ ​ยาม​ใด​ที่​ดอก​ซิ่ง​ผลิบาน​ ​แผ่น​ป้ายประกาศ​ก็​จะ​ถูก​ติด​ไว้​ที่​ด้านหน้า​ก้งย​่​วน​ ​สถานที่​จัด​สอบ​ขุนนาง

ณ​ ​วันที่​ติดประกาศ​ ​บริเวณ​ด้านหน้า​ก้งย​่​วน​มี​ผู้คน​มากมาย​อัด​แน่น​เบียดเสียด​กัน​เข้ามา​ดูราย​ชื่อ​ ​ผู้คน​พบ​ว่า​ผู้​ที่​สอบ​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ก็​คือ​เจิน​เหิง​เจี่ย​หยวน​หลาง​ ​ผู้​ที่​สอบ​ได้​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​ชิง​ขุนนาง​ระดับ​มณฑล​

​ไม่​สิ​ ​เวลานี้​ต้อง​เรียกว่า​ฮุ่ย​หยวน​หลาง

​ทันใดนั้น​เอง​ราวกับ​มี​คลื่น​ลูก​ใหญ่​โหม​ซัด​เข้ามา

​คุณชาย​เจิน​ผู้​นี้​ได้​ตำแหน่ง​เจี่ย​หยวน​หลาง​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​เป็น​ฮุ่ย​หยวน​หลาง​ ​หาก​ถึง​การ​สอบ​จอ​หงวน​รอบ​สุดท้าย​ที่​ฮ่องเต้​เป็น​ผู้​ทดสอบ​ด้วย​พระองค์​เอง​แล้ว​ได้รับ​ตำแหน่ง​จอ​หงวน​อีก​ ​นี่​จะ​เป็นการ​สอบ​ได้​ตำแหน่ง​ขุนนาง​สาม​ขั้น​ติดต่อกัน​เลย​เชียว​นะ

​การ​สอบผ่าน​ทั้ง​สาม​ขั้น​เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​ที่จะ​มี​ผู้​ที่​ทำได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คุณชาย​เจิน​ยัง​อายุ​น้อย

​ตลอดทั้ง​เดือน​สอง​ ​ชาวเมือง​ทุกคน​ต่าง​จับจ้อง​เรื่อง​นี้​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​ได้​แต่​รอคอย​ผู้​มีปัญญา​ที่​สอบ​ชิงตำแหน่ง​ขุนนาง​ได้​อันดับ​หนึ่ง​สาม​ขั้น​ติดต่อกัน​ปรากฏตัว​เกิดขึ้น​ ​การ​ได้​เกิด​มามี​ชีวิต​อยู่​ใน​ช่วงเวลา​เดียว​กับ​อัจ​ริยะ​ฟ้า​ประทาน​ ​นับเป็น​เกียรติภูมิ​ของ​ทุกๆ​ ​คนเล​ยก​็​ว่า​ได้

​วัน​สอบ​จอ​หงวน​รอบ​สุดท้าย​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้​แต่​พึมพำ​ไปมา​ใน​ใจ​ หาก​ข้า​ไม่​ทำตาม​ความเห็น​ของ​ประชาชน​ ​จะ​ถูก​นินทา​ลับหลัง​หรือไม่

​ช่างเถอะ​ ​ลูกชาย​ของ​เจ้า​เจิน​ซื่อ​เฉิง​นั่น​มี​ความสามารถ​จริงๆ​ ​แถม​ยัง​ดูท่าทาง​น่าเชื่อถือ​ ​การ​ใช้ชีวิต​ใน​ฐานะ​ฮ่องเต้​ที่​ผ่าน​อะไร​มามาก​มาย​ ​หาก​มี​ผู้​มีปัญญา​ที่​สอบ​ชิงตำแหน่ง​ขุนนาง​ได้​สาม​ระดับ​ติดต่อกัน​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​แล้ว​ถูก​บันทึก​ลง​ใน​หน้า​ประวัติศาสตร์​ ​เหตุใด​ถึง​จะ​ไม่เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​ล่ะ

​เพียง​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ลง​ลาย​นาม​พระ​หัตถ์​ ​ตำแหน่ง​จอ​หงวน​หลาง​ท่าน​ใหม่​ก็ได้​ตกเป็นของ​เจิน​เหิง

​ทันทีที่​ราชสำนัก​ประกาศ​รายชื่อ​ ​คน​จำนวนมาก​ต่าง​กู่​ร้อง​ตะโกน​ทรงพระ​เจริญ​ ​พลาง​วิ่ง​กระโดดโลดเต้น

​ต้า​โจว​ได้​ถือกำเนิด​อัจ​ริยะ​ที่​สอบ​ขุนนาง​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ติดต่อกัน​สาม​ระดับ​ออกมา​หนึ่ง​ท่าน​ ​ตั้งแต่​ก่อตั้ง​บ้านเมือง​มามี​เพียงผู้เดียว​เท่านั้น​ ​นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร

​หมายความว่า​ชะตากรรม​ของ​บ้านเมือง​จะ​เจริญรุ่งเรือง​ ​เลื่องลือ​ไป​ด้วย​ผู้​มีปัญญา​ ​ถึง​ได้​มีนิ​มิต​หมาย​มงคล​ลงมา​ยัง​ผืน​แผ่นดิน​นี้​ ​ส่วน​พวก​ชน​เผ่า​ทางเหนือ​ที่​ยัง​ไม่​เริ่ม​มี​วิวัฒนาการ​ ​และ​ซี​เหลียง​ที่​มักจะ​คิด​เปรียบเทียบ​กับ​ต้า​โจว​นั้น​ก็​รอ​ไป​ก่อน​เถอะ​!

​ใน​วัน​เดินขบวน​แห่​จอ​หงวน​ ​บ้านเรือน​ทั่วทั้ง​เมืองหลวง​ว่างเปล่า​ ​ผู้คน​มากมาย​ยืน​เบียดเสียด​กัน​แน่นขนัด​อยู่​ตาม​ข้างทาง

​เจียง​ซื่อ​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น

​“​คุณหนู​ ​คน​เยอะ​มาก​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​อาหมา​นอ​อก​แรงดัน​คนที​่​เบียด​เข้ามา​ ​ปกป้อง​คุณหนู​เพื่อ​เดิน​ไป​ที่​โรงน้ำชา

​หลง​ต้าน​รีบ​เข้ามา​ต้อนรับ​ ​“​คุณหนู​มา​แล้ว​หรือ​ ​เจ้านาย​ของ​พวกเรา​รอ​อยู่​ชั้นบน​ขอรับ​”

​เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​รับ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เดินตาม​หลง​ต้าน​ขึ้นไป​ชั้นบน

​เมื่อ​เห็น​เจียง​ซื่อ​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​อด​ดีใจ​ออกมา​ไม่ได้​ ​พลาง​ดึง​นาง​ลงมา​นั่ง​ข้างๆ​ ​เทน​้ำ​ชา​ใส่​ถ้วย​ชา​แล้ว​ส่ง​ให้​นาง

​เจียง​ซื่อ​ประคอง​ถ้วย​น้ำชา​ไว้​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​“​เหตุใด​ถึง​นัด​ข้า​ออกมา​เวลานี้​ล่ะ​”

​อวี​้​จิ​่น​ชี้​ออก​ไป​ที่​นอก​หน้าต่าง​ ​“​เรื่องใหญ่​โต​เช่นนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​อยากรู้อยากเห็น​เป็นแน่​”

​เจียง​ซื่อ​อมยิ้ม

​หาก​อวี​้​ชี​รู้เรื่อง​นาง​กับ​คุณชาย​ตระกูล​เจิน​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่​อยาก​เติมเต็ม​ความอยากรู้​อยาก​เห็น​ของ​นาง​หรอก

​พอ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​ไม่​เอ่ย​วาจา​ใด​ออกมา​ ​อวี​้​จิ​่น​จึง​ยอมรับ​ออก​ไป​ตรงๆ​ ​“​ก็ได้​ ​ข้า​อยาก​เจอ​เจ้า​ ​ก็​เลย​หาเหตุ​ผลดี​ๆ​ ​มา​อ้าง​เพียง​เท่านั้น​”

​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​ร่า​ ​“​การ​มาชม​ขบวน​จอ​หงวน​เป็น​เหตุผล​ที่​ดี​แล้ว​หรือ​”

​อวี​้​จิ​่น​เอนกาย​ไป​ข้างหลัง​ ​ยิ้ม​ตาหยี​พลาง​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​แน่นอน​ ​เจ้า​ก็​เห็น​ว่า​คน​ทั้งเมือง​ต่าง​ออกมา​สนุก​ครึกครื้น​กัน​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ถือโอกาส​มา​เจอกัน​หน่อย​จะ​เป็น​อะไร​ไป​”

​จะ​ว่า​ไป​ใน​ราชวงศ์​มี​ข้อห้าม​เยอะแยะ​มากมาย​ ​หาก​เป็น​คู่หมั้น​สามัญชน​คนธรรมดา​ล่ะ​ก็​ ​การเที่ยว​เล่น​ด้วยกัน​นั้น​ไม่​นับว่า​เป็น​อะไร​เลย

​เขา​อยาก​จะ​นัด​เจียง​ซื่อ​ออกมา​เจอ​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ทว่า​จั่ง​สื่อ[1]ของ​จวน​อ๋อง​จับตาดู​อย่างเข้มงวด​ซะ​ยิ่งกว่า​เอ้อร​์​หนิว​เสียอีก​ ​น่ารำคาญ​เสีย​จริง​

​เห็น​เขา​เป็น​คน​เหลวไหล​รึ​ไง

​เจียง​ซื่อ​เอา​มือ​เท้าคาง​มองออก​ไป​ข้างนอก​ ​“​ดู​ครึกครื้น​มาก​จริงๆ​ ​อย่างไร​ก็​เป็น​ถึง​อัจ​ริยะ​ผู้​สามารถ​สอบ​ขุนนาง​สาม​ระดับ​ได้​อัน​หนึ่ง​ติดต่อกัน​ ​ไม่​แปลกที่​ผู้คน​จะ​ตื้น​เต้น​ขนาด​นี้​”

​อวี​้​จิ​่น​ยื่นมือ​ออก​ไป​ประคอง​ใบหน้า​เจียง​ซื่อ​กลับมา​ ​“​พอแล้ว​ ​เห็น​แค่​ผู้คน​เบียดเสียด​กัน​แน่นขนัด​ก็​พอแล้ว​ ​จอ​หงวน​หลาง​ไม่มี​อะไร​น่าดู​หรอก​ ​มี​จมูก​มีตา​เหมือนกัน​ ​ไม่ได้​มี​หาง​งอก​ออกมา​สักหน่อย​”

​ ​เจียง​ซื่อ​ตั้งใจ​แกล้ง​เขา​ ​“​ใคร​ว่า​ไม่มี​อะไร​ให้​ดูกัน​ ​ภายใน​เวลา​สั้น​ๆ​ ​สาม​ปี​ ​มี​ให้​เห็น​น้อยมาก​นัก​ว่า​จะ​มี​จอ​หงวน​หลาง​ออกมา​หนึ่ง​คน​ ​แต่​นี่​เป็น​ถึง​ผู้​มีปัญญา​เฉลียวฉลาด​ที่​สอบ​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ติดต่อกัน​ใน​การ​สอบ​ขุนนาง​เชียว​นะ​”

​“​ไม่มี​อะไร​น่าดู​หรอก​ ​ดู​ไป​ก็​ไม่เกี่ยว​ข้อง​อะไร​กับ​พวกเรา​ ​เวลานี้​ควรจะ​ดู​ข้ามา​กก​ว่า​”​ ​อวี​้​จิ​่​นรู​้​สึก​หึงหวง​อยู่​ใน​ใจ​เมื่อ​เห็น​เจียง​ซื่อ​เทิดทูน​จอ​หงวน​คน​ใหม่

​ ​แค่​ได้​เล่าเรียน​ตำรา​นั้น​มัน​น่าสรรเสริญ​มาก​เลย​รึ​ ​แม้​ใน​ตำรา​จะ​มีความรู้​ดั่ง​หยก​ ​มัน​ก็​ไม่น่า​ดู​มาก​เท่ากับ​เจียง​ซื่อ​ของ​เขา​หรอก

​เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​รู้สึก​สบายใจ

​ชาติ​ภพ​นี้​เขา​ไม่ต้องการ​อะไร​อีกแล้ว​นอกจาก​การ​ได้​กอด​อา​ซื่อ​นอน​ทุกวัน​ ​ได้​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา​เห็น​อา​ซื่อ​เท่านี้​ก็​พอใจ​มาก​แล้ว

​“​ท่าน​อ๋อง​ต่างหาก​ที่​ไม่มี​อะไร​น่าดู​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​ยั่วโมโห​เขา

​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​มัน​เป็น​เพียงแค่​คำพูด​หยอก​เล่น​กัน​ชัดๆ​ ​ไม่​นึก​เลย​ว่า​จะ​คุย​กันได​้​ออกรส​ออก​ชาติ​จน​ความสุข​เอ่อล้น​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​อย่าง​พูดไม่ออก​บอก​ไม่​ถูก​ขนาด​นี้

​อวี​้​จิ​่น​ทำ​หน้า​ตะลึง​ ​“​ห้าม​เรียก​ข้าว​่า​ท่าน​อ๋อง​”

​“​เช่นนั้น​เรียกว่า​อะไร​ดี​”

​อวี​้​จิ​่น​เขยิบ​เข้ามา​ใกล้​ ​พูดเส​นอ​ออก​ไป​อย่าง​ไม่อาย​ปาก​ ​“​เรียกว่า​พี่​เจ็ด​ให้​ข้า​ฟัง​สิ​”

​พี่​เจ็ด​งั้น​หรือ

​มอง​ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ที่​ยื่น​เข้ามา​ใกล้​ ​เต็มไปด้วย​ความ​ลำพองใจ​และ​การรอคอย​ ​เจียง​ซื่อ​กลอกตา​ใส่​อย่าง​ไม่แยแส

​แม้ว่า​ชาติ​ภพ​ที่แล้ว​จะ​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ ​ทว่า​เขา​ก็​ไม่​เอ่ยปาก​ขอ​อย่างไร​้​ยางอาย​เช่นนี้

อืม​ ​ตอนนั้น​เขา​อายุ​มากกว่า​ตอนนี้​กี่​ปีกัน​แน่นะ​ ​ถึง​ได้​ควบคุม​ความ​ไร้ยางอาย​ของ​ตัวเอง​ได้

​“​ไม่ได้​”

​อวี​้​จิ​่น​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ ​และ​ไม่พอใจ​ด้วย​ ​“​อย่างไรก็ตาม​ห้าม​เรียก​ท่าน​อ๋อง​ ​เจ้า​เรียก​ข้าว​่า​ท่าน​อ๋อง​ ​ผู้อื่น​ก็​เรียก​ข้าว​่า​ท่าน​อ๋อง​ ​แล้ว​มัน​จะ​มี​ความแตกต่าง​กัน​อย่างไรเล่า​”

​เจียง​ซื่อ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ยิ้ม​ร่า​แล้ว​พูด​ออก​ไป​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​เรียกว่า​เจ้า​ว่า​อาจิ​่น​ดี​หรือไม่​”

​“​อาจิ​่​นงั​้น​หรือ​”​ ​อวี​้​จิ​่​นพูด​พึมพำ​ ​มัน​เป็น​คำ​เรียก​ที่​ธรรมดา​แท้ๆ​ ​แต่​เมื่อ​ออกมา​จาก​ปาก​หญิงสาว​ที่​เขา​รัก​กลับ​ไพเราะ​เป็นพิเศษ

​อา​ซื่อ​กับ​อาจิ​่น​ ​ช่าง​เหมาะสม​กัน​เสีย​จริง

​อวี​้​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​ดี​”

​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​พร้อมกับ​เอ่ย​เรียก​ ​“​อาจิ​่น​”

​“หืม​”

​“​รู้สึก​เหมือน​จะ​ต้อง​เรียก​เจ้า​ว่า​อาจิ​่น​ไป​ทั้ง​ชีวิต​ซะ​แล้ว​”

​ ณ​ ​ช่วงเวลา​อัน​สั้น​ ​หาก​ทิ้ง​ความเจ็บปวด​ทุกข์ทรมาน​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ใจ​เพราะ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​อา​ซัง​ ​ที่จริง​ชาติ​ภพ​ที่แล้ว​ก็​นับว่า​เป็นช่วง​เวลา​ที่​มีความสุข​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ของ​นาง​ช่วง​หนึ่ง​เลย​ก็​ว่า​ได้

​อวี​้​จิ​่น​ดึง​เจียง​ซื่อ​เข้ามา​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​พูด​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ ​“​ก็​ต้อง​เรียก​ไป​ทั้ง​ชีวิต​อยู่​แล้ว​”

​จู่ๆ​ ​เสียงดัง​เจี๊ยวจ๊าว​ก็​ทำลาย​บรรยากาศ​อัน​สวยงาม​ของ​ทั้งคู่​ลง

​“​จอ​หงวน​หลาง​มา​แล้ว​ ​จอ​หงวน​หลาง​มา​แล้ว​…​”

​จอ​หงวน​หลาง​ผู้​เป็น​อัจ​ริย​ภาพ​!

​อวี​้​จิ​่น​ชำเลือง​มอง​ด้านนอก​แวบ​หนึ่ง​ด้วย​สีหน้า​บึ้งตึง​ ​เห็น​เพียงแค่​ฝูงชน​กำลัง​กรู​กัน​ออก​ไป​ข้างหน้า​ ​ราวกับ​ถนน​จะ​พัง

​เสียง​กลอง​และ​เสียง​ประทัด​เฉลิมฉลอง​ดังลั่น​ ​ผู้​สอบ​ขุนนาง​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ทั้ง​สาม​ระดับ​สวม​เสื้อคลุม​สีแดง​ถือ​ดอกไม้​พร้อมกับ​ขี่ม้า​รูปงาม​เดิน​ย่าง​เข้ามา​ช้าๆ​ ​ผู้​ที่อยู่​หน้า​สุด​ก็​คือ​เจิน​เหิง​ ​จอ​หงวน​หลาง​ของ​ต้า​โจว

​เมื่อ​เห็น​เจิน​เหิง​ยัง​หนุ่ม​ยัง​แน่น​ ​สตรี​จำนวนมาก​ก็​กรีดร้อง​ออกมา​ ​จากนั้น​ก็ตาม​มาด​้วย​ถุง​หอม​ ​ผ้าเช็ดหน้า​ ​ดอกไม้​ที่​ถูก​โยน​ออก​ไป​อย่าง​บ้าคลั่ง

​ชาย​ชรา​มาด​นิ่ง​ผู้​หนึ่ง​ตะเบ็งเสียง​ลั่น​ ​“​ห้าม​โยน​ผลไม้​ ​ห้าม​โยน​ผลไม้​เด็ดขาด​ ​หาก​ทำให้​นิมิต​มงคล​ของ​พวกเรา​บาดเจ็บ​จะ​แย่​เอา​!​”

นิมิต​มงคล​?

​เจิน​เหิง​ที่​ขี่ม้า​ตัว​สูงใหญ่​แทบจะ​ล้ม​ลงมา

​เขา​กลายเป็น​นิมิต​มงคล​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน

​ความรู้​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ ​วิทยา​ยุทธ์​ไม่​เป็นรอง​ผู้ใด​ ​เช่นนั้น​จึง​ทุ่มเท​สุดกำลัง​เข้าร่วม​สอบ​ชิงตำแหน่ง​ขุนนาง​ ​นี่​ไม่ใช่​แค่​ความภาคภูมิใจ​ใน​ฐานะ​ที่​เขา​เป็น​ผู้​ที่​เล่าเรียน​หนังสือ​ ​มัน​เป็นการ​สารภาพ​ความรู้สึก​ครั้งแรก​ที่​ไม่​สามารถ​เอ่ยปาก​พูด​ออกมา​ได้​ด้วย​เช่นกัน​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​เขา​ได้​ทำดีที่สุด​เพื่อให้​นาง​เห็น​…

​ท่ามกลาง​ผู้คน​มากมาย​ ​นาง​กำลัง​ดู​เขา​อยู่​หรือไม่​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​อยู่​ใน​ฐานะ​คนธรรมดา​ที่มา​ร่วม​ครื้นเครง​ก็ตาม​ ​บางที​อาจ​เป็น​เจตจำนง​ของ​สวรรค์​ ​เจิน​เหิง​จับ​ผลัด​จับ​ผลู​ชำเลือง​มอง​ไป​ที่​โรงน้ำชา​ ​พลาง​ตกใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

​ม้า​รูปงาม​เดิน​อย่าง​เชื่องช้า​ตาม

​ผู้คน​สอง​ข้างทาง​พบ​ว่า​จอ​หงวน​หลาง​ลด​ความเร็ว​ลง​ ​เสียง​อื้ออึง​ดัง​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​โดยเฉพาะ​ผู้คน​อายุ​น้อย​ที่​เบียด​กัน​มา​ข้างหน้า​ราวกับ​คนบ้า

​“​จอ​หงวน​หลาง​ ​จอ​หงวน​หลาง​!​”​ ​ผู้คน​ตะโกน​เรียง​ราวกับ​เสียสติ​ไป​แล้ว

​จู่ๆ​ ​ก็​มีส​ตรี​นาง​หนึ่ง​ถูก​เบียด​ออกมา​ขวางทาง​ ​ผู้คุ้มกัน​กอง​ขบวน​ชู​หอก​ขึ้น​แล้ว​แทง​ออก​ไป

——————————

[1] ​จั่ง​สื่อ ​เจ้าหน้าที่​ที่​ถูก​ส่ง​จาก​ทาง​วัง​ให้​ดูแล​ความเรียบ​ร้อย​ของ​จวน​อ๋อง