บทที่ 481 ความเร็วที่น่ากลัว

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 481 ความเร็วที่น่ากลัว

บทที่ 481 ความเร็วที่น่ากลัว

แม้ว่าฉู่เหินจะสามารถเผาผลาญยาพิษได้ แต่ภายในยาพิษนั้นก็ยังมีโทษแฝงอยู่ ถ้าของพวกนี้อยู่ในร่างนาน ๆ เป็นไปได้ว่าในวันข้างหน้ามันจะเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน!

โชคดีที่บังเอิญฉู่เหินกลืนน้ำเหม็น ๆ นี้เข้าไป คิดไม่ถึงว่าจะทำให้สิ่งตกค้างในร่างกายถูกขับออกมา ! โชคหล่นทับจริง ๆ!

พวกเขาว่ายอยู่ไม่นานก็พบว่าใต้น้ำมีกำแพงที่มีรูอยู่อันหนึ่ง พอเห็นรูนั้นฉู่เหินก็รู้สึกว่าเป็นรูหมาลอด! แต่มันจะเป็นรูอะไรก็ช่างเถอะ ขอแค่ออกไปได้เขาก็ยอมหมดนั่นแหละ !

หลังจากลอดรูหมามาได้แล้ว ฉู่เหินก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นนกที่ได้ออกบินออกสู่ท้องทะเลกว้างอีกครั้ง! แต่ชายหนุ่มก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาดีใจ ต้องเข้าใจว่าแถวนี้อยู่ใกล้กับพรรคหมื่นพิษเกินไป ถ้าเกิดอีกฝ่ายพบตัวเองเข้าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่!

อย่างไรก็ตาม ตอนที่ยิ่งไม่คิดว่าจะเกิดมันก็ยิ่งเกิด! หลังจากหญิงสาวใจคอโหดเหี้ยมกลับไปก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง! ว่าแล้วก็หมุนเท้ากลับไปดูว่าตอนนี้ฉู่เหินเป็นยังไงแล้ว!

อย่างไรก็ตาม พอเธอกลับมาก็พบว่ากุญแจถูกปลดล็อคแล้ว พอเข้าไปข้างในก็ไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย! เมื่อเห็นดังนั้นเธอก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มที่จับมาขังได้หนีไปแล้ว

ไม่ง่ายเลยที่จะเก็บตัวประหลาดที่น่าสนใจได้แบบนี้ หญิงสาวรู้สึกอาลัยอาวรณ์ฉู่เหิน! หลังจากนั้นก็เห็นหญิงสาวหยิบป้ายมาอันหนึ่ง และโยนออกไป จากนั้นไม่นานป้ายก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเมตร!

พอป้ายนั้นขยายใหญ่ ประตูบานหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน หญิงสาวเปิดประตู ภายในนั้นมันก็ได้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดบินออกมากันมากมาย

ที่เรียกว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดเพราะว่ามันตาหน้าอัปลักษณ์มาก! ร่างกายที่สูงกว่า 2 เมตรถูกปกคลุมด้วยหนามแหลมคม แม้ว่าจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่จากลักษณะแบบนั้นของพวกเขานี้ไม่ใช่มนุษย์แน่ ! โดยเฉพาะใบหน้าที่เต็มไปด้วยตุ้มใหญ่ ๆ นั่น

มีบางตัวที่ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน ไม่ระวังตัวจนตุ้มแตกออก ทำให้น้ำหนองไหลเยิ้มออกมา มองแล้วน่ารังเกียจมาก! ทันทีที่พวกเขามันออกมาก็ก้มตัวลงทำความเคารพหญิงสาวทันที

ต่อมาหญิงสาวก็ออกคำสั่งให้ออกตามหาฉู่เหินให้ทั่ว! และเมื่อดูพลังวรยุทธ์ของแต่ละตัวแล้ว พวกมันต่างก็มีพลังวรยุทธ์ขั้นปราชญ์ดาราทั้งนั้น! หรือแม้กระทั่งมีขั้นปราชญ์ดาราระดับสูง

ฉู่เหินและหมาป่าที่เพิ่งลอดกำแพงออกมาได้ ในเวลาเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงอันตราย! ตอนนี้หมาป่าคำรามเสียงต่ำ ฉู่เหินเข้าใจได้ในทันทีว่ามันบอกให้เขาจับเอาไว้ให้แน่น ๆ ! ต่อมาชายหนุ่มก็โน้มร่างทั้งตัวและกอดคอหมาป่าเอาไว้!

ตอนนี้เองที่หมาป่าเริ่มออกตัววิ่ง ! หมาป่าที่เพิ่งจะออกตัวไปไม่นาน มันก็ได้มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดจ้องมองมา ต่อมาสิ่งมีชีวิตประหลาดก็คำรามหนึ่งเสียงก่อนที่สิ่งมีชีวิตประหลาดนับไม่ถ้วนจะไล่ตามหมาป่าไปติด ๆ !

ต้องเข้าใจว่าขั้นปราชญ์ดาราระดับสูงนั้นวิ่งได้เร็วมาก ที่สำคัญพวกมันสามารถบินไปในอากาศได้อีกด้วย ส่วนหมาป่าสามารถวิ่งได้แค่บนพื้นดิน ดังนั้นระดับของทั้งสองย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน!

เดิมทีฉู่เหินกลัวว่าจะเกิดหายนะแล้ว ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะเขาเห็นว่าสิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นสามารถบินตามมาได้! แล้วแบบนี้พวกเขาจะสามารถหนีรอดหรือเปล่า!

แต่เขาไม่คิดว่าความเร็วสูงสุดของหมาป่าจะรวดเร็วมาก! ฉู่เหินรู้สึกว่าหูของตัวเองได้ยินแต่เสียงลม ทิวทัศน์ด้านหน้าเลื่อนรางไม่ชัดเจน นี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น รอให้หมาป่ากระโดดหนึ่งครั้งฉู่เหินก็ไม่สามารถเห็นอะไรได้อีกเลย!

ไม่เพียงตาทั้งสองข้าง ตอนที่ถ้าให้เขาเงยหน้าขึ้นมาก็จะเห็นเพียงภาพเลื่อน ๆ ราง ๆ กระทั่งฉู่เหินรู้สึกได้ว่าตอนที่พวกเขาผ่านสถานที่ทุกแห่งไปนั้นเหมือนของที่บินหายไปในพริบตา ! เป็นความเร็วที่ไวกว่าสายลมเสียอีก!

อีกทั้งในเวลาเดียวกันฉู่เหินก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าของตัวเองเริ่มจะลุกไหม้! ต้องเข้าใจว่าความเร็วที่สามารถทำให้เกิดการลุกไหม้ได้นั้น จะต้องอยู่ในระดับเดียวกับความเร็วเสียงแล้ว ไม่งั้นคงไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้

เพียงชั่วพริบตาเดียวเสื้อผ้าของฉู่เหินก็เหลือเพียงเศษผ้า! โชคดีที่รอบข้างไม่มีคน ไม่งั้นตัวเองต้องสู้หน้าคนอื่นไม่ได้แน่!

สิ่งมีชีวิตประหลาดในตอนแรกที่ตามมาติด ๆ อาศัยเพียงพลังวรยุทธ์ของพวกมันก็ควรที่จะสามารถตามหมาป่าตรงหน้าได้ง่าย ๆ ! แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ต้องโยนความคิดนั้นทิ้งไปซะ พวกมันพบว่าต่อให้ใช้พลังทั้งหมดตามไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะยิ่งตามอีกฝ่ายก็ยิ่งห่างไปไกลเรื่อย ๆ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นเงาร่างของอีกฝ่ายแล้ว! เมื่อลองตามไปอีกครั้งก็ไม่พบร่องรอยของอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว พวกมันเลยทำได้แค่หันหลังกับเท่านั้น!

ฉู่เหินที่เกาะหลังหมาป่าถูกลมแรงกระแทก จนรู้ว่าอวัยวะภายในตัวเองกำลังจะระเบิดแล้ว เขาทำได้เพียงโคจรวิชาพลังกายเพื่อลดความเจ็บจากผิวหนังลง!

อย่างไรก็ตามจากการที่มันเพิ่มความเร็วได้ในพริบตานั้น ฉู่เหินพบว่าวิธีนี้เชื่อมโยงเป็นขั้นบันได! หลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะโคจรพลังวรยุทธ์ตัวเองขึ้นมา! ต่อมาเมื่อวิชาพลังกายถูกโคจรอย่างต่อเนื่อง เขาก็พบว่ากล้ามเนื้อของตัวเองเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ! ถ้าเขาทำอย่างนี้ทุกวันล่ะก็ จะทำให้วิชาพลังกายของเขาก้าวหน้าไปอีกขั้น!

ชั่วขณะที่ชายหนุ่มฝึกฝนพลังกายนั้น พลังวรยุทธ์ของเขาก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นปราชญ์ดาราระดับกลางอย่างเต็มตัว เท่านี้ฉู่เหินก็มั่นใจเวลาเจอขั้นปราชญ์ดาราระดับสูงสุด แม้ว่าไม่ถึงขั้นโค่นล้มได้ แต่ก็สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้อย่างไม่มีปัญหา!

ดูท่าพลังของหมาป่าจะถึงจำกัดแล้ว วิ่ง ๆ อยู่มันก็เริ่มจะช้าลงเรื่อย ๆ! หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มันตกลงน้ำดัง ตู้ม! ฉู่เหินที่ฝึกฝนพลังอยู่นั้นก็ถูกเรียกสติคืนมาในทันที!

ต่อมาเมื่อเขาเห็นสภาพของหมาป่าก็อดปวดใจไม่ได้! ตอนนี้ขนของหมาป่าหายไปครึ่งหนึ่ง มองแล้วเหมือนขนไก่ที่ร่วง ให้ความรู้สึกน่าเวทนา แต่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกเสียใจก็คือลมปราณในร่างกายของมันที่ปั่นป่วนอย่างหนัก

ถ้าเปรียบเทียบสักหนึ่งประโยคล่ะก็ หมาป่าของเขาคล้ายจะโดนโจมตีใกล้ถึงแก่ชีวิต! เพื่อให้หมาป่าตัวเองกลับมามีรูปร่างที่เหมือนเดิม ฉู่เหินไม่มีทางที่จะมองอย่างไม่สนใจได้!

ชายหนุ่มรีบหยิบยาฟื้นฟูออกมาจากแหวนมิติ กับยารักษาบาดแผลอีกมากมาย! และค่อย ๆ ป้อนยาใส่ปากของหมาป่าอย่างระมัดระวัง! พอหมาป่าได้กินยาเข้าไปในที่สุดมันก็ได้สติ!

พอมันได้สติแล้วก็มองไปรอบ ๆ จากนั้นสายตาก็เผยถึงความแปลกใจปนดีใจ แต่ในความดีใจยังมีความอวดดีอยู่ด้วย มันคล้ายจะพูดกับฉู่เหินว่า ‘เห็นความเร็วของฉันหรือยังล่ะ เจ้าพวกนั้นเทียบฉันไม่ติดสักนิด!’ ฉู่เหินมองความอวดดีนั้นอย่างยิ้ม ๆ

แต่ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่าครั้งนี้จะแย่มากกว่าดี ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเดียวเกรงว่าเขาคงจบสิ้นแล้ว รวมทั้งหมาป่าตัวนี้ด้วย! ต่อมาเขาก็กอดหมาป่าและพูด “คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นคนช่วยชีวิตฉัน! ขอบคุณนะ!”